Edifier W220T
หูฟังไร้สายทรง earbud ชิพ Qualcomm
(Degree. เสียงใส ไมค์ดี บีบก้านได้)

425Audio สรุปชัดๆ :

• สำหรับใครที่ชอบใส่หูฟังไร้สายทรง earbud เน้นไมค์คุยชัด ดูหนังเล่นเกมดี และชอบโทนเสียงกลางๆใสๆฟังสบาย ขอแนะนำตัวนี้ครับ Edifier W220T เป็นหูฟังไร้สายทรง earbud ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานสไตล์นี้ได้อย่างดีเลยครับ
• ในด้านของการใช้งาน Edifier W220T จะเด่นเรื่องไมค์สนทนาที่คมชัด ตัดเสียงรบกวนได้ดี ถึงแม้จะตัดได้ไม่เงียบแบบสนิท แต่ก็อยู่ในระดับที่ตัดได้เงียบกว่าเสียงพูดของเราเยอะมาก คุยในที่เสียงดังๆปลายสายก็ยังฟังเรารู้เรื่องครับ
• ในส่วนของการเล่นเกมและดูหนังทำได้ดี จะเล่นหรือดูก็แทบไม่ดีเลย์ทั้ง iOS และ Android
• ในเรื่องของโทนเสียง หากใครชอบแนวเบสหนักโครมคราม แรงปะทะหนักเร้าใจ Edifier W220T อาจจะยังไม่เหมาะ แต่ถ้าท่านชอบโทนเสียงแนวกลางๆใสๆเน้นฟังสบาย ชอบเบสแบบพอดีให้ฟังกำลังแน่นแบบไม่โหวงเวง Edifier W220T ตอบโจทย์แน่นอนครับ
  

Product Highlight :

• ดีไซน์แบบ earbud สวมใส่สบายนานตลอดการใช้งาน
• ควบคุมฟังชันโดยใช้วิธีบีบก้าน (easily pinch) เพื่อเล่นเพลง-หยุดเพลง และฟังชั่นอื่นๆ
• ไดร์เวอร์ไดนามิคขนาด 13 มม. ให้รายละเอียดเสียงได้อย่างคมชัด
• เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.3 ชิป Qualcomm® QCC3056 รองรับระบบเสียง Snapdragon Sound
• รองรับ aptX™ Adaptive ให้ความละเอียดสูงสุด 24bit-96kHz (เฉพาะอุปกรณ์ที่รองรับ)
• ไมค์สนทนาสาย 4 ตัว พร้อมเทคโนโลยี aptX™Voice เสริมเสียงสนทนาให้คมชัด
• ระบบ Game Mode เปิดเพื่อลดดีเลย์เสียงดีเลย์ขณะเล่นเกม
• หากอุปกรณ์รองรับ aptX™, aptX™Adaptive หูฟังจะเปลี่ยนไปใช้ aptX™Low Latency ที่จะลดค่าความหน่วงลงอีก
• ปรับ sound effect ได้ 4 แบบได้แก่ Classic, Pop, Classical และ Rock ตอบโจทย์ทุกแนวเพลง
• กันฝุ่นและเหงื่อระดับ IP54 สวมใส่ออกกำลังกายได้
• ฟังเพลงต่อนเนื่องได้สูงสุดประมาณ 6 ชม. ต่อรอบ ชาร์จเพิ่มกับกล่องชาร์จได้อีกประมาณ 18 ชม.
• รองรับแอปพลิเคชัน Edifier Connect สำหรับควบคุมฟังชั่นและตั้งค่าต่างๆ (iOS & Android)

Sound Review (เป็นความคิดเห็นของทีมงาน 425AUDIO นะครับ)

