Case Keyboard iPad Wireless Magnetic Folio Case with Keyboard iPad Touchpad TH/ENG เคส iPad Air 5 (2022) / iPad Air 4 (2020) / iPad Pro 11 (2022 / 2021 / 2020 / 2018) - Pastel Pink

Highlight

***รูปตัวอย่างแป้นพิมพ์ และลักษณะตัวอักษร TH/ENG ของตัวเคส จะต่างกันแค่ตัวสีของคีย์บอร์ดครับ 

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับสินค้า

อยากรู้อะไรเกี่ยวกับ Case Keyboard iPad Wireless Magnetic Folio Case with Keyboard iPad Touchpad TH/ENG | 425° มีคำตอบ

• แบรนด์ : Case Keyboard iPad Wireless จากประเทศจีน
• รุ่น : Magnetic Folio Case with Keyboard iPad Touchpad TH/ENG
• วัสดุตัวเคสคีย์บอร์ด : หนัง PU Leather + พลาสติกเเข็ง PC + แม่เหล็ก 
• วัสดุตัวเคสภายใน : ขอบยาง TPU , แผ่นหลังพลาสติกเเข็ง PC
• วัสดุตัวคีย์บอร์ด : พลาสติก ABS + แผ่นอลูมิเนียม
• สี : Pastel Pink
• ขนาด : 20.2 cm x 25.3 cm x 2.4 cm
• น้ำหนัก : ตัวเคส 459 g / เฉพาะตัวคีย์บอร์ด 215 g
• รุ่นที่ใช้ร่วมกันได้ : iPad Pro 11 ( 2022/2021/2020/2018 ) / iPad Air 4 / 5 ( 2022/2020 )

