Apple Airpods 2 + Wireless Charge ไร้สายขั้นเทพ คุยโทรศัพท์ดี รองรับทั้ง iOS & Android

สินค้าหมด
SKU
AC261-A1-A
฿7,790.00
In store:
 Central World    
 Mega Bangna    
 Central Westville    
 Emsphere    
 Fashion Island    
 Paragon    
สรุปรายละเอียดสินค้า
  • หูฟังไร้สายที่ครอบคลุมการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีเยี่ยมที่สุด
  • ใช้ชิพ Apple H1 ประสิทธิภาพสูงสำหรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Apple Device
  • รองรับการชาร์จไร้สาย (Wireless Charge)
  • รองรับการเชื่อมต่อทั้งระบบ iOS & Android
  • ขนาดเล็ก พกพาง่าย สวมใส่สบาย คุยโทรศัพท์ชัด

แชร์
เข้าสู่ระบบเพื่อรับ Degree Points เพิ่มจากการแชร์หน้านี้!

Apple Airpods 2 With Wireless Charging Case

หูฟังไร้สายขนาดเล็ก คุยโทรศัพท์ดี รองรับทั้ง iOS & Android

(Degree ตัวเดียวจบทุกฟังก์ชั่น)

 

425 Recommend

  • เคสชาร์จและหูฟังมีดีไซน์พรีเมี่ยมทันสมัย
  • รองรับการชาร์จไร้สาย (Wireless Charge)
  • ใช้วัสดุเกรดดี ให้ความแข็งแรงทนทานได้ในระดับมาตรฐาน
  • การเก็บหูฟังภายในเคสชาร์จทำได้แน่นและสามารถหยิบตัวหูฟังออกมาจากกล่องชาร์จได้ง่าย
  • ให้ความรู้สึกกระชับมือในขณะที่หยิบใช้งาน(ไม่ลื่น)
  • ขนาดเล็กกระทัดรัดพกพาได้ง่าย
  • สวมใส่นุ่มนวลและเบาสบายมากๆ ใช้งานได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง
  • เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ iOS Device ได้อย่างรวดเร็วและเชื่อมต่อง่ายด้วยชิพ Apple H1
  • เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือได้อย่างสเถียรทั้งระบบ iOS & Android
  • โทนเสียงดี ฟังสนุก เบสแน่น ใช้ฟังเพลงและดูหนังดี
  • คุยโทรศัพท์ดี เสียงออกสองข้าง ไมค์โครโฟนชัด
  • สามารถแยกใช้งานข้างเดียวได้อย่างอิสระ
  • สามารถเลือกให้ไมค์โครโฟนทำงานที่ข้างใดก็ได้ในกรณีที่ใช้งานข้างเดียว
  • สามารถตั้งค่าระบบสัมผัสได้
  • ระบบ “สัมผัส” แตะง่าย ตอบสนองดีและเร็ว
  • แบตเตอรี่คุณภาพสูง รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี

 

Product Highlight

  • ชิพ Apple H1 รองรับการเชื่อมต่อกับ Apple Device ได้อย่างรวดเร็วและสเถียรเพียงแค่นำ Airpods มาไว้ข้างๆ
  • เชื่อมต่อกับ Apple Device ได้หลายอุปกรณ์และสลับไปมาระหว่างอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่ได้รวดเร็วขึ้นถึง 2 เท่าด้วยชิพ Apple H1
  • การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0
  • สามารถเรียกใช้งาน Siri ด้วยเสียงได้ (หวัดดี Siri ที่พร้อมใช้งานเสมอ)
  • เล่นเพลงโดยอัตโนมัติเมื่อสวมใส่หูฟัง (Auto Play-Pause)
  • Wireless Charge (สำหรับรุ่นพร้อมเคสชาร์จแบบไร้สายเท่านั้น)
  • ฟังเพลงต่อเนื่องได้สูงสุด 5 ชั่วโมงและสนทนาได้สูงสุด 3 ชั่วโมง (ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง)
  • รวมการใช้งานรวมกับเคสชาร์จได้นานกว่า 24 ชั่วโมง
  • ระบบ Fast Charge 15 นาทีฟังต่อเนื่องได้ถึง 3 ชั่วโมงหรือสนทนาได้นานสูงสุด 2 ชั่วโมง
  • ตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ของหูฟังและเคสชาร์จได้โดยการเปิดฝาเคสชาร์จที่มี Airpods อยู่ข้างในและถือไว้ใกล้ๆกับอุปกรณ์ Apple Device
  • อ่านข้อความโดย Siri บน Airpods
  • จับคู่อัตโนมัติ (Auto-Pairing)
  • แยกใช้งานข้างเดียวได้อย่างอิสระ (Mono Mode)
  • ไมค์โครโฟนคู่แบบบีมฟอร์มมิ่งพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนรอบข้างขณะคุยโทรศัพท์
  • ฟังเพลงระหว่าง Airpods สองคู่ได้ง่ายๆและควบคุมความดังได้อย่างอิสระ
  • แตะสองครั้งเพื่อข้ามไปเพลงถัดไปหรือรับสายโทรศัพท์ (Touch)

