SwitchBot Switch (ตัวช่วยกดสวิตซ์แบบ Bluetooth)

425Degree Recommend

SwitchBot Switch สวิตซ์อัจฉริยะที่จะเปลี่ยนบ้านของคุณให้กลายเป็น Smart Home ได้ทันที ปัญหาหลักๆของคนที่อยากทำบ้านแบบ Smart Home คือไม่อยากรื้อระบบไฟฟ้าภายในบ้านใหม่ รวมถึงไม่อยากโละทิ้งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ยังใช้งานได้ดีอยู่ ซึ่งจุดนี้ SwitchBot Switch เข้าใจเป็นอย่างดีครับ ออกแบบมาให้เป็นสวิตซ์เสริมที่ทำหน้าที่เหมือน “นิ้วอัจฉริยะ” คอยกดใช้งานปุ่มกดและสวิตซ์ของเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆแทนเรา ข้อดีคือติดตั้งง่ายมาก ใช้งานกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอยู่แล้วภายในบ้านได้เลย เพียงแค่อุปกรณ์นั้นๆมีพื้นที่เพียงพอในการติดตั้ง SwitchBot Switch ส่วนการใช้งานก็สะดวกสุดๆเพราะสั่งงานผ่าน App บน Smartphone ได้เลย แค่นี้ก็เปลี่ยนบ้านแบบเดิมๆให้กลายเป็น Smart Home ได้แบบไม่ยุ่งยากเลยครับ

• จากที่ 425 ได้ลองใช้งาน SwitchBot Switch อุปกรณ์นี้ถือว่าตอบโจทย์มากกับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศภายในบ้านให้กลายเป็น Smart Home โดยที่ไม่ต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์ IoT (Internet of Things) หรืออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆที่ควบคุมการทำงานผ่านอินเตอร์เน็ต ซึ่งถ้าต้องซื้อทั้งชุดก็ราคาแพงกว่ามาก แต่เจ้า SwitchBot Switch รุ่นนี้แค่ติดตั้งเพียงไม่กี่นาทีก็พร้อมใช้งานได้เลย ประหยัดทั้งเวลา ประหยัดทั้งค่าใช้จ่าย ไม่ต้องซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าชุดใหม่ ไม่ต้องจ้างช่างมาติดตั้ง สามารถทำเองได้เลยง่ายมากๆครับ
• ข้อดีหลักๆของ SwitchBot Switch คือออกแบบมาให้รองรับกับการกดสวิตซ์แบบกระดก (rocker switch) และสวิตซ์แบบปุ่มกดทั่วไปสำหรับในทุกอุปกรณ์ เพียงแค่อุปกรณ์นั้นๆมีพื้นที่เพียงพอสำหรับติดแถบกาว ซึ่งส่วนใหญ่เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่เราใช้กันอยู่ก็มีปุ่มกดและสวิตซ์ในลักษณะนี้อยู่แล้วครับ ดังนั้นจึงใช้ร่วมกับเจ้า SwitchBot Switch ตัวนี้ได้เลย และจากที่เราลองใช้งาน ส่วนของแถบกาวจะติดได้แน่นมาก จึงใช้งานได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกังวลว่าจะหลุดออกง่ายๆครับ
• ***สำหรับปุ่มกดหรือสวิตซ์ที่เป็นแบบ Touch Screen, แบบคันโยก รวมถึงปุ่มกดที่ต้องกดลงไปลึกๆ จะไม่สามารถใช้งานกับ SwitchBot Switch ได้นะครับ

คลิปรีวิวจาก 425degree และคลิปจากทางแบรนด์ SwitchBot

แบรนด์

• SwitchBot ก่อตั้งขึ้นโดยทีมพัฒนาจาก Wonder Tech Lab ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการเฉพาะของทางแบรนด์ ภารกิจของแบรนด์คือการเปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอยู่ภายในบ้านให้กลายเป็นการใช้งานในรูปแบบของอุปกรณ์ IoT หรือ Smart Device ต่างๆ โดยอาศัยการควบคุมผ่านอุปกรณ์เสริมที่ทางแบรนด์คิดค้นและพัฒนามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2015 ทุกอุปกรณ์จาก SwitchBot ถูกออกแบบมาให้ใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชั่นซึ่งเน้นวิธีการใช้งานที่ง่าย ฟังก์ชั่นไม่ซับซ้อนเพื่อให้ตอบโจทย์และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานมากที่สุด และด้วยความล้ำของอุปกรณ์ทำให้ในปี 2016-2017 อุปกรณ์จากแบรนด์ SwitchBot ก็ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามด้วยการเข้าร่วมแคปเปญระดมทุนกับเว็บไซต์ KickStarter และ Indiegogo ซึ่งถือเป็น 2 เว็บยักษ์ใหญ่ของโลกที่โด่งดังในเรื่องของการระดมทุนให้กับนวัตกรรมใหม่ๆให้ผลิตออกมาใช้งานได้จริง

