Zikko Airstation Power (Powerbank 10000 mAh+PD18W+QC3.0+Fast Wireless charge)

425Degree Recommend

Zikko Airstation Power (Powerbank 10000 mAh+PD18W+QC3.0+Fast Wireless charge) แบตสำรองอีกรุ่นที่ครบเครื่องที่สุดในเรื่องการชาร์จเร็ว รองรับการชาร์จเร็วทั้งแบบเสียบสาย (Power Delivery/Quick Charge3.0) และแบบไร้สาย (Fast Wireless Charge) ซึ่งถือว่าเป็นแบตสำรองเพียงไม่กี่รุ่นในโลกที่อัดฟีเจอร์มาให้แน่นขนาดนี้ ถ้ารักความคุ้ม ชอบความครบ แบตสำรองรุ่นนี้คืออีกตัวเลือกที่ดีที่สุดที่ไม่ควรมองข้ามครับ

• จากที่ 425 ได้ลองใช้งานจริง รุ่นนี้เหมาะมากกับคนที่มองหาแบตสำรองฟังก์ชั่น 2in1 ที่ชาร์จแบบเสียบสายก็แรง หรือชาร์จแบบไร้สายก็เร็ว เพราะปกติแล้วแบตสำรองส่วนใหญ่จะใส่ฟีเจอร์ชาร์จไร้สายมาให้สูงสุดแค่ 5W เท่านั้น แต่รุ่นนี้จัดเต็มมาให้เลยที่ 10W ทั้งสะดวกและคุ้มกว่าเห็นๆครับ
• จุดเด่นอีกข้อคือสามารถปรับสไตล์การใช้งานได้หลายแบบ จะถือใช้งาน วางแนวนอน หรือวางแนวตั้งก็ยังได้โดยจะมีขาตั้งโลหะแถมมาให้ แค่เอามาเสียบในช่องก็วางตั้งเป็นแท่นชาร์จแบบ stand ได้เลย จะใช้งานตัวเครื่องในขณะชาร์จก็ทำได้เลย ไม่ต้องยกเครื่องขึ้นมาครับ
• ชาร์จพร้อมกันได้สูงสุดถึง 3 เครื่อง และพิเศษกว่ารุ่นอื่นๆตรงที่ถ้าชาร์จเร็วแบบเสียบสายหรือไร้สาย 1 เครื่อง คู่กับเสียบช่อง Normal Output อีก 1 เครื่อง การชาร์จเร็วก็ยังทำงานได้ปกติโดยไม่ลดกำลังไฟเลยด้วยครับ

Highlight

• รองรับการชาร์จเร็วทั้งชาร์จเข้าและชาร์จออก โดยรองรับทั้งเทคโนโลยี PD และ QC3.0 ที่กำลังไฟสูงสุด 18W
• รองรับชาร์จไร้สาย (Fast Wireless Charge) สูงสุดที่ 10W โดยกำลังไฟจะปรับอัตโนมัติเพื่อให้รองรับในแต่ละอุปกรณ์ ทั้ง 10W ใน Samsung Galaxy หรือ Android บางรุ่น, 7.5W ใน iPhone และแบบชาร์จปกติที่ 5W ในทุกอุปกรณ์ที่รองรับ Qi Wireless Charge
• ภายในใส่ coil หรือขดลวดสำหรับการชาร์จไร้สายมาให้ถึง 3 ตัว ไม่ว่าจะวางเครื่องชาร์จแนวตั้งหรือแนวนอนก็ชาร์จได้เต็มประสิทธิภาพแน่นอน