**โหมดเสียงแบบ Rock, ระดับความดัง 70-80%, Spotify**

**ปรับ sound effect เป็นแบบอื่นได้ในแอป Edifier Connect**

• เสียงเบส : เสียงเบสจะเน้นชัดที่หัวโน๊ต subbass ออกไม่ชัดมากแต่ยังรู้สึกถึงมันได้ มีมิติที่ลงลึกปานกลาง เสียงเบสมีแรงปะทะปานกลาง ไม่เบาไปและไม่หนักไปแต่ยังอยู่ในระดับที่โยกหัวตามจังหวะเสียงกลองได้ ในภาพรวมแล้วเสียงเบสมวลชัดกำลังดี ฟังกำลังแน่นไม่โหวงเหวงครับ
• เสียงกลาง : เสียงร้องชัดเจน ไม่ถอยห่างไปและไม่ลํ้าหน้าเสียงดนตรีรอบๆไป เสียงร้องมีความเนียนใส เนื้อเสียงฟังลื่นหูไม่มีสากเสี้ยน เสียงกีต้าร์ชัดใสรายละเอียดชัด เป็นเสียงกลางที่มวลออกกำลังดี ฟังแล้วได้นํ้าได้เนื้อเสียงแบบไม่ขาดไม่เกินครับ
• เสียงแหลม : เสียงแหลมจะออกโทนสว่างแต่ไม่ถึงกับจัดจ้านมาก เสียงแหลมทอดหางเสียงได้ยาวปานกลาง รายละเอียดชัดฟังไม่ทิ่มหู ในภาพรวมแล้วเป็นเสียงแหลมที่ฟังสบาย ออกแนวเปิดปลอดโปร่งครับ
• เวทีเสียง : เวทีเสียงมีขนาดกว้างปานกลาง และมีมิติลึก-ตื้นในระดับปานกลาง แยกแยะชิ้นดนตรีได้คมชัด ฟังดูกระจายตัวไม่ทับซ้อนกัน ทำให้สามารถฟังจับโฟกัสเสียงดนตรีได้ง่าย ระบุได้เลยครับว่าเสียงดนตรีอะไร อยู่ตำแหน่งไหนได้อย่างง่ายดายครับ

สรุป :

• สรุปแล้ว โทนเสียงของ Edifier W240TN จะออกแนวกลางค่อนไปทางโทนสว่าง โดยที่มีเสียงเบสที่มีมวลกำลังดี ฟังกำลังแน่น ซึ่งตอบโจทย์มากกับผู้ที่ชอบโทนเสียงแนวใสๆฟังสบาย ฟังนานๆก็ไม่ล้าหูเร็วครับ

ประสบการณ์การใช้งานจริงจากทีมงาน 425Audio

ดีไซน์ : เรียบหรูเกินระดับ

• ดีไซน์ดูดีเลยครับ เรียบหรูดี ฝาพับแข็งแรง เปิดแล้วเด้งสู้นิ้วมือ จับสัมผัสผิวเผินรู้สึกคล้ายหูฟังแบรนด์ผลไม้เลย
• ส่วนตัวหูฟังดีไซน์มาแบบ earbud ที่มีรูปทรงช่วงดอกลำโพงคล้ายหูฟังผลไม้รุ่น 3 ส่วนก้านหูฟังมีขนาดเล็ก สั้น ใส่แล้ว ใส่แล้วดูดีครับ
• ด้านหลังกล่องชาร์จจะมีปุ่มจับคู่บลูทูธ ที่เราสามารถกดเข้าโหมดจับคู่ได้ง่ายๆ กดค้างให้ไฟกล่องกระพริบ แล้วเปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์แล้วแตะเชื่อมต่อได้เลย ง่ายมากครับ