Highlight

• ใช้งานได้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าและทุกอุปกรณ์ที่มีสวิตซ์เป็นแบบปุ่มกระดก (rocker switch) และสวิตซ์แบบปุ่มกด ไม่ว่าจะเป็น สวิตซ์ไฟ, ทีวี, คอมพิวเตอร์, เครื่องปรับอากาศ, ลำโพง, เครื่องฟอกอากาศ, พัดลม, โคมไฟ, เครื่องชงกาแฟ ฯลฯ
• ปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานได้ภายในแอป มีทั้งโหมดกดใช้งานสำหรับสวิตซ์เครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป หรือโหมดกดเปิด/ปิดสำหรับสวิตซ์หลอดไฟ โดยสามารถตั้งเวลาเพื่อสั่งการทำงานล่วงหน้าได้อีกด้วย
• ควบคุมการทำงานผ่านแอป SwitchBot โดยเชื่อมต่อสัญญาณ Bluetooth การสั่งงานจึงเป็นระยะประมาณในห้องเดียวกันหรือในระยะที่ Bluetooth สามารถไปถึงเท่านั้น
• แต่หากต้องการสั่งงานได้เลยทุกที่ผ่านสัญญาณอินเตอร์เน็ต ต้องใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมSwitchbot Hub Plus (ไม่มีแถมมาในชุด) คลิกที่นี่ ด้วยครับ และที่เหนือขึ้นไปอีกคือจะช่วยให้รองรับการทำงานด้วยคำสั่งเสียงแบบต่างๆด้วยทั้ง Siri Shortcut, Amazon Alexa, Google Assistant รวมถึงรองรับชุดคำสั่งจากIFTTT (IF This Then That) ด้วย
• ***สินค้าที่ 425degree จำหน่ายจะมีเฉพาะสีขาวนะครับ รุ่นสีดำจะเป็นรูปภาพตัวอย่างจากทางแบรนด์ครับ

Product Detail รายละเอียดสินค้า

• แบรนด์ : SwitchBot จากประเทศจีน
• ชื่อรุ่น : Switch
• วัสดุ : พลาสติกแข็ง PC
• สี : White (ขาว)
• ขนาด : กว้าง 3.65 ยาว 4.28 สูง 2.40 ซม.
• น้ำหนัก : 39 กรัม
• สวิตซ์เสริมควบคุมการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ทุกรุ่นที่มีสวิตซ์เป็นแบบปุ่มกระดก (rocker switch) และสวิตซ์แบบปุ่มกด เช่น สวิตซ์หลอดไฟ, ทีวี, คอมพิวเตอร์, เครื่องปรับอากาศ, ลำโพง, เครื่องฟอกอากาศ, พัดลม, โคมไฟ, เครื่องชงกาแฟ ฯลฯ
• ใช้งานผ่านการเชื่อมต่อ Bluetooth 4.1 ขึ้นไป โดยมีรัศมีในการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 80 เมตร (ในพื้นที่โล่ง)
• ติดตั้งง่าย แค่ลอกพลาสติกที่แถบกาว 3M ด้านหลังออก แล้วติดลงบริเวณสวิตซ์อุปกรณ์ที่เราต้องการก็ใช้งานได้เลย
• แถบกาว 3M ยึดเกาะกับพื้นผิวได้อย่างแน่นหนา เมื่อมีการกดสั่งงาน SwitchBot ก็จะไม่หลุดออกง่ายๆ
• ดีไซน์เป็นกล่องสีขาวขนาดเล็กกะทัดรัด ติดตั้งข้างสวิตซ์โดยไม่เกะกะพื้นที่
• ในชุดจะมีที่ดึงปุ่มกลับมาให้ด้วย ไว้สำหรับสั่งงานการปิดสวิตซ์อุปกรณ์ โดยคล้องสายเข้ากับตัวกดของ SwitchBot ลอกแถบกาว 3M ออกแล้วติดลงบนสวิตซ์
• ใช้งานง่าย แค่กดสั่งงานผ่านแอป SwitchBot ดาวน์โหลดฟรีที่ App Store คลิกที่นี่และ Play Store คลิกที่นี่
• ตัวแอปรองรับการใช้งานการกดสั่งงานได้ทั้งใน iPhone, Android Smartphone รวมถึง Apple Watch ด้วย
• โดยรองรับกับระบบปฏิบัติการ iOS 8.0 ขึ้นไป, Android 4.3 ขึ้นไป, Watch OS 1.0 ขึ้นไป
• ตัวกดของ SwitchBot จะมีแรงในการกดที่น้ำหนักสูงสุด 1.0 kilogram Force หรือประมาณ 10 นิวตันเลยทีเดียว
• ตัวกดของ SwitchBot มีองศาในการกดอยู่ที่ 135 องศา รองรับกับสวิตซ์แบบ Rocker Switch (ปุ่มกระดก)ทุกแบบ
• มีนาฬิกาในตัว ซิงค์เวลาให้ตรงกับ Smartphone แล้วตั้งเวลาให้กดเปิด/ปิดอุปกรณ์อัตโนมัติได้ตลอดเวลา
• สามารถตั้ง password เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน รวมถึงป้องกันการกดใช้งานแบบไม่ตั้งใจได้
• ปลอดภัยต่อทุกคนในบ้าน โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ เพราะไม่ต้องเสียบปลั๊กไฟบ้าน ไม่ต้องกังวลความเสียหายที่เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรครับ
• แบตเตอรี่ใช้เพียงถ่าน CR2 1 ก้อนเท่านั้น สามารถใช้ได้นานประมาณ 600 วันเลยทีเดียว แต่ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนด้วยนะครับ
• หากถ่านหมด ทำการเปลี่ยนโดยการเปิดที่ฝาด้านหน้าออก จะมีสลักสำหรับแกะฝาอยู่ที่ขอบด้านข้าง

Gallery รูปถ่ายสินค้า

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• SwitchBot Switch x 1
• ถ่าน CR2 x 1
• แถบกาว 3M สำรอง (สำหรับติดด้านหลัง) x 1
• แถบกาว 3M สำรอง (สำหรับดึงปุ่ม) x 2
• คู่มือการใช้งาน x 1

ข้อมูลเชิงเทคนิค

• แบตเตอรี่ที่ต้องการ : ถ่าน CR2 1 ก้อน
• Bluetooth : Version 4.1 ขึ้นไป
• ระยะการใช้งาน Bluetooth : สูงสุดประมาณ 80 เมตร (ในพื้นที่โล่ง) ***จากที่ 425 ได้ลองใช้งานจริง หากเป็นภายในบ้านต้องใช้งานในระยะห้องเดียวกันเท่านั้นครับ
• น้ำหนักแรงกด : สูงสุด 1.0 kilogram Force หรือประมาณ 10 นิวตัน
• องศาในการกด : 135 องศา
• ระบบปฏิบัติการที่รองรับการใช้งาน : iOS 8.0 ขึ้นไป, Android 4.3 ขึ้นไป, Watch OS 1.0 ขึ้นไป

วิธีเริ่มต้นการใช้งาน

• เปิด Bluetooth ที่ Smartphone
• ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น SwitchBot ฟรีที่ App Store คลิกที่นี่ และ Play Store คลิกที่นี่
• เปิดเข้าไปที่แอป แล้วทำทำการสร้างบัญชีการใช้งานและ Log in เข้าสู่แอป
• ที่ SwitchBot Switch ให้ดึงพลาสติกออกเพื่อเริ่มใช้งาน
• ลอกพลาสติกที่แถบกาวด้านหลังของ SwitchBot ออก
• นำไปติดตั้งใกล้ๆกับสวิตซ์หรือปุ่มกดที่ต้องการ โดยพื้นผิวบริเวณนั้นควรมีความเรียบให้ติดได้แน่น
• เปิดแอป จะมีหน้าไอคอนอุปกรณ์ SwitchBot Switch แสดงขึ้นมา กดสั่งการทำงานที่ไอคอน ถ้าสำเร็จจะขึ้นคำว่า Bingo ที่หน้าจอ
• ***หากไอคอนไม่แสดงขึ้นมา ให้ scroll หน้าจอลงเพื่อ refresh หน้าแอปอีกครั้ง
• ***หากต้องการใช้งานโหมดสวิตซ์เปิด/ปิด แบบสวิตซ์ไฟให้ติดตั้งแผ่นกาวสองหน้าที่มีสายเข้ากับขาของ SwitchBot

การใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น SwitchBot

• หลังจากทำตามขั้นตอนการเริ่มใช้งานเสร็จเรียบร้อย จะมีหน้าไอคอนอุปกรณ์ SwitchBot แสดงขึ้นมา
• ***หากไอคอนไม่แสดงขึ้นมา ให้ scroll หน้าจอลงเพื่อ refresh หน้าแอปอีกครั้ง
• กดที่ไอคอน SwitchBot Switch เพื่อสั่งกดใช้งาน
• กดที่ไอคอนฟันเฟืองเพื่อตั้งค่าการใช้งานต่างๆ ดังนี้
• -แก้ไขชื่ออุปกรณ์ เลือกประเภทของห้องและประเภทของอุปกรณ์
• -Password : ตั้ง Password เพื่อล็อกการใช้งาน หากต้องการกดสั่งใช้งานต้องใส่ Password ก่อน
• -Switch Mode : เพิ่มปุ่มกด On/Off สำหรับโหมดการกดเปิด/ปิดสำหรับสวิตซ์ไฟ , สลับคำสั่งเปิด/ปิด, คำสั่งกดค้าง สามารถตั้งเวลาได้ตั้งแต่ 0-60 วินาที
• -Timer : ซิงค์นาฬิกาภายในแอป, ตั้งวัน/เวลาในการกดใช้งาน
• -Pair with a Remote : สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์รีโมทของ SwitchBot
• -Pin to the homepage : ตั้งค่าให้แสดงที่หน้า Home ของแอป
• -Firmware & Battery : เช็คปริมาณแบตเตอรี่ และเวอร์ชั่นของ firmware
• และ Cloud Service : ต้องใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ SwitchBot Hub Plus ด้วย : กดเปิดใช้งาน เพื่อตั้งค่าเงื่อนไขให้ SwitchBot Switch และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ทำงานแบบอัตโนมัติ และเพิ่มฟังก์ชั่นคำสั่งเสียง รองรับทั้ง Google Assistant, Amazon Alexa, Siri Shortcuts และชุดคำสั่งจาก IFTTT

การควบคุมการใช้งานผ่านอินเตอร์เน็ตและคำสั่งเสียงรูปแบบต่างๆ

• **ต้องใช้ SwitchBot Switch ร่วมกับ SwitchBot Hub Plus เท่านั้นถึงจะใช้ฟังก์ชั่นนี้ได้

Siri Shortcut

• รองรับการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ iOS 12.1 ขึ้นไป และรองรับอุปกรณ์ Watch OS 1.0 ขึ้นไป ใช้งานได้ทั้งกับ iPhone, iPad, Apple Watch และ HomePod
• **วิธีการตั้งค่าคำสั่งเสียงสำหรับ SwitchBot Switch คลิกที่นี่
• **วิธีการตั้งค่าคำสั่งเสียงกับรีโมทคอนโทรล คลิกที่นี่

Google Assistant / Google Home

• รองรับการทำงานร่วมกับคำสั่งเสียงของ Google Assistant ผ่านอุปกรณ์ Google Home, Google Pixel และ smartphone Android รุ่นอื่นๆ
• **วิธีการตั้งค่าคำสั่งเสียงสำหรับ SwitchBot Switch คลิกที่นี่
• **วิธีการตั้งค่าคำสั่งเสียงกับรีโมทคอนโทรล คลิกที่นี่

Amazon Alexa

• รองรับการทำงานร่วมกับคำสั่งเสียง Alexa ในอุปกรณ์ที่รองรับทุกรุ่น
• **วิธีการตั้งค่าคำสั่งเสียงสำหรับ SwitchBot Switch คลิกที่นี่
• ฟังก์ชั่นการใช้งานเพิ่มเติม คลิกที่นี่

