iPad Keyboard Folio Guard with Touch Pad Black ( เคสคีย์บอร์ด iPad Air (2019)/iPad Pro 10.5 (2017)/iPad Gen 9 / Gen 8 / Gen 7 )
- เคส iPad + คีย์บอร์ดไร้สาย ฟังก์ชั่นแบบ 2in1 คุ้มค่าน่าใช้งาน
- คีย์บอร์ดแบบแม่เหล็กถอดแยกได้ ใช้งานสะดวกคล่องตัว
- คีย์บอร์ดมี Touchpad ในตัว ควบคุมการทำงานง่าย เพียงปลายนิ้วสัมผัส
- Touchpad รองรับหลาย gesture แตะสัมผัสได้สูงสุด 3 นิ้ว
- Touchpad มีปุ่มคลิกซ้าย/คลิกขวาในตัว
- รองรับระบบปฏิบัติการ iPadOS, iOS, Window และ Android
- ขอบเคสที่หนาบวกกับลาย Honey Comb ช่วยซึมซับแรงกระแทกได้ในระดับไม่รุนแรงมากได้
***ใช้ได้กับ iPad Air (2019)/iPad Pro 10.5 (2017), iPad Gen 8, Gen 7
iPad Keyboard Folio Guard with Touch Pad Black
( เคสคีย์บอร์ด iPad Air (2019)/iPad Pro 10.5 (2017)/iPad Gen 9 / Gen 8 / Gen 7 )
425Degree Recommend
iPad Keyboard Folio Guard with Touch Pad เคสคีย์บอร์ดรุ่นอัพเกรดมาพร้อมแบบใหม่มี Touchpad ในตัว รองรับการทำงานได้หลากหลาย Gesture สูงสุดถึง 3 นิ้ว เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วสัมผัสก็ควบคุมการทำงาน iPad ได้อย่างลื่นไหล แผงคีย์บอร์ดเป็นแบบแม่เหล็กถอดแยกจากเคสได้และสามารถใช้งานในระยะไกลๆได้ถึง 10 เมตรเลยทีเดียว ปุ่มกดนุ่มนิ้ว พิมพ์รัวๆก็ไม่มีสะดุด สกรีนมาให้ทั้งอักษรไทย/อังกฤษ ส่วนตัวเคสเน้นวัสดุที่ดูพรีเมี่ยม หุ้มหนัง PU ที่ให้ texture คล้ายผ้าสัมผัสสบายมือ สำหรับใครที่ใช้ iPad แล้วมองหาเคสคีย์บอร์ดแบบมี Touchpad อยู่ รุ่นนี้จาก 425 ฟีเจอร์พื้นฐานครบ ใช้งาน iPad ได้คล่องตัวกว่าเดิมแน่นอนครับ
- จากที่ลองใช้งานเคสคีย์บอร์ดรุ่นนี้ จุดเด่นแรกคือฟังก์ชั่น Touchpad ที่เพิ่มมาใหม่ ช่วยให้การควบคุมการทำงานบน iPad ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น โดยเท่าที่ได้ลองจะรองรับ Gesture พื้นฐานค่อนข้างครบ โดยรองรับการแตะสัมผัสได้มากสุด 3 นิ้ว โดยสัมผัสของ Touchpad จะมีความเรียบด้านสบายนิ้ว เหมาะมากกับคนที่อัพเดท iPadOS มาใหม่ แล้วอยากใช้งานพวก Touchpad ใน iPad รุ่นนี้เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจเลยครับ
- ปกติคนที่ใช้งาน iPad จะชอบเคสคีย์บอร์ดที่เน้นความคล่องตัวในการใช้งาน รุ่นนี้จะตอบโจทย์ตรงที่ออกแบบให้แผงคีย์บอร์ดเป็นแบบแม่เหล็กแปะติด ที่สามารถถอดแยกออกจากเคสได้ ทำให้เราไม่ต้องพิมพ์ หรือใช้ Touchpad ในระยะบังคับเท่านั้น สามรถยอกออกจากเคสแล้วปรับการใช้งานให้เหมาะสมเองได้เลยครับ
- นอกจากจะรองรับ iPadOS ได้เต็มประสิทธิภาพแล้ว ยังรองรับระบบ iOS, Window และ Android สามารถสลับการใช้งานระหว่างอุปกรณ์ได้ง่าย เพียงแค่ทำการเชื่อมต่อและกดปุ่มเปลี่ยนระบบการทำงานบนคีย์บอร์ดเท่านั้นเองครับ
- ส่วนเคสดีไซน์ให้ดูเรียบหรูด้วยการหุ้มด้วยหนัง PU คุณภาพดี ให้สัมผัสคล้ายๆผ้า นุ่มสบายมือเวลาถือและให้ลุคที่ดูพรีเมี่ยมน่าใช้งานครับ
***ภาพสินค้าจะมีเคสของรุ่น iPad Pro 11 (2020)/(2018) รวมอยู่ด้วยนะครับ ตัวคีย์บอร์ดจะเป็นแบบเดียวกัน ส่วนเคสจะต่างกันแค่ขนาด, ตรงช่องเลนส์กล้อง/ช่องลำโพง/ช่องเก็บ Apple Pencil และรุ่นสำหรับ iPad ที่รองรับ Apple Pencil Gen1 เคสจะไม่เว้นช่องชาร์จไร้สายที่ขอบข้างมาให้ครับ
เปรียบเทียบปุ่มกดของเคสคีย์บอร์ดจาก 425Degree กับแบรนด์อื่นๆ
- เคสคีย์บอร์ดเกือบทุกรุ่นที่ 425Degree คัดมา จะมีข้อดีในเรื่องปุ่มกดบนแป้นพิมพ์ ที่จะเป็นแบบ 6 แถว และปุ่มขนาดเต็มทุกปุ่ม โดยแถวตัวอักษรด้านบน จะแยกกับปุ่มฟังก์ชั่นแถวบนสุด ทำให้กดใช้งานได้ง่ายกว่า เมื่อเทียบกับปุ่มกดบนเคสคีย์บอร์ดทั่วๆไปที่จะออกแบบให้ปุ่มอักษรแถวบนรวมอยู่กับปุ่มฟังก์ชั่น และปุ่มจะมีขนาดเล็กลงเหลือเพียงครึ่งเดียว ทำให้กดใช้งานได้ยากกว่าครับ
- ***ภาพด้านล่างเป็นตัวอย่างปุ่มกดแบบ 6 แถวบนเคสคีย์บอร์ดของ 425degree เทียบกับปุ่มกดแบบ 5 แถวของเคสคีย์บอร์ดแบรนด์อื่นๆครับ
Highlight
- คีย์บอร์ดเป็นแบบถอดแยกได้ และติดกับฝาเคสได้อย่างแน่นหนาด้วยระบบแม่เหล็กดูดติด เชื่อมต่อการใช้งานง่ายด้วยสัญญาณ bluetooth รองรับระยะการเชื่อมต่อได้ไกลถึง 10 เมตร
- มาพร้อมฟังก์ชั่น Touchpad ในตัว รองรับการใช้งานได้หลากหลาย Gesture ควบคุมการทำงานได้ง่ายๆเพียงปลายนิ้วสัมผัส
- รองรับระบบปฏิบัติการ iPadOS, iOS, Window และ Android
- วัสดุเคสที่ทำจากยางที่หนากว่าปกติ แถมมีลายเคสด้านในเป็นแบบ honey comb จึงช่วยให้เคสซึมซับแรงกระแทกได้ดีขึ้นอีก
การใช้งาน Touchpad เบื้องต้น
