Huawei Freebuds 3

หูฟังไร้สายทรง Earbuds

พร้อมระบบ Active Noise Cancelling ตัวแรกของโลก!!

425 Recommend

• ทางทีมงาน 425 ไม่เคยคิดเคยฝันว่าจะมีแบรนด์ไหนกล้าทำ หูฟังไร้สายทรง Earbuds ที่มีระบบ Noise Cancelling ออกมาจำหน่าย เป็นอะไรที่ทางทีมงาน 425 ว้าวววว มากๆเลยครับ 
• หลังจากที่ได้ลองทดสอบใช้งานต้องบอกเลยว่า น่าประทับใจเอามากๆ
• อันดับแรกเลยคือเรื่องของรูปทรงหูฟังที่เป็นแบบ Earbuds แต่ทาง Huawei ได้พัฒนาต่อยอดขึ้นไปอีกขั้นให้โดยใช้ชื่อดีไซน์นี้ว่า Dolphin Bionic โดยตัวหูฟังจะยื่นออกมากว่าหูฟัง Earbuds ทั่วไป เพื่อให้เราได้รับพลังเสียงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพครับ
• ว่ากันแบบง่ายๆ คือ ใส่สบาย โดยที่เสียงยังดีอยู่นั้นเองครับ (แอบกระซิบนิดนึง ทางทีมงาน 425 คิดว่าเสียงดีกว่า หูฟัง True Wireless ของแบรนด์ผลไม้อีกครับ)
• หูฟัง True Wireless จะทดสอบเรื่องเสียงอย่างเดียวก็คงจะเป็นไปไม่ได้ มันก็ต้องทดสอบในเรื่องการ ดูหนัง ดูคลิปออนไลน์ และ เล่นเกมส์
• ทาง Huawei เคลมไว้ว่าถ้าใช้กับ มือถือ Huawei ที่เป็นรุ่น Mate และ P สามารถทำ Latency ได้ต่ำถึง 190 ms. เลยครับ แต่ทางทีมงาน 425 ไม่มีมือถือ Huawei ให้ทดสอบ (T__T")
• จึงทดสอบกับอุปกรณ์เท่าที่เรามีนั้นก็คือ Samsung Galaxy Note8 และ iPad Pro 11" ครับ ผลที่ได้ เป็นอะไรที่น่าประทับใจเอามากๆ ภาพและเสียงตรงกันแบบเป๊ะๆ เวลาเล่นเกมส์ไม่รู้สึกถึงอาการดีเลย์เลยครับ
• และแล้วก็มาถึงคราวของการทดสอบระบบ Active Noise Cancelling แล้วครับ จากการทดสอบพบว่าตัวหูฟังสามารถกันเสียงรบกวนได้ดีระดับนึง อาจจะยังสู้แบบพวก Full-Sized ตัวใหญ่ๆไม่ได้ แต่ถือว่าทำได้ดีมากๆในระดับหูฟังทรง Earbuds เลยครับ
• ในเรื่องของการคุยโทรศัพท์นั้นก็ต้องบอกเลยว่าให้เสียงที่ชัดเจนขนาดทางทีมงานลองเอาไปพูดใส่กับพัดลมบ้านปรับเป็นเบอร์ 3 ซึ่งให้ลมแรงที่สุดก็ยังสามารถคุยได้อย่างชัดถ้อยชัดคำอยู่ครับ

Huawei Freebuds 3 Highlight

• รางวัลการันตี Best of IFA 2019 จาก
• SoundGuys (นักรีวิวหูฟังชื่อดังที่นักเล่นหูฟังทั่วโลกให้การยอมรับ)
• Android Authority (ทีมนักรีวิวผู้ที่ชื่นชอบใน Mobile Technology)
• Android Headline (ทีม Journalist ผู้ที่คลั่งไคล้ในระบบปฎิบัติการ Android)
• รูปทรงหูฟังแบบ Earbuds ดีไซน์ใหม่ Dolphin Bionic ให้ตัวหูฟังยื่นออกมากว่าปกติเพื่อให้ได้เสียงที่ดีกว่า
• ใช้ Bluetooth 5.1 และการส่งสัญญาณแบบ Dual Channel
• ให้ Latency ที่ต่ำมากเพียง 190 ms.
• มี Bandwidth ที่กว้างมากทำให้ได้ระยะการเชื่อมต่อที่ไกลขึ้น
• กินแบตฯน้อยกว่า
• มีระบบ Active Noise Cancelling ช่วยกันเสียงรบกวนภายนอกได้ดีในขณะฟังเพลงโดยยังคงคุณภาพเสียงเพลงไว้ได้อยู่
• ตัวไมค์ มี Air Duct และ Bone Sensor ช่วยทำให้คุยโทรศัพท์ได้อย่างราบรื่นชัดถ้อยชัดคำ
• ใช้ Dynamic Driver ขนาด 14 มม.
• ตัวกล่องชาร์จมีระบบ Wireless Charge สามารถชาร์จไร้สายได้
• แบตฯ สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 4 ชั่วโมง เมื่อใช้ร่วมกับกล่องชาร์จสามารถใช้งานได้อีก 20 ชั่วโมง