IFTTT (IF This Then That) Recipes

• รองรับการทำงานกับชุดคำสั่งในเว็บไซต์และแอป IFTTT
• **วิธีการตั้งค่า คลิกที่นี่
• **ฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ คลิกที่นี่

คำแนะนำในการใช้งาน

• ***หากมีข้อสงสัยหรือพบปัญหาในการใช้งาน ลูกค้าสามารถเข้าไปที่ดูข้อมูลที่เว็บไซต์ของ SwitchBot ได้เลยครับ คลิกที่นี่
• ควรติดตั้ง SwitchBot ให้ตรงกับองศาการกดสวิตซ์ให้พอดี มีพื้นที่สำหรับติดแถบกาวอย่างน้อย 0.4 มม. และเช็คตำแหน่งให้ตรงก่อนติดตั้งใช้งานจริง
• หลังจากลอกพลาสติกที่แถบกาว 3M ออกและติดลงบนพื้นผิว ควรทิ้งไว้ประมาณ 24 ชั่วโมงก่อนเริ่มใช้งาน เพื่อให้แถบกาวเซ็ทตัวติดเข้ากับพื้นผิวอย่างแน่นหนาที่สุด
• แถบกาวด้านหลังเมื่อลอกพลาสติกออกแล้ว ความสามารถในการติดกับพื้นผิวจะลดลงนะครับ ดังนั้นไม่เหมาะกับการลอกแล้วนำไปติดใหม่ซ้ำหลายๆครั้งครับ
• แรงกดสูงสุดของ SwitchBot จะอยู่ที่ 1.0 kilogram Force หรือประมาณ 10 นิวตัน แต่ทั้งนี้สวิตซ์ต้องไม่มีความแข็งจนเกินไป เพราะอาจทำให้ดันแถบกาวจนหลุดได้
• SwitchBot จะมีองศาในการกดอยู่ที่ 135 องศา ดังนั้นจะสามารถใช้งานได้กับทุกสวิตซ์ที่มีลักษณะเป็นแบบปุ่มกระดก (Rocker Switch)
• สวิตซ์แบบคันโยก (Toggle Switch) และปุ่มแบบระบบสัมผัส (Touch Screen) ไม่สามารถใช้งานร่วมกับ SwitchBot Switch ได้

เงื่อนไขการรับประกัน

• ทางร้าน 425Degree รับประกันสินค้า 18 เดือน ในความเสียหายที่เกิดจากการผลิตและความเสียหายที่ว่านั้นไม่รวมถึงการกระทำของผู้ใช้งานหรือการใช้งานที่ผิดวิธี โดยลูกค้าจะต้องเก็บกล่องบรรจุภัณฑ์เอาไว้เพื่อใช้ยืนยันในการขอรับประกันครับ

การรับรองมาตรฐานและความปลอดภัย

• ผ่านการรับรองมาตรฐาน CE, FCC RoHS certifications
• CE : เป็นเครื่องหมายที่แสดงการรับรองจากผู้ผลิตว่าสินค้ามีคุณสมบัติตามข้อกำหนดด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรป
• FCC : อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์/คอมพิวเตอร์ทุกชิ้นก่อนที่จะนำไปขายในสหรัฐฯจะต้องได้รับการรับรองจาก FCC (เป็นองค์กรของรัฐบาลสหรัฐฯ) เพื่อให้ตรงกับข้อจำกัดทางกฎหมายเกี่ยวกับการเป็นตัวนำและการกระจายคลื่นวิทยุ
• RoHS : เป็นมาตรฐานเพื่อสิ่งแวดล้อม กำหนดให้ชิ้นส่วนทุกอย่างที่ประกอบเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ตั้งแต่แผงวงจร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงสายไฟ จะต้องมีสารที่เป็นอันตรายไม่เกินไปกว่าที่กำหนด (ตะกั่ว/ปรอท/แคดเมียม/เฮกซะวาเลนท์/โพลีโบรมิเนต/โพลีโบรมิเนต)

การทำความสะอาดและดูแลรักษา

• ควรใช้งานในที่อากาศถ่ายเทได้ ไม่ร้อนจัด เพื่อลดการสะสมความร้อนที่ตัวอุปกรณ์
• ก่อนใช้งานทุกครั้งให้ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์เสมอ
• หมั่นเช็ดทำความสะอาดฝุ่นด้วยผ้าแห้ง และไม่ควรใช้สารเคมีใดๆเช็ดทำความสะอาด