Product Detail รายละเอียดสินค้า

• แบรนด์ : Zikko จาก Hongkong
• ชื่อรุ่น : Airstation Power (Powerbank 10000 mAh+PD18W+QC3.0+Fast Wireless charge) (AS10000)
• วัสดุ : พลาสติก ABS, โลหะ
• สี : Black(ดำ)
• ขนาด : กว้าง 7.39.ซม. ยาว 14.96 ซม. หนา 2.07 ซม.
• น้ำหนัก : 302 กรัม
• แบตสำรองที่รองรับทั้งการชาร์จเร็วแบบ PD/QC3.0 รวมถึง Fast Wireless Charge ด้วย
• มาพร้อมความจุ 10000 mAh เหมาะกับใช้งาน 1-2 วัน แต่ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนด้วย
• ชาร์จออกพร้อมกันได้ถึง 3 ช่องทาง คือเสียบชาร์จ 2 เครื่อง และชาร์จแบบไร้สายอีก 1 เครื่อง
• ช่อง USB-C รองรับการชาร์จเร็วแบบ PD/QC3.0 จ่ายไฟสูงสุดที่ 18W สามารถชาร์จ iPhone (รุ่นที่รองรับ PD) จาก 0-50% ได้ภายใน 30 นาทีเท่านั้น
• ช่อง USB-A รองรับการจ่ายไฟได้สูงสุดถึง 2.4A ซึ่งขึ้นอยู่กับการรองรับของแต่ละอุปกรณ์ด้วย
• รองรับการชาร์จเร็ว (PD/QC3.0) ในการชาร์จเข้าแบตสำรองด้วย ช่วยประหยัดเวลาในการชาร์จไปหลายเท่าตัว
• รองรับ Fast Wireless Charge สูงสุดที่ 10W โดยกำลังไฟจะปรับอัตโนมัติเพื่อให้จ่ายไฟได้พอดีกับแต่ละอุปกรณ์ ทั้งแบบ Fast Wireless Charge ที่ 10W, 7.5W และแบบชาร์จไร้สายปกติที่ 5W
• ทางแบรนด์ Zikko ระบุมาว่า ในขณะชาร์จเข้าแบตสำรองอยู่ สามารถวางชาร์จแบบไร้สายไปด้วยได้ โดยแบตสำรองจะปรับให้เป็นการชาร์จไร้สายแบบปกติ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์
• ภายในใส่ coil หรือขดลวดสำหรับการชาร์จไร้สายมาให้ถึง 3 ตัว ช่วยให้ชาร์จเข้า smartphone ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะวางชาร์จแนวตั้งหรือแนวนอน
• หาก smartphone ใส่เคสหนาไม่เกิน 8 มม. ก็วางชาร์จไร้สายได้เลยโดยไม่ต้องถอดเคสออก
• มาพร้อมระบบความปลอดภัย ทั้งการรักษาประจุแบต การป้องกันความร้อนเกิน การป้องกันการระเบิด และการป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร
• มีระบบป้องกันวัตถุแปลกปลอมในการวางชาร์จ เช่น โลหะ เหรียญ กุญแจ การ์ดที่มีแม่เหล็ก โดยไฟสถานะดวงแรกจะแจ้งเตือนเป็นสีน้ำเงินกระพริบไปมา เพื่อให้นำวัตถุนั้นออก
• เพียงแค่ดึงแผ่นโลหะที่ด้านหลังออกมาก็เสียบใช้งานเป็นขาตั้งได้ทันที โดยที่ขาตั้งจะมีแผ่นยางรองมาให้เพื่อป้องกันอุปกรณ์เกิดรอยหรือลื่นขณะใช้งาน
• ด้านหลังมีช่องสำหรับระบายอากาศมาให้ด้วย ป้องกันความร้อนเกินปริมาณได้
• ฐานด้านล่างมียางรองกันลื่นมาให้อีก 4 จุด ช่วยให้อุปกรณ์ไม่เลื่อนไปมาขณะใช้งาน
• ไฟสถานะมี 5 ดวง
• -ดวงที่ 1 : ไฟสีขาวแสดงสถานะ standby ของฟังก์ชั่นการชาร์จไร้สาย และจะเป็นสีน้ำเงินเมื่อมีการวางชาร์จไร้สาย 
• -ดวงที่ 2-5 : ไฟสีขาวบอกปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือ ซึ่ง 1 ดวงจะเท่ากับแบต 25% ครับ
• เมื่อเสียบชาร์จเข้าแบตสำรองจนเต็มหรืออยู่ในโหมด standby ไฟสถานะจะดับลงอัตโนมัติภายใน 60 วินาที แต่การชาร์จจากแบตสำรองไปยังอุปกรณ์จนเต็ม ไฟจะติดค้างอยู่จนกว่าจะถอดสายชาร์จออกครับ
• ปุ่ดเปิด/ปิดออกแบบให้มี texture คล้ายๆแผ่น CD ช่วยให้สัมผัสได้ง่าย
• ด้านหลังของแบตสำรองจะสกรีนเป็นข้อมูลเชิงเทคนิคมาให้เพื่อการใช้งานที่ถูกต้อง
• ตัวแบตสำรองเป็นสีดำผิวสัมผัสแบบเรียบด้านจึงอาจเกิดรอยนิ้วมือและคราบมันให้เห็นอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีผลต่อการใช้งานและเช็ดออกได้ง่าย
• และแถมสายชาร์จ USB-A to Type-C ความยาว 80 ซม. มาให้ด้วย โดยสายจะรองรับทั้งการชาร์จและใช้ซิงค์กับคอมพิวเตอร์ได้
• ***iOS เวอร์ชั่น 13.1 ขึ้นไป จะชาร์จเร็วไร้สายช้าลงครับ จากที่เคยจ่ายไฟ 7.5W จะปรับเหลือความเร็วที่ประมาณ 5W ซึ่งจะใช้เวลาในการชาร์จเต็ม 100% ช้าลงประมาณ 20-30 นาทีครับ ซึ่งสาเหตุไม่ได้เป็นอาการเสียของตัวแท่นชาร์จครับ แต่อาจเป็นการปิดกั้นสเปคจากทาง Apple ที่เกิดจากการอัพเดท iOS ซึ่งเท่าที่ 425 ได้ทดสอบ พบว่าเป็นตั้งแต่ ios 13.1 ขึ้นไปครับ และเป็นกับแท่นชาร์จทุกรุ่นทุกแบรนด์ที่ 425 มีในร้านครับ ข้อมูลนี้อัพเดท ณ วันที่ 8/11/19 ครับ
• ***เมื่อเสียบใช้งานที่ช่อง USB จะพบอาการไฟสถานะบางดวงกระพริบสลับไปมาและดับลงไป ซึ่งจากที่ 425 ได้ทดลอง จะเป็นแค่จังหวะเสียบตอนแรกเท่านั้น ไม่มีผลต่อการชาร์จใดๆ สามารถใช้งานได้ปกติเลยครับ
• ***แบตสำรองรุ่นนี้ เมื่อทำการชาร์จจะมีเสียงของแผงวงจรการทำงานให้ได้ยินอยู่บ้าง ซึ่งจากที่ 425 ทดลองใช้งานจริง เสียงนี้จะไม่มีผลต่อการชาร์จใดๆนะครับ ยังใช้งานได้ปกติทุกอย่าง และสำหรับสินค้ารุ่นนี้ทุกตัวจะเป็นลักษณะนี้ทั้งหมด ไม่ได้เกิดความเสียหายที่ตัวอุปกรณ์แต่อย่างใดครับ
• ***หากนำไปใช้งานฟังก์ชั่นการชาร์จเร็วแบบ PD กับ iPhone Xs/Xs Max, XR, X, iPhone 8/8 Plus จำเป็นต้องใช้ร่วมกับสาย USB-C to Lightning ด้วยนะครับ ซึ่งสายแบบนี้จะไม่มีแถมมาให้ในกล่องครับ
• ***แม้จะมี Coil มาให้ 3 ตัว แต่จะอยู่ในตำแหน่งวางซ้อนเหลื่อมกัน ดังนั้นไม่ควรวางเครื่องแบบชิดขอบด้านบนและล่างมากเกินไป เพราะอาจทำให้การชาร์จไร้สายไม่ทำงานครับ
  