Product Specification (ข้อมูลจากคู่มือภายในกล่อง)

ข้อมูลทั่วไป (General Info)

• แบรนด์ : Huawei
• รุ่น : Freebuds 3
• ดีไซน์ : Dolphin Bionic / Earbud / Open-Fit

ฟีเจอร์ (Features)

• Dolphin Bionic Design : ท่อเสียงที่ยื่นเข้าใกล้แก้วหู ให้เสียงที่เต็มและเบาสบายขณะสวมใส่
• Dual Channel Transmisson : ส่งสัญญาณกับหูฟังแต่ละข้างโดยตรง สลับใช้หูฟังทีละข้างได้อย่างอิสระ หมดปัญหากวนใจข้างหลัก-ข้างรอง
• Wearing Detection : ตรวจจับการสวมใส่ ถอดเพลงหยุด-ใส่เพลงเล่นต่อ (เฉพาะ EMUI เวอร์ชั่น 10 ขึ้นไปเท่านั้น)
• Active-Noise Cancelling : ตัดเสียงรบกวนขณะฟังเพลง
• Air Duct : การวางไมโครโฟนแบบพิเศษ ช่วยตัดเสียงลมขณะคุยโทรศัพท์
• Bone Sensor : ตรวจจับการขยับของปากผู้พูด เพื่อเสียงสนทนาที่คมชัด
• Wireless Charging Case : กล่องชาร์จฯรองรับการชาร์จไร้สายฯ มาตรฐาน QI (2W)

การเชื่อมต่อ (Connectivity)

• ชิปบลูทูธ : Huawei Kirin A1
• บลูทูธ : เวอร์ชั่น 5.1 และ บลูทูธพลังงานตํ่า (BLE) เวอร์ชั่น 5.1
• ระยะการเชื่อมต่อ : สูงสุด 20 เมตร (ไม่มีสิ่งกีดขวาง)

ไดร์เวอร์ (Driver)

• ไดร์เวอร์ : ไดนามิคขนาด 14.2 มม. พร้อมหลอดเสียงเบส (Bass Tube) เพิ่มพลังเสียงย่านตํ่า

แบตเตอรี่ (Battery)

• การเล่นต่อเนื่อง : ใช้งานได้ 4 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
• กล่องชาร์จฯ : ชาร์จได้ 4 รอบ รวมสูงสุด 20 ชั่วโมง
• ไฟขาเข้า : 6 W/ Qi 2W (Wireless Charge)
• ระยะเวลาในการชาร์จแบตฯ : สูงสุด 1 ชั่วโมง (หูฟัง) / สูงสุด 1 ชั่วโมง (กล่องชาร์จฯ)
• ความจุแบตเตอรี่ : 38 มิลลิแอมป์ (หูฟังต่อข้าง), 410 มิลลิแอมป์ (กล่องชาร์จฯ)

ขนาดและนํ้าหนัก (Weight & Dimension)

• ขนาด : 41.5 x 20.4 x 17.8 มม (หูฟังต่อข้าง), 60.9 x 21.8 มม. (กล่องชาร์จฯ)
• นํ้าหนัก : 4.5 กรัม (หูฟังหนึ่งข้าง), 48 กรัม (เคสชาร์จฯ)

Active Noise Cancelling ในหูฟังทรง Earbuds ตัวแรกของโลก !!

• Huawei Freebuds 3 หูฟังไร้สายฯทรง Earbud ตัวแรกของโลก และตัวล่าสุดจาก Huawei ที่มาพร้อมระบบตัดเสียงรอบข้างหรือ Active Noise Cancelling ช่วยให้การฟังเพลงของคุณไม่โดนเสียงรบกวนใดๆมากวนใจ !
• สามารถปรับระดับองศา “ความเงียบ” ผ่านแอปพลิเคชั่น Huawei Ai Life หน้าตาการใช้งานง่ายมากๆครับ

“Dolphin Bionic” ดีไซน์เฉพาะตัว สวมใส่สบาย เบาหูตลอดทั้งวัน

• การออกแบบสุดลํ้าของ Huawei Freebuds 3 ที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว ท่อเสียงจะโค้งมนเข้าสรีระหูด้านใน เพื่อให้เสียงที่เต็มหู และการสวมใส่ที่เบาสบายตลอดทั้งวันครับ

Bluetooth เวอร์ชั่น 5.1 เร็ว แรง กินพลังงานตํ่ามาก

• มาพร้อมกับ Bluetooth เวอร์ชั่น 5.1 เวอร์ชั่นล่าสุดที่ เร็ว แรง แถมกินพลังงานตํ่ามากๆครับ

ส่งสัญญาณแบบ Dual Channel หมดปัญหาข้างหลักข้างรอง สลับใช้ทีละข้างได้อย่างอิสระ !

• การส่งสัญญาณสุดลํ้า Dual Channel ของ Huawei Freebuds 3 ที่จะส่งสัญญาณสองช่องทางไปยังหูฟังแต่ละข้างพร้อมๆกัน ทำให้หูฟังแต่ละข้างสามารถใช้งานได้ด้วยตัวของมันเอง ไม่มีข้างหลัก-ข้างรอง ทำให้เราสามารถสลับใช้หูฟังทีละข้างได้ทั้งซ้ายและขวาโดยที่ไม่ถูกตัดการเชื่อมต่อ อีกทั้งยังให้ความเร็วและความต่อเนื่องชนิดที่ว่า แทบจะทันทีทันใดเลยทีเดียวครับ

เทคโนโลยีกันเสียงลม “Air Duct” บวกกับเทคโนโลยี “Bone Sensor” ให้เสียงคุยโทรศัพท์ได้ดีงามมาก

• Huawei Freebuds 3 มีฟีเจอร์เฉพาะตัวอย่าง Air Duct ที่ช่วยกันเสียงลมตีเข้าไมโครโฟนของ Huawei Freebuds 3 หมดปัญหาเรื่องเสียงลมที่กวนจิตกวนใจตอนคุยโทรศัพท์นอกบ้าน !
• บวกกับ Bone Sensor เซ็นเซอร์สุดลํ้าที่จะจับการขยับของปากผู้พูด เพื่อเสริมให้เสียงพูดของผู้พูด ชัดถ้อยชัดคำมากขึ้น !

มี Wearing Detection ตรวจจับการสวมใส่ ถอดเพลงหยุด-ใส่เพลงเล่นต่อ (เฉพาะ EMUI เวอร์ชั่น 10 ขึ้นไป )

• มาพร้อมกับ Wearing Detection ตรวจจับการสวมใส่หูฟัง หากเราถอดหูฟังออกจากหูหนึ่งข้างขณะเพลงกำลังเล่น หูฟังจะหยุดเล่นเพลงหรือวีดีโอทันที แต่เมื่อเราใส่กลับเข้าไปใหม่ หูฟังก็จะเล่นเพลงหรือวีดีโอต่อจากที่หยุดครับ (ฟีเจอร์นี้เฉพาะอุปกรณ์ที่รัน EMUI เวอร์ชั่น 10 ขึ้นไปเท่านั้น)

สำหรับผู้ใช้งานอุปกรณ์ Huawei ดูหนัง เล่นเกมส์ได้สบายๆ เพราะมีค่าดีเลย์ตํ่าเพียง 190ms เท่านั้น !

