Switchbot Hub Plus (อุปกรณ์ควบคุมรีโมทเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านอินเตอร์เน็ต)
- อุปกรณ์เสริมช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านสัญญาณอินเตอร์เน็ต
- กดสั่งงานได้ทุกที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน แค่มีอินเตอร์เน็ต เปิดแอปแล้วกดสั่งงานได้ตลอดเวลา
- ตั้งเวลาสั่งงานได้ และเพิ่มชุดคำสั่งให้อุปกรณ์หลายๆตัวเริ่มการทำงานเป็นเซ็ทๆได้
- เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆผ่านสัญญาณอินฟาเรดของรีโมท รองรับเครื่องใช้ไฟฟ้ากว่า 5000 รุ่นจากหลากหลายแบรนด์ทั่วโลก
- รองรับการทำงานด้วยคำสั่งเสียง ใช้ได้ทั้งกับ Siri Shortcut, Amazon Alexa, Google Assistant และรองรับชุดคำสั่งจาก IFTTT (IF This Then That) ด้วย
Switchbot Hub Plus (อุปกรณ์ควบคุมรีโมทเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านอินเตอร์เน็ต)
425Degree Recommend
Switchbot Hub Plus ตัวช่วยอัจฉริยะที่ทำหน้าที่เป็น Smart IR Controller คอยควบคุมการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้ทุกเวลาไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน เพียงแค่มีอินเตอร์เน็ตแล้วกดสั่งงานผ่าน App บน Smartphone ก็เปลี่ยนบ้านแบบเดิมๆให้กลายเป็น Smart Home ได้ทันที ข้อดีของอุปกรณ์นี้คือรองรับการใช้งานกับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ควบคุมการทำงานด้วย IR remote หรือรีโมทแบบอินฟาเรดหลายรุ่นหลายแบรนด์มาก ซึ่งปกติเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่เราใช้งานกันก็สั่งงานด้วยรีโมทอยู่แล้ว ดังนั้นก็ใช้ร่วมกับ Switchbot Hub Plus รุ่นนี้ได้เลย สะดวกกว่ามาก ถ้าเทียบกับการต้องรื้อระบบไฟในบ้านใหม่ หรือติดตั้งอุปกรณ์ IoT (อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆที่ควบคุมการทำงานผ่านอินเตอร์เน็ต) อีกหลายๆตัวจนอาจเกินงบไปหลายเท่า แค่ติดตั้ง Switchbot Hub Plus ก็สัมผัสกับบรรยากาศแบบ Smart Home ได้เลยง่ายๆครับ
- จากที่ 425 ได้ลองใช้งาน SwitchBot Hub Plus ฟีเจอร์หลักที่ขอแนะนำเลยคือการควบคุมการทำงานเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ตลอดเวลา ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน แค่เชื่อมต่อเน็ตแล้วกดสั่งการทำงานผ่าน App บน Smartphone ได้เลย ตัวอย่างเช่น เปิดแอร์/เปิดไฟล่วงหน้าเมื่อใกล้กลับถึงบ้าน, ตั้งเวลาเปิดทีวีไม่ให้พลาดรายการโปรด, สั่งปิดไฟอัตโนมัติตอนเข้านอน และอีกหลายสถานการณ์ที่จะทำให้ชีวิตในทุกๆวันของคุณง่ายขึ้นอีกหลายเท่าครับ
- เหมาะมากกับคนที่อยากเปลี่ยนบ้านแบบเดิมๆให้กลายเป็น Smart Home โดยที่ไม่ต้องลงทุนเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้ายกเซ็ทให้เปลืองงบ หรือจ้างช่างมาติดตั้งแล้วใช้เวลาเป็นวันๆ เพราะ SwitchBot Hub Plus รุ่นนี้จะรองรับการทำงานร่วมกับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายประเภทที่รองรับการกดสั่งงานด้วยรีโมท และการติดตั้งก็ง่ายแสนง่ายแค่เชื่อมต่อด้วย WiFi เท่านั้น ถือเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่อยากได้บรรยากาศแบบ Smart Home โดยที่ลงทุนทีเดียวจบ ไม่ต้องเปลืองงบ เปลืองแรง และได้ฟังก์ชั่นการใช้งานที่แทบไม่ต่างกับอุปกรณ์ IoT จริงๆเลยครับ
- อีกฟีเจอร์ที่จะช่วยให้ใช้งานสะดวกขึ้นไปอีกคือการควบคุมการทำงานเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยคำสั่งเสียงครับ โดย Switchbot Hub Plus รุ่นนี้จะรองรับทั้ง Siri Shortcut, Amazon Alexa, Google Assistant รวมถึงรองรับชุดคำสั่งจากIFTTT (IF This Then That) ซึ่งฟีเจอร์นี้ถือว่าทำได้เทียบเคียงกับอุปกรณ์ IoT รุ่นใหม่ๆที่ราคาค่อนข้างสูงเลยทีเดียว เรียกได้ว่าแบรนด์ Switchbot ออกแบบมาได้ตอบโจทย์กับการใช้งานในชีวิตประจำวันจริงๆครับ
คลิปรีวิวจาก 425degree และคลิปจากทางแบรนด์ SwitchBot
แบรนด์
- SwitchBot ก่อตั้งขึ้นโดยทีมพัฒนาจาก Wonder Tech Lab ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการเฉพาะของทางแบรนด์ ภารกิจของแบรนด์คือการเปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอยู่ภายในบ้านให้กลายเป็นการใช้งานในรูปแบบของอุปกรณ์ IoT หรือ Smart Device ต่างๆ โดยอาศัยการควบคุมผ่านอุปกรณ์เสริมที่ทางแบรนด์คิดค้นและพัฒนามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2015 ทุกอุปกรณ์จาก SwitchBot ถูกออกแบบมาให้ใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชั่นซึ่งเน้นวิธีการใช้งานที่ง่าย ฟังก์ชั่นไม่ซับซ้อนเพื่อให้ตอบโจทย์และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานมากที่สุด และด้วยความล้ำของอุปกรณ์ทำให้ในปี 2016-2017 อุปกรณ์จากแบรนด์ SwitchBot ก็ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามด้วยการเข้าร่วมแคปเปญระดมทุนกับเว็บไซต์ KickStarter และ Indiegogo ซึ่งถือเป็น 2 เว็บยักษ์ใหญ่ของโลกที่โด่งดังในเรื่องของการระดมทุนให้กับนวัตกรรมใหม่ๆให้ผลิตออกมาใช้งานได้จริง
Highlight
- รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าหลากหลายประเภทที่ควบคุมการทำงานด้วยรีโมทแบบอินฟาเรด โดยรองรับเครื่องใช้ไฟฟ้ามากกว่า 5000 รุ่นจากหลากหลายแบรนด์ทั่วโลก
- กดสั่งงานได้ทุกที่ทุกเวลาแค่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแล้วควบคุมการทำงานผ่านแอป SwitchBot หรือจะตั้งตารางเวลา ตั้งเป็นสถานการณ์ให้ควบคุมการทำงานอัตโนมัติก็ได้
- รองรับการควบคุมการทำงานด้วยคำสั่งเสียงทั้ง Siri Shortcut, Amazon Alexa, Google Assistant รวมถึงรองรับชุดคำสั่งจากIFTTT (IF This Then That) ด้วย
- สามารถนำไปใช้งานร่วมกับ SwitchBot Switch (ตัวช่วยกดสวิตซ์แบบ Bluetooth) คลิกที่นี่ และ SwitchBotThermometer & Hygrometer (มิเตอร์ควบคุมอุณหภูมิและความชื้น)คลิกที่นี่ เพื่อเพื่มฟังก์ชั่นการใช้งานที่สะดวกขึ้นได้อีกด้วย
Product Detail รายละเอียดสินค้า
- แบรนด์ : SwitchBot จากประเทศจีน
- ชื่อรุ่น : Hub Plus
- วัสดุ : พลาสติกแข็ง PC
- สี : White (ขาว)
- ขนาด : กว้าง 3.60 ยาว 12.23 สูง 7.94 ซม.
- น้ำหนัก : 73 กรัม
- อุปกรณ์เสริมช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านสัญญาณอินเตอร์เน็ต
- เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆผ่านสัญญาณอินฟาเรดของรีโมท รองรับเครื่องใช้ไฟฟ้ากว่า 5000 รุ่นจากหลากหลายแบรนด์ทั่วโลก
- รองรับการทำงานทั้งกับเครื่องปรับอากาศ, ทีวี, โคมไฟ, อุปกรณ์ Streaming, กล่องรับสัญญาณ, เครื่องเล่น DVD, พัดลม, โปรเจคเตอร์, เครื่องฟอกอากาศ ฯลฯ
- สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้ากับ SwitchBot Hub Plus ได้สูงสุด 90 เครื่อง
- ใช้งานผ่านแอป SwitchBot ดาวน์โหลดฟรีที่ App Store คลิกที่นี่ และ Play Store คลิกที่นี่
- กดสั่งการทำงานได้ทุกที่ แค่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตก็ควบคุมการทำงานผ่านแอปได้ตลอดเวลา
- ตั้งเวลาสั่งงานได้ และเพิ่มชุดคำสั่งให้อุปกรณ์หลายๆตัวเริ่มการทำงานเป็นเซ็ทได้
- แอปรองรับกับระบบปฏิบัติการ iOS 8.0 ขึ้นไป, Android 4.3 ขึ้นไป, Watch OS 1.0 ขึ้นไป
- ตัวแอปรองรับการใช้งานการกดสั่งงานได้ทั้งใน iPhone, Android Smartphone รวมถึง Apple Watch ด้วย
- รองรับการทำงานด้วยคำสั่งเสียง ใช้ได้ทั้งกับ Siri Shortcut, Amazon Alexa, Google Assistant และ รองรับชุดคำสั่งจาก IFTTT (IF This Then That) ด้วย
- ดีไซน์เป็นรูปก้อนเมฆสีขาว น่ารักน่าใช้งาน ขนาดเล็กกะทัดรัดและน้ำหนักเบา
- มีแผ่นแม่เหล็กที่ด้านหลัง ติดตั้งสะดวก ไม่เกะกะพื้นที่
- ปรับเปลี่ยนสีสันได้มากถึง 16 ล้านสี และสามารถปรับความเข้มอ่อนของแสงเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานแต่ละช่วงเวลาได้ด้วย
- ติดตั้งง่ายใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที การใช้งานก็ง่ายฟังก์ชั่นไม่ซับซ้อน
- มีอะแดปเตอร์พร้อมสายชาร์จความยาว 1.5 เมตรแถมมาให้ในชุด
Gallery รูปถ่ายสินค้า
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- Switchbot Hub Plus (พร้อมแม่เหล็กกลม สำหรับติดอยู่ที่ด้านหลัง) x 1
- อะแดปเตอร์ พร้อมสายแบบหัวกลม (ความยาว 1.5 เมตร) x 1
- ขาปลั๊ก x 1
- คู่มือการใช้งาน x 1
ข้อมูลเชิงเทคนิค
- Input : AC 100V-240V ~ 50/60 Hz 0.25A
- WiFi : 802.11 b/g/n 2.4 Ghz
- ระยะการเชื่อมต่อ Infared : วางแนวนอน = รัศมี 10 เมตร (ยกเว้นด้านที่คว่ำลงพื้น), วางแนวตั้ง = รัศมี 20 เมตร (ทุกด้าน) ***จากที่ 425 ได้ลองใช้งานจริง หากเป็นภายในบ้านต้องวางอุปกรณ์ไว้ในระยะห้องเดียวกันเท่านั้นครับ
- Bluetooth : Version 4.2 ขึ้นไป
- ระยะการใช้งาน : สูงสุดประมาณ 80 เมตร (ในพื้นที่โล่ง)
- ระบบปฏิบัติการที่รองรับการใช้งาน : iOS 8.0 ขึ้นไป, Android 4.3 ขึ้นไป, Watch OS 1.0 ขึ้นไป
- รองรับการเชื่อมต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าสูงสุด : 90 อุปกรณ์
การตั้งค่าไฟสถานะ
- สามารถปรับไฟสถานะด้วยการเลื่อนสวิตซ์ที่ด้านหลัง ดังนี้
- -ON : ไฟจะติดตลอดเวลา ; โหมดการเชื่อมต่อไฟจะติดประมาณ 10 นาที
- -OFF : ไฟจะปิดตลอดเวลา
- -Auto : ไฟจะทำงานเฉพาะเวลามีการใช้งานผ่านตัว Switchbot Hub Plus
วิธีเริ่มต้นการใช้งาน
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น SwitchBot ฟรีที่ App Store คลิกที่นี่ และ Play Store คลิกที่นี่
- ทำการสร้างบัญชีการใช้งานและ Log in เข้าสู่แอป
- ที่ Smartphone ให้ทำการเชื่อมต่อ WiFi ให้เรียบร้อย
- ในแอปกดที่แท็บมุมซ้ายบน > เลือก Add Device > เลือก Hub/Hub Plus
- หลังจากนั้นทำตามขั้นตอนที่หน้าแอป เสียบปลั๊กไฟ > เลื่อนปุ่มด้านหลังจาก AUTO ไปที่ ON และกด Scan > ที่หน้า WiFi Setup ให้ใส่รหัส WiFi แล้วกด OK
- จากนั้นรอแอปทำการเชื่อมต่อกับ SwitchBot Hub Plus
- เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จไฟสีรุ้งจะสว่างขึ้นมา และในหน้าแอปจะมีไอคอน SwitchBot Hub Plus ปรากฎขึ้น
- ถ้ากดที่ไอคอนแล้วยังใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆไม่ได้ ให้ scroll หน้าจอจากบนลงล่าง 1 ครั้ง เพื่อ refresh หน้าแอป
- เริ่มต้นใช้งานได้เลย
- ***ที่ด้านหลังจะมีปุ่มสำหรับ Reset มาให้ กดค้างไว้ประมาณ 10 วินาที จนสังเกตเห็นไฟสลับสีไปมาหมายถึงรีเซ็ทสำเร็จ ไว้ทำในกรณีเชื่อมต่อไม่สำเร็จหรืออุปกรณ์ค้างครับ
การใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่น SwitchBot
การตั้งค่าใช้งาน
- หลังจากทำตามขั้นตอนการเริ่มใช้งานเสร็จเรียบร้อย จะมีหน้าไอคอนอุปกรณ์ SwitchBot Hub Plus แสดงขึ้นมา
- ภายในไอคอน SwitchBot Hub Plus จะมีฟังก์ชั่น ดังนี้
- -Schedule : ตั้งเวลาการควบคุมการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆที่เราเชื่อมต่อไว้
- -Light : กดเพื่อเปิด/ปิดไฟที่ตัว SwitchBot Hub Plus
- -Color : ปรับตั้งค่าสีได้ตามต้องการ รองรับเฉดสีกว่า 16 ล้านสี พร้อมปรับความเข้มอ่อนของแสงได้
การเชื่อมต่ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้ากับ SwitchBot Hub Plus
- เข้าไปที่แอปกดที่ไอคอน SwitchBot Hub Plus >> Add Appliance
- กด add อุปกรณ์ (รองรับเครื่องใช้ไฟฟ้ากว่า 5000 รุ่นจากหลากหลายแบรนด์ทั่วโลก) โดยเชื่อมต่อด้วยสัญญาณอินฟาเรดกับรีโมทของอุปกรณ์นั้นๆ ขั้นตอนดังนี้
- -เลือกประเภทของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เราต้องการ
- -บางประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ทีวี เครื่องปรับอากาศ ฯลฯ จะมีลิสต์รายชื่อรุ่นมาให้เลือกด้วย
- -แต่หากเป็นรุ่นที่ไม่มีในลิสต์ ก็สามารถใช้งานได้ ด้วยการตั้งค่าแบบกำหนดเอง แต่จะใช้งานได้เฉพาะฟังก์ชั่นหลักๆของรีโมทเท่านั้น เช่น กดเปิด/ปิด
- -หลังจากที่กดเลือกอุปกรณ์เสร็จเรียบร้อย ที่หน้าแอปจะขึ้นหน้าขั้นตอนในการเชื่อมต่อ และที่ SwitchBot Hub Plus จะมีไฟสีเหลืองสว่างขึ้นมา
- -หลังจากไฟสีเหลืองดับลง ให้นำรีโมทของอุปกรณ์ที่เราจะเชื่อมต่อ มากดปุ่ม Power แล้วชี้ไปที่ SwitchBot Hub Plus จนขึ้นไฟสีเขียว
- -เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จ ที่หน้าแอปก็จะเด้งไปที่หน้าตั้งค่าปุ่มกดต่างๆของรีโมท และให้ทำการทดสอบก่อนใช้งาน
- -จากนั้นกด Save และเริ่มใช้งานได้เลย
- ***หากมีการเชื่อมต่อกับ SwitchBot Switch อยู่ด้วย จะมีไอคอน Bot ปรากฎขึ้นมา สามารถเข้าไปเปิดการตั้งค่าให้ทำงานร่วมกับคำสั่งเสียงแบบต่างๆได้
การตั้งค่าอื่นๆ
- กดที่ไอคอนฟันเฟืองเพื่อตั้งค่าการใช้งานต่างๆ ดังนี้
- -แก้ไขชื่ออุปกรณ์ เลือกประเภทของห้องและประเภทของอุปกรณ์
- -Advanced Settings : ตั้งค่าเชื่อมต่อ WiFi อีกครั้ง หรือเปลี่ยนการเชื่อมต่อ WiFi
- -Firmware Version : ดูเวอร์ชั่นของเฟิร์มแวร์
- -Delete : ลบการเชื่อมต่อแอปกับ SwitchBot Hub Plus
การควบคุมการใช้งานผ่านอินเตอร์เน็ตและคำสั่งเสียงรูปแบบต่างๆ
- **ต้องใช้ SwitchBot Hub Plus ร่วมกับ SwitchBot Switch ร่วมกับ SwitchBot Hub Plus เท่านั้นถึงจะใช้ฟังก์ชั่นนี้ได้
- ***ต้องใช้ SwitchBot Hub Plus ร่วมกับ Switchbot meter เท่านั้นถึงจะใช้ฟังก์ชั่นนี้ได้
Siri Shortcut
- รองรับการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ iOS 12.1 ขึ้นไป และรองรับอุปกรณ์ Watch OS 1.0 ขึ้นไป ใช้งานได้ทั้งกับ iPhone, iPad, Apple Watch และ HomePod
- วิธีการตั้งค่าคำสั่งเสียงกับรีโมทคอนโทรล คลิกที่นี่
- **วิธีการตั้งค่าคำสั่งเสียงสำหรับ SwitchBot Switch คลิกที่นี่
Google Assistant / Google Home
- รองรับการทำงานร่วมกับคำสั่งเสียงของ Google Assistant ผ่านอุปกรณ์ Google Home, Google Pixel และ smartphone Android รุ่นอื่นๆ
- วิธีการตั้งค่าคำสั่งเสียงกับรีโมทคอนโทรล คลิกที่นี่
- **วิธีการตั้งค่าคำสั่งเสียงสำหรับ SwitchBot Switch คลิกที่นี่
- ***วิธีการตั้งค่าคำสั่งเสียงกับ Switchbot meter คลิกที่นี่
Amazon Alexa
- รองรับการทำงานร่วมกับคำสั่งเสียง Alexa ในอุปกรณ์ที่รองรับทุกรุ่น
- **วิธีการตั้งค่าคำสั่งเสียงสำหรับ SwitchBot Switch คลิกที่นี่
- ***วิธีการตั้งค่าคำสั่งเสียงกับ Switchbot meter คลิกที่นี่
- ฟังก์ชั่นการใช้งานเพิ่มเติม คลิกที่นี่
IFTTT (IF This Then That) Recipes
- รองรับการทำงานกับชุดคำสั่งในเว็บไซต์และแอป IFTTT
- **วิธีการตั้งค่า คลิกที่นี่
- **ฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ คลิกที่นี่
คำแนะนำในการใช้งาน
- ***หากมีข้อสงสัยหรือพบปัญหาในการใช้งาน ลูกค้าสามารถเข้าไปที่ดูข้อมูลที่เว็บไซต์ของ SwitchBot ได้เลยครับ คลิกที่นี่
- สำหรับรูปแบบในการตั้งวาง SwitchBot Hub Plus จะมีผลต่อรัศมีของสัญญาณอินฟาเรดด้วย โดยหากวางแนวนอนราบไปกับพื้น ระยะสัญญาณจะอยู่ที่ 10 เมตร (ยกเว้นด้านที่คว่ำลงพื้น), และหากวางแนวตั้ง ระยะสัญญาณจะอยู่ที่ 20 เมตร (ทุกด้าน)
- ดังนั้นควรวางอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องการใช้งานร่วมกับ SwitchBot Hub Plus ให้อยู่ในระยะสัญญาณหรือวางไว้ให้ใกล้ที่สุด เพื่อให้สัญญาณมีความเสถียร
- ***จากที่ 425 ทดลองใช้งานเมื่อ SwitchBot Hub Plus และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า วางไว้คนละชั้นของบ้าน สัญญาณส่งไม่ถึงตัวอุปกรณ์ ดังนั้นควรวางไว้ในตำแหน่งที่ใกล้กันหรืออยู่ในห้องเดียวกันจะดีที่สุดครับ
- ขณะเชื่อมต่อ WiFi กับ SwitchBot Hub Plus ให้วางไว้ใกล้ๆ router เพื่อการเชื่อมต่อที่ง่ายขึ้น
- รองรับการเชื่อมต่อร่วมกับ WiFi 2.4G เท่านั้น จะไม่รองรับ WiFi 5G นะครับ
เงื่อนไขการรับประกัน
- ทางร้าน 425Degree รับประกันสินค้า 18 เดือน ในความเสียหายที่เกิดจากการผลิตและความเสียหายที่ว่านั้นไม่รวมถึงการกระทำของผู้ใช้งานหรือการใช้งานที่ผิดวิธี โดยลูกค้าจะต้องเก็บกล่องบรรจุภัณฑ์เอาไว้เพื่อใช้ยืนยันในการขอรับประกันครับ
การรับรองมาตรฐานและความปลอดภัย
- ผ่านการรับรองมาตรฐาน CE, FCC RoHS certifications
- CE : เป็นเครื่องหมายที่แสดงการรับรองจากผู้ผลิตว่าสินค้ามีคุณสมบัติตามข้อกำหนดด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรป
- FCC : อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์/คอมพิวเตอร์ทุกชิ้นก่อนที่จะนำไปขายในสหรัฐฯจะต้องได้รับการรับรองจาก FCC (เป็นองค์กรของรัฐบาลสหรัฐฯ) เพื่อให้ตรงกับข้อจำกัดทางกฎหมายเกี่ยวกับการเป็นตัวนำและการกระจายคลื่นวิทยุ
- RoHS : เป็นมาตรฐานเพื่อสิ่งแวดล้อม กำหนดให้ชิ้นส่วนทุกอย่างที่ประกอบเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ตั้งแต่แผงวงจร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงสายไฟ จะต้องมีสารที่เป็นอันตรายไม่เกินไปกว่าที่กำหนด (ตะกั่ว/ปรอท/แคดเมียม/เฮกซะวาเลนท์/โพลีโบรมิเนต/โพลีโบรมิเนต)
การทำความสะอาดและดูแลรักษา
- ควรใช้งานในที่อากาศถ่ายเทได้ ไม่ร้อนจัด เพื่อลดการสะสมความร้อนที่ตัวอุปกรณ์
- ก่อนใช้งานทุกครั้งให้ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์เสมอ
- หมั่นเช็ดทำความสะอาดฝุ่นด้วยผ้าแห้ง และไม่ควรใช้สารเคมีใดๆเช็ดทำความสะอาด
Fashion Island STORE | ไม่ |
---|---|
SKU | AI001-A1-A |
แบรนด์ | switchbot |
CTW STOCK | ไม่ |
MB STOCK | ไม่ |
ES STOCK | ไม่ |
WV STOCK | ไม่ |
Paragon STORE | ไม่ |