iPad Keyboard Folio Guard White Keyboard

( เคสคีย์บอร์ด iPad Air(2019)/iPad Pro10.5(2017), iPad Pro 11"(2018), Pad9.7(2017)/(2018)/Pro9.7/Air1/2 )

425Degree Recommend

iPad Keyboard Folio Guard White Keyboard เคสกันกระแทก+คีย์บอร์ดเสริมแบบถอดแยกได้ อุปกรณ์ที่จะเปลี่ยนการใช้งาน iPad แบบเดิมๆให้เหมือนใช้งาน laptop ขนาดย่อม รุ่นนี้พิเศษกว่าเพราะอัพดีไซน์มาใหม่ให้ตัวเคสซึมซับแรงกระแทกได้ดีขึ้นด้วยวัสดุยางที่หนา ส่วนคีย์บอร์ดก็มาพร้อมฟังก์ชั่นเพียบ ครบทุกการใช้งานเหมือนเดิม ทั้งคุ้ม ทั้งสะดวกขนาดนี้ ต้องมีติดไว้สักตัวแล้วครับ

• สำหรับคนที่ชอบอุปกรณ์แบบ 2in1อยู่แล้ว รุ่นนี้ตอบโจทย์แน่นอน เพราะคุ้มกว่าตรงที่จะใช้เป็นกันกระแทก ปกป้องเครื่องแบบ 360 องศาก็ได้ หรือติดคีย์บอร์ดกับเคสด้วยแม่เหล็กแล้วใช้งานเป็น laptop แบบย่อส่วนก็ได้ ถือเป็นเคส iPad สุดอเนกประสงค์ที่คุ้มค่าที่สุดของร้านเลยครับ
• รอบนี้มีสำหรับ iPad หลากหลายรุ่น ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน iPad มากที่สุด เป็นทั้งเคสกันรอย/กันกระแทก มีคีย์บอร์ดเสริมไว้พิมพ์งาน/พิมพ์แชท ปรับตั้งเคสไว้ดูหนัง มีช่องเก็บ Apple Pencil ให้ด้วย และสำหรับรุ่น iPad Pro 11"(2018) ก็รองรับการชาร์จ Apple Pencil แบบไร้สายที่ขอบด้านข้างด้วย ครบกว่านี้ไม่มีอีกแล้วครับ
• ส่วนของคีย์บอร์ดก็อัดแน่นด้วยฟีเจอร์เพียบ เรียกได้ว่าใช้งานแทนคีย์บอร์ดบนหน้าจอ iPad ได้เลย ไม่ว่าจะพิมพ์งาน แชทกับเพื่อนหรือตอบออเดอร์ลูกค้า ก็เหมาะกับการใช้งานแน่นอน ไม่ต้องคอยถือเครื่องหนักๆแล้วพิมพ์จิ้มๆลงบนจอให้ยุ่งยากอีกต่อไปแล้วครับ
• ***เคสสำหรับรุ่น iPad Air(2019)/iPad Pro10.5(2017) จะเป็นเคสและคีย์บอร์ดแบบเดียวกัน สามารถใช้ด้วยกันได้ทั้ง 3 รุ่นครับ
• ***เคสเมื่อสวมใส่กับเครื่อง รุ่น iPad Pro10.5(2017) จะมีปัญหาเรื่องสะท้อนแสงแฟลชเวลาถ่ายรูปนะครับ แต่ถ้าถ่ายแบบไม่เปิดแฟลชจะใช้งานได้ปกติครับ

ความแตกต่างของ iPad Keyboard Folio Guard White Keyboard แบบเก่าและแบบใหม่

• ***ตอนนี้สินค้า iPad Keyboard Folio Guard White Keyboard สำหรับรุ่น iPad Air(2019)/iPad Pro10.5(2017) และ iPad9.7(2017)/(2018)/Pro9.7/Air1/2 ดีไซน์ของช่อง Apple Pencil จะมีการปรับแบบใหม่นะครับ ตอนนี้จะเป็นแบบรูปที่ด้านล่างทั้งหมดครับ (ยกเว้นรุ่น iPad Pro 11 (2018), iPad 10.2(2019))

เปรียบเทียบปุ่มกดของเคสคีย์บอร์ดจาก 425Degree กับแบรนด์อื่นๆ

• เคสคีย์บอร์ดเกือบทุกรุ่นที่ 425Degree คัดมา จะมีข้อดีในเรื่องปุ่มกดบนแป้นพิมพ์ ที่จะเป็นแบบ 6 แถว และปุ่มขนาดเต็มทุกปุ่ม โดยแถวตัวอักษรด้านบน จะแยกกับปุ่มฟังก์ชั่นแถวบนสุด ทำให้กดใช้งานได้ง่ายกว่า เมื่อเทียบกับปุ่มกดบนเคสคีย์บอร์ดทั่วๆไปที่จะออกแบบให้ปุ่มอักษรแถวบนรวมอยู่กับปุ่มฟังก์ชั่น และปุ่มจะมีขนาดเล็กลงเหลือเพียงครึ่งเดียว ทำให้กดใช้งานได้ยากกว่าครับ
• ***ภาพด้านล่างเป็นตัวอย่างปุ่มกดแบบ 6 แถวบนเคสคีย์บอร์ดของ 425degree เทียบกับปุ่มกดแบบ 5 แถวของเคสคีย์บอร์ดแบรนด์อื่นๆครับ

Highlight

• คีย์บอร์ดเสริมเป็นแบบถอดแยกได้ และติดกับฝาเคสได้อย่างแน่นหนาด้วยระบบแม่เหล็กดูดติด เชื่อมต่อการใช้งานง่ายด้วยสัญญาณ bluetooth รองรับระยะการเชื่อมต่อได้ไกลถึง 10 เมตร
• วัสดุเคสที่ทำจากยางที่หนาเป็นพิเศษ แถมลวดลายเคสด้านในเป็นแบบ honey comb จึงช่วยให้เคสซึมซับแรงกระแทกได้ดีขึ้นอีก

เปรียบเทียบปุ่มกดบนแป้นพิมพ์ของเคสคีย์บอร์ดจาก 425Degree กับแบรนด์อื่นๆ

• เคสคีย์บอร์ดเกือบทุกรุ่นที่ 425Degree คัดมา จะมีข้อดีในเรื่องปุ่มกดบนแป้นพิมพ์ ที่จะเป็นแบบ 6 แถว และปุ่มขนาดเต็มทุกปุ่ม โดยแถวตัวอักษรด้านบน จะแยกกับปุ่มฟังก์ชั่นแถวบนสุด ทำให้กดใช้งานได้ง่ายกว่า เมื่อเทียบกับปุ่มกดบนเคสคีย์บอร์ดทั่วๆไปที่จะออกแบบให้ปุ่มอักษรแถวบนรวมอยู่กับปุ่มฟังก์ชั่น และปุ่มจะมีขนาดเล็กลงเหลือเพียงครึ่งเดียว ทำให้กดใช้งานได้ยากกว่าครับ

Product Detail รายละเอียดสินค้า

• แบรนด์ : สินค้าคุณภาพดีจากประเทศจีน
• ชื่อรุ่น : Keyboard Folio Guard White Keyboard
• สำหรับ : iPad Air(2019)/iPad Pro10.5(2017), iPad Pro 11"(2018), Pad9.7(2017)/(2018)/Pro9.7/Air1/2
• วัสดุ : ยาง TPU, หนัง PU Leather + พลาสติกเเข็ง Polycarbonate + พลาสติก ABS + แผ่นอลูมิเนียม
• สีเคส : มี 4 สีให้เลือก สี Black (ดำ), สี Navy (น้ำเงินเข้ม), สี Red (แดงเลือดหมู) และสี RoseGold (โรสโกลด์)
• สีคีย์บอร์ด : White (ขาว)
• สี Font : ตัวอักษร/ตัวเลขเป็นสีเทา และปุ่มกดพิเศษอื่นๆเป็นสีม่วง
• ขนาดและน้ำหนัก :
• รุ่น iPad Air(2019)/iPad Pro10.5(2017) *iPad 3 รุ่นนี้ใช้เคสด้วยกันได้*
  • กว้าง 19.88 ซม. ยาว 25.56 ซม. หนา 2.41 ซม. เคสหนา มม.
  • น้ำหนัก 643 กรัม (รวมคีย์บอร์ด), 453 กรัม (ไม่รวมคีย์บอร์ด)

• รุ่น iPad Pro 11"(2018)
  • กว้าง 20.02 ซม. ยาว 25.20 ซม. หนา 2.15 ซม.เคสหนา 2.56 ซม.
  • น้ำหนัก 548 กรัม (รวมคีย์บอร์ด), 363 กรัม (ไม่รวมคีย์บอร์ด)
• รุ่น iPad9.7(2017)/(2018)/Pro9.7/Air1/2
  • กว้าง 19.26 ซม. ยาว 25.00 ซม. หนา 2.23 ซม. เคสหนา 2.16 ซม.
  • น้ำหนัก 558 กรัม (รวมคีย์บอร์ด), 374 กรัม (ไม่รวมคีย์บอร์ด)

• ตัวเคสเป็นแบบฝาพับหนา 2 ชั้น มีคีย์บอร์ดในตัว (แผงคีย์บอร์ดสามารถแยกออกจากเคสได้)
• เคสรุ่นนี้ออกแบบให้เป็นเคสคีย์บอร์ดเสริมสำหรับ iPad ที่ทั้งช่วยป้องกันรอยขีดข่วนให้กับ iPad และสามารถใช้งานฟังก์ชั่นคีย์บอร์ดได้ในตัวครับ
• ตัวเคสสามารถปรับตั้งได้หลายระดับ ใช้งานได้หลากหลายมุมมอง
• ฝาพับมีแผ่นแม่เหล็กอยู่ด้านในจึงปิดล็อกได้อย่างแน่หนา แต่จะไม่รองรับฟังก์ชั่น Sleep/Wake นะครับ
• มีช่องสำหรับจัดเก็บ Apple Pencil มาให้ด้วย จะเก็บแบบแนวนอนหรือเสียบแนวตั้งก็ได้ และจะมีช่องเก็บปลอก Apple Pencil1 แยกมาให้ด้วย
• สำหรับเคสรุ่น iPad Pro 11" ขอบด้านข้างจะมีการเว้าขอบ ให้รองรับการชาร์จไร้สายกับ Apple Pencil2 ด้วย
• ส่วนของแผงคีย์บอร์ดจะมีขนาดปุ่มที่ใหญ่จึงกดได้ง่ายปกติ โดยนอกจากปุ่มกดตัวอักษรและปุ่มการใช้งานทั่วไปแล้ว ยังมีปุ่มเสริมพิเศษมาให้อีกมากมาย
• รุ่นนี้มีแบตเตอรี่ภายในแบบ lithium polymer ความจุอยู่ที่ 200 mAh ใช้เวลาชาร์จจนเต็มประมาณ 3-4 ชั่วโมง โดยใช้งานยาวๆได้ถึง 100 ชั่วโมง
• ในกล่องจะมีสาย Micro-USB ความยาว 75 ซม. แถมมาให้ด้วย โดยมีกำลังไฟ input อยู่ที่ 5V/1A
• วัสดุหุ้มเคสมี Texture คล้ายผ้าให้สัมผัสที่สบายมือ ส่วนตัวเคสและคีย์บอร์ดผิวสัมผัสเป็นแบบเรียบด้าน จึงช่วยลดการเกิดนิ้วมือได้
• ***การเชื่อมต่อ Bluetooth ในบางครั้งอาจจะขึ้นแจ้งเตือนเชื่อมต่อไม่สำเร็จ ให้แก้ไขใน iPad โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า(setting) >บลูทูธ(Bluetooth) >กดที่สัญลักษณ์รูปตัว i ท้ายชื่อบลูทูธ กดเลิกใช้อุปกรณ์เครื่องนี้(Forget this device) หลังจากนั้นให้ทำการเชื่อมต่อใหม่อีกครั้ง ก็จะสามารถใช้งานได้ปกติครับ
• ***การใช้งานใน iPad หากพบว่าปุ่ม Caps Lock บนคีย์บอร์ด กดแล้วฟังก์ชั่น Uppercase(ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่) ไม่ทำงาน ให้ทำตามขั้นตอนดังนี้
• -ใน iPadOS เวอร์ชั่น 13 ขึ้นไป เข้าไปที่ Setting >General >Keyboard > Hardware Keyboard (แท็ปนี้จะขึ้นต่อเมื่อเชื่อมต่อคีย์บอร์ดแล้ว) แล้วเลื่อนปิดการใช้งาน Switch Languages using Caps Lock ครับ
• -ใน iPadOS เวอร์ชั่นเก่า เข้าไปที่ Setting >General >Keyboard >แล้วเลื่อนปิดการใช้งาน Switch Languages using Caps Lock ครับ
• ***วิธีพับเก็บเคส ควรพับฝั่งหน้าจอ iPad ลงมาทับคีย์บอร์ดทุกครั้ง(เหมือนการปิดหน้าจอ Laptop ทั่วๆไป) ไม่ควรพับโดยเอาคีย์บอร์ดพับไปหาหน้าจอ iPad เพราะคีย์บอร์ดอาจหลุดแล้วกระแทกกับหน้าจอได้
• ***เมื่อพับฝาปิดแล้ว คีย์บอร์ดจะประกบพอดีกับหน้าจอ แอดมินเลยแนะนำให้ใช้ร่วมกับกระจกนิรภัยที่หน้าจอเพื่อป้องกันรอยขีดข่วนครับ
• ***ตัวเคสเองไม่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนที่เกิดจากของมีคมที่เป็นรอยลึกๆได้ครับ
• ***เคสรุ่นนี้ไม่รองรับฟังก์ชั่น Sleep/Wake นะครับ
• ***ตัวนี้ไม่รองรับการใช้งานร่วมกับ Smart Keyboard เเละ Smart Cover นะครับ
• ***ตัวคีย์บอร์ดรองรับการใช้งานทั้งระบบ iOS, Android และ Window สามารถถอดออกจากตัวเคสเพื่อนำไปใช้งานกับอุปกรณ์อื่นๆได้ครับ แต่ฟังก์ชั่นการใช้งานอาจจะไม่ครบเท่าใน iPad ครับ

จุดที่ต่างกันของเคสแต่ละรุ่น

• ดีไซน์ของเคสสำหรับ iPad ทั้ง 3 รุ่น จะเหมือนกันแทบทุกอย่างครับ จะแตกต่างกันที่ขนาดเคส และมีส่วนของช่องเลนส์กล้อง/ช่องเก็บ Apple Pencil ที่ดีไซน์ต่างกันเล็กน้อยเท่านั้นครับ
• ***ตอนนี้สินค้า iPad Keyboard Folio Guard White Keyboard สำหรับรุ่น iPad Air(2019)/iPad Pro10.5(2017) และ iPad9.7(2017)/(2018)/Pro9.7/Air1/2 ดีไซน์ของช่อง Apple Pencil จะมีการปรับแบบใหม่นะครับ ตอนนี้จะเป็นแบบรูปที่ด้านล่างทั้งหมดครับ (ยกเว้นรุ่น iPad Pro 11 (2018))
• และสำหรับรุ่น iPad Pro11 (2018) จะมีการเว้าขอบด้านข้างของเคสให้รองรับการชาร์จไร้สาย Apple Pencil ด้วยครับ

Gallery รูปถ่ายจากสินค้าจริง

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• iPad Keyboard Folio Guard (ตัวเคส) x 1
• แผงคีย์บอร์ดแบบถอดแยกได้ (สีขาว) x 1
• สายชาร์จ Micro-USB ความยาว 75 ซม. (สีดำ) x 1
• แผ่นคู่มือการใช้งาน X 1

การใช้งานร่วมกับกระจกนิรภัย/ฟิล์มกันรอย

แอดมินได้ทำการทดลองเคสรุ่นนี้ร่วมกับฟิล์มกันรอย/กระจกนิรภัยทุกรุ่นในร้านซึ่งหากเป็นฟิล์มกันรอย/กระจกนิรภัยรุ่นอื่น ๆ ที่เราไม่ได้ทดลองเราขอไม่การันตีว่าจะใส่ร่วมกันได้นะครับ และผลการทดลองด้านล่างนี้เป็นเพียงการแนะนำเพื่อให้ลูกค้าได้รับผลประโยชน์สูงสุดในการเลือกเคสคู่กับฟิล์มกันรอย/กระจกนิรภัยครับ แต่การทดลองนี้เป็นการช่วยลูกค้าตัดสินใจจากทางเราไม่ใช่เป็นการการันตีว่าจะใส่ได้นะครับ ข้อมูลตรงนี้เราเชื่อว่าเชื่อถือได้กว่า 90% แต่ก็ไม่ใช่การการันตีจึงไม่มีการเคลมสินค้าหากใส่ด้วยกันไม่ได้ครับ เพราะว่าอาจมีสาเหตุจากการที่ลูกค้าติดกระจกนิรภัย/ฟิล์มกันรอยไม่ตรงหรือทางแบรนด์มีการแก้สเปคแล้วขนาดไม่เท่ากับตอนที่เราทดลอง แต่ยังไงทางเราจะพยายามอัพเดทข้อมูลให้ใหม่ที่สุดเพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้าครับ

สามารถใช้งานร่วมกับฟิล์มกันรอย/กระจกนิรภัยตามรายชื่อด้านล่างนี้

iPad Pro 11"(2018)

• ESR Tempered Glass คลิกที่นี่
• สามารถใช้งานร่วมกับกระจกนิรภัย เเละฟิล์มเเบบไม่เต็มจอได้ครับ
• สามารถใช้งานร่วมกับฟิล์มหลังได้ปกติครับ
• ***หาก iPad ของลูกค้าติดฟิล์มรอบเครื่องอยู่ เมื่อนำมาสวมใส่กับเคสรุ่นนี้ อาจทำให้ฟังก์ชั่นการชาร์จไร้สาย Apple Pencil Gen2 ที่ขอบเครื่องผ่านเคสไม่สามารถใช้งานได้ครับ และกรณีนี้จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกันครับ

iPad 10.2(2019)/Air(2019)/iPad Pro10.5(2017)*iPad 3 รุ่นนี้ใช้เคสด้วยกันได้*

• ESR Tempered Glass คลิกที่นี่
• สามารถใช้งานร่วมกับกระจกนิรภัย เเละฟิล์มเเบบไม่เต็มจอได้ครับ
• สามารถใช้งานร่วมกับฟิล์มหลังได้ปกติครับ

iPad9.7(2017)/(2018)/Pro9.7/Air1/2

• ESR Tempered Glass คลิกที่นี่
• สามารถใช้งานร่วมกับกระจกนิรภัย เเละฟิล์มเเบบไม่เต็มจอได้ครับ
• สามารถใช้งานร่วมกับฟิล์มหลังได้ปกติครับ

ข้อมูลเชิงเทคนิค

• Operating distance/ ระยะในการใช้งาน : 10 เมตร
• Modulation system/ ระบบสัญญาณ : GFSK
• Connection/ การเชื่อมต่อ: Bluetooth 3.0
• iOS Version : รองรับ iOS 10 ขึ้นไป
• Battery type : lithium polymer
• Lithium battery capacity/ ความจุแบตเตอรี่ : 200mAh
• Lithium battery life/ อายุแบตเตอรี่ : 3 ปี
• Operation voltage : 3.0 - 4.2 V
• Operation current : < 2.5 mA
• Stanby current : < 0.3mA
• Sleeping current : > 40uA
• Charging current : >200mA
• Standby time/ ระยะเวลาสแตนบาย : >100 วัน
• Continuous time/ ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง : 100 ชั่วโมง
• Charging port/ พอร์ตชาร์จเข้า : Micro-USB
• Input : DC5V/1A
• Charging time/ ระยะเวลาการชาร์จไฟเข้าจนเต็ม : ประมาณ 3-4 ชั่วโมง
• Key life : 5 ล้านครั้ง
• Oparating temperature/ อุณหภูมิขณะใช้งาน : -10±55 C
• LED Indication / ไฟแสดงสถานะ : มี

วิธีการเชื่อมต่อเพื่อใช้งาน

• เปิดการใช้งาน Bluetooth บน iPad
• เลื่อนปุ่มเปิด (On) บนคีย์บอร์ดเพื่อเปิดการใช้งาน
• กดปุ่ม Connect ที่คีย์บอร์ด ไฟสถานะ Bluetooth ที่มุมขวาบนดวงที่ 2 จะกระพริบสลับไปมาเป็นสีน้ำเงิน
• กดที่ "Bluetooth 3.0 Keyboard" บน iPad
• เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จไฟสถานะ Bluetooth ที่คีย์บอร์ดจะดับลง เริ่มใช้งานได้เลยครับ
• ***หากนำไปใช้งานกับอุปกรณ์ Window/Android ก็ใช้วิธีการเชื่อมต่อแบบเดียวกันครับ

การใช้งานปุ่มกดและคีย์ลัดต่างๆ (เฉพาะการใช้งานใน iPad)

ปุ่มใช้งานต่างๆ

• สำหรับปุ่มกดต่างๆจะมีทั้งหมด 80 ปุ่ม แบ่งเป็น ปุ่มที่มุมขวาและปุ่มแถวแนวนอนอีก 6 แถว โดยจะมีปุ่มสำคัญๆดังนี้
• ที่มุมขวาบนของคีย์บอร์ด จะมี 2 ปุ่ม คือปุ่ม connect สำหรับเชื่อมต่อ และปุ่ม OFF/ON สำหรับเปิดปิดการใช้งาน
• แถวบนสุด (เรียงตามลำดับ) จะมีปุ่ม Esc/Home, ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มค้นหา, ปุ่ม All, ปุ่ม Copy, ปุ่ม Paste, ปุ่มตัดเนื้อหา, ปุ่ม Back, ปุ่ม Play/Pause, ปุ่ม Forward, ปุ่มลดเสียง, ปุ่มเพิ่มเสียง, ปุ่ม Lock/Unlock หน้าจอ ***ปุ่มแถวแรกนี้ เมื่อต้องการใช้งานให้กดคู่กับปุ่ม Fn ด้วยนะครับ
• แถวที่ 2-5 จะเป็นปุ่มตัวอักษร ตัวเลข และปุ่มคำสั่งทั่วไป
• แถวล่างสุด (เรียงตามลำดับ) จะมีปุ่ม Fn(ฟังก์ชั่น), ปุ่ม Control, ปุ่ม Alt/Option, ปุ่ม Command, ปุ่ม Space bar, ปุ่ม Command, ปุ่ม Alt/Option และปุ่มลูกศร 4 ทิศ

ปุ่มคีย์ลัดพิเศษต่างๆ (Shortcut Key)

• กดปุ่ม FN + Space bar พร้อมกัน เพื่อเปลี่ยนภาษา
• กดปุ่ม FN + F12 พร้อมกัน เพื่อล็อคหน้าจอ
• กดปุ่ม FN + Esc พร้อมกัน เพื่อกลับสู่หน้า Home
• กดปุ่ม Fn + Control เพื่อเรียกใช้งานคีย์บอร์ดบนหน้าจอ iPad
• กดปุ่ม Caps Lock เพื่อเปลี่ยนเป็นตัวอักษรพิมพ์ใหญ่
• กดปุ่ม Alt option + ตัวอักษรต่างๆ เพื่อเปลี่ยนตัวอักษรเป็นฟ้อนท์พิเศษ (รองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ)
• กดปุ่ม Command + X เพื่อ Cut, กดปุ่ม Command+V เพื่อ Paste, กดปุ่ม Command+A เพื่อ Select All, กดปุ่ม Command+C เพื่อ Copy
• กดปุ่ม Command + Space Bar เพื่อค้นหา
• กดปุ่ม Command + Option+D เพื่อเรียกการใช้งาน Dock
• กดปุ่ม Command + Tab เพื่อสลับการใช้งานระหว่างแอพต่างๆ

***หากนำคีย์บอร์ดไปใช้งานกับอุปกรณ์ในระบบปฏิบัติการอื่นๆ เช่น Window/Android ก็จะมีฟังก์ชั่นของปุ่มกดและคีย์ลัดต่างๆที่แตกต่างออกไปครับ

ไฟสถานะต่างๆ

ไฟสถานะจะมีทั้งหมด 4 ดวง อยู่ที่มุมขวาบนของแผงคีย์บอร์ด ดังนี้

• ไฟดวงที่ 1.CAPS : ไฟสถานะใช้งานตัวพิมพ์ใหญ่
• ไฟดวงที่ 2.Bluetooth : ไฟสถานะ Bluetooth เป็นสีน้ำเงินกระพริบเมื่อกำลังค้นหาอุปกรณ์บลูทูธ / และดับลงเมื่อทำการเชื่อมต่อสำเร็จ
• ไฟดวงที่ 3.Charge : ไฟสถานะการชาร์จ เป็นสีส้มค้างอยู่เมื่อเสียบชาร์จ และจะดับลงอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม
• ไฟดวงที่ 4.Power : ไฟสถานะการเปิดเครื่อง เป็นสีน้ำเงินเมื่อเปิดเครื่อง ติดประมาณ 7 วินาทีและดับลง

วิธีการสวมใส่/ถอดเคส

• การสวมใส่ตัวเครื่องให้เริ่มใส่จากด้านปุ่มกด เพิ่ม/ลดเสียง ก่อน เเละจึงใส่ด้านอื่นตามลงไปครับ
• การถอดเคส เเนะนำให้เริ่มถอดออกโดยเริ่มจากง้างด้านข้างขอบเคสข้างใดข้างหนึ่ง เเละค่อยๆนำเครื่องออกครับ
• ***วิธีพับเก็บเคส ควรพับฝั่งหน้าจอ iPad ลงมาทับคีย์บอร์ดเสมอทุกครั้ง(เหมือนการปิดหน้าจอ Laptop ทั่วๆไป) ไม่ควรพับโดยเอาคีย์บอร์ดพับไปหาหน้าจอ iPad เพราะคีย์บอร์ดอาจหลุดแล้วกระแทกกับหน้าจอได้ครับ
• ***เมื่อพับฝาปิดแล้ว คีย์บอร์ดจะประกบพอดีกับหน้าจอ แอดมินเลยแนะนำให้ใช้ร่วมกับกระจกนิรภัยที่หน้าจอเพื่อป้องกันรอยขีดข่วนครับ

เงื่อนไขการรับประกัน

• ทางร้าน 425Degree รับประกันสินค้า 6 เดือน เฉพาะส่วนของแผงคีย์บอร์ด ในความเสียหายที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับวัสดุหรืองานประกอบ ซึ่งเป็นผลมาจากการผลิต หรือปัญหาการใช้งานทางเทคนิคต่างๆที่ผิดปกติตั้งแต่ได้รับสินค้า เช่น เชื่อมต่อไม่ได้เลย, ชาร์จแบตไม่เข้าเลย และความเสียหายที่ว่านั้นไม่รวมถึงการกระทำของผู้ใช้งานหรือการใช้งานที่ผิดวิธี โดยลูกค้าจะต้องเก็บกล่องบรรจุภัณฑ์เอาไว้เพื่อใช้ยืนยันในการขอรับประกันครับ
• ส่วนวัสดุที่หุ้มเคส หากเกิดความเสียหายต่างๆที่เป็นผลมาจากการผลิต จะรับประกันส่วนนี้ 7 วันครับ
• ส่วนของอุปกรณ์เสริมที่แถมมาในกล่อง (สาย Micro-USB) จะรับประกัน 7 วัน ในกรณีที่ใช้งานไม่ได้ตั้งแต่ครั้งแรกหลังจากเปิดกล่องครับ

การรับรองมาตรฐานและความปลอดภัย

• ผ่านการรับรองมาตรฐาน FCC, CE, RoHS certifications
• FCC : อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์/คอมพิวเตอร์ทุกชิ้นก่อนที่จะนำไปขายในสหรัฐฯจะต้องได้รับการรับรองจาก FCC (เป็นองค์กรของรัฐบาลสหรัฐฯ) เพื่อให้ตรงกับข้อจำกัดทางกฎหมายเกี่ยวกับการเป็นตัวนำและการกระจายคลื่นวิทยุ
• CE : เป็นเครื่องหมายที่แสดงการรับรองจากผู้ผลิตว่าสินค้ามีคุณสมบัติตามข้อกำหนดด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรป
• RoHS : เป็นมาตรฐานเพื่อสิ่งแวดล้อม กำหนดให้ชิ้นส่วนทุกอย่างที่ประกอบเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ตั้งแต่แผงวงจร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงสายไฟ จะต้องมีสารที่เป็นอันตรายไม่เกินไปกว่าที่กำหนด (ตะกั่ว/ปรอท/แคดเมียม/เฮกซะวาเลนท์/โพลีโบรมิเนต/โพลีโบรมิเนต)

การทำความสะอาดและดูแลรักษาเพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน

• ควรใช้งานในที่อากาศถ่ายเทได้ เพื่อลดการสะสมความร้อนที่ตัวอุปกรณ์ครับ
• หลีกเลี่ยงการใช้งานในที่ที่ความชื้นสูง หรือบริเวณที่เปียกแฉะ
• ก่อนใช้งานทุกครั้งให้ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์
• หมั่นเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ ไม่ควรใช้สารเคมีใดๆครับ เพราะตัวหนังสือสกรีนอาจหลุดลอกได้ (และโปรดระมัดระวังเรื่องความชื้นของผ้าด้วยครับ ผ้าควรจะหมาดมากๆจนเกือบแห้งครับ)