 

Product Specification (สเปคจากคู่มือ)

  • โมเดล : Airpods 2 With Wireless Charging Case
  • บลูทูธเวอร์ชั่น : 5.0
  • ชิปบลูทูธ : Apple H1
  • ความจุแบตเตอรี่ของหูฟัง : 93 mWh
  • ความจุแบตเตอรี่ของกล่องชาร์จ : 398 mAh (3.81V, 1.52Wh) 
  • น้ำหนัก : ประมาณ 4 กรัมต่อข้าง , กล่องชาร์จประมาณ 40 กรัม
  • ใช้งานต่อเนื่อง : สูงสุด 3-5 ชม. 
  • ระยะเวลาในการชาร์จหูฟัง : ประมาณ 2 ชม.
  • ระยะเวลาในการชาร์จเคส : ประมาณ 1.5-2 ชม.

 

ประสบการณ์ใช้งานจริงจากทีมงาน 425Audio

ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาง่าย 

  • อยากแรกที่ทาง 425° รู้สึกประทับใจคือเรื่องของขนาดและดีไซน์ทั้งหมด โดยเฉพาะเคสชาร์จที่ออกแบบมาได้พอเหมาะพอเจาะ หยิบจับง่ายพอดีมือ เวลาใช้งานจริงๆนี่สะดวกมากๆเลยครับ
  • จุดเด่นที่สำคัญของ Airpods 2 อีกเรื่องนึงคือ “การพกพาง่าย” ด้วยไซส์ที่กระทัดรัดมากๆ ทำให้หมดห่วงและตัดปัญหาเรื่องการพกพาใส่กระเป๋าของผู้หญิงใบเล็กๆไปได้เลย 
  • สำหรับใครที่กลัวเคสชาร์จจะเป็น "รอยนิ้วมือ รอยขีดข่วน" ทาง 425° แนะนำว่าให้หา "เคสสำหรับป้องกันหรือยางครอบจุกหูฟัง" เพิ่มเติมได้ >>> เลือกเคสเพิ่มเติม

 

การเชื่อมต่อกับ Apple Device อย่างง่ายและเร็วด้วย Chip Apple H1 !

  • เพียงแค่นำ Airpods 2 มาใกล้ๆอุปกรณ์ Apple Device ที่เปิดบลูทูธและต้องการเชื่อมต่อก็จะมีคำแนะนำเด้งขึ้นมาที่หน้าจอทันที..โดยเมื่อเราทำตามขั้นตอนต่างๆเพียงแค่ไม่ถึง 10 วินาทีก็สามารถเชื่อมต่อและพร้อมใช้งานได้ในทันที...เรียกว่าสะดวกสุดแล้ว ที่สำคัญคือการเชื่อมต่อนั้น “ทำได้สเถียรมากๆ”  
  • *** อาจพบอาการกระตุกของสัญญาณขณะใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณของอุปกรณ์ไร้สายรบกวนเยอะๆ เช่นบนสถานีรถไฟฟ้า,ออฟฟิตขนาดใหญ่ *** 

 

คุยโทรศัพท์ง่าย ไมค์ชัด...เสียงออกสองข้าง !!!

  • การคุยโทรศัพท์ในชีวิตประจำวันนั้นสามารถ “คุยได้แบบง่ายๆ” ไม่ต้องตะโกน โดยให้เสียงที่คมชัดทั้งต้นสาย-ปลายสายใกล้เคียงการแนบหู ด้วยเทคโนโลยีไมค์โครโฟนแบบตัดเสียงรบกวน รอบข้าง 
  • *** ใช้หูฟังข้างเดียวคุยโทรศัพท์ได้อย่างอิสระ ***



ดู Youtube,Netflix อย่างมันส์ !!!!!!!

  • ไม่เจออาการดีเลย์ในการชมคลิปวิดีโอบน Youtube,Netflix,Facebook เลยแม้แต่นิดเดียว โดยรวมแล้วใช้งานได้อย่างไหลลื่น การเชื่อมต่อสเถียรมากๆ ถือว่าเป็นฟังก์ชั่นที่ใช้งานได้อย่างสนุก 425° แนะนำเลยครับ
  • *** 425Audio ใช้โทรศัพท์รุ่น iPhone XS ,iPhone11,Samsung Galaxy S7,Huawei P30 Pro, ในการทดสอบ ***

 

Sound Review (รีวิวเสียง)

 

เสียงเบส

  • โทนเสียงเบสของ Airpods 2 ถือว่าเป็นโทนเสียงเบสที่สะอาด ไม่อื้ออึง,ฟังเคลียร์ มวลเบสมีความหนาและลูกใหญ่กำลังพอดีในแบบที่รู้สึกอวบอิ่ม 425° ถือว่าเป็นหูฟังไร้สายที่มีปริมาณเบสเยอะ สำหรับหูฟังที่เป็นรูปทรงแบบ Earbuds เพราะเสียงเบสที่ออกมานั้นถือว่าดีกว่าหูฟังที่เป็นแบบ In-Ear หลายๆตัว สำหรับใครที่ชอบฟังชิ้นดนตรีสด ชอบความกระแทกกระทั้นในแบบที่แรงปะทะเยอะๆจากเสียงชิ้นดนตรีกระเดื่อง(Kick)จากกลองชุดหรือชอบความหนึบหนับ ความคมชัดเป็นเม็ดๆจากเสียงกีตาร์เบส(E.bass) ต้องถูกใจแน่นอนครับ

 

เสียงกลาง

  • โทนเสียงกลางของ Airpods 2 นั้นออกมาในโทนเสียงที่นุ่มนวลและคมชัด ให้เสียงของนักร้องได้ชัดถ้อยชัดคำ ให้เสียงชิ้นดนตรีที่ฟังง่าย แต่ถ้านำไปฟังกับเพลงในบางสไตล์อย่างเช่น Rock,Metal ที่มีการเน้นเสียงชิ้นดนตรีเยอะๆ Airpods 2 จะให้ความรู้สึกของเสียงนักร้องที่ถอยไปอยู่หลังชิ้นดนตรีนิดหน่อย แต่ยังฟังชัดถ้อยชัดคำอยู่ 425° ถือว่าเป็นหูฟังที่มีการแบ่งแยกความถี่ในแต่ละย่านได้อย่างแม่นยำ สำหรับใครที่ชอบฟังเพลงหลากหลายสไตล์ Airpods 2 ถือว่าตอบโจทย์ 

 

เสียงแหลม

  • โทนเสียงแหลมละเอียดๆแบบนุ่มๆเนียนๆเลยครับ ไม่มีอาการแสบหู บาดหูแน่นอน ให้เสียงชิ้นดนตรีย่านเสียงแหลมปลายๆที่ใหญ่หนา เช่นเสียงของกีตาร์ไฟฟ้าในเพลงร๊อค(E.guitar+Power Chord) ในเพลง Satellites นั้นออกมาแบบหนาๆคมๆเลย สำหรับใครที่เป็นขาร๊อคและชอบฟังรายละเอียดจากเครื่องทองเหลืองของชุดกลอง(Hihat,Ride,Overhead)ต้องถูกใจแน่นอน เพราะว่า Airpods 2 นั้นให้เสียงออกมาได้ในแบบที่ละเอียดกำลังพอดี แต่นุ่มเนียนและฟังนานๆได้สบายๆ

 

สรุป

  • Airpods 2 เป็นหูฟังที่สามารถรองรับกับการฟังเพลงได้ทุกสไตล์ตั้งแต่แนวแบบเบาๆไปจนถึงร๊อคหนักๆแบบฟังไม่รู้เรื่อง Airpods 2 สามารถเอาอยู่ได้แบบสบายๆ โดยโทนเสียงโดยรวมของ Airpods 2 นั้นจะให้ “น้ำเสียงที่ฟังสนุก” “แรงปะทะในย่านเสียงเบสหนักกำลังพอดี” “เสียงร้องและชิ้นดนตรีที่มีความละเอียดสูงๆนั้นให้ออกมาได้แบบเนียนๆ นุ่มๆ ไม่มีอาการแสบหูแน่นอน” และที่สำคัญ Airpods 2 ไม่ได้มีดีแค่ในเรื่องของการฟังเพลง ยังมีดีในคุณสมบัติการเชื่อมต่อและการใช้งานที่สเถียร,คุยโทรศัพท์ดี,ขนาดเล็กพกพาง่าย,ใส่สบาย ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติที่รองรับกับการใช้งานในชีวิตประจำวันของคนส่วนใหญ่ได้แบบสบายๆเลย ทั้งนี้ทั้งนั้น 425° แนะนำว่าเป็นหูฟังไร้สายที่คุ้มค่าสุดๆ 