• หากใช้ Huawei Freebuds 3 กับอุปกรณ์ที่รัน EMUI เวอร์ชั่น 10 ขึ้นไป จะมีค่าดีเลย์ที่ตํ่ามากๆเพียง 190ms เท่านั้น ทำให้เวลาเรา “เล่นเกมส์” หรือ “สตรีมหนัง” แทบจะไม่รู้สึกถึงถึงอาการดีเลย์เลย สุดยอดมากๆครับ (สามารถอ่านผลการทดสอบจากทีมงาน 425° ได้ด้านล่างครับ)

สุดยอดหูฟังสำหรับชาว Android ความดีงามที่เทียบเท่า Airpods จาก Apple

• หาก Apple มี Airpods ฝั่งของทาง Huawei ก็มี Freebuds 3 ซึ่งประสิทธิภาพการใช้งานเรียกได้ว่า “เทียบเท่า” หรือบางอย่างอาจทำได้ดีกว่าด้วยซํ้าไปครับ (สามารถอ่านการเปรียบเทียบ Huawei Freebuds 3 และ Airpods ได้ด้านล่างเลยครับ

Huawei Freebuds 3's Gallery

Sound Review (เป็นความคิดเห็นของทีมงาน 425° นะครับ)

• เสียงเบส : Huawei Freebuds 3 หูฟังทรง Earbud ที่ให้เสียงเบสได้ดีมากๆ ช่วงที่โดดเด่นของเสียงย่านตํ่าเป็นช่วง Mid-Bass ที่ให้เสียงหัวโน๊ตได้ชัดแจ๋วเป็นลูกๆ ตามมาด้วยเสียง Subbass ที่ฟังดูอยู่ลึกพอสมควร แต่ยังได้ยินอย่างชัดเจน มีแรงปะทะกำลังดี โดยรวมแล้ว Freebuds 3 มีภาคจังหวะที่ฟังแน่นหนากำลังดีเลยล่ะครับ
• เสียงกลาง : เสียงเครื่องดนตรีต่างๆให้เสียงโน๊ตที่ชัดเจน จัดจ้าน มีความกระฉับกระเฉงมาก สามารถเห็นรายละเอียดของเสียงดนตรีได้อย่างชัดเจน ในย่านเสียงกลางมีความโปร่งอยู่พอสมควร มวลเสียงให้ความรู้สึกเป็นลูกกลมๆ หนาๆ มีนํ้าหนัก เสียงร้องฟังดูก้าวออกมาหน้าวงดนตรีเล็กน้อย มีขนาดเสียงร้องที่ใหญ่พอสมควร มีความชุ่มฉํ่า เนื้อเนียนและปลายทอดได้เป็นประกายพอสมควร มีเสียง Sibilance ที่ชัดเจนแต่เท่าที่ฟังหลายๆเพลงไม่ค่อยเจอเสียงทิ่มหู โทนเพราะกำลังดีเลยครับ
• เสียงแหลม : เสียงแหลมทอดได้ไกลปานกลางแต่แอบมีประกายฟรุ้งฟริ้งที่ได้ยินได้จากปลายเสียงกลองสแนร์ และเสียงร้องช่วงปลายเสียงของผู้หญิง โทนให้ความสว่างกำลังดี ฟังแล้วกะชุ่มกระชวยดีครับ
• ซาวด์สเตจ/มิติ : ซาวด์สเตจมีขนาดกว้างปานกลางแตะๆกว้างมาก การแยกมิติเสียงดนตรีทำได้ดีมาก สามารถเห็นตำแหน่งของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นได้อย่างชัดเจนและสามารถจับโฟกัสได้อย่างสบายๆ จากเท่าที่ฟังโดยรวมแล้ว ไม่รู้สึกว่ามีเสียงดนตรีตีกันกันเลย ดูเป็นสัดเป็นส่วน มีตำแหน่งที่เหมาะสมเป็นระเบียบมากๆครับ

Phone Calls Review (เป็นความคิดเห็นของทีมงาน 425° นะครับ)

• เสียงปลายสาย : เสียงดังฟังชัดกำลังดี ไม่ดังมากและไม่เบาเกินไป โทนเสียงเคลียร์ใสอวบอิ่มกำลังดี โทนสว่าง โดยรวมแล้วเสียงคนพูดจากปลายสายฟังดูสะอาดสะอ้าน คุยง่าย ด้วยความที่หูฟังดีไซน์มาแบบ Open-Fit หากเรายืนคุยโทรศัพท์ในที่ๆเสียงดังเช่น ริมถนนใหญ่ เราอาจต้องดันตัวหูฟังให้เข้าหูลึกขึ้น เพื่อให้เราได้ยินเสียงปลายสายได้ชัดขึ้นครับ
• เสียงไมโครโฟน : ขอบอกว่าสุดยอดมาก ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะตัวของทาง Huawei ไม่ว่าจะเป็น Bone Sensor และ Air Duct ต่างเสริมประสิทธิภาพเสียงไมโครโฟนของเราไปยังผู้รับสารที่อยู่ปลายสายได้อย่างดีเยี่ยม ให้เสียงที่ดังชัดใสกิ๊ง ทีมงานทดสอบคุยในห้องที่มีเสียงสะท้อนเยอะๆ เสียงสะท้อนจากห้องไม่ส่งผลกระทบต่อเสียงของเรามากมาย เสียงพูดของเรายังฟังดูสะอาด ชัดเจน รวมถึงสถานที่ที่มีเสียงดังๆเช่นริมถนน การตัดเสียงรบกวนรอบๆตัวของเราก็สามารถตัดเสียงรบกวนได้เบาลงถึง 80% เลยทีเดียว หมายความว่า คู่สายจะไม่โดนผลกระทบจากเสียงรบกวนรอบๆตัวเรามากเลยในขณะที่เรากำลังใช้ Huawei Freebuds 3 คุยโทรศัพท์ แต่อาจมีบางจังหวะที่เสียงเรามีสะดุดบ้างนิดเดียว แต่โดยรวมแล้ว ไมโครโฟนสามารถรับมือกับเสียงรบกวนได้อย่างสบายๆครับ

***ขณะคุยสายและระบบกันเสียงรอบข้าง (Active Noise Cancelling) ได้เปิดอยู่ ระบบลดเสียงรบกวน CVC Noise Reduction ขณะคุยโทรสัพท์จะไม่ทำงาน ส่งผลให้คู่สายอาจได้ยินเสียงรบกวนที่ดังพอๆกับเสียงเราได้ แนะนำว่าขณะคุยโทรศัพท์ ให้ปิด Active Noise Cancelling เสียก่อน เพื่อให้ CVC Noise Reduction ทำงานครับ

ทดสอบดูคลิปวีดีโอออนไลน์

Non-Huawei Device (Android Pie)

• Android Bluetooth 5.0 : ไม่พบอาการดีเลย์จากการดูคลิปออนไลน์ครับ

อุปกรณ์ที่ใช้ทดสอบ : Nokia 7 Plus, Samsung S7, Samsung Note 10

Huawei Device ( EMUI )

• Android Version 5.0 : ไม่พบอาการดีเลย์จากการดูคลิปออนไลน์ครับ

อุปกรณ์ที่ใช้ทดสอบ : Huawei Mate 20

Apple Devices

• iOS Bluetooth เวอร์ชั่น 5.0 : ไม่พบอาการดีเลย์จากการดูคลิปออนไลน์ครับ

อุปกรณ์ที่ใช้ทดสอบ : iPhone XR, iPhone 11

ทดสอบเล่นเกมส์ออนไลน์

Non-Huawei Device (Android Pie)

• Android Bluetooth เวอร์ชั่น 5.0 : พบอาการดีเลย์ที่น้อยมากๆ (มากกว่า iOS) นิดเดียว สามารถใช้เล่นได้ครับ
• Samsung Devices Bluetooth เวอร์ชั่น 5.0 : พบอาการดีเลย์มากพอสมควร หากผู้ใช้งานใช้อุปกรณ์ของ Samsung ทีมงาน 425° ไม่แนะนำให้ใช้ Huawei Freebuds 3 เล่นเกมส์ครับ

อุปกรณ์ที่ใช้ทดสอบ : Nokia 7 Plus, Samsung S7, Samsung Note 10

Huawei Device ( EMUI )

• Android Bluetooth เวอร์ชั่น 5.0 : ไม่พบอาการดีเลย์จากการเล่นเกมส์ สามารถใช้เล่นได้ครับ

อุปกรณ์ที่ใช้ทดสอบ : Huawei Mate 20

Apple Devices

iOS Bluetooth เวอร์ชั่น 5.0 : มีดีเลย์ที่น้อยมากๆ น้อยจนไม่รู้สึก สามารถใช้เล่นเกมส์ได้ครับ

อุปกรณ์ที่ใช้ทดสอบ : iPhone XR, iPhone 11

หมายเหตุ : การทดสอบดูคลิปออนไลน์และการเล่นเกมส์กับหูฟังไร้สายฯ Huawei Freebuds 3 กับอุปกรณ์ต่างๆ ด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆของทางบริษัท 425Degree ที่มีจำกัด อาจทำให้ไม่สามารถทดสอบหูฟังกับอุปกรณ์ได้ครอบคลุมทุกแบรนด์ หากคุณลูกค้าใช้อุปกรณ์ที่อยู่นอกเหนือจากการทดสอบของทางเรา อาจให้ผลลัพท์หรือค่าดีเลย์ที่แตกต่างจากผลการทดสอบของเรา 425Degreeได้ครับ โปรดยึดการทดสอบนี้เป็นอีกหนึ่งแนวทางเล็กๆน้อยๆในการประกอบการตัดสินใจครับ

การต่อ Bluetooth ครั้งแรก

Huawei Devices

• เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ของท่าน
• เปิดฝากล่องชาร์จฯหูฟัง กดปุ่ม Function Button ค้างไว้จนไฟกระพริบสีขาว (ระหว่างทำขั้นตอนนี้ให้นำหูฟัง Huawei Freebuds 3 และโทรศัพท์ Huawei อยู่ใกล้กันๆกันครับ)

• รอสักครู่ ที่โทรศัพท์ Huawei จะมีหน้าต่างเด้งขึ้นมา และมีตัวเลือกให้เราเลือกได้แก่ Cancel และ Connect ครับ

• ให้เรากด Connect เป็นอันเสร็จขั้นตอนจับคู่กับอุปกรณ์ Huawei ครับ

Non-Huawei Devices

1. เปิดฝากล่องชาร์จ Huawei Freebuds 3 เราจะเห็นไฟ LED สีเขียวระหว่างช่องเก็บหูฟังทั้งสองข้า
2. กดปุ่มฟังชั่นด้านข้างของกล่องชาร์จฯค้างไว้จนไฟสีเขียวเปลี่ยนเป็นไฟสีขาวกระพริบช้า

3. เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ ค้นหาชื่อ “Freebuds 3” แล้วกดเชื่อมต่อครับ

การต่อ Bluetooth ครั้งต่อไป

Huawei Devices

1. เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ของท่าน
2. เปิดฝากล่องชาร์จฯ Huawei Freebuds 3 (ระหว่างนี้ให้นำหูฟัง Huawei Freebuds 3 อยู่ใกล้กับอุปกรณ์ของ Huawei ครับ)
3. เมื่อเปิดฝากล่องชาร์จฯ Huawei Freebuds 3 แล้ว หูฟังฯจะทำการต่อกับอุปกรณ์ Huawei เครื่องล่าสุดให้อัตโนมัติครับ

Non-Huawei Devices

1. เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ที่ต้องการจะเชื่อมต่อกับ Huawei Freebuds 3
2. เปิดฝากล่องชาร์จฯ Huawei Freebuds 3 สักพัก Huawei Freebuds 3 จะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ล่าสุดให้โดยอัตโนมัติครับ

การเชื่อมต่อ Bluetooth กับอุปกรณ์ใหม่

Huawei Devices

1. เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์เครื่องใหม่ที่ต้องการจับคู่กับหูฟัง Huawei Freebuds 3
2. เปิดฝากล่องชาร์จฯหูฟัง กดปุ่ม Function Button ค้างไว้จนไฟกล่องชาร์จฯกระพริบไฟสีขาว (ในระหว่างนี้ให้นำหูฟังฯกับอุปกรณ์ Huawei อยู่ใกล้ๆกันครับ)
3. รอสักครู่ ที่อุปกรณ์จะมีหน้าต่างปรากฏขึ้น ให้เราเลือก “Connect” เป็นอันเสร็จสิ้นครับ

Non-Huawei Devices

1. เปิดฝากล่องชาร์จฯ Huawei Freebuds 3 เราจะเห็นไฟสีเขียวระหว่างกลางของช่องเก็บหูฟังทั้งสองข้าง
2. กดปุ่มฟังชั่นด้านข้างของกล่องชาร์จฯ Huawei Freebuds 3 ค้างไว้จนไฟสีเขียวเปลี่ยนเป็นไฟสีขาวกระพริบ
3. เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ใหม่ที่ต้องการเชื่อมต่อด้วย ค้นหาชื่อ “Freebuds 3” แล้วกดเชื่อมต่อเป็นอันเสร็จสิ้นครับ

การเปิดการใช้งาน

• เปิดฝากล่องชาร์จฯ กดปุ่ม Function Button ค้างไว้ประมาณ 2 วินาทีเพื่อเปิดการใช้งาน Huawei Freebuds 3 ครับ