การใช้งาน Touchpad ในหน้า Home
- เลื่อนแตะ 1 ครั้งที่เปอร์เซ็นแบตเตอรี่เพื่อเรียก Control Center
- ใช้ 2 นิ้วลากลงเพื่อค้นหา
- เลื่อนแตะที่ขอบบนของหน้าจอเพื่อดู Notification
- ใช้ 2 นิ้วลากขึ้นลงเพื่อดูวิดเจ็ต
- แตะ 1 ครั้งตรงใกล้ๆสัญลักษณ์วงกลมด้านล่างเพื่อสลับหน้า
- ใช้ 1 นิ้ว แตะ 2 ครั้งแล้วค้าง หรือแตะ 2 ครั้งที่หัวข้อเพื่อเรียกดู Shortcut เหมือนการกด Haptic Touch/3D Touch
- แตะค้างที่แอป แล้วขยับเล็กน้อย เพื่อย้ายหรือลบแอป
การใช้งาน Touchpad ใน Safari
- ใช้ 2 นิ้วลากขึ้นลงเพื่อดูหน้าเว็บ
- ใช้ 1 นิ้ว แตะ 2 ครั้งแล้วค้าง หรือแตะ 2 ครั้งที่หัวข้อเพื่อเรียกดู Shortcut เหมือนการกด Haptic Touch/3D Touch
การใช้งาน Touchpad สำหรับ Dock + Slide Over + Split View
- ในหน้าแอป ให้เลื่อนแตะขอบล่างเพื่อเรียก Dock
- ในหน้าแอป ให้แตะค้างที่แอปแล้วลากขึ้นมาวางที่ขอบจอเพื่อใช้งาน Split View
- ในหน้าแอป ให้แตะค้างที่แอปแล้วลากขึ้นมาวางข้างจอเพื่อใช้งาน Slide Over
- สลับหน้า Slide Over แตะ 2 ครั้งที่เส้นขอบล่างแล้วลากไปซ้าย/ขวา
- หรือแตะที่เส้นแล้วลากขึ้นเพื่อดูหน้า Slide Over ทั้งหมดก็ได้
- เลื่อนแตะที่ขอบข้างเพื่อปิด Slide Over หรือเลื่อนแตะอีกครั้งเพื่อเรียกกลับมา
การใช้งาน Touchpad ในแอป Notes
- ใช้ 1 นิ้ว แตะ 2 ครั้งเพื่อไฮไลท์ข้อความบางคำ
- ใช้ 1 นิ้ว แตะ 3 ครั้งเพื่อไฮไลท์ข้อความทั้งแถว
- ใช้ 1 นิ้ว แตะ 2 ครั้งแล้วลากคลุมเพื่อไฮไลท์ข้อความตามที่ต้องการ
- ใช้ 2 นิ้ว แตะ 1 ครั้งที่ข้อความที่ไฮไลท์ไว้เพื่อ Cut/Copy/Paste/Look Up/Share/แก้แบบอักษร
การใช้งาน Touchpad ในแอป Photos
- ใช้ 1 นิ้ว แตะ 2 ครั้งแล้วค้างเพื่อดูตัวอย่างรูปและเรียก shortcut
- หรือใช้ 2 นิ้ว แตะ 1 ครั้งที่รูปเพื่อเรียก shortcut
- ใช้ 1 นิ้ว แตะ 2 ครั้งบนรูปที่เปิดอยู่เพื่อซูม
- ใช้ 2 นิ้ว ปัดไปทางขวาเพื่อออกจากหน้ารูปที่เปิดอยู่
- ใช้ 2 นิ้ว ลากขึ้นบนหรือปัดไปทางซ้ายเพื่อดูข้อมูลรูป
การตั้งค่า Gesture แบบกำหนดเอง
- ***หลังจากเชื่อมต่อคีย์บอร์ดแล้ว สามารถเข้าไปตั้งค่า Touchpad แบบกำหนดเองได้ โดยที่ iPad ให้เข้าไปตั้งค่าตามนี้
- เข้าไปที่ Setting > Accessibility > Touch > AssistiveTouch > เลื่อนเปิดใช้งาน AssistiveTouch > กดที่ Device > กดที่ชื่อ Bluetooth ของคีย์บอร์ดที่เชื่อมอยู
- จากนั้นกดที่ Customize Additional Botton (หน้าจอจะแสดงหน้าต่างขึ้นมาให้ทำการกำหนด Gesture เอง)
- ใช้นิ้วแตะที่ Touchpad กำหนด Gesture เองได้เลยว่าจะให้การแตะตามจำนวนนิ้วเท่านี้ เป็นฟัีงก์ชั่นไหนบ้าง
- ตัวอย่างเช่น : แตะ 1 นิ้ว เป็นการคลิก 1 นิ้ว, แตะ 2 นิ้วเป็นการเรียก Dock, แตะ 3 นิ้วให้แคปหน้าจอ เป็นต้น หลังจากแตะ จะมีหน้าจอ Gesture ให้เลือกกำหนดขึ้นมาอัตโนมัติ
- -ทำซ้ำแบบนี้จนครบจำนวนนิ้วที่ Touchpad นั้นๆรองรับ จากนั้นเริ่มใช้งานได้เลย
Product Detail รายละเอียดสินค้า
- แบรนด์ : สินค้าคุณภาพดีจากประเทศจีน
- ชื่อรุ่น : Keyboard Folio Guard with Touch Pad
- สำหรับ :
- -iPad Air (2019)
-iPad Pro 10.5 (2017
-iPad Gen 9 ( 10.2 ปี 2021 )
-iPad Gen 8 ( 10.2 ปี 2020 )
-iPad Gen 7 ( 10.2 ปี 2019 ) - วัสดุ : ยาง TPU, หนัง PU Leather + พลาสติกเเข็ง Polycarbonate + พลาสติก ABS + แม่เหล็กด้านใน
- สีเคส : สี Black (ดำ)
- สีคีย์บอร์ด : Black (ดำ)
- ขนาดและน้ำหนัก :
- รุ่น iPad Air(2019)/iPad Pro 10.5(2017)/ iPad 10.2(2019)
-
- กว้าง 19.57 ซม. ยาว 25.35 ซม. หนา 2.45 ซม.
- น้ำหนัก 642 กรัม (รวมคีย์บอร์ด), 409 กรัม (ไม่รวมคีย์บอร์ด)
- ตัวเคสเป็นแบบฝาพับหนา 2 ชั้น มีคีย์บอร์ดในตัว (แผงคีย์บอร์ดสามารถแยกออกจากเคสได้)
- เคสรุ่นนี้ออกแบบให้เป็นเคสคีย์บอร์ดเสริมสำหรับ iPad ที่ทั้งช่วยป้องกันรอยขีดข่วนให้กับ iPad และสามารถใช้งานฟังก์ชั่นคีย์บอร์ดได้ในตัวครับ
- ตัวเคสสามารถปรับตั้งได้หลายระดับ ใช้งานได้หลากหลายมุมมอง
- ฝาพับมีแผ่นแม่เหล็กอยู่ด้านในจึงปิดล็อกได้อย่างแน่หนา แต่จะไม่รองรับฟังก์ชั่น Sleep/Wake นะครับ
- มีช่องสำหรับจัดเก็บ Apple Pencil มาให้ด้วย จะเก็บแบบแนวนอนหรือเสียบแนวตั้งก็ได้ และจะมีช่องเก็บปลอกและอะแดปเตอร์ชาร์จ Apple Pencil1 แยกมาให้ด้วย
- ส่วนของแผงคีย์บอร์ดจะมีขนาดปุ่มที่ใหญ่จึงกดได้ง่ายปกติ โดยนอกจากปุ่มกดตัวอักษรและปุ่มการใช้งานทั่วไปแล้ว ยังมีปุ่มเสริมพิเศษมาให้อีกมากมาย
- คีย์บอร์ดมาพร้อม Touchpad ในตัว โดย Touchpad จะมีขนาดค่อนข้างพอดีนิ้ว กว้าง 4.58 x 8.01 ซม.
- รุ่นนี้มีแบตเตอรี่ภายในแบบ lithium polymer ความจุอยู่ที่ 200 mAh ใช้เวลาชาร์จจนเต็มประมาณ 3-4 ชั่วโมง โดยใช้งานยาวๆได้ถึง 100 ชั่วโมง
- ในกล่องจะมีสาย Micro-USB ความยาว 80 ซม. แถมมาให้ด้วย โดยมีกำลังไฟ input อยู่ที่ 5V/1A
- วัสดุหุ้มเคสมี Texture คล้ายผ้าให้สัมผัสที่สบายมือ ส่วนตัวเคสและคีย์บอร์ดผิวสัมผัสเป็นแบบเรียบด้าน จึงช่วยลดการเกิดนิ้วมือได้
- ***การเชื่อมต่อ Bluetooth ในบางครั้งอาจจะขึ้นแจ้งเตือนเชื่อมต่อไม่สำเร็จ ให้แก้ไขใน iPad โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า(setting) >บลูทูธ(Bluetooth) >กดที่สัญลักษณ์รูปตัว i ท้ายคำว่า Bluetooth 3.0 Keyboard. กดเลิกใช้อุปกรณ์เครื่องนี้(Forget this device) หลังจากนั้นให้ทำการเชื่อมต่อใหม่อีกครั้ง ก็จะสามารถใช้งานได้ปกติครับ
- ***การใช้งานใน iPad หากพบว่าปุ่ม Caps Lock บนคีย์บอร์ด กดแล้วฟังก์ชั่น Uppercase(ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่) ไม่ทำงาน ให้ทำตามขั้นตอนดังนี้
- -ใน iPadOS เวอร์ชั่น 13 ขึ้นไป เข้าไปที่ Setting >General >Keyboard > Hardware Keyboard (แท็ปนี้จะขึ้นต่อเมื่อเชื่อมต่อคีย์บอร์ดแล้ว) แล้วเลื่อนปิดการใช้งาน Switch Languages using Caps Lock ครับ
- -ใน iPadOS เวอร์ชั่นเก่า เข้าไปที่ Setting >General >Keyboard >แล้วเลื่อนปิดการใช้งาน Switch Languages using Caps Lock ครับ
- ***วิธีพับเก็บเคส ควรพับฝั่งหน้าจอ iPad ลงมาทับคีย์บอร์ดทุกครั้ง(เหมือนการปิดหน้าจอ Laptop ทั่วๆไป) ไม่ควรพับโดยเอาคีย์บอร์ดพับไปหาหน้าจอ iPad เพราะคีย์บอร์ดอาจหลุดแล้วกระแทกกับหน้าจอได้
- ***เมื่อพับฝาปิดแล้ว คีย์บอร์ดจะประกบพอดีกับหน้าจอ แอดมินเลยแนะนำให้ใช้ร่วมกับกระจกนิรภัยที่หน้าจอเพื่อป้องกันรอยขีดข่วนครับ
- ***ตัวเคสเองไม่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนที่เกิดจากของมีคมที่เป็นรอยลึกๆได้ครับ
- ***เคสรุ่นนี้ไม่รองรับฟังก์ชั่น Sleep/Wake นะครับ
- ***ตัวนี้ไม่รองรับการใช้งานร่วมกับ Smart Keyboard เเละ Smart Cover นะครับ
- ***ตัวคีย์บอร์ดรองรับการใช้งานทั้งระบบ iPadOS, iOS, Android และ Window สามารถถอดออกจากตัวเคสเพื่อนำไปใช้งานกับอุปกรณ์อื่นๆได้ครับ
Gallery รูปถ่ายจากสินค้าจริง
***ภาพสินค้าจะมีเคสของรุ่น iPad Pro 11 (2020)/(2018) รวมอยู่ด้วยนะครับ ตัวคีย์บอร์ดจะเป็นแบบเดียวกัน ส่วนเคสจะต่างกันแค่ขนาด, ตรงช่องเลนส์กล้อง/ช่องลำโพง/ช่องเก็บ Apple Pencil และรุ่นสำหรับ iPad ที่รองรับ Apple Pencil Gen1 เคสจะไม่เว้นช่องชาร์จไร้สายที่ขอบข้างมาให้ครับ
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- iPad Keyboard Folio Guard with Touch Pad (ตัวเคส) x 1
- Touch Pad Keyboard (แผงคีย์บอร์ดมี Touch Pad แบบถอดแยกได้) (สีดำ) x 1
- สายชาร์จ Micro-USB ความยาว 80 ซม. (สีดำ) x 1
- แผ่นคู่มือการใช้งาน X 1
การใช้งานร่วมกับกระจกนิรภัย/ฟิล์มกันรอย
สามารถใช้งานร่วมกับฟิล์มกันรอย/กระจกนิรภัยตามรายชื่อด้านล่างนี้
- สามารถใช้งานร่วมกับกระจกนิรภัย เเละฟิล์มเเบบไม่เต็มจอได้ครับ
- สามารถใช้งานร่วมกับฟิล์มหลังได้ปกติครับ
- ***หาก iPad ของลูกค้าติดฟิล์มรอบเครื่องอยู่ เมื่อนำมาสวมใส่กับเคสรุ่นนี้ อาจทำให้ฟังก์ชั่นการชาร์จไร้สาย Apple Pencil Gen2 ที่ขอบเครื่องผ่านเคสไม่สามารถใช้งานได้ครับ และกรณีนี้จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกันครับ
ข้อมูลเชิงเทคนิค
- Operating distance/ ระยะในการใช้งาน : 10 เมตร
- Modulation system/ ระบบสัญญาณ : GFSK
- Connection/ การเชื่อมต่อ: Bluetooth 3.0
- iPadOS Version : รองรับ iPadOS 10 ขึ้นไป (*ฟังก์ชั่น Touchpad จะรองรับกับ iPadOS 13.4 ขึ้นไปเท่านั้นครับ)
- Battery type : lithium polymer
- Lithium battery capacity/ ความจุแบตเตอรี่ : 200mAh
- Standby time/ ระยะเวลาสแตนบาย : >100 วัน
- Continuous time/ ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง : 100 ชั่วโมง
- Charging port/ พอร์ตชาร์จเข้า : Micro-USB
- Input : DC5V/1A
- Charging time/ ระยะเวลาการชาร์จไฟเข้าจนเต็ม : ประมาณ 3-4 ชั่วโมง
- Key life : 3 ล้านครั้ง
- Oparating temperature/ อุณหภูมิขณะใช้งาน : -20±55 C
- Storage temperature : -40 C-70 C
- LED Indication / ไฟแสดงสถานะ : มี
วิธีการเชื่อมต่อเพื่อใช้งาน
- เลื่อนเปิดสวิตซ์ (On) บนคีย์บอร์ดเพื่อเปิดการใช้งาน
- กดปุ่ม Fn + ปุ่ม C ที่คีย์บอร์ด ไฟสถานะ Bluetooth ที่มุมขวาล่างดวงที่ 4 จะกระพริบสลับไปมาเป็นสีน้ำเงิน
- เปิดการใช้งาน Bluetooth บน iPad
- กดที่ "Bluetooth 3.0 Keyboard" บน iPad
- เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จไฟสถานะ Bluetooth ที่คีย์บอร์ดจะดับลง เริ่มใช้งานได้เลยครับ
- ***หากนำไปใช้งานกับอุปกรณ์ Window/Android ก็ใช้วิธีการเชื่อมต่อแบบเดียวกันครับ แต่หลังจากเชื่อมต่อสำเร็จ ให้กดปุ่ม Fn +ปุ่ม A/S หรือ D เพื่อเลือกใช้งานตามระบบของอุปกรณ์ครับ
การใช้งานปุ่มกดและคีย์ลัดต่างๆ (เฉพาะการใช้งานใน iPad)
ปุ่มใช้งานต่างๆ
- สำหรับปุ่มกดต่างๆจะมีทั้งหมด 81 ปุ่ม เป็นปุ่มที่มุมขวาและปุ่มแถวแนวนอนอีก 6 แถว โดยจะมีปุ่มสำคัญๆดังนี้
- แถวบนสุด (เรียงตามลำดับ) จะมีปุ่ม Esc/Home, ปุ่มค้นหา, ปุ่มเรียกคีย์บอร์ดที่หน้าจอ, ปุ่มเปลี่ยนภาษา (ของ iPad ให้ใช้ปุ่ม Caps Lock), ปุ่ม F4, ปุ่มลดแสงหน้าจอ, ปุ่มเพิ่มแสงหน้าจอ, ปุ่ม Back, ปุ่ม Play/Pause, ปุ่ม Forward, ปุ่มปิดเสียง, ปุ่มลดเสียง, ปุ่มเพิ่มเสียง, ปุ่ม Insert, ปุ่ม Paste, ปุ่ม Scroll, ปุ่ม Delete
- แถวที่ 2-5 จะเป็นปุ่มตัวอักษร ตัวเลข และปุ่มคำสั่งทั่วไป
- แถวล่างสุด (เรียงตามลำดับ) จะมีปุ่ม Fn(ฟังก์ชั่น), ปุ่ม Control, ปุ่ม Alt/Option, ปุ่ม Command, ปุ่ม Space bar, ปุ่ม Alt/Option, ปุ่ม Control และปุ่มลูกศร 4 ทิศ
ปุ่มคีย์ลัดพิเศษต่างๆ (Shortcut Key)
- กดปุ่ม Home/Esc 2 ครั้ง เพื่อเรียกดูแอปทั้งหมดที่เปิดอยู่
- กดปุ่ม Fn + Home เพื่อเรียกใช้งาน Siri
- กดปุ่ม Fn + Space bar พร้อมกัน เพื่อเปิด/ปิดการใช้งาน Touchpad
- กดปุ่ม Fn + PgUP เพื่อขึ้นไปด้านบนสุดของหน้า
- กดปุ่ม Fn + PgDN เพื่อลงไปด้านล่างสุดของหน้า
- กดปุ่ม Command + ปุ่มลูกศรซ้าย เพื่อกลับไปหน้าก่อนหน้า
- กดปุ่ม Command + ปุ่มลูกศรขวา เพื่อไปหน้าถัดไป
- กดปุ่ม Command + X เพื่อ Cut, กดปุ่ม Command+V เพื่อ Paste, กดปุ่ม Command+A เพื่อ Select All, กดปุ่ม Command+C เพื่อ Copy
- กดปุ่ม Command + Space Bar เพื่อค้นหา
- กดปุ่ม Command + Tab เพื่อสลับการใช้งานระหว่างแอพต่างๆ
- กดปุ่ม Caps Lock เพื่อเปลี่ยนเป็นตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ (หรือเข้าไปตั้งค่าให้ใช้เป็นปุ่มเปลี่ยนภาษาได้)
- กดปุ่ม Alt option + ตัวอักษรต่างๆ เพื่อเปลี่ยนตัวอักษรเป็นฟ้อนท์พิเศษ (รองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ)
- ***หรือกดปุ่ม Command ค้าง เพื่อดู Shortcut Key อื่นๆที่รองรับในแอปนั้นๆ
- ***หากนำคีย์บอร์ดไปใช้งานกับอุปกรณ์ในระบบปฏิบัติการอื่นๆ เช่น Window/Android ก็จะมีฟังก์ชั่นของปุ่มกดและคีย์ลัดต่างๆที่แตกต่างออกไปครับ
ไฟสถานะต่างๆ
ไฟสถานะจะมีทั้งหมด 4 ดวง อยู่ที่มุมขวาล่างของแผงคีย์บอร์ด ดังนี้
- ไฟดวงที่ 1 Power : ไฟสถานะการเปิดเครื่อง เป็นสีน้ำเงินเมื่อเปิดเครื่อง ติดประมาณ 3 วินาทีและดับลง
- ไฟดวงที่ 2 CAPS : ไฟสถานะใช้งานตัวพิมพ์ใหญ่ (จะติดเฉพาะเปิดการทำงานฟังก์ชั่นตัวพิมพ์ใหญ่อยู่เท่านั้น)
- ไฟดวงที่ 3 Charge : ไฟสถานะการชาร์จ เป็นสีส้มค้างอยู่เมื่อเสียบชาร์จ และจะดับลงอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม *ที่คีย์บอร์ดจะสกรีนเป็นคำว่า Change แต่จริงๆคือฟังก์ชั่น Charge นะครับ โดยสินค้าจะสกรีนเป็นแบบนี้ทุกตัวจากการผลิตของทางแบรนด์ครับ*
- ไฟดวงที่ 4 Bluetooth : ไฟสถานะ Bluetooth เป็นสีน้ำเงินกระพริบเมื่อกำลังค้นหาอุปกรณ์บลูทูธ / และดับลงเมื่อทำการเชื่อมต่อสำเร็จ
วิธีการสวมใส่/ถอดเคส
- การสวมใส่ตัวเครื่องให้เริ่มใส่จากด้านปุ่มกด เพิ่ม/ลดเสียง ก่อน เเละจึงใส่ด้านอื่นตามลงไปครับ
- การถอดเคส เเนะนำให้เริ่มถอดออกโดยเริ่มจากง้างด้านข้างขอบเคสข้างใดข้างหนึ่ง เเละค่อยๆนำเครื่องออกครับ