 

How To Use “ AirPods 2 ”

  • *** หูฟังและกล่องชาร์จบรรจุแบตเตอรี่ชนิดชาร์จซ้ำได้ กรุณาใช้สายชาร์จที่แนบมาในกล่องและ Adapter หัวชาร์จที่ได้มาตรฐานเท่านั้นเพื่อความปลอดภัย ***
  • *** การชาร์จกับแรงดันไฟที่สูงเกินมาตรฐาน อาจทำให้แบตเตอรี่เกิดความเสียหายได้ ***
  • *** กรุณาชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อนการใช้งานครั้งแรก ***

 

ใช้ iPhone ของคุณเพื่อตั้งค่า AirPods 

***หากคุณตั้งค่า AirPods เป็นครั้งแรก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ของคุณอัพเดทเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดแล้ว จากนั้นทำตามขั้นตอนเหล่านี้ ***

  • ไปที่หน้าจอโฮม
  • เปิดฝาเคสที่มี AirPods ของคุณอยู่ด้านใน แล้วถือไว้ใกล้กับ iPhone
  • ภาพเคลื่อนไหวการตั้งค่าจะปรากฏขึ้นบน iPhone ของคุณ
  • แตะเชื่อมต่อ 
  • หากคุณมี AirPods Pro ให้อ่านหน้าจอถัดไปสามหน้าจอ
  • หากคุณมี AirPods Pro หรือ AirPods (รุ่นที่ 2) และคุณได้ตั้งค่า "หวัดดี Siri" บน iPhone แล้ว "หวัดดี Siri" จะพร้อมใช้งานกับ AirPods ของคุณด้วย หากคุณยังไม่ได้ตั้งค่า "หวัดดี Siri" และคุณมี AirPods Pro หรือ AirPods (รุ่นที่ 2) คุณจะถูกนำทางไปยังการตั้งค่า
  • แตะเสร็จสิ้น
  • หากคุณลงชื่อเข้าใช้ iCloud ไว้แล้ว AirPods ของคุณจะได้รับการตั้งค่าโดยอัตโนมัติในอุปกรณ์ที่รองรับทุกเครื่องที่ลงชื่อเข้าใช้ iCloud ด้วย Apple ID เดียวกันไว้แล้ว

 

การเชื่อมต่อกับ iPhone, iPad หรือ iPod touch

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ iOS ของคุณมีiOS รุ่นล่าสุดแล้ว อุปกรณ์ของคุณต้องมี iOS 12.2 หรือใหม่กว่า หากคุณมี AirPods (รุ่นที่ 1) อุปกรณ์ของคุณจะต้องมี iOS 10 หรือใหม่กว่า
  • ดูสิ่งที่ควรทำหาก AirPods ข้างใดข้างหนึ่งไม่ทำงา
  • เปิดศูนย์ควบคุมแล้วตรวจสอบให้แน่ใจว่าบลูทูธเปิดอยู่
  • ใส่ AirPods ทั้งสองข้างไว้ในเคสชาร์จแล้วตรวจสอบให้แน่ใจว่า AirPods ทั้งสองข้างกำลังชาร์จ ดูสิ่งที่ควรทำหาก AirPods หรือเคสไม่ชาร์จ
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เลือก AirPods ของคุณเป็นอุปกรณ์เสียงแล้ว
  • ปิดฝาแล้วรอ 15 วินาที จากนั้นเปิดฝา ไฟแสดงสถานะควรกะพริบเป็นสีขาว ซึ่งหมายความว่า AirPods ของคุณพร้อมเชื่อมต่อแล้ว 
  • หาก AirPods ของคุณไม่เชื่อมต่อ ให้กดปุ่มตั้งค่าที่อยู่ด้านหลังเคสค้างไว้ กดปุ่มตั้งค่าค้างไว้จนกว่าคุณจะเห็นไฟแสดงสถานะกะพริบเป็นสีขาว แล้วเป็นสีเหลืองอำพัน จากนั้นจะกะพริบเป็นสีขาวอย่างต่อเนื่อง
  • เปิดเคสที่มี AirPods ของคุณอยู่ด้านใน แล้วถือไว้ใกล้กับ iPhone
  • ทำตามขั้นตอนบนหน้าจอของอุปกรณ์ iOS ของคุณ
  • ทดสอบ AirPods ของคุณ หากคุณยังไม่สามารถเชื่อมต่อได้ ให้รีเซ็ต AirPods