การปิดการใช้งาน

• เมื่อใช้งาน Huawei Freebuds เสร็จแล้ว ให้ทำการเก็บหูฟังลงกล่องชาร์จทั้งสองข้าง ปิดฝา Huawei Freebuds 3 จะปิดการใช้งานโดยอัตโนมัติครับ

การเปิดการใช้งาน Active-Noise Canceling

• แตะที่หูฟังข้างซ้าย 2 ครั้งติดต่อกันจะเป็นการเปิดโหมดตัดเสียงรบกวนหรือ Active-Noise Cancelling ครับ

การลิงค์ Huawei Freebuds 3 กับแอปพลิเคชั่น AI Life (รองรับเฉพาะ Android)

• ก่อนอื่นให้ทำการจับคู่หูฟัง Huawei Freebuds 3 กับอุปกรณ์เสียก่อน
• ดาว์นโหลดแอปพลิเคชั่น Huawei AI Life และติดตั้งลงในเครื่องของท่าน
• เข้าแอปพลิเคชั่น Huawei AI Life เลือก + ที่มุมบนขวามือและเลือก Add Device
• แอปฯจะทำการ Scan หาหูฟัง Huawei Freebuds 3 เมื่อแอปฯ Scan พบแล้ว ให้เลือก Connect ที่รายชื่อ “Freebuds 3”

• เมื่อทำการลิงค์ Huawei Freebuds 3 สำเร็จแล้ว สังเกตุที่หน้า Home ของแอปฯจะพบชื่อ Freebuds 3 ครับ

• เราสามารถแตะเลือก Freebuds 3 เพื่อเข้าไปตั้งค่าต่างๆ เปิด-ปิดฟีเจอร์การใช้งานได้ครับ

การใช้งานและคำอธิบายต่างๆของแอปพลิเคชั่น Huawei AI Life

1. ใช้เข้าไปที่หน้า Bluetooth ของอุปกรณ์
2. ใช้บอกแบตเตอรี่คงเหลือของหูฟังข้างซ้าย (Earbud L) และข้างขวา (Earbud R) รวมถึงแบตเตอรี่ของกล่องชาร์จฯ
3. ใช้ปรับเปลี่ยนฟังชั่นต่างๆของหูฟังแต่ละข้าง โดยจะมีตัวเลือกให้เลือกใช้ได้แก่ เล่นเพลง-หยุดเพลง เปิด-ปิด Active Noise Cancelling เรียก Google หรือ Siri ครับ
4. ใช้เปิดปิดการตัดเสียงรบกวน (Active Noise-Cancelling) และปรับระดับของการตัดเสียงรบกวนครับ
5. ใช้อัพเกรด Software Huawei Freebuds 3

การควบคุมเพลง

• เล่นเพลง : แตะหูฟังข้างขวา 2 ครั้งติดต่อกัน
• หยุดเพลง : ขณะเพลงเล่น แตะหูฟังข้างขวา 2 ครั้งติดต่อกัน

การควบคุมการคุยโทรศัพท์

• รับสาย/วางสาย : ขณะสายเข้า/คุยสาย แตะหูฟังข้างขวา 2 ครั้งติดต่อกัน

การชาร์จแบตเตอรี่ Huawei Freebuds 3

• เสียบสายชาร์จฯ USB Type-C กับกล่องชาร์จฯ Huawei Freebuds 3 สามารถเสียบสายชาร์จเข้ากับพอร์ต USB หรือ Adaptor ก็ได้ครับ
• ขณะชาร์จแบตฯ ไฟ LED ทั้งด้านในและนอกจะขึ้นไฟแสดงแบตเตอรี่คงเหลือของกล่องชาร์จฯและหูฟังในขณะนั้น และเพิ่มขึ้นสูงสุดที่สีเขียวครับ
• หรือสามารถชาร์จแบตเตอรี่กับแท่นชาร์จฯ Wireless ที่มีมาตรฐาน QI ก็ได้เช่นกันครับ

ไฟสถานะต่างๆของ Huawei Freebuds 3

ไฟนอกกล่องชาร์จฯ

ขณะที่กล่องชาร์จฯกำลังชาร์จแบตเตอรี่

• ไฟสีเขียว : แบตเตอรี่กล่องชาร์จฯมีมากกว่า 90%
• ไฟสีเหลือง : แบตเตอรี่กล่องชาร์จฯเหลือน้อยกว่า 90%