รายละเอียดดีไซน์ของสินค้า

• ตัวเคสคีย์บอร์ดแบบหนา 2 ชั้น ออกแบบให้เป็นเคสคีย์บอร์ดเสริมสำหรับ iPad ที่ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนให้กับ iPad และสามารถใช้งานฟังก์ชันคีย์บอร์ดได้ในตัว
• ตัวเคสหุ้มวัสดุหนังสัมผัสนุ่ม ทั้งภายนอกและภายในให้สัมผัสที่สบายมือ ลดการเกิดรอยต่อตัวอุปกรณ์ได้ดี
• ตัวเคสสามารถปรับตั้งใช้งานได้ทั้งแบบ แนวตั้งและแนวนอน และยังสามารถถอดออกจากตัวเคสคีย์บอร์ด เพื่อการใช้งานเฉพาะตัวเคส iPad ได้อีกด้วย
• ตัวเคสคีย์บอร์ด มีฝาพับวัสดุแม่เหล็กบริเวณขอบตัวเคสปิดล็อคได้อย่างแน่นหนา มั่นใจในการพกพามากยิ่งขึ้น
• ตัวเคสภายในแบบสวมหลังโทนสีเดียวกับตัวเคสคีย์บอร์ด แบบใส โชว์สีสันตัวเครื่องได้ดี
• ตัวเคสมีกรอบเลนส์กล้องถอดเปลี่ยนได้ที่รองรับทั้ง iPad Pro 11 ( 2018 ) และ ( 2022/2020/2021 ) ช่วยกันรอบเลนส์กล้องได้อีกขั้น ถอดใส่ง่าย  
• ตัวรางปากกาบริเวณขอบด้านข้างจะมีการเว้าขอบ ให้รองรับการชาร์จไร้สายกับ Apple Pencil Gen2 ได้อีกด้วย
• คีย์บอร์ดดีไซน์เรียบ น่ารัก โดดเด่นด้วยสีสันหลากหลายสไตล์ น่าใช้งาน
• ตัวคีย์บอร์ดมีขนาดที่พอดีต่อการใช้งาน ไม่ใหญ่เทอะทะ ตัวปุ่มเป็นแบบทรงกลม ความสูงกำลังพอดี ตัวหนังสือทั้งอักษร TH และ ENG บนตัวปุ่ม มีความชัดเจน มองเห็นได้ง่ายต่อการใช้งาน
• รุ่นนี้มีแบตเตอรี่ภายในแบบ Lithium polymer ความจุอยู่ที่ 220 mAh ใช้เวลาชาร์จจนเต็มประมาณ 2-3 ชั่วโมง โดยใช้งานนานถึง 100 ชั่วโมง
• คีย์บอร์ดผิวสัมผัสเป็นแบบเรียบด้าน จับสบายมือ ช่วยลดการเกิดนิ้วมือได้ดี
• ตัว TouchPad ใช้งานง่าย ผิวสัมผัสแป้นเรียบด้าน ลื่นไหล มีความหน่วงน้อยกว่าของจีนทั่วๆไป
• การกดใช้งานขณะพิมพ์ ตัวปุ่มตอบสนองไว มีความหน่วงน้อย การกดฟังก์ชันการใช้งานตอบสนองได้อย่างทันท่วงที ไม่ขัดใจเหมือนคีย์บอร์ดจีนทั่วๆไป
• บริเวณมุมทั้งสี่มุมของตัวคีย์บอร์ด มีชิ้นส่วนพลาสติก สำหรับรับกับตัว iPad เมื่อพับปิดตัวเคส ช่วยให้หน้าจอ iPad ไม่สัมผัสกับแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดโดยตรง ลดการเกิดรอยบริเวณหน้าจอ
• ตัวคีย์บอร์ดสามารถแยกออกจากตัวเคส ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นได้ไกลถึง 10 เมตร
• รองรับการใช้งานร่วมกับ Device อื่นๆ ทั้ง iOS / Windows / Android 
• ไฟแสดงสถานะ 3 จุดมุมล่างขวาของตัวคีย์บอร์ด ชัดเจนสวยงาม
• ชาร์จไฟตัวคีย์บอร์ดผ่านสาย USB-A to USB Type-C
• ***ตัวเคสสวมหลังภายใน บริเวณแผ่นหลังต้องลอกแผ่นพลาสติกหมายเลข 1 และ 2 ออกก่อนใช้งานครับ
• ***การเชื่อมต่อ Bluetooth ในบางครั้งอาจจะขึ้นแจ้งเตือนเชื่อมต่อไม่สำเร็จ ให้แก้ไขใน iPad โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า (setting) > บลูทูธ (Bluetooth) > กดที่สัญลักษณ์รูปตัว i ท้ายคำว่าชื่อบลูทูธ กดเลิกใช้อุปกรณ์เครื่องนี้ (Forget this device) หลังจากนั้นให้ทำการเชื่อมต่อใหม่อีกครั้ง ก็จะสามารถใช้งานได้ปกติครับ
• ***วิธีพับเก็บเคส ควรพับฝั่งหน้าจอ iPad ลงมาทับคีย์บอร์ดทุกครั้ง (เหมือนการปิดหน้าจอ Laptop ทั่วๆไป) ไม่ควรพับโดยเอาคีย์บอร์ดพับไปหาหน้าจอ iPad เพราะคีย์บอร์ดอาจหลุดแล้วกระแทกกับหน้าจอได้
• ***เมื่อพับฝาปิดแล้ว คีย์บอร์ดจะประกบพอดีกับหน้าจอ แอดมินเลยแนะนำให้ใช้ร่วมกับกระจกนิรภัยที่หน้าจอเพื่อป้องกันรอยขีดข่วนครับ
• ***ตัวเคสเองไม่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนที่เกิดจากของมีคมที่เป็นรอยลึกๆได้ครับ
• ***เคสรุ่นนี้ไม่รองรับฟังก์ชัน Sleep/Wake
• ***ตัวนี้ไม่รองรับการใช้งานร่วมกับ Smart Keyboard เเละ Smart Cover นะครับ
• ***ตัวคีย์บอร์ดรองรับการใช้งานทั้งระบบ iOS, Android และ Window สามารถถอดออกจากตัวเคสเพื่อนำไปใช้งานกับอุปกรณ์อื่นๆได้ครับ แต่ฟังก์ชันการใช้งานอาจจะไม่ครบเท่าใน iPad ครับ

ไฟสถานะ

• สัญลักษณ์ Wi-Fi : จะเป็นไฟสถานะการค้นหาและจับคู่กับอุปกรณ์ จะกระพริบเมื่ออยู่ในโหมดจับคู่ และจะดับลงเมื่อจับคู่เสร็จสมบูรณ์
• สัญลักษณ์ A ในกรอบสี่เหลื่ยม : เมื่อไฟติด จะเป็นไฟแสดงสถานะการเปิด Caps Lock 
• สัญลักษณ์ สายฟ้า : จะกระพริบเมื่อ Battery เหลือน้อย / ติดค้างตอนกำลังชาร์จ / ดับลงเมื่อชาร์จเสร็จ

ข้อมูลเชิงเทคนิค

• Operating distance : ระยะในการใช้งาน : 10 เมตร
• Modulation system : ระบบสัญญาณ : GFSK
• Connection : การเชื่อมต่อ: Bluetooth 3.0
• iOS Version : รองรับ iOS 13 ขึ้นไป
• Battery type : Lithium polymer
• Lithium battery capacity : ความจุแบตเตอรี่ : 220mA
• Lithium battery life : อายุแบตเตอรี่ : 3 ปี
• Working Current: <8mA
• Operation voltage : 3.0 - 4.2 V
• Operation current : < 2.5 mA
• Stanby current : < 0.3mA
• Sleeping current : > 40uA
• Charging current : 100mA / 200mA
• Standby time : ระยะเวลาสแตนบาย : >100 วัน
• Continuous time : ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง : 100 ชั่วโมง
• Charging port: พอร์ตชาร์จเข้า : USB-A to USB Type-C
• Input : DC5V/1A
• Charging time : ระยะเวลาการชาร์จไฟเข้าจนเต็ม : ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
• Oparating temperature : อุณหภูมิขณะใช้งาน : -10°C ± 55°C
• LED Indication : ไฟแสดงสถานะ : มี
• Key Life : กดใช้งานได้ 5 ล้านครั้ง

การเชื่อมต่อ + การใช้งานฟังก์ชันเบื้องต้น , TouchPad ( iPad )

• เริ่มการเชื่อมต่อโดยการเปิดสวิตช์ด้านข้างตัวเครื่องเป็น On แล้วเข้าไปที่หน้า Bluetooth ของตัว iPad จากนั้นกด Fn + C ( Connect ) ที่ตัวคียบอร์ด จะขึ้นชื่อ Bluetooth Keyboard จากนั้นก็กดเชื่อมต่อได้เลยครับ
• รองรับการใช้งานได้ 3 ระบบ Android / Win / iOS กดผ่านปุ่ม Fn + ปุ่มชื่อของระบบนั้นๆ เพื่อสลับ Layout การใช้งาน ( เมื่อเปลี่ยนระบบไฟรูปสัญญาณ Wifi สีน้ำเงินจะกระพริบ 1 ครั้ง )
• กดใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ของคีย์บอร์ดผ่านปุ่ม Fn ยกเว้นระบบ iOS จะไม่ต้องกดผ่านปุ่ม Fn
• เมื่อต้องการปิดการทำงาน Touch Pad ชั่วคราวสามารถกดได้ผ่าน Fn + Spacebar 
• การใช้งานใน iPad หากพบว่าปุ่ม Caps Lock บนคีย์บอร์ด กดแล้วฟังก์ชัน Uppercase (ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่) ไม่ทำงาน ให้ทำตามขั้นตอนดังนี้
• ใน iPadOS เวอร์ชั่น 13 ขึ้นไป เข้าไปที่ Setting >General >Keyboard > Hardware Keyboard (แท็ปนี้จะขึ้นต่อเมื่อเชื่อมต่อคีย์บอร์ดแล้ว) แล้วเลื่อนปิดการใช้งาน Switch Languages using Caps Lock ครับ
• ใน iPadOS เวอร์ชั่นเก่า เข้าไปที่ Setting >General >Keyboard >แล้วเลื่อนปิดการใช้งาน Switch Languages using Caps Lock ครับ
• สามารถล็อคหน้าจอได้ง่ายๆโดยการกดปุ่ม Fn + Del ( รูปแม่กุญแจ ) 
• และปลดล็อคหน้าได้โดยการกดปุ่ม ESC มุมซ้ายบน + ใช้ 3 นิ้วปัดลงพร้อมกัน
• การใช้งาน TouchPad ( iPad )
• ใช้นิ้ว 1 นิ้วเลื่อนไปตามจุดต่างๆ บนหน้าจอได้อย่างอิสระ
• ใช้ 1 นิ้วกด : สำหรับการคลิ๊กซ้าย
• ใช้ 2 นิ้วกด : สำหรับการคลิ๊กขวา
• ใช้ 2 นิ้วปัดไปตามทิศทางต่างๆ : สำหรับการเปลี่ยนหน้า เลื่อนหาข้อมูลต่างๆ
• ใช้ 3 นิ้วปัดขึ้นพร้อมกัน : สำหรับการเข้าแอพต่างๆ ที่เข้าใช้งานล่าสุด
• ใช้ 3 นิ้วปัดลงพร้อมกัน : สำหรับกลับเข้าหน้า Home
• ใช้ 3 นิ้วปัดซ้าย-ขวา : สำหรับเลือกแอพอื่นๆ ขณะมีแอพใช้งานอยู่พื้นหลัง
• ***สามารถศึกษาการใช้งานเพิ่มเติมได้ใน คู่มือการใช้งานเบื้องต้น ที่แถมมาให้ในกล่องนะครับ

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• Case Keyboard iPad Wireless Magnetic Folio Case with Keyboard iPad Touchpad TH/ENG เคส iPad Air 5 (2022) / iPad Air 4 (2020) / iPad Pro 11 (2022 / 2021 / 2020 / 2018) x 1
• ตัวเคส iPad สวมหลังแบบถอดแยกได้  x 1
• คีย์บอร์ดแบบถอดแยกได้ x 1
• สายชาร์จ USB-A to USB Type-C ( สีดำ ) x 1
• คู่มือการใช้งานเบื้องต้น x 1

วิธีการสวมใส่/ถอดเคส

• การสวมใส่ตัวเครื่องให้เริ่มใส่จากด้านปุ่มกด เพิ่ม/ลดเสียง ก่อน เเละจึงใส่ด้านอื่นตามลงไปครับ
• การถอดเคส เเนะนำให้เริ่มถอดออกโดยเริ่มจากง้างด้านข้างขอบเคสข้างใดข้างหนึ่ง เเละค่อยๆนำเครื่องออกครับ
• การใส่และถอดเปลี่ยนตัวกรอบเลนส์กล้อง ให้ใส่โดยหันด้านเรียบออกด้านนอกของตัวเครื่อง ใส่เข้ากับชิ้นส่วนที่เป็นตัวเคสสวมเข้ากับตัวเครื่อง***ไม่ใช่บริเวณเลนส์กล้องที่เป็นเคสคีย์บอร์ดด้านนอกสุดครับ
• ***วิธีพับเก็บเคส ควรพับฝั่งหน้าจอ iPad ลงมาทับคีย์บอร์ดเสมอทุกครั้ง ( เหมือนการปิดหน้าจอ Laptop ทั่วๆไป ) ไม่ควรพับโดยเอาคีย์บอร์ดพับไปหาหน้าจอ iPad เพราะคีย์บอร์ดอาจหลุดแล้วกระแทกกับหน้าจอได้ครับ
• ***เมื่อพับฝาปิดแล้ว คีย์บอร์ดจะประกบพอดีกับหน้าจอ แอดมินเลยแนะนำให้ใช้ร่วมกับกระจกนิรภัยที่หน้าจอเพื่อป้องกันรอยขีดข่วนครับ

เงื่อนไขการรับประกัน

• ทางร้าน 425Degree รับประกันสินค้า 7 วัน ในความเสียหายที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับวัสดุหรืองานประกอบ ซึ่งเป็นผลมาจากการผลิต หรือปัญหาการใช้งานทางเทคนิคต่างๆที่ผิดปกติตั้งแต่ได้รับสินค้า เช่น เชื่อมต่อไม่ได้เลย, ชาร์จแบตไม่เข้าเลย และความเสียหายที่ว่านั้นไม่รวมถึงการกระทำของผู้ใช้งานหรือการใช้งานที่ผิดวิธีโดยลูกค้าจะต้องเก็บกล่องบรรจุภัณฑ์เอาไว้เพื่อใช้ยืนยันในการขอรับประกันครับ
• ส่วนวัสดุที่หุ้มเคส หากเกิดความเสียหายต่างๆที่เป็นผลมาจากการผลิต จะรับประกันส่วนนี้ 7 วันครับ
• ส่วนวัสดุที่หุ้มเคส/สายชาร์จ หากเกิดความเสียหายต่างๆที่เป็นผลมาจากการผลิต จะรับประกันส่วนนี้ 7 วันครับ
• เนื่องจากตัวเคสเป็นสีอ่อน ดังนั้นอาจเกิดรอยเลอะขึ้นได้ง่ายกว่าปกติ ดังนั้นควรใช้งานด้วยความระมัดระวัง กรณีนี้จะไม่สามารถเคลมได้นะครับ

การรับรองมาตรฐานและความปลอดภัย

• ผ่านการรับรองมาตรฐาน FCC , CE , RoHS certifications
• FCC : อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์/คอมพิวเตอร์ทุกชิ้นก่อนที่จะนำไปขายในสหรัฐฯจะต้องได้รับการรับรองจาก FCC (เป็นองค์กรของรัฐบาลสหรัฐฯ) เพื่อให้ตรงกับข้อจำกัดทางกฎหมายเกี่ยวกับการเป็นตัวนำและการกระจายคลื่นวิทยุ
• CE : เป็นเครื่องหมายที่แสดงการรับรองจากผู้ผลิตว่าสินค้ามีคุณสมบัติตามข้อกำหนดด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรป
• RoHS : เป็นมาตรฐานเพื่อสิ่งแวดล้อม กำหนดให้ชิ้นส่วนทุกอย่างที่ประกอบเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ตั้งแต่แผงวงจร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงสายไฟ จะต้องมีสารที่เป็นอันตรายไม่เกินไปกว่าที่กำหนด (ตะกั่ว/ปรอท/แคดเมียม/เฮกซะวาเลนท์/โพลีโบรมิเนต/โพลีโบรมิเนต)

การทำความสะอาดและดูแลรักษาเพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน

• ควรใช้งานในที่อากาศถ่ายเทได้ เพื่อลดการสะสมความร้อนที่ตัวอุปกรณ์
• หลีกเลี่ยงการใช้งานในที่ที่ความชื้นสูง หรือบริเวณที่เปียกแฉะ
• ก่อนใช้งานทุกครั้งให้ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ 
• หมั่นเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ ไม่ควรใช้สารเคมีใดๆครับ เพราะตัวหนังสือสกรีนอาจหลุดลอกได้ ( และโปรดระมัดระวังเรื่องความชื้นของผ้าด้วยครับ ผ้าควรจะหมาดมากๆจนเกือบแห้งครับ )