 

วิธีรีเซ็ต AirPods

  • เปิดฝาแล้วกดปุ่มตั้งค่าที่ด้านหลังเคสค้างไว้ 15 วินาทีจนกว่าไฟสถานะจะกะพริบเป็นสีเหลือง

 

การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Android

*** คุณสามารถใช้ AirPods เป็นชุดหูฟังบลูทูธกับอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ของ Apple ได้ คุณไม่สามารถใช้ Siri แต่คุณสามารถฟังและพูดได้ หากต้องการตั้งค่า AirPods ด้วยโทรศัพท์ Android หรืออุปกรณ์ที่ไม่ใช่ของ Apple ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ ***

  • บนอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ของ Apple ให้ไปที่การตั้งค่าสำหรับบลูทูธ แล้วตรวจสอบให้แน่ใจว่าบลูทูธเปิดอยู่ หากคุณมีอุปกรณ์ Android ให้ไปที่การตั้งค่า > การเชื่อมต่อ > บลูทูธ
  • เปิดฝาในขณะที่ AirPods อยู่ในเคสชาร์จ
  • กดปุ่มตั้งค่าด้านหลังเคสชาร์จค้างไว้จนกว่าคุณจะเห็นไฟแสดงสถานะกะพริบเป็นสีขาว
  • เมื่อ AirPods ของคุณปรากฏในรายการอุปกรณ์บลูทูธ ให้เลือก AirPods

 

การเชื่อมต่อกับ Mac

  • หากคุณกำลังใช้ AirPods โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่า Mac ของคุณมี macOS Mojave 10.14.4 หรือใหม่กว่า AirPods Pro ต้องมี macOS Catalina 10.15.1 หรือใหม่กว่า
  • หากคุณตั้งค่า AirPods ด้วย iPhone แล้ว และ Mac ลงชื่อเข้าใช้ iCloud ด้วย Apple ID เดียวกัน AirPods อาจพร้อมใช้งานกับ Mac ของคุณ ใส่ AirPods ในหูของคุณแล้วคลิกเมนูบลูทูธ หรือแถบควบคุมความดัง ในแถบเมนูบน Mac ของคุณ1 จากนั้นเลือก AirPods จากรายการ

*** หากคุณไม่เห็น AirPods ในเมนูบลูทูธ หรือการควบคุมระดับเสียง ให้จับคู่ AirPods กับ Mac ของคุณดังนี้ ***

 

  • บน Mac ของคุณ ให้เลือกการตั้งค่าระบบจากเมนู Apple แล้วคลิกบลูทูธ
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าบลูทูธเปิดอยู่
  • ใส่ AirPods ทั้งสองข้างลงในเคสชาร์จ แล้วเปิดฝา
  • กดปุ่มตั้งค่าด้านหลังเคสชาร์จค้างไว้จนกว่าไฟแสดงสถานะจะกะพริบเป็นสีขาว
  • เลือก AirPods ในรายการอุปกรณ์ แล้วคลิกเชื่อมต่อ

  • *** หากยังมีเสียงดังจากลำโพง Mac ของคุณ ให้คลิกที่เมนูบลูทูธ หรือแถบควบคุมความดัง ในแถบเมนู แล้วตรวจสอบให้แน่ใจว่าเลือก AirPods ของคุณเป็นอุปกรณ์สัญญาณออกแล้ว ***

 

ควบคุมเสียงด้วย AirPods 

  • *** สามารถใช้ AirPods เพื่อใช้ Siri และควบคุมการเล่นคอนเทนต์เสียงได้ ***
  • *** สามารถใช้ Siri ด้วยการพูดว่า "หวัดดี Siri" ตามค่าเริ่มต้น และเมื่อคุณแตะสองครั้งที่ AirPods ข้างหนึ่ง คุณจะสามารถเล่นเสียงหรือข้ามไปข้างหน้าได้ ***
  • *** สามารถตั้งค่า AirPods แต่ละข้างให้ทำหนึ่งในสิ่งเหล่านี้ได้ด้วยการแตะสองครั้ง ***
  • เรียก Siri
  • เล่นและหยุดพักคอนเทนต์เสียง
  • ข้ามไปที่แทร็คถัดไป 
  • กลับไปที่แทร็คก่อนหน้า
  • ปิดคอนเทนต์เสียง

 

การตั้งค่าไมโครโฟนให้อยู่ข้างซ้าย ข้างขวา หรืออัตโนมัติ

  • AirPods แต่ละข้างจะมีไมโครโฟนอยู่ จึงสามารถโทรออกและใช้ Siri ได้ ตามค่าเริ่มต้นแล้ว ไมโครโฟนจะถูกตั้งค่าเป็นอัตโนมัติ เพื่อให้ AirPods ทั้งสองข้างสามารถใช้เป็นไมโครโฟนได้ หากใช้ AirPods เพียงข้างเดียว AirPods ข้างนั้นจะเป็นไมโครโฟน
  • สามารถตั้งค่าไมโครโฟนเป็นข้างซ้ายเสมอหรือข้างขวาเสมอได้อีกด้วย ตัวเลือกเหล่านี้จะตั้งค่าให้ AirPods ข้างใดข้างหนึ่งเป็นไมโครโฟน AirPods ข้างนั้นจะเป็นไมโครโฟนแม้ว่าจะถอดออกจากหูของคุณหรือใส่ลงในเคสก็ตาม



การปรับการตั้งค่าปุ่มควบคุม AirPods 

  • *** เปิดเคส AirPods แล้วไปที่การตั้งค่า > บลูทูธ บนอุปกรณ์ iOS หรือ iPadOS ของคุณ แตะปุ่มข้อมูล ที่อยู่ถัดจาก AirPods ของคุณในรายการอุปกรณ์ นี่คือสิ่งที่คุณสามารถทำได้ ***



การเชื่อมต่อ Mono Mode (ใช้งานข้างเดียว)

  • *** สามารถแยกใช้งานข้างเดียวได้อย่างอิสระ ***
  • สามารถเลือกใช้หูฟังข้างใดก็ได้ เพียงแค่เชื่อมต่อตามขั้นตอนปกติและเก็บหูฟังข้างที่ไม่ต้องการใช้ลงเคสชาร์จ
  • หรือเชื่อมต่อบลูทูธตามขั้นตอนปกติและเลือกหยิบหูฟังข้างที่ต้องการใช้งานขึ้นมาจากเคสชาร์จ

 

การสวมใส่ (How To Wear)

  • บริเวณก้านของหูฟังทั้งสองข้างจะมีสัญลักษณ์ L (ข้างซ้าย) , R (ข้างขวา)
  • สวมหูฟังทั้งสองข้างและบิดหูฟังกลับไปทางด้านหลังเพื่อเพิ่มความกระชับ
  • *** หากสวมใส่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เสียงบรรยากาศภายนอกรั่วเข้าไปภายในหูของเราได้และอาจทำให้ไม่ได้ยินเสียงความถี่ย่านต่ำ(Low Frequency) ***

 

วิธีเปิดการอ่านข้อความโดย Siri

  • *** หูฟังที่ใช้งานร่วมกันได้ของคุณจะต้องจับคู่กับอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่งต่อไปนี้ ***
  • iPhone ที่ใช้ iOS 13.2 หรือใหม่กว่า
  • iPad ที่ใช้ iPadOS 13.2 หรือใหม่กว่า
  • เปิดแอพการตั้งค่า
  • แตะการแจ้งเตือน แล้วแตะการอ่านข้อความโดย Siri
  • เปิดการอ่านข้อความโดย Siri

 

*** เมื่อเปิดคุณสมบัตินี้ Siri จะอ่านออกเสียงข้อความเข้าของคุณเมื่อหูฟังเชื่อมต่อกับ iPhone หรือ iPad โดยที่คุณกำลังใส่หูฟังและอุปกรณ์ล็อคอยู่ Siri จะส่งเสียงแล้วอ่านชื่อผู้ส่งและอ่านข้อความ หากข้อความยาวเกินไป Siri จะอ่านเฉพาะชื่อผู้ส่งและบอกแค่ว่าบุคคลนี้ส่งข้อความถึงคุณ คุณสามารถขอให้ Siri อ่านข้อความทั้งหมด หรือคุณสามารถเปิด iPhone หรือ iPad เพื่ออ่าน ***

*** คุณสามารถจัดการได้ด้วยว่าจะให้ Siri อ่านข้อความจากผู้ติดต่อรายใด โดยไปที่การตั้งค่า > การแจ้งเตือน > การอ่านข้อความโดย Siri แตะข้อความแล้วเลือกจากรายการโปรด ล่าสุด รายชื่อ หรือทุกคน ***

*** หากคุณปรับแต่งศูนย์ควบคุมให้รวมการอ่านข้อความโดย Siri คุณจะใช้ศูนย์ควบคุมเพื่อเปิดหรือปิดคุณสมบัติดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว ***

 

วิธีตอบกลับข้อความ

  • รอให้ Siri อ่านข้อความ แล้ว Siri จะรอฟังการตอบกลับของคุณ
  • บอก Siri ว่าคุณต้องการตอบกลับ จากนั้นพูดข้อความของคุณ พูดประโยคอย่างเช่น "ตอบกลับไปว่า 'กำลังจะไป'" หรือ "บอกว่า 'ไปเจอกันที่นั่น'" เมื่อคุณหยุดพูด Siri จะอ่านการตอบกลับให้คุณ และถามว่าคุณต้องการส่งหรือไม่ 
  • *** คุณสามารถให้ Siri ส่งการตอบกลับทันที โดยไม่ต้องอ่านให้ฟังก่อน ไปที่การตั้งค่า > การแจ้งเตือน > การอ่านข้อความโดย Siri แล้วเปิดตอบกลับโดยไม่ต้องยืนยัน ***
  • *** หากคุณได้รับหลายข้อความพร้อมกัน คุณสามารถหยุดการอ่านข้อความโดย Siri ไว้ชั่วคราวได้อย่างรวดเร็วด้วยการถอด AirPods ออกหนึ่งข้างหรือถอดหูฟังออก ***



วิธีตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ของ Airpods

  • *** เมื่อ AirPods มีประจุไฟแบตเตอรี่เหลือน้อย คุณจะได้ยินเสียงเตือนหนึ่งครั้งใน AirPods ข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง คุณจะได้ยินเสียงเตือนหนึ่งครั้งเมื่อประจุไฟแบตเตอรี่เหลือน้อยและจะได้ยินครั้งที่สองก่อนที่ AirPods จะปิดเครื่อง*** 
  • สามารถตรวจสอบสถานะการชาร์จของ AirPods พร้อมเคสชาร์จได้ด้วย iPhone, iPad, iPod touch หรือ Mac ของคุณ

 

บนอุปกรณ์ iOS

  • ให้เปิดฝาเคสชาร์จที่มี AirPods อยู่ข้างใน แล้วถือเคสชาร์จไว้ใกล้ๆ กับอุปกรณ์ของคุณ รอสักครู่เพื่อดูสถานะการชาร์จของ AirPods

 

  • *** ในรูปภาพรูปนี้เป็นของรุ่น Airpods Pro ซึ่งมีลักษณะการใช้งานที่เหมือนกับ Airpods 2 *** 
  • สามารถตรวจสอบสถานะการชาร์จของ AirPods พร้อมเคสชาร์จของคุณด้วยวิดเจ็ต "แบตเตอรี่" ในอุปกรณ์ iOS ได้อีกด้วย สถานะการชาร์จของเคสชาร์จจะปรากฏเมื่อมี AirPods อย่างน้อยหนึ่งข้างอยู่ในเคสชาร์จ

 

 

บน Mac

  • ปิดฝาเคสชาร์จหรือเอา AirPods ออกจากเคสชาร์จ
  • คลิกไอคอนบลูทูธ ในแถบเมนู
  • วางตัวชี้เมาส์เหนือ AirPods พร้อมเคสชาร์จของคุณที่อยู่ในเมนู

 

ข้อมูลเกี่ยวกับไฟแสดงสถานะ



  • เคสชาร์จแบบไร้สาย: ไฟแสดงสถานะจะอยู่ที่ด้านหน้าของเคส

 

  • เคสชาร์จ: ไฟแสดงสถานะบนเคสชาร์จของคุณจะอยู่ตรงกลางระหว่างช่องว่างสำหรับใส่ AirPods ดังภาพ
  • *** หาก AirPods อยู่ในเคสชาร์จโดยที่ฝาเปิดอยู่ ไฟจะแสดงสถานะการชาร์จของ AirPods ของคุณ เมื่อ AirPods ไม่ได้อยู่ในเคสชาร์จ ไฟจะแสดงสถานะของเคสชาร์จของคุณ ไฟสีเขียวแสดงว่าชาร์จเต็มแล้ว ส่วนไฟสีเหลืองแสดงว่ามีกำลังไฟเหลือน้อยกว่าการชาร์จเต็มหนึ่งรอบ ***
  • *** เมื่อเชื่อมต่อเคสชาร์จแบบไร้สายเข้ากับที่ชาร์จ หรือวางไว้บนแผ่นชาร์จที่ผ่านการรับรอง Qi ไฟแสดงสถานะจะปรากฏค้างเป็นเวลา 8 วินาที หากไฟกะพริบเป็นสีขาวแสดงว่า AirPods พร้อมสำหรับการตั้งค่ากับอุปกรณ์เครื่องใดเครื่องหนึ่งของคุณแล้ว หากไฟกะพริบเป็นสีเหลือง อาจจำเป็นต้องตั้งค่า AirPods อีกครั้ง ***

 

ระยะเวลาการใช้งานของหูฟัง

 

AirPods

  • ฟังได้นานสูงสุด 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
  • สนทนาได้นานสูงสุด 3 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

 

AirPods พร้อมเคสชาร์จ

  • ฟังได้นานกว่า 24 ชั่วโมง
  • สนทนาได้นานสูงสุด 18 ชั่วโมง
  • เพียงใส่ในเคส 15 นาที ก็ใช้ฟังได้นานสูงสุด 3 ชั่วโมง หรือสนทนาได้นานสูงสุด 2 ชั่วโมง
  • *** ระยะเวลาการใช้งานอาจแตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของแต่ละบุคคล ***

 

Product Include (อุปกรณ์ภายในกล่อง)

  • Airpods
  • เคสชาร์จแบบธรรมดา และ เคสชาร์จแบบไร้สาย (สำหรับรุ่นที่รองรับ Wireless Charge)
  • สาย Lightning เป็น USB-A
  • เอกสารคู่มือ

 

Warranty (เงื่อนไขประกันสินค้า)

  • รับประกัน 1 ปี ภายใต้เงื่อนไขที่ทาง Apple กำหนด
  • *** ในส่วนของอะไหล่,สายชาร์จ,เคสชาร์จ ที่มากับตัวหูฟังจะมีระยะประกันอยู่ที่ 7 วัน ***
  • คุณลูกค้าต้องเก็บตัวสินค้าไว้ให้ครบไม่ว่าจะเป็น กล่อง/ซองแพคเกจจิ้ง, ตัวหูฟังทั้งสองข้าง, สายชาร์จ ,จุกหูฟังซิลิโคนทุกแบบ 
  • หากตัวสินค้าเสียหายจากขั้นตอนการผลิตของทางโรงงาน เปลี่ยนตัวใหม่ให้ทันที
  • สินค้าต้องไม่มีตำหนิจากการใช้งานผิดวิธี, ตำหนิเสียหายจากการใช้งานของลูกค้า, ร่องรอยการกระแทก หรือการขูดขีดอย่างรุนแรง
  • หากเป็นปัญหาจากการใช้งานของคุณลูกค้าไม่ว่าจะเป็น สายขาดใน, แจ็คหัก, ฝาเคสชาร์จหัก,ก้านหูฟังหัก , สายยางซิลิโคนของเคสชาร์จขาด, เปิดเสียงดังจนเสียงแตก, เบิร์นหูฟังผิดวิธี(ใช้แอพเบิร์นหรือคลื่นเสียงประเภท Sine Sweep, Pink Noise, White Noise) จนหูฟังเสียหาย จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
  • ปัญหาการคุยโทรศัพท์แล้วเป็นเสียงที่คุยไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อเปิด-ปิดตัวหูฟังอีกรอบแล้วสามารถคุยได้ตามปกติ จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
  • อาการกระตุกของสัญญาณขณะใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณของอุปกรณ์ไร้สายเยอะๆ เช่นบนสถานีรถไฟฟ้า,ออฟฟิตขนาดใหญ่ ***เช่น กำลังฟังเพลงอยู่แล้วสัญญาณขาดหายแล้วกลับมาเป็นปกติ *** ซึ่งจะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
  • หากตัวหูฟังหรือชิ้นส่วนของกล่องชาร์จเสียหรือชำรุด ที่เกิดจากการใช้งานไปแล้วเกินกว่า 7 วัน จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
  • สินค้ารุ่นนี้ไม่มีมาตรฐานการกันน้ำ หากสินค้าเสียหายจากการลงไปแช่น้ำหรือจากแรงดันน้ำสูงๆในทุกกรณี จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน














ข้อมูลเพิ่มเติม
Fashion Island STOREไม่
SKUAC261-A1-A
แบรนด์Apple
CTW STOCKไม่
MB STOCKไม่
ES STOCKไม่
WV STOCKไม่
Paragon STOREไม่
0
เรทติ้ง:
0% of 100
Write Your Own Review
เฉพาะสมาชิกเท่านั้นที่สามารถเขียนรีวิวได้ กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก
คำถามลูกค้า
ไม่มีคำถาม
โปรดทราบ, เฉพาะผู้ใช้ที่เข้าสู่ระบบเท่านั้นที่สามารถส่งคำถามได้
สินค้าที่คุณอาจจะชอบ!