การสวมใส่ : ทรง earbud ใส่สบายมาก

• มาในทรง earbud ที่ส่วนลำโพงมีความคล้ายคลึงกับหูฟังไร้สายแบรนด์ผลไม้รุ่น 3 ซึ่งการสวมใส่รวมๆนั้นสบายดีมากครับ ทีมงานใส่ยิงยาวเกือบ 4 ชม. ก็ยังรู้สึกใส่สบายครับ
• การใส่ออกกำลังกายค่อนข้างเหมาะกับผู้ที่ออกกำลังกายไม่หนักมาก เช่นเล่นเวท วิ่งบนลู่วิ่งเบา หรือใช้ปั่นจักรยานก็พอได้ครับ แต่ด้วยความที่มันเป็นทรง earbud ที่อาจมีขยับเขยื้อนบ้าง ซึ่งอาจต้องคอยจับหูฟังเพื่อคืนความกระชับเป็นระยะๆ ถ้าใครไม่ติดตรงนี้ ก็สามารถใช้ Edifier W220T ใส่ออกกำลังกายได้ครับ

การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.3 รองรับ Snapdragon Sound

• Edifier W220T ใช้ชิพ Bluetooth จาก Qualcomm รหัส QCC3056ที่ใครใช้ Android ที่ใช้ชิพตระกูล Snapdragon จะได้เปรียบเรื่องการเชื่อมต่อที่สเถียรกว่า ความหน่วงตํ่ากว่า และเสียงจะค่อนข้างดีกว่าครับ
• แต่สำหรับชาว iOS ก็ยังใช้งานเจ้า Edifier W220T ได้ดี (ส่วนตัวทีมงานใช้กับ iOS)ซึ่งสัญญาณการเชื่อมต่อสเถียรดีครับ นานๆทีจะมีกระตุกเสี้ยววินาทีแต่เพลงก็ยังเล่นต่อไปได้ แต่นานๆทีมันจะเกิดสักครั้งนึง ซึ่งก็เป็นปกติของอุปกรณ์ไร้สาย ไม่กระทบต่อการใช้งานครับ
• เจ้า Edifier W220T รองรับแอปพลิเคชัน Edifier Connect ด้วยครับ ซึ่งในแอปจะมีให้เราเช็คแบตเตอรี่หูฟัง, ปรับ sound effect, เปิด-ปิด Game Mode และตั้งค่าฟังชั่นหูฟังต่างๆได้อีกด้วยครับ

การควบคุม : บีบก้านหูฟังเพื่อเล่นเพลง..

• เราสามารถฟังชั่นการเล่นเพลง รับสาย หรือฟังชั่นอื่นๆได้โดยการบีบที่ก้านของหูฟัง (เหมือนหูฟังไร้สายแบรนด์ผลไม้) ซึ่งเวลาเราบีบจะมีเสียง “คลิก” ที่ให้ความรู้สึก premium มาก อีกทั้งเรายังสามารถปรับการรับนํ้าหนักการบีบก้านของหูฟังได้ในแอป Edifier Connect ได้ด้วย ชอบบีบเบาๆก็ปรับเยอะ ชอบบีบแรงๆก็ปรับน้อยครับ
• ซึ่งข้อดีของการควบคุมแบบ “บีบก้าน” ที่ดีกว่าระบบสัมผัสและปุ่มกดนั่นคือ มันไม่ลั่นและไม่เจ็บหู ทำให้เราสามารถควมคุมการใช้งานของ Ediifer W220T ได้ง่ายและสะดวกสบายมากๆครับ

การคุยโทรศัพท์ : ไมค์ดี ตอบโจทย์สายคุยโทรศัพท์

• การคุยโทรศัพท์ : ไมค์จัดว่าดีทีเดียวครับ ให้เสียงพูดได้ชัดใกล้เคียงกับเอาโทรศัพท์แนบหูคุย ส่วนการตัดเสียงรบกวนตอยคุยโทรศัพท์ก็ทำได้ดี ตัดเสียงรบกวนตอนคุยออกไปได้เยอะ ถึงแม้จะไม่ได้ตัดจนเงียบสนิทเลย แต่ก็อยู่ในระดับที่เสียงรบกวนไม่กระทบต่อเสียงพูดสายของเราครับ

การดูหนังและเล่นเกม : เล่นเกมดูหนังแทบไม่หน่วงเลย

• ดูหนัง : ทดสอบดูคลิป facebook, youtube และซีรี่ย์บน Netflix แทบไม่รู้สึกดีเลย์ทั้ง iOS และ Android เสียงตรงภาพ ดูได้เพลินๆครับ
• เล่นเกม : ทดสอบกับ iOS แบบยังไม่เปิด Game Mode เสียงค่อนข้างดีเลย์น้อยจนแทบไม่รู้สึกอยู่แล้ว พอเปิด Game Mode ด้วยแทบจะไม่รู้สึกดีเลย์ยิ่งกว่าเดิม เรียกว่าเสียงตรงสนิทติดนิ้วโป้งมาก ส่วนฝั่ง Android ถ้าอุปกรณ์ใครรองรับ aptX™Adaptive ก็จะดีเลย์น้อยมากพอๆกับ iOS เลย จัดว่าเล่นเกมได้เสียงตรงภาพไม่ใจครับ

คุณภาพเสียง : เสียงเนียนใสฟังสบาย เบสกำลังดี

• โทนเสียงของ Edifier W220T จะออกแนวฟังสบาย เบสเด่นชัดที่หัวโน๊ต และมีโทนที่ใสฟังลื่นหู แต่อาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่ชอบเสียงเบสหนักๆชัดๆ กระแทกแรงสะใจ ถ้าใครชอบเสียงแนวกลางๆใสๆ ฟังสบายๆ น่าจะชอบ Ediifer W220T ครับ
• เราสามารถปรับ sound effect ของมันได้ ซึ่งแต่ละ sound effect ก็จะเหมาะกับเพลงแต่ละแนวแตตกต่างกันออกไป ทางทีมงานชอบ sound effect เสียงแบบ Rock ที่สุด เพราะมันได้เสียงเบสที่ฟังชัดมีมวลมากกว่าโหมดเสียงปกติ Classic ที่ยังคงความเนียนใสฟังสบายเอาไว้ได้อยู่ แต่ถ้าใครชอบเสียงแบบไหน ก็สามารถเลือกใช้งานได้ตามใจชอบครับ

Edifier W220T เหมาะกับใคร ?

• ในด้านของการใช้งาน Edifier W220T ตอบโจทย์ผู้ที่ชอบใส่หูฟังทรง earbud เน้นใช้คุยโทรศัพท์บ่อย เล่นเกมดูหนังหรือออกกำลังกายเบาๆในชีวิตประจำวัน ซึ่งมันตอบโจทย์การใช้งานสไตล์นี้ได้ดีมาก แต่แอดเสียดายที่มันน่าจะมีระบบ dual-connection แต่คุณภาพขนาดนี้ในราคาระดัยนี้ ก็อยู่ในระดับที่คุ้มค่าเลยครับ
• ในด้านของการฟังเพลง Edifier W220T อาจไม่ตอบโจทย์กับผู้ที่ชอบเสียงเบสหนักๆ แรงปะทะแรงๆ แต่จะตอบโจทย์ผู้ที่ชอบเสียงแนวกลางๆใสๆ ฟังสบายแบบมีเสียงเบสที่ออกในระดับที่ฟังแน่นๆ เด่นฟังเพลงป๊อป, ร็อค, แจ๊ส หรืออคูสติกทั่วไปครับ

Gallery :

วิธีการใช้งานเบื้องต้น

(ข้อมูลจากคู่มือภายในกล่อง)

คำแนะนำเพิ่มเติมก่อนเริ่มใช้งานจริง :

• โปรดชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อนใช้งานครั้งแรก
• หากหูฟังเลอะเหงื่อหรือมีความชื้น แนะนำให้เช็ดหูฟังให้แห้งสนิทก่อนเก็บลงกล่องชาร์จ
• แนะนำให้ใช้หัวชาร์จไฟไม่เกิน 5V/1A เพราะอาจทำให้การชาร์จแบตเตอรี่ผิดปกติ และอาจทำให้แบตเตอรี่ภายในกล่องชาร์จเสียหายได้ครับ

การเปิด-ปิดการใช้งานหูฟัง :

• เปิดการใช้งาน = หยิบหูฟังออกจากกล่องชาร์จ
• ปิดการใช้งาน = เก็บหูฟังลงกล่องชาร์จแล้วผิดฝา

การเชื่อมต่อ Bluetooth :

1. เปิดฝากล่องชาร์จ กดปุ่มหลังกล่องชาร์จค้างไว้จนไฟกล่องชาร์จกระพริบ
2. เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ แตะเชื่อมต่อ Edifier W220T เป็นอันเสร็จสิ้น

**หูฟังจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ล่าสุดอัตโนมัติในการใช้งานครั้งต่อไป**

**หากต้องการเปลี่ยนอุปกรณ์เชื่อมต่อ ให้เก็บหูฟังลงกล่องชาร์จแต่อย่าเพิ่งปิดฝา กดปุ่มหลังกล่องชาร์จค้างให้ไฟกล่องชาร์จกระพริบ จากนั้นเปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ใหม่แล้วแตะเชื่อมต่อได้เลยครับ**

การควบคุม :

• เล่นเพลง/หยุดเพลง : บีบก้านหูฟังข้าง L หรือ R x1
• ไปยังเพลงถัดไป : บีบก้านหูฟังข้าง L หรือ R x2
• ย้อนเพลง : บีบก้านหูฟังข้าง L หรือ R x3
• รับสาย/วางสาย : บีบก้านหูฟังข้าง L หรือ R x1
• ปฏิเสธสาย : บีบก้านหูฟังข้าง L หรือ R x2
• เรียก Voice Assistant : บีบก้านหูฟังข้าง L หรือ R ค้าง 2 วินาที

**สามารถเปลี่ยนฟังชั่นอื่นๆบนหูฟังแต่ละข้างได้ในแอปพลิเคชัน Edifier Connect**

**สามารถปรับการรับนํ้าหนักการบีบก้านของหูฟังได้ในแอป Edifier Connect ในหน้า setting > Presure Sensitivity**

การชาร์จแบตเตอรี่

หูฟัง :

1. เก็บหูฟังลงกล่องชาร์จแล้วิดฝา > หูฟังอยู่ในโหมดชาร์จแบตฯจากกล่องชาร์จ
2. หูฟังใช้เวลาชาร์จประมาณ 1 ชม.หรือมากกว่า (0-100%)

กล่องชาร์จ

1. เสียบสายชาร์จ UBS-C ที่แถมมากับกล่อง ชาร์จกับ USB บน PC หรือหัวชาร์จไฟ 5V/1A
2. ขณะชาร์จ ไฟสีส้มจะติดค้าง และจะดับไปเมื่อชาร์จเต็ม
3. กล่องชาร์จใช้เวลาชาร์จประมาณ 1.5 ชม. หรือมากกว่า (0-100%)

*ข้อควรระวัง : อย่าเสียบสายชาร์จแบตกล่องชาร์จขณะที่หูฟังในกล่องชาร์จมีความชื้น, ไม่แนะนำให้ใช้หัวชาร์จเร็ว

วิธี Factory Reset

1. กด forget device หรือลบความจำอุปกรณ์ Edifier W220T แล้วปิด Bluetooth
2. เก็บหูฟังใส่กล่องชาร์จแต่อย่าเพิ่งปิดฝา
3. กดผปุ่มหลังกล่องชาร์จ 3 ครั้ง ไฟหน้ากล่องชาร์จจะกระพริบไฟสีขาวประมาณ 14 ครั้ง
4. การ reset เสร็จสิ้นเมื่อกล่องชาร์จกลับมากระพริบไฟสีเขียวสลับสีขาวครับ

วิธีการดูแลรักษา

1. หากเลิกใช้งานแล้ว ควรเก็บหูฟังลงกล่องชาร์จแล้วปิดฝาทุกครั้ง
2. หากไม่ได้ใช้หูฟังเป็นเวลานานๆ โปรดหมั่นหยิบหูฟังออกมาเสียบสายชาร์จบ่อยๆ เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่
3. หากหูฟังเลอะเหงื่อจากการออกกำลังกาย โปรดเช็ดหูฟังให้แห้งสนิทก่อนเก็บหูฟังลงกล่องชาร์จทุกครั้ง
4. การทำความสะอาดหูฟัง ควรใช้คอตต้อนบัชแล้วค่อยๆเช็ดตามท่อหูฟัง ตามด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดให้แห้งสนิท

เงื่อนไขการรับประกัน (Warranty)

• สินค้ารับประกัน 1 ปี 4 เดือน เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัท 425DEGREE กำหนด
• *** ในส่วนของอะไหล่,สายชาร์จ,เคสชาร์จ ที่มากับตัวหูฟังจะมีระยะประกันอยู่ที่ 7 วัน ***
• คุณลูกค้าต้องเก็บตัวสินค้าไว้ให้ครบไม่ว่าจะเป็น กล่อง/ซองแพคเกจจิ้ง, ตัวหูฟังทั้งสองข้าง, กล่องชาร์จ, สายชาร์จ ,จุกหูฟังซิลิโคนทุกแบบ, ซองผ้า
• หากตัวสินค้าเสียหายจากขั้นตอนการผลิตของทางโรงงาน เปลี่ยนตัวใหม่ให้ทันที
• สินค้าต้องไม่มีตำหนิจากการใช้งานผิดวิธี, ตำหนิเสียหายจากการใช้งานของลูกค้า, ร่องรอยการกระแทก หรือการขูดขีดอย่างรุนแรง
• หากเป็นปัญหาจากการใช้งานของคุณลูกค้าไม่ว่าจะเป็น แตก, หัก, บิดเบี้ยวจนผิดรูป, นํ้าเข้าในแผงวงจรอิเล็คทรอนิค , เบิร์นหูฟังผิดวิธี(ใช้แอพเบิร์นหรือคลื่นเสียงประเภท Sine Sweep, Pink Noise, White Noise) จนหูฟังเสียหาย จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• ปัญหาการคุยโทรศัพท์แล้วเป็นเสียงที่คุยไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อเปิด-ปิดตัวหูฟังอีกรอบแล้วสามารถคุยได้ตามปกติ จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• อาการกระตุกของสัญญาณขณะใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณของอุปกรณ์ไร้สายเยอะๆ เช่นบนสถานีรถไฟฟ้า,ออฟฟิตขนาดใหญ่ ***เช่น กำลังฟังเพลงอยู่แล้วสัญญาณขาดหายแล้วกลับมาเป็นปกติ *** ซึ่งจะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• หากตัวหูฟังหรือชิ้นส่วนของกล่องชาร์จเสียหรือชำรุด ที่เกิดจากการใช้งานไปแล้วเกินกว่า 7 วัน จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• สินค้ารุ่นนี้มีมาตรฐานการกันน้ำที่ระดับ IP54 กล่าวคือ กันฝุ่นจากการใช้งานนอกสถานที่ และเหงื่อจากการออกกำลังกายเท่านั้น **หากสินค้าจมนํ้า หรือเจอปริมาณนํ้าเยอะเกินกว่ามาตรฐาน IP54 จนเป็นเหตุทำให้หูฟังเสียหาย จะถือว่าใช้งานผิดวิธี และจะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• ข้อมูลระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ของหูฟัง จะแปรผันตามการใช้งานของแต่ละบุคคล