- ***วิธีพับเก็บเคส ควรพับฝั่งหน้าจอ iPad ลงมาทับคีย์บอร์ดเสมอทุกครั้ง(เหมือนการปิดหน้าจอ Laptop ทั่วๆไป) ไม่ควรพับโดยเอาคีย์บอร์ดพับไปหาหน้าจอ iPad เพราะคีย์บอร์ดอาจหลุดแล้วกระแทกกับหน้าจอได้ครับ
- ***เมื่อพับฝาปิดแล้ว คีย์บอร์ดจะประกบพอดีกับหน้าจอ แอดมินเลยแนะนำให้ใช้ร่วมกับกระจกนิรภัยที่หน้าจอเพื่อป้องกันรอยขีดข่วนครับ
เงื่อนไขการรับประกัน
- ทางร้าน 425Degree รับประกันสินค้า 6 เดือน เฉพาะส่วนของแผงคีย์บอร์ด ในความเสียหายที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับวัสดุหรืองานประกอบ ซึ่งเป็นผลมาจากการผลิต หรือปัญหาการใช้งานทางเทคนิคต่างๆที่ผิดปกติตั้งแต่ได้รับสินค้า เช่น เชื่อมต่อไม่ได้เลย, ชาร์จแบตไม่เข้าเลย และความเสียหายที่ว่านั้นไม่รวมถึงการกระทำของผู้ใช้งานหรือการใช้งานที่ผิดวิธี โดยลูกค้าจะต้องเก็บกล่องบรรจุภัณฑ์เอาไว้เพื่อใช้ยืนยันในการขอรับประกันครับ
- ส่วนวัสดุที่หุ้มเคส หากเกิดความเสียหายต่างๆที่เป็นผลมาจากการผลิต จะรับประกันส่วนนี้ 7 วันครับ
- ส่วนของอุปกรณ์เสริมที่แถมมาในกล่อง (สาย Micro-USB) จะรับประกัน 7 วัน ในกรณีที่ใช้งานไม่ได้ตั้งแต่ครั้งแรกหลังจากเปิดกล่องครับ
การรับรองมาตรฐานและความปลอดภัย
- ผ่านการรับรองมาตรฐาน FCC, CE, RoHS certifications
- FCC : อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์/คอมพิวเตอร์ทุกชิ้นก่อนที่จะนำไปขายในสหรัฐฯจะต้องได้รับการรับรองจาก FCC (เป็นองค์กรของรัฐบาลสหรัฐฯ) เพื่อให้ตรงกับข้อจำกัดทางกฎหมายเกี่ยวกับการเป็นตัวนำและการกระจายคลื่นวิทยุ
- CE : เป็นเครื่องหมายที่แสดงการรับรองจากผู้ผลิตว่าสินค้ามีคุณสมบัติตามข้อกำหนดด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรป
- RoHS : เป็นมาตรฐานเพื่อสิ่งแวดล้อม กำหนดให้ชิ้นส่วนทุกอย่างที่ประกอบเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ตั้งแต่แผงวงจร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงสายไฟ จะต้องมีสารที่เป็นอันตรายไม่เกินไปกว่าที่กำหนด (ตะกั่ว/ปรอท/แคดเมียม/เฮกซะวาเลนท์/โพลีโบรมิเนต/โพลีโบรมิเนต)
การทำความสะอาดและดูแลรักษาเพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน
- ควรใช้งานในที่อากาศถ่ายเทได้ เพื่อลดการสะสมความร้อนที่ตัวอุปกรณ์ครับ
- หลีกเลี่ยงการใช้งานในที่ที่ความชื้นสูง หรือบริเวณที่เปียกแฉะ
- ก่อนใช้งานทุกครั้งให้ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์
- หมั่นเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ ไม่ควรใช้สารเคมีใดๆครับ เพราะตัวหนังสือสกรีนอาจหลุดลอกได้ (และโปรดระมัดระวังเรื่องความชื้นของผ้าด้วยครับ ผ้าควรจะหมาดมากๆจนเกือบแห้งครับ)
Fashion Island STORE | ไม่ |
---|---|
SKU | CB110-I3-A |
CTW STOCK | ไม่ |
MB STOCK | ไม่ |
ES STOCK | ไม่ |
WV STOCK | ไม่ |
Paragon STORE | ไม่ |