ขณะที่กล่องชาร์จฯไม่ได้ชาร์จแบตเตอรี่

• ไฟสีเขียว : แบตเตอรี่กล่องชาร์จฯมีมากกว่า 60%
• ไฟสีเหลือง : แบตเตอรี่กล่องชาร์จฯเหลือระหว่าง 20% ถึง 60%
• ไฟสีแดง : แบตเตอรี่กล่องชาร์จเหลือตํ่ากว่า 20%

ไฟข้างในกล่องชาร์จฯ

• ไฟสีเขียว : แบตเตอรี่หูฟังเหลือแบตฯมากกว่า 60%
• ไฟสีเหลือง : แบตเตอรี่หูฟังเหลือแบตฯระหว่าง 20% ถึง 60%
• ไฟสีแดง : แบตเตอรี่หูฟังเหลือตํ่ากว่า 20%
• ไฟสีขาวกระพริบ : หูฟังอยู่ในโหมดจับคู่
• ไฟสีแดงกระพริบ : หูฟังได้ถูก Reset เป็นค่าโรงงานเรียบร้อยแล้ว

การ Reset Factory Huawei Freebuds 3

• เปิดฝากล่องชาร์จฯ กดปุ่ม Function Button ค้างไว้ประมาณ 7 วินาที จนไฟ LED เปลี่ยนเป็นสีแดงกระพริบ ให้กดค้างไว้จนกว่าไฟสีแดงกระพริบจะกลายเป็นสีขาวกระพริบอีกครั้ง เมื่อไฟ LED เปลี่ยนจากสีแดงกระพริบเป็นสีขาวกระพริบ แสดงว่า Huawei Freebuds 3 ได้ถูก Reset เรียบร้อยแล้วครับ

Product Include (อุปกรณ์ภายในกล่องฯ)

• หูฟัง Huawei Freebuds 3 จำนวน 1 คู่
• กล่องชาร์จฯ Huawei Freebuds 3 จำนวน 1 อัน
• สายชาร์จ USB Type-C จำนวน 1 เส้น
• คู่มือต่างๆ
• คู่มือการใช้งาน
• คู่มือการดูแลรักษา
• ใบประกันสินค้า

Warranty (เงื่อนไขประกันสินค้า)

• ในส่วนของหูฟังและกล่องชาร์จฯ รับประกัน 1 ปี ภายใต้เงื่อนไขที่ทาง Huawei กำหนด
• ในส่วนของอุปกรณ์ต่างๆที่มากับตัวกล่องสินค้าเช่น สายชาร์จ USB Type-C มีระยะการรับประกันภายใน 7 วัน
• ผู้ใช้งานจำเป็นต้องเก็บตัวสินค้าเอาไว้ให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นกล่อง Package สินค้า, ซองแพ็คเกจจิ้ง,ตัวหูฟัง รวมทั้งอุปกรณ์เสริมอื่นๆของสินค้าที่มากับตัวกล่องฯเอาไว้ให้ครบถ้วน
• ***หากตัวสินค้าเสียหายจากขั้นตอนการผลิตของโรงงานเช่น มีตำหนิ, สีลอก หรือมีร่องรอยที่ทำให้สภาพสินค้าไม่สมบูรณ์ตั้งแต่เปิดกล่องฯครั้งแรก จะมีระยะการรับประกันภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับสินค้า หากเกินหลังจากนี้ จะไม่รับประกันในทุกกรณี
• สินค้าจะต้องไม่มีร่องรอยจากการถูกขีดข่วนอย่างรุนแรง รอยตกกระแทก, หรือคราบความชื้นทั้งในหูฟังและกล่องชาร์จฯ หรืออื่นๆที่เกิดจากผู้ใช้งานเอง
• หากเป็นปัญหาที่เกิดจากการใช้งานของผู้ใช้งานเองเช่น ฝากล่องชาร์จฯหัก, หูฟังชำรุดเสียหาย ,เปิดเสียงดังจนเสียงแตก, ทำหูฟังหรือกล่องชาร์จฯตกนํ้า, เบิร์นหูฟังผิดวิธี (ใช้แอปฯเบิร์นหรือคลื่นเสียงประเภท Sine Sweep, Pink Noise, White Noise) จนหูฟังเสียหาย จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกันครับ
• ปัญหาการคุยโทรศัพท์ที่เป็นเสียงฟังไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อเปิด-ปิดใหม่อีกรอบแล้วสามารถคุยได้ตามปกติ จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกันครับ