Plantronics BackBeat FIT 3200 

True Wireless Sport กันน้ำ IP57 สวมใส่กระชับ

(Degree เรื่องออกกำลังไม่เคยเป็นรองใคร)

425 Recommend

• ตัวหูฟังออกแบบเป็นกึ่ง In-ear และกึ่ง Earbud ทำให้สวมใส่ได้สบายมากๆ “ไม่อึดอัด”
• มีก้านสำหรับเกี่ยวใบหูเพื่อการใช้งานที่กระชับและให้สัมผัสเบาสบาย
• ดีไซน์โดดเด่นให้ความพรีเมี่ยมสูงเหมาะกับนักธุรกิจที่ต้องการหูฟังสำหรับออกกำลังกายหรือใช้งานทั่วไป
• ขนาดกระทัดรัดกำลังพอดี พกพาใส่สัมภาระสะดวกและหยิบจับง่าย 
• ดูแข็งแรงแน่นหนา วัสดุดีมีคุณภาพ 
• การเก็บหูฟังภายในเคสชาร์จทำได้แน่นมากๆ “ไม่มีร่วงหล่นขณะเปิดใช้งาน” แน่นอน
• สามารถปรับเสียงตามต้องการได้ในแอพพลิเคชั่น (EQ Preset)
• ควบคุมมัลติมีเดียจากหูฟังได้ทั้งระบบ “กด” และระบบ “สัมผัส”
• สามารถตั้งค่าปุ่มควบคุมในแอพพลิเคชั่น BackBeats ตามการใช้งานที่เหมาะสมได้
• ดูสถานะแบตเตอรี่ในแอพพลิเคชั่นได้
• สามารถปรับเสียงแจ้งเตือนในหูฟังให้เป็น “ภาษาไทย” ได้
• มีเมนู “Find My Headset” เมื่อหูฟังสูญหาย สามารถกดให้หูฟังส่งเสียงสัญญาณเตือนออกมาได้
• ใช้คุยโทรศัพท์ขณะออกกำลังกายได้

Product Highlight

• เป็นหูฟังสปอร์ตแยกข้างแบบอิสระ (True Wireless Design)
• สวมใส่นุ่มนวลเบาสบายและกระชับไม่หลุดหล่นง่ายด้วยที่เกี่ยวหูที่ดีไซน์มาเป็นพิเศษ (Stable Fit)
• ใช้ Bluetooth Class1 Version 5.0 ให้การเชื่อมต่อที่สเถียรและรองรับการเชื่อมต่อได้ไกลถึง 30 เมตร.
• รองรับ Voice Assistant ทั้งระบบ Android และ iOS
• มาตรฐานกันฝุ่นและกันน้ำที่ IP57
• ใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 8 ชม. รวมชาร์จกับกล่องชาร์จได้สูงสุด 24 ชม.
• Fast Charge 15 นาที ใช้งานได้ถึง 1.5 ชม.
• ดีไซน์ป้องกันเสียงรบกวนรอบข้างและใช้ไดร์เวอร์ขนาด 13.5 มม.ให้คุณภาพเสียงเบสที่ลึกและเป็นธรรมชาติ (Deep,rich sound)
• โหมดดูดเสียงบรรยากาศรอบข้าง ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุขณะใช้งาน (Awareness Mode)
• เลือกปรับ EQ Preset ได้ถึง 3 แบบคือ Balance , Bass , Bright (Three EQ presets)
• ควบคุมมัลติมีเดียต่างๆจากหูฟัง (Play,Pause,Adjust Volume,Skip Track)
• ปรับแต่งคำสั่งการควบคุมมัลติมีเดียต่างๆได้ตามความเหมาะสม (Customize Your Experience)

Gallery

Product Specification (สเปคจากคู่มือ)

• ใช้งานต่อเนื่องได้ 8 ชม. รวมชาร์จกับเคสชาร์จอีก 16 ชม.
• Bluetooth 5.0
• รัศมีการเชื่อมต่อ : 30 เมตร.
• ขนาดแบตเตอรี่ของหูฟัง : 90 mAh
• ขนาดแบตเตอรี่ของกล่องชาร์จ : 740 mAh 
• ระยะเวลาในการชาร์จหูฟัง : 2 ชม.
• มีระบบชาร์จเร็ว : 15 นาทีใช้งานได้ 1.5 ชม.
• Stream media : A2DP
• Control music : AVRCP
• การตอบสนองย่านความถี่ : 20 - 20,000 Hz
• ชนิดของไมค์โครโฟน : Microphone With DSP
• ขนาดไดร์เวอร์ : 13.5 มม.
• ความไวเสียง : 94 dB SPL
• EQ Presets : Bass boost, balanced, and bright
• มาตรฐานกันฝุ่น,กันน้ำ : IP57 ,สามารถกันน้ำลึกได้ 1 เมตร. ในระยะเวลา 30 นาที (บลูทูธไม่สามารถทำงานใต้น้ำได้)
• น้ำหนัก : 13 กรัมต่อข้าง , รวมกล่องชาร์จและหูฟัง 89 กรัม
• ความสามารถของปุ่มควบคุม : รับ-วางสายโทรศัพท์ , Mute , เพิ่ม-ลดเสียง , Play-Pause , Track Forward/Back
• เสียงแจ้งเตือน : เตือนสถานะแบตเตอรี่ , เตือนสถานะการเชื่อมต่อของหูฟัง
• Application ที่รองรับ : BackBeat (iOS & Android) 

ประสบการณ์การใช้งานจริงจากทีมงาน 425Audio

การคุยโทรศัพท์ 

• สามารถใช้คุยโทรศัพท์ได้ โดยคุณภาพเสียงจะอยู่ในระดับปานกลาง “น้ำเสียงในหูฟังให้ความรู้สึกฟังยาก” ด้วย “เนื้อเสียงพูดที่บวมมากกว่าปกติ” ตามสไตล์ของหูฟังที่เสียงเบสเยอะ แต่ระดับความดังที่ให้มาถือว่าฟังชัด เสียงออกทั้ง 2 ข้าง 
• ส่วนเรื่องความชัดของไมค์โครโฟนนั้นทีมงาน “ยังไม่ได้แนะนำให้ใช้เป็นฟังก์ชั่นหลัก”  เนื่องจาก การดูดเสียงของผู้พูด “ในสถานที่แบบเปิดจะยังทำได้ไม่ดีนัก” แต่ถ้าเป็นสถานที่แบบปิดถือว่าใช้งานค่อนข้างโอเค “อยู่ในระดับคุยได้ปกติ” โดยไม่ต้องตะโกนครับ
• *** ไมค์โครโฟนจะอยู่ที่หูฟังข้างหลัก ***

การเชื่อมต่อ & สัญญาณ

• เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ในครั้งแรกและครั้งถัดไปได้ง่ายมากๆทั้งระบบ iOS & Android 
• อาจพบอาการกระตุกของสัญญาณบ้างขณะใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณของอุปกรณ์ไร้สายเยอะๆ เช่นบนสถานีรถไฟฟ้า,ออฟฟิตขนาดใหญ่ ***อาการที่พบขณะทดสอบคือกำลังฟังเพลงอยู่แล้วสัญญาณขาดไม่ถึง 1 วินาที*** แต่การใช้งานโดยรวม 95% ถือว่าไม่มีอาการกระตุกให้เห็นเลยครับ

ดีไซน์ & การสวมใส่

• วัสดุโดยรวมของเคสชาร์จนั้นทำมาจากพลาสติกแข็งดูดี ดูแข็งแรงทนทานและให้ความรู้สึกที่สปอร์ต,ปราดเปรียวด้วยการให้สัมผัสที่เป็นแบบผิวด้านสีดำ มาพร้อมขนาดที่กำลังดีไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ทำให้เวลาที่จะหยิบหูฟังออกมาใช้งานนั้นง่ายมากๆ 
• เรื่องของการสวมใส่นั้นทีมงานต้องบอกเลยว่าการสวมใส่ทำได้ “กระชับมากๆและไม่เจ็บหู” เนื่องจากดีไซน์เป็นแบบกึ่ง Earbuds และกึ่ง In-Ear และมีก้านสำหรับเกี่ยวใบหูเพื่อป้องกันการหล่นหายขณะใช้งานมาให้ด้วย เวลาสวมใส่นี่แทบไม่รู้สึกเลยครับ แถมยังกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้อย่างน่าทึ่ง ทำให้คุณภาพเสียงเบสของหูฟังตัวนี้นั้นออกมาได้อย่างโดดเด่นสุดๆ      

การดูคลิปวิดีโอต่างๆและการเล่นเกม

• มีอาการดีเลย์เพียงนิดเดียวกับบางคลิปวิดิโอและบางเกม เป็นเวลาประมาณ 0.1-0.3 วินาทีครับ แต่ทางทีมงาน 425Audio ถือว่ายังใช้งานได้ดี ไม่น่ารำคาญเลยครับ
• ถ้าไม่นับเรื่องปัญหาดีเลย์ที่มีอยู่นิดหน่อย ถือว่าเป็นหูฟังสปอร์ตที่ดูหนังและเล่นเกมได้สนุกใช้งานได้ดีเยี่ยมเลยทีเดียว เสียงเบสแน่นตึ้บ ยิ่งถ้านำไปใช้ดูหนังสงครามหรือหนังแอคชั่นที่มีเสียงปืนเสียงระเบิดนี่สนุกมาก 425Audio แนะนำเลยครับ
• ***425Audio ใช้โทรศัพท์รุ่น Samsung Galaxy S7 & iPhone 11 ในการทดสอบ***

Sound Review (รีวิวเสียง)

เสียงเบส

• “ตูมๆ” เป็นคำแรกที่นึกออกตั้งแต่ที่ได้ฟังหูฟังตัวนี้ครั้งแรก กล้าพูดเต็มปากเลยว่า “ใครที่ชอบฟังเบสแน่นๆ เบสเยอะๆต้องตัวนี้เท่านั้น” โทนเสียงเบสของหูฟังตัวนี้เป็นโทนเบสแบบลำโพงราคาแพงๆเลยครับ มวลเสียงเบสมีแรงปะทะแบบโหดๆอิมแพคใหญ่ๆ ตอบสนองความถี่ในย่านเสียงที่ต่ำมากๆที่เรียกว่า “Sub Bass” (ความถี่ช่วง 40Hz-80Hz) ออกมาได้แบบดุๆเลยโดยที่ออกมาแบบสะอาดๆ ไม่ขุ่นมัวไม่อื้ออึง ทำให้การฟังเพลงนั้นสนุก รู้สึกตึ้บ รู้สึกอิ่ม ยิ่งถ้าใครที่เป็นสายตื๊ด สายฟังเพลง Hip-Hop,R&B ที่เน้นเบสเยอะๆเบสหนักๆ ต้องบอกเลยครับว่าสะใจและตอบโจทย์มากๆ จะได้ความรู้สึกเหมือนยืนอยู่หน้าลำโพงใบใหญ่ๆแล้วมีเสียงลอยมากระแทกหน้าแน่นอน  

เสียงกลาง

• เสียงย่านกลางให้ความชัดถ้อยชัดคำมากๆ โดยที่ไม่ได้รู้สึกว่าเสียงย่านเบสมากวนหรือมาทับเลยครับ การให้น้ำเสียงของเสียงนักร้องนั้นออกไปทางโทนเสียงที่ “ชัดถ้อยชัดคำและเป็นธรรมชาติ” ฟังเพราะฟังเพลิน รวมไปถึงชิ้นดนตรีต่างๆที่ตอบสนองในย่านเสียงกลางได้ดีอย่างเช่นเสียงกีตาร์ (E.guitar,A.guitar) ก็ฟังชัดและเคลียร์ พอจับต้องและได้รายละเอียดได้ดีเลยทีเดียว สามารถรับรู้ได้ถึงน้ำหนักในการดีด การกรีดสายของกีตาร์และแรงปะทะที่สมจริงเหมือนได้ฟังเสียงจริงๆอยู่ตรงด้านหน้า โทนเสียงของชิ้นดนตรีนั้นๆให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติและมีความโดดเด่นออกมา จึงทำให้ไม่รู้สึกถึงความเบลอของเสียงหรือความขุ่นมัว(Muddy) 

เสียงแหลม

• Plantronics BackBeat FIT3200 นั้นให้น้ำเสียงแหลมออกไปใน “น้ำเสียงแบบผู้ดี” “ฟังนุ่ม”  รายละเอียดไม่ถึงกับชัดเจนจัดจ้าน แต่ยังคงพอได้รายละเอียดอยู่ สำหรับใครที่ชอบน้ำเสียงแบบนุ่มๆ ฟังเพลินๆไปเรื่อยๆล่ะก็ Plantronics BackBeat FIT3200 “ตัวนี้แหละครับตอบโจทย์” แต่สำหรับใครที่ติดโทนเสียงแบบแหลมฉูดฉาดหน่อยๆ ทีมงาน 425Audio มีทริคแนะนำเล็กๆน้อยๆคือ เจ้า Plantronics BackBeat FIT3200 เนี่ย...เขาจะมีฟังก์ชั่น EQ Preset ที่สามารถเลือกปรับในแอพพลิเคชั่น BackBeat ติดมาให้ด้วย โดยที่มีอยู่ 3 โหมดด้วยกัน คือ Balance(ปกติ) , Bass(เน้นเบส) , Bright(เน้นแหลม) ทีมงานแนะนำว่าให้เลือกเป็น Bright(เน้นแหลม) สำหรับคนที่ชอบความเฉียบคม จากประสบการณ์ที่ทีมงานได้ลองเล่นและลองทดสอบมาแล้ว...ทีมงานต้องบอกเลยครับว่า พอลองปรับเป็น Bright Mode(เน้นแหลม)ปุ๊ป...ทีมงานรู้สึก “ว้าวว” ทันที เพราะมันทำให้รู้สึกกลมกล่อมในทุกๆย่านเสียง ฟังดีและคมมากๆเลยครับ 

สรุป

• Plantronics BackBeat FIT3200 เป็นหูฟังไร้สายแนวสปอร์ตที่เน้นฟังก์ชั่นการออกกำลังกายแต่ยังคงให้น้ำเสียงทุกๆย่านออกมาได้อย่างนุ่มนวล โทนเสียงมาแบบผู้ดี “ฟังเพลงเพราะมีมิติที่สมจริงเป็นธรรมชาติ” โดยมีย่านเสียงที่โดดเด่นคือน้ำเสียงในย่านเบส(Low Frequency)ที่สุขุมนุ่มลึก ให้ความรู้สึกปะทะร่างกายแบบดุๆ “ฟังมันส์ ฟังสนุก” โทนเสียงกลางและเสียงแหลมอย่างนุ่ม ไม่รู้จะนุ่มไปไหน ฟังเพลินฟังเพราะ ไม่กระแทกกระทั้นจนอึดอัดและไม่แสบหู ส่วนเรื่องรายละเอียดนั้นต้องบอกเลยว่า “กลมกล่อม คมชัดกำลังพอดี” เพราะฉะนั้นหากใครที่กำลังมองหาหูฟังที่ให้โทนเสียงนุ่มๆและน้ำเสียงที่เป็นธรรมชาติ ทีมงานขอบอกเลยว่าเจ้า Plantronics BackBeat FIT3200 เนี่ยแหละครับ...ครอบคลุมกับการใช้งานทั่วๆไปด้วย รับรองว่าคุ้ม 

How To Use “Plantronics BackBeat 3200”

*** เมื่อเก็บหูฟังอยู่ภายในเคสชาร์จ หูฟังข้างซ้ายจะเก็บอยู่ฝั่งขวาและหูฟังข้างขวาจะเก็บอยู่ฝั่งซ้าย ***

*** ให้กดปุ่มฟังก์ชั่นบริเวณเคสชาร์จค้าง 2 วินาที จนเกิดไฟสถานะ LED กระพริบขึ้นในการใช้งานเคสชาร์จครั้งแรก ***

การเปิด - ปิดหูฟัง

การเปิดหูฟัง

• นำหูฟังออกจากเคสชาร์จทั้ง 2 ข้าง (เปิดโดยอัตโนมัติ)
• หรือกดปุ่มฟังก์ชั่นค้าง 2 วินาที

การปิดหูฟัง

• นำหูฟังทั้ง 2 ข้างใส่กลับเข้าเคสชาร์จและปิดฝาเคสชาร์จ(ปิดโดยอัตโนมัติ)
• หรือกดปุ่มฟังก์ชั่นค้าง 4 วินาที

การเชื่อมต่อครั้งแรก (Pairing)

• หยิบหูฟังออกมาจากเคสชาร์จทั้งสองข้าง
• หูฟังทั้งสองข้างจะเชื่อมต่อกันเองโดยอัตโนมัติและมีไฟสถานะ LED สีแดง/ขาวกระพริบ
• จากนั้นให้ “เปิดบลูทูธบนอุปกรณ์” ที่ต้องการเชื่อมต่อ
• กดเชื่อมต่อกับ “PLT BBFIT3200”
• เมื่อเชื่อมต่อแล้ว “จะได้ยินสัญญาณเสียง Pairing Successful” และไฟสถานะ LED จะดับลง 

การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ

• ยกเลิกการจับคู่บนอุปกรณ์ที่เคยเชื่อมต่อ(Forget Device)
• ปิดหูฟังทั้งสองข้างโดยกดปุ่มฟังก์ชั่นค้าง 4 วินาที จนเกิดไฟสถานะสีแดงแล้วดับลง
• หลังจากนั้นให้กดปุ่มฟังก์ชั่นค้างที่หูฟังทั้งสองข้างเพื่อทำการรีเซ็ท โดยการกดปุ่มฟังก์ชั่นค้างจนเกิดไฟสถานะสีแดง/ขาวกระพริบที่หูฟังข้างขวา  
• จากนั้นให้ “เปิดบลูทูธบนอุปกรณ์” ที่ต้องการเชื่อมต่อ
• เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ตามขั้นตอนปกติ

การเชื่อมต่อ Mono Mode (ใช้งานข้างเดียว)

 *** สามารถแยกใช้งานข้างเดียวได้อย่างอิสระ ***

• หยิบหูฟังข้างที่ต้องการใช้งานขึ้นมาจากเคสชาร์จ
• ปิดหูฟังโดยการกดปุ่มฟังก์ชั่น 4 วินาที จนเกิดไฟสถานะสีแดง
• หลังจากนั้นให้กดปุ่มฟังก์ชั่นค้าง จนกว่าจะเกิดไฟสถานะ สีแดง/ขาว กระพริบที่หูฟัง
• เชื่อมต่อบลูทูธกับอุปกรณ์ โดยเลือกชื่อ “PLT BBFIT3200” (ข้างขวา) / “PLT BB BBFIT3200_L” (ข้างซ้าย)

การควบคุมฟังก์ชั่น (Controls Overview)

*** การตั้งค่าจากโรงงานของหูฟังข้างขวาจะเป็นแบบปุ่มกด ***

*** การตั้งค่าจากโรงงานของหูฟังข้างซ้ายจะเป็นระบบสัมผัสและปุ่มกด ***

การควบคุมหูฟังข้างขวาที่เป็นข้างหลัก (Primary earbud)

• เล่นเพลง / หยุดเพลง : กดปุ่มฟังก์ชั่น 1 ครั้ง
• เล่นเพลงถัดไป : กดปุ่มฟังก์ชั่น 2 ครั้ง
• เล่นเพลงก่อนหน้า : กดปุ่มฟังก์ชั่น 3 ครั้ง
• รับ/วางสายโทรศัพท์ : กดปุ่มฟังก์ชั่น 1 ครั้ง
• เรียกใช้งาน Voice Assistant : กดปุ่มฟังก์ชั่นค้าง 2 วินาที
• เปิดหูฟัง : กดปุ่มฟังก์ชั่นค้าง 2 วินาที
• ปิดหูฟัง : กดปุ่มฟังก์ชั่นค้าง 4 วินาที

การควบคุมหูฟังข้างซ้ายที่เป็นข้างรอง (Secondary earbud)

• เพิ่มเสียง : แตะบริเวณ Touch Sensor 1 ครั้ง
• ลดเสียง : แตะบริเวณ Touch Sensor ค้าง
• เปิดหูฟัง : กดปุ่มฟังก์ชั่นค้าง 2 วินาที
• ปิดหูฟัง : กดปุ่มฟังก์ชั่นค้าง 4 วินาที

*** เมื่อใช้หูฟังข้างซ้ายที่เป็นข้างรอง(Secondary earbud) เชื่อมต่อแบบ Mono Mode การควบคุมจะสลับเป็นแบบหูฟังข้างหลักทันที ***
*** สามารถสลับฟังก์ชั่น Tap ให้ไปอยู่ในหูฟังข้างขวาได้ใน Application BackBeat โดยใช้เมนู Switch Primary Earbud *** 
*** สามารถปรับฟังก์ชั่น Tap จากเดิมที่เป็นเพิ่ม/ลดเสียง ให้เป็นการใช้งานฟังก์ชั่นอื่นๆได้ดังนี้ เรียกใช้งาน Voice Assistant,Headset Status,Timer,Tell Time,Stopwatch,Spotify Playlist,Deezer Playlist โดยการเข้าไปตั้งค่าใน Application BackBeat โดยใช้เมนู My Tap ***

ไฟสถานะบนหูฟังและเคสชาร์จขณะชาร์จแบตเตอรี่ 

• ในขณะที่หูฟังกำลังชาร์จแบตเตอรี่อยู่ในเคสชาร์จจะมีไฟขึ้นบริเวณหูฟัง
• ไฟสถานะบริเวณหูฟังจะดับลงเมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม
• ในขณะที่กำลังเสียบชาร์จแบตเตอรี่กับเคสชาร์จ จะมีไฟสถานะสีขาวกระพริบ
• ไฟสถานะบริเวณเคสชาร์จจะดับลงเมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม

ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่

• ระยะเวลาในการชาร์จหูฟัง : 2 ชม. 
• ระยะเวลาในการชาร์จเคสและหูฟัง : 3 ชม.
• Quick Charge (15 นาที) : 1.5 ชม. 

ระยะเวลาการใช้งานของหูฟัง

• สามารถใช้ต่อเนื่องได้นาน : 8 ชม.
• ชาร์จเคสเพิ่มได้อีก 2 ครั้ง 
• รวมใช้งานสูงสุด : 24 ชม. 
• *** ระยะเวลาการใช้งานอาจแตกต่างกันไป โดยขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน ***

การตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่หูฟัง (Check Battery Level)

*** สามารถตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ของหูฟังใน Application BackBeat โดยสามารถตั้งค่าให้โชว์เป็นเวลาที่เหลือหรือเป็นเปอร์เซนต์ก็ได้ ***

การตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่เคสชาร์จ

*** สามารถตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ของเคสชาร์จได้ โดยกดปุ่มด้านหน้าเคสชาร์จและดูสถานะไฟ ***

วิธีรีเซ็ทหูฟัง (Factory Reset)

วิธีที่ 1

*** ทำใน Application BackBeat ***

• เชื่อมต่อบลูทูธระหว่างหูฟังกับโทรศัพท์มือถือที่มี Application BackBeat
• เข้า Application BackBeat
• ไปที่แถบเมนู Setting บริเวณด้านขวา-บนสุด ที่เป็นสัญลักษณ์รูปเฟือง
• เลือกเมนู Reset Settings > Reset Headset และกดยืนยันการ Reset อุปกรณ์
• หูฟังจะทำการคืนค่าจากโรงงานให้โดยอัตโนมัติ

วิธีที่ 2 

• ยกเลิกการจับคู่บนอุปกรณ์ที่เคยเชื่อมต่อ(Forget Device)
• ปิดหูฟังทั้งสองข้างโดยกดปุ่มฟังก์ชั่นค้าง 4 วินาที จนเกิดไฟสถานะสีแดงแล้วดับลง
• หลังจากนั้นให้กดปุ่มฟังก์ชั่นค้างที่หูฟังทั้งสองข้างเพื่อทำการรีเซ็ท โดยการกดปุ่มฟังก์ชั่นค้างจนเกิดไฟสถานะสีแดง/ขาวกระพริบที่หูฟังข้างขวา  
• จากนั้นให้ “เปิดบลูทูธบนอุปกรณ์” ที่ต้องการเชื่อมต่อ
• เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ตามขั้นตอนปกติ

Product Include (อุปกรณ์ภายในกล่อง)

• หูฟัง Plantronics BackBeat 3200 
• เคสชาร์จ
• สายชาร์จ (Micro-USB)
• 3 x Eartips (Size :S,M,L)
• คู่มือการใช้งาน

Warranty (เงื่อนไขประกันสินค้า)

• รับประกัน 1 ปี ภายใต้เงื่อนไขที่ทาง Plantronics กำหนด
• *** ในส่วนของอะไหล่,สายชาร์จ ที่มากับตัวหูฟังจะมีระยะประกันอยู่ที่ 7 วัน
• คุณลูกค้าต้องเก็บตัวสินค้าไว้ให้ครบไม่ว่าจะเป็น กล่อง/ซองแพคเกจจิ้ง, ตัวหูฟังทั้งสองข้าง, สายชาร์จ Micro-USB, จุกหูฟังซิลิโคนทุกแบบ และที่เกี่ยวหูฟังกับใบหู(earhook)
• หากตัวสินค้าเสียหายจากขั้นตอนการผลิตของทางโรงงาน เปลี่ยนตัวใหม่ให้ทันที
• สินค้าต้องไม่มีตำหนิจากการใช้งานผิดวิธี, ตำหนิเสียหายจากการใช้งานของลูกค้า, ร่องรอยการกระแทก หรือการขูดขีดอย่างรุนแรง
• หากเป็นปัญหาจากการใช้งานของคุณลูกค้าไม่ว่าจะเป็น สายขาดใน, แจ็คหัก, เปิดเสียงดังจนเสียงแตก, เบิร์นหูฟังผิดวิธี(ใช้แอพเบิร์นหรือคลื่นเสียงประเภท Sine Sweep, Pink Noise, White Noise) จนหูฟังเสียหาย จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• ปัญหาการคุยโทรศัพท์แล้วเป็นเสียงที่คุยไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อเปิด-ปิดตัวหูฟังอีกรอบแล้วสามารถคุยได้ตามปกติ จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• หากตัวหูฟังหรือชิ้นส่วนของกล่องชาร์จเสียหรือชำรุด ที่เกิดจากการใช้งานไปแล้วเกินกว่า 7 วัน จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• สินค้ารุ่นนี้มีมาตรฐานการกันนํ้าที่ระดับ IP57 ซึ่งเป็นการกันฝุ่นและละอองน้ำจากการออกกำลังกายเท่านั้น หากสินค้าเสียหายจากการลงไปแช่น้ำหรือจากแรงดันน้ำสูงๆในทุกกรณี จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• อาการกระตุกของสัญญาณขณะใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณของอุปกรณ์ไร้สายเยอะๆ เช่นบนสถานีรถไฟฟ้า,ออฟฟิตขนาดใหญ่ ***เช่น กำลังฟังเพลงอยู่แล้วสัญญาณขาดหายแล้วกลับมาเป็นปกติ *** ซึ่งจะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน