iPad Flip Keyboard Folio ( เคสคีย์บอร์ด iPad Pro 10.5/iPad Air (2019) )

สินค้าหมด
SKU
CA929-C5
In store:
 Central World    
 Mega Bangna    
 Central Westville    
 Emsphere    
 Fashion Island    
 Paragon    
สรุปรายละเอียดสินค้า
  • เคสกันรอย + keyboard แบบไร้สาย สำหรับ iPad ดีไซน์แบบไม่แยกชิ้น เน้นพกพาสะดวก ใช้งานได้ทุกที่
  • ฟังก์ชั่นแบบ 2in1 กันรอยรอบตัวเครื่องก็ได้ หรือจะใช้พิมพ์งาน, ตอบแชท, ตั้งดูหนัง/ดูซีรีส์ก็สะดวก
  • มีไฟ RGB ในตัว สามารถปรับแต่งสีสันได้ตามสไตล์การใช้งานของแต่ละคน สะดวกเวลาใช้งานในที่มืด
  • มีฟังก์ชั่น Colorful brething lamp มาให้ด้วย จะเป็นแสงไฟสลับสีไปมาตามจังหวะการหายใจ โดยสามารถปรับระดับความเร็วในการแสดงผลได้
แชร์
เข้าสู่ระบบเพื่อรับ Degree Points เพิ่มจากการแชร์หน้านี้!

iPad Flip Keyboard Folio

( เคสคีย์บอร์ด iPad Pro 10.5/iPad Air (2019) )

 

425Degree Recommend

iPad Flip Keyboard Folio เคส iPad พร้อมคีย์บอร์ด Bluetooth รุ่นนี้ออกแบบมาสำหรับคนที่เน้นใช้งานคีย์บอร์ดกับ iPad เป็นหลัก แล้วมองหาเคสคีย์บอร์ดรุ่นที่พกพาง่าย สวมใส่แล้วออกไปใช้งานได้ทุกที่ รุ่นนี้ตอบโจทย์มากเพราะออกแบบให้แผงคีย์บอร์ดติดตั้งกับฝาเคสมาเลย แต่พิเศษขึ้นอีกตรงที่เป็นเคสฝาพับที่ปกป้องตัวเครื่องแบบรอบด้านในตัวด้วย และอีกฟังก์ชั่นเด่นคือมีไฟ RGB มาให้ด้วย ปรับแต่งได้เองตามสไตล์การใช้งาน ช่วยเพิ่มสีสันและช่วยให้ใช้งานคีย์บอร์ดในเวลากลางคืนได้สะดวกขึ้นกว่าเดิม รุ่นนี้ 425Degree ขอยกให้เป็นเคสคีย์บอร์ดสำหรับ iPad อีกตัวของร้านที่ดีไซน์ลงตัวที่สุด และมาพร้อมฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์คนที่ใช้ iPad แน่นอนครับ

  • จากที่ 425 ได้ลองใช้งานจริง รุ่นนี้เป็นเคสคีย์บอร์ดสำหรับ iPad ที่ดีไซน์สวยและฟังก์ชั่นครบพร้อมใช้งานมากๆรุ่นนึงเลยครับ ที่ชอบอย่างแรกคือเป็นเคสแบบมีคีย์บอร์ดในตัวแบบไม่แยกชิ้นกัน ข้อดีคือช่วยให้พกพาได้สะดวกกว่า ให้อารมณ์เหมือนพก laptop ขนาดย่อมๆเครื่องนึงเลยครับ ส่วนการใช้งานก็สะดวกแค่เชื่อมต่อ Bluetooth ไว้ก็พร้อมใช้งานได้ทุกที่เลยครับ
  • ส่วนของคีย์บอร์ดจะพิเศษกว่ารุ่นอื่นตรงที่ มีไฟ RGB ในตัว สามารถปรับแต่งสีสันได้ตามสไตล์การใช้งานของแต่ละคน เหมาะกับคนที่จำเป็นต้องใช้งาน iPad ในเวลากลางคืน ทั้งพิมพ์งาน ตอบแชท ฯลฯ ก็สะดวกขึ้นกว่าเดิมแน่นอน นอกจากนี้ฟังก์ชั่นและคีย์ลัดบนปุ่มกดต่างๆก็มีมาให้ครบ สะดวกกว่าพิมพ์ใช้งานบนหน้าจอหลายเท่าเลยครับ
  • แต่อาจจะมีข้อจำกัดสำหรับบางคนที่เคยชินกับเคส iPad ดีไซน์ Slim fit ที่จะมีความบางและเบา เพราะรุ่นนี้จะเพิ่มความหนาจากตัวเครื่อง iPad มาค่อนข้างมาก และมีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นพอสมควรเลยด้วยครับ แต่ถ้าเทียบกับการต้องพกทั้งเคส และคีย์บอร์ดไร้สายแบบแยกชิ้น ตัวนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์กว่าครับ และอีกข้อจำกัดนึงคือองศาในการปรับตั้งของเคสที่ปรับได้ระดับเดียว จึงเหมาะกับวางตั้งเพื่อใช้งานพิมพ์คีย์บอร์ด หรือดูหนัง/ดูซีรีส์เป็นหลักครับ

***ภาพการใช้งานจะเป็นของรุ่น iPad Pro 11 (2018) นะครับ ซึ่งดีไซน์โดยรวมจะเหมือนกัน ต่างกันแค่ขนาดและบางฟังก์ชั่นการใช้งาน ดูที่หัวข้อ "ตารางเปรียบเทียบความแตกต่าง" และหัวข้อ "ดีไซน์ที่ต่างกัน" ด้านล่างได้เลยครับ


เปรียบเทียบปุ่มกดของเคสคีย์บอร์ดจาก 425Degree กับแบรนด์อื่นๆ

  • เคสคีย์บอร์ดเกือบทุกรุ่นที่ 425Degree คัดมา จะมีข้อดีในเรื่องปุ่มกดบนแป้นพิมพ์ ที่จะเป็นแบบ 6 แถว และปุ่มขนาดเต็มทุกปุ่ม โดยแถวตัวอักษรด้านบน จะแยกกับปุ่มฟังก์ชั่นแถวบนสุด ทำให้กดใช้งานได้ง่ายกว่า เมื่อเทียบกับปุ่มกดบนเคสคีย์บอร์ดทั่วๆไปที่จะออกแบบให้ปุ่มอักษรแถวบนรวมอยู่กับปุ่มฟังก์ชั่น และปุ่มจะมีขนาดเล็กลงเหลือเพียงครึ่งเดียว ทำให้กดใช้งานได้ยากกว่าครับ
  • ***ภาพด้านล่างเป็นตัวอย่างปุ่มกดแบบ 6 แถวบนเคสคีย์บอร์ดของ 425degree เทียบกับปุ่มกดแบบ 5 แถวของเคสคีย์บอร์ดแบรนด์อื่นๆครับ


Highlight

  • ที่คีย์บอร์ดจะมีไฟ RGB ในตัวสามารถปรับเปลี่ยนสีสันได้มากถึง 7 แบบ โดยจะเป็นแสงไฟแบบ Multi-color ใช้งานสะดวกเวลากลางคืน แถมปรับความสว่างได้ถึง 3 ระดับอีกด้วย
  • และมีฟังก์ชั่น Colorful brething lamp มาให้ด้วย จะเป็นแสงไฟวูบๆสลับสีไปมาตามจังหวะการหายใจ โดยสามารถปรับระดับความเร็วในการแสดงผลได้ด้วย


Product Detail รายละเอียดสินค้า

  • แบรนด์ : สินค้าคุณภาพดีจากประเทศจีน
  • ชื่อรุ่น : Flip Keyboard Folio
  • สำหรับ : iPad Pro 10.5/iPad Air (2019)
  • วัสดุ : ยาง TPU, ผ้าไมโครไฟเบอร์, หนัง PU Leather + พลาสติกเเข็ง Polycarbonate + พลาสติก ABS
  • สีเคส : มี 3 สีให้เลือก สี Black (ดำ), สี Navy (น้ำเงินเข้ม) และสี RoseGold (โรสโกลด์)
  • สีคีย์บอร์ด+ฟ้อนท์ : เคสสี Black/Navy : คีย์บอร์ดจะเป็นสีดำ+อักษรเป็นสีขาว, เคสสี Rose Gold : คีย์บอร์ดจะเป็นสีขาว+อักษรสีเทา
  • ขนาดและน้ำหนัก :
  • รุ่น iPad Pro 10.5/iPad Air (2019)
    • กว้าง 19.01 ซม. ยาว 26.20 ซม. หนา 2.23 ซม.
    • น้ำหนัก 541 กรัม (รวมคีย์บอร์ด)
  • ตัวเคสเป็นแบบฝาพับหนา 2 ชั้น มีคีย์บอร์ดในตัว (แผงคีย์บอร์ดไม่สามารถแยกออกจากเคสได้)
  • เคสรุ่นนี้ออกแบบให้เป็นเคสคีย์บอร์ดเสริมสำหรับ iPad ที่ทั้งช่วยป้องกันรอยขีดข่วนให้กับ iPad แบบ 360 องศาและมีฟังก์ชั่นคีย์บอร์ดในตัวครับ
  • เชื่อมต่อง่ายด้วยสัญญาณ Bluetooth ไม่ต้องเสียบสายและไม่ต้องใส่รหัสผ่านให้ยุ่งยาก
  • ตัวเคสสามารถปรับตั้งได้ระดับเดียว โดยดึงส่วนสำหรับค้ำที่ด้านหลังของเคสออกแล้ววาง
  • วัสดุเคสทำจากยาง TPU สวมใส่กับเครื่องได้อย่างกระชับ เพิ่มลวดลายของเคสด้านในเป็นแบบ honey comb จึงช่วยให้เคสซึมซับแรงกระแทกได้เล็กน้อย
  • ฝาพับมีแผ่นแม่เหล็กอยู่ด้านในจึงปิดล็อกได้อย่างแน่นหนา และรองรับฟังก์ชั่น Sleep/Wake นะครับ
  • มีห่วงผ้าสำหรับจัดเก็บ Apple Pencil มาให้ด้วย ล็อกได้อย่างแน่นหนาไม่ลื่นหลุดออกง่าย
  • ส่วนของแผงคีย์บอร์ดจะมีขนาดปุ่มที่ใหญ่จึงกดได้ง่ายปกติ โดยนอกจากปุ่มกดตัวอักษรและปุ่มการใช้งานทั่วไปแล้ว ยังมีปุ่มเสริมพิเศษมาให้อีกมากมาย
  • ในกล่องจะมีสาย Type-C ความยาว 80 ซม. แถมมาให้ด้วย
  • วัสดุหุ้มเคสมี Texture คล้ายผ้าให้สัมผัสที่สบายมือ ส่วนตัวเคสและคีย์บอร์ดผิวสัมผัสเป็นแบบเรียบด้าน จึงช่วยลดการเกิดนิ้วมือได้
  • ***การเชื่อมต่อ Bluetooth ในบางครั้งอาจจะขึ้นแจ้งเตือนเชื่อมต่อไม่สำเร็จ ให้แก้ไขใน iPad โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า(setting) >บลูทูธ(Bluetooth) >กดที่สัญลักษณ์รูปตัว i ท้ายชื่อบลูทูธ กดเลิกใช้อุปกรณ์เครื่องนี้(Forget this device) หลังจากนั้นให้ทำการเชื่อมต่อใหม่อีกครั้ง ก็จะสามารถใช้งานได้ปกติครับ
  • ***การใช้งานใน iPad หากพบว่าปุ่ม Caps Lock บนคีย์บอร์ด กดแล้วฟังก์ชั่น Uppercase(ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่) ไม่ทำงาน ให้ทำตามขั้นตอนดังนี้
  • -ใน iPadOS เวอร์ชั่น 13 ขึ้นไป เข้าไปที่ Setting >General >Keyboard > Hardware Keyboard (แท็ปนี้จะขึ้นต่อเมื่อเชื่อมต่อคีย์บอร์ดแล้ว) แล้วเลื่อนปิดการใช้งาน Switch Languages using Caps Lock ครับ
  • -ใน iPadOS เวอร์ชั่นเก่า เข้าไปที่ Setting >General >Keyboard >แล้วเลื่อนปิดการใช้งาน Switch Languages using Caps Lock ครับ
  • ***เมื่อพับฝาปิดแล้ว คีย์บอร์ดจะประกบพอดีกับหน้าจอ แอดมินเลยแนะนำให้ใช้ร่วมกับกระจกนิรภัยที่หน้าจอเพื่อป้องกันรอยขีดข่วนครับ
  • ***ขอบเคสด้านในบางจุดจะค่อนข้างบางมาก แนะนำให้ระมัดระวังด้วยนะครับ เพราะหากชำรุดจากการใช้งานทั่วไป จะไม่สามารถเคลมได้ครับ
  • ***ตัวเคสเองไม่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนที่เกิดจากของมีคมที่เป็นรอยลึกๆได้ครับ
  • ***ตัวนี้ไม่รองรับการใช้งานร่วมกับ Smart Keyboard เเละ Smart Cover นะครับ

 

 

 


ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างของเคสสำหรับ iPad ทั้ง 5 รุ่น

  • สำหรับ iPad Flip Keyboard Folio รุ่นนี้จะมีสำหรับ iPad ทั้งหมด 6 รุ่น ได้แก่
  • -iPad mini 5 (2019)
  • -iPad 9.7 (2017)(2018)/iPad 9.7/iPad Air 1/2
  • -iPad Air(2019)/iPad Pro10.5(2017)
  • -iPad Pro 11 (2018)
  • -iPad Pro 12.9 (2018)
  • -iPad 10.2 (2019)
  • ซึ่งจะมีฟังก์ชั่นการทำงานที่ต่างกันหลายจุด ตามตารางด้านล่างครับ


ดีไซน์ที่ต่างกันของเคสแต่ละรุ่น

  • ซึ่งทุกรุ่นจะมีดีไซน์ที่เหมือนกัน ต่างกันที่ขนาดของเคส และดีไซน์บางจุด เช่น ช่องกล้อง, ช่องพอร์ตชาร์จของเคส และไฟสถานะ ตามรูปด้านล่างครับ


Gallery รูปถ่ายจากสินค้าจริง


อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • iPad Flip Keyboard Folio (ตัวเคส+คีย์บอร์ด) x 1
  • ***เคสสี Black/Navy : คีย์บอร์ดจะเป็นสีดำ, เคสสี Rose Gold : คีย์บอร์ดจะเป็นสีขาว
  • สายชาร์จ Type-C ความยาว 80 ซม. (สีดำ) x 1
  • แผ่นคู่มือการใช้งาน X 1

การใช้งานร่วมกับกระจกนิรภัย/ฟิล์มกันรอย

แอดมินได้ทำการทดลองเคสรุ่นนี้ร่วมกับฟิล์มกันรอย/กระจกนิรภัยทุกรุ่นในร้านซึ่งหากเป็นฟิล์มกันรอย/กระจกนิรภัยรุ่นอื่น ๆ ที่เราไม่ได้ทดลองเราขอไม่การันตีว่าจะใส่ร่วมกันได้นะครับ และผลการทดลองด้านล่างนี้เป็นเพียงการแนะนำเพื่อให้ลูกค้าได้รับผลประโยชน์สูงสุดในการเลือกเคสคู่กับฟิล์มกันรอย/กระจกนิรภัยครับ แต่การทดลองนี้เป็นการช่วยลูกค้าตัดสินใจจากทางเราไม่ใช่เป็นการการันตีว่าจะใส่ได้นะครับ ข้อมูลตรงนี้เราเชื่อว่าเชื่อถือได้กว่า 90% แต่ก็ไม่ใช่การการันตีจึงไม่มีการเคลมสินค้าหากใส่ด้วยกันไม่ได้ครับ เพราะว่าอาจมีสาเหตุจากการที่ลูกค้าติดกระจกนิรภัย/ฟิล์มกันรอยไม่ตรงหรือทางแบรนด์มีการแก้สเปคแล้วขนาดไม่เท่ากับตอนที่เราทดลอง แต่ยังไงทางเราจะพยายามอัพเดทข้อมูลให้ใหม่ที่สุดเพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้าครับ

สามารถใช้งานร่วมกับฟิล์มกันรอย/กระจกนิรภัยตามรายชื่อด้านล่างนี้

  • ESR Tempered Glass คลิกที่นี่
  • สามารถใช้งานร่วมกับกระจกนิรภัย เเละฟิล์มเเบบไม่เต็มจอได้ครับ
  • สามารถใช้งานร่วมกับฟิล์มหลังได้ปกติครับ

ข้อมูลเชิงเทคนิค

IPad 10.5/iPad Air (2019)
  • Operating distance/ ระยะในการใช้งาน : 10 เมตร
  • Modulation system/ ระบบสัญญาณ : GFSK
  • Connection/ การเชื่อมต่อ: Bluetooth 3.0
  • Battery type : lithium polymer
  • Lithium battery capacity/ ความจุแบตเตอรี่ : 500mAh
  • Lithium battery life/ อายุแบตเตอรี่ : 3 ปี
  • Operation voltage : 3.3 - 4.2 V
  • Working Current : < 30~100 mA
  • Charging Current : 250 mA
  • Standby time/ ระยะเวลาสแตนบาย : >180 วัน
  • Continuous working time/ ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง : 400 ชั่วโมง (เมื่อปิดการใช้งานไฟ backlight), 2.5 ชั่วโมง (เมื่อใช้งานไฟ backlight)
  • Charging port/ พอร์ตชาร์จเข้า : Type-C
  • Input : DC5V/9V
  • Charging time/ ระยะเวลาการชาร์จไฟเข้าจนเต็ม : ประมาณ 3 ชั่วโมง
  • Key life : 5 ล้านครั้ง
  • Oparating temperature/ อุณหภูมิขณะใช้งาน : -10±55 C
  • RGB Light : 7 สี / ปรับเปลี่ยนได้
  • LED Indication / ไฟแสดงสถานะ : มี

วิธีการเชื่อมต่อเพื่อใช้งาน

  • เปิดการใช้งาน Bluetooth บน iPad
  • ที่คีย์บอร์ด เลื่อนปุ่มเปิด On/Offf ที่ด้านข้างเพื่อเปิดการใช้งาน
  • จากนั้นกดปุ่ม fn + C เพื่อเปิดโหมดเชื่อมต่อ ไฟสถานะ Bluetooth จะกระพริบสลับไปมาเป็นสีน้ำเงิน
  • ที่ iPad เข้าไปที่ตั้งค่า > Bluetooth > กดเปิด > กดเลือกที่ "ipad.keyboard"
  • หน้าจอ iPad จะเด้งขึ้นมาให้กด Pair เพื่อเชื่อมต่อ
  • เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จไฟสถานะ Bluetooth ที่คีย์บอร์ดจะดับลง เริ่มใช้งานได้เลยครับ

การใช้งานปุ่มกดและคีย์ลัดต่างๆ

ปุ่มใช้งานต่างๆ

  • สำหรับปุ่มกดต่างๆจะมีทั้งหมด 78 ปุ่ม เป็นแถวแนวนอน 6 แถว โดยจะมีปุ่มสำคัญๆดังนี้
  • แถวบนสุด (เรียงตามลำดับ) จะมีปุ่ม Home ปุ่มลดแสงหน้าจอ, ปุ่มเพิ่มแสงหน้าจอ, ปุ่มเรียกคีย์บอร์ด, ปุ่มค้นหา, ปุ่ม Copy, ปุ่ม Paste, ปุ่ม Back, ปุ่ม Play/Pause, ปุ่ม Forward, ปุ่ม Mute(ปิดเสียง), ปุ่มลดเสียง, ปุ่มเพิ่มเสียง, ปุ่ม Lock/Unlock หน้าจอ
  • แถวที่ 2-5 จะเป็นปุ่มตัวอักษร ตัวเลข และปุ่มคำสั่งทั่วไป
  • แถวล่างสุด (เรียงตามลำดับ) จะมีปุ่ม fn, ปุ่ม Control, ปุ่ม Option, ปุ่ม Command, ปุ่ม Space bar, ปุ่มปรับระดับไฟ RGB, ปุ่มเปลี่ยนสีไฟ RGB, ปุ่มทิศทางต่างๆ (เป็นปุ่ม Page Up, ปุ่ม Page Down, ปุ่ม Home, ปุ่ม end ในตัวด้วย)

ปุ่มคีย์ลัดพิเศษต่างๆ (Shortcut Key)

  • กดปุ่ม Home 2 ครั้ง เพื่อเรียกหน้า Multi-Task
  • กดปุ่ม Home ค้าง เพื่อเรียกใช้งาน Siri
  • กดปุ่ม fn และปุ่ม Space bar พร้อมกันเพื่อเปลี่ยนภาษา
  • กดปุ่มรูปหลอดไฟ เพื่อปรับระดับความสว่างของไฟ RGB สามารถปรับได้มากถึง 3 ระดับ และสามารถกดปิดได้
  • กดปุ่ม RGB เพื่อเปลี่ยนโทนสีของแสง RGB โดยจะมีทั้งหมด 7 แบบ
  • กดปุ่ม Alt option เพื่อเปลี่ยนตัวอักษรเป็นฟ้อนท์พิเศษ (รองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ)
  • กดปุ่ม Command + X เพื่อ cut, กดปุ่ม Command + V เพื่อ Paste, กดปุ่ม Command + A เพื่อ Select All, กดปุ่ม Command + C เพื่อ Copy, กดปุ่ม Command + Z เพื่อย้อนกลับ
  • กดปุ่ม Command + Space Bar เพื่อค้นหา
  • กดปุ่ม Command + Option + D เพื่อเรียกการใช้งาน Dock
  • กดปุ่ม Command + Tab เพื่อสลับการใช้งานระหว่างแอพต่างๆ
  • กดปุ่ม fn+ปุ่ม Lock เพื่อล็อกหน้าจอ
  • กดปุ่ม fn + Q เพื่อเปิดโหมด Breathing lamp เป็นไฟสลับสีไปมาที่ขอบด้านข้างทั้ง 2 ข้าง
  • กดปุ่ม fn + W เพื่อปรับระดับความช้า-เร็ว ของไฟ Breathing lamp สามารถปรับได้ 3 ระดับ
  • กดปุ่ม fn + PgUP เพื่อขึ้นด้านบนสุดของหน้าเพจ
  • กดปุ่ม fn + PgDN เพื่อลงด้านล่างนสุดของหน้าเพจ
  • กดปุ่ม fn + ลูกศรซ้าย กลับสู่หน้า Home
  • กดปุ่ม fn + ลูกศรขวา เพื่อกดไปหน้าถัดไป

ไฟสถานะต่างๆ

ไฟสถานะจะมีทั้งหมด 4 ดวง อยู่ที่มุมขวาล่างของแผงคีย์บอร์ด ดังนี้

  • ไฟดวงที่ 1.Caps Lock : ไฟสีขาว แสดงสถานะฟังก์ชั่น Caps Lock
  • ไฟดวงที่ 2.ชาร์จแบตเต็ม : ไฟสีเขียว แสดงสถานะการชาร์จเต็ม
  • ไฟดวงที่ 3.กำลังชาร์จแบต : ไฟสีแดง แสดงสถานะกำลังชาร์จ
  • ไฟดวงที่ 4.การเชื่อมต่อ Bluetooth : ไฟสถานะ Bluetooth เป็นสีน้ำเงินกระพริบเมื่อกำลังค้นหาอุปกรณ์ / และดับลงเมื่อทำการเชื่อมต่อสำเร็จ

วิธีการสวมใส่/ถอดเคส

  • การสวมใส่ตัวเครื่องให้เริ่มใส่จากด้านปุ่มกด เพิ่ม/ลดเสียง ก่อน เเละจึงใส่ด้านอื่นตามลงไปครับ
  • การถอดเคส เเนะนำให้เริ่มถอดออกโดยเริ่มจากง้างด้านข้างขอบเคสข้างใดข้างหนึ่ง เเละค่อยๆนำเครื่องออกครับ
  • ***วิธีพับเก็บเคส สามารถพับฝั่งที่เป็นฝาพับที่มีคีย์บอร์ดมาประกบเข้ากับฝั่งที่มีตัวเครื่องได้เลย โดยปุ่มกดจะไม่สัมผัสกับหน้าจอของ iPad โดยตรงครับ จากที่ 425 ได้ทดลองสวมใส่จะเหลือช่องว่างระหว่างส่วนฝาและหน้าจอพอสมควรเลยครับ แต่ทั้งนี้ก็ควรพับอย่างระมัดระวังไม่ให้เกิดกระแทก รวมถึงติดฟิล์มกันรอยหรือกระจกนิรภัยเพื่อป้องกันการเสียดสีไว้ก่อนอีกชั้นนึงครับ

เงื่อนไขการรับประกัน

  • ทางร้าน 425Degree รับประกันสินค้า 1 ปี เฉพาะส่วนของแผงคีย์บอร์ด ในความเสียหายที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับวัสดุหรืองานประกอบ ซึ่งเป็นผลมาจากการผลิต หรือปัญหาการใช้งานทางเทคนิคต่างๆที่ผิดปกติตั้งแต่ได้รับสินค้า เช่น เชื่อมต่อไม่ได้เลย, ชาร์จแบตไม่เข้าเลย และความเสียหายที่ว่านั้นไม่รวมถึงการกระทำของผู้ใช้งานหรือการใช้งานที่ผิดวิธี โดยลูกค้าจะต้องเก็บกล่องบรรจุภัณฑ์เอาไว้เพื่อใช้ยืนยันในการขอรับประกันครับ
  • ส่วนวัสดุที่หุ้มเคส หากเกิดความเสียหายต่างๆที่เป็นผลมาจากการผลิต จะรับประกันส่วนนี้ 7 วันครับ
  • ส่วนของอุปกรณ์เสริมที่แถมมาในกล่อง (สาย Micro-USB) จะรับประกัน 7 วัน ในกรณีที่ใช้งานไม่ได้ตั้งแต่ครั้งแรกหลังจากเปิดกล่องครับ
  • ***ขอบเคสด้านในบางจุดจะค่อนข้างบางมาก แนะนำให้ระมัดระวังด้วยนะครับ เพราะหากชำรุดจากการใช้งานทั่วไป จะไม่สามารถเคลมได้ครับ

การรับรองมาตรฐานและความปลอดภัย

  • ผ่านการรับรองมาตรฐาน FCC, CE, RoHS certifications
  • FCC : อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์/คอมพิวเตอร์ทุกชิ้นก่อนที่จะนำไปขายในสหรัฐฯจะต้องได้รับการรับรองจาก FCC (เป็นองค์กรของรัฐบาลสหรัฐฯ) เพื่อให้ตรงกับข้อจำกัดทางกฎหมายเกี่ยวกับการเป็นตัวนำและการกระจายคลื่นวิทยุ
  • CE : เป็นเครื่องหมายที่แสดงการรับรองจากผู้ผลิตว่าสินค้ามีคุณสมบัติตามข้อกำหนดด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรป

การทำความสะอาดและดูแลรักษาเพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน

  • ควรใช้งานในที่อากาศถ่ายเทได้ เพื่อลดการสะสมความร้อนที่ตัวอุปกรณ์ครับ
  • หลีกเลี่ยงการใช้งานในที่ที่ความชื้นสูง หรือบริเวณที่เปียกแฉะ
  • ก่อนใช้งานทุกครั้งให้ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์
  • หมั่นเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ ไม่ควรใช้สารเคมีใดๆครับ เพราะตัวหนังสือสกรีนอาจหลุดลอกได้ (และโปรดระมัดระวังเรื่องความชื้นของผ้าด้วยครับ ผ้าควรจะหมาดมากๆจนเกือบแห้งครับ)
ข้อมูลเพิ่มเติม
Fashion Island STOREไม่
SKUCA929-C5
CTW STOCKไม่
MB STOCKไม่
ES STOCKไม่
WV STOCKไม่
Paragon STOREไม่
0
เรทติ้ง:
0% of 100
Write Your Own Review
เฉพาะสมาชิกเท่านั้นที่สามารถเขียนรีวิวได้ กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก
คำถามลูกค้า
ไม่มีคำถาม
โปรดทราบ, เฉพาะผู้ใช้ที่เข้าสู่ระบบเท่านั้นที่สามารถส่งคำถามได้