• ***แบตสำรองจะชาร์จเร็วได้เพียงทางเดียวเท่านั้น คือชาร์จเข้าหรือชาร์จออก ยกตัวอย่างเช่น ในขณะที่ชาร์จเข้าตัวแบตสำรองแบบชาร์จเร็วอยู่ เมื่อวางชาร์จไร้สายไปด้วย ระบบ Wireless Fast Charge จะไม่ทำงานครับ
• ***จากที่ 425 ได้ลองใช้ เมื่อใช้งานร่วมกับ Smartphone Huawei ที่รองรับชาร์จไร้สาย เช่น P30 Pro จะมีบางจังหวะที่วางแล้วไม่ชาร์จ คาดว่าน่าจะเป็นจากตัวเครื่อง Huawei เอง ที่สามารถจับสัญญาณได้ค่อนข้างอ่อน และเป็นที่แบตสำรองไร้สายที่ Coil จ่ายไฟอาจเล็กกว่าแท่นชาร์จไร้สายแบบตั้งโต๊ะ ทำให้เวลาใช้ Smartphone Huawei ร่วมกับแบตสำรองไร้สายจึงจับสัญญาณกันยาก และเมื่อใส่เคสเข้าไปก็ยิ่งเพิ่มระยะระหว่างตัวเครื่องและแบตสำรอง ทำให้โอกาสชาร์จติดยากขึ้นกว่าเดิมครับ

Gallery รูปถ่ายจากสินค้าจริง

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• Zikko Airstation Power (Powerbank 10000 mAh+PD18W+QC3.0+Fast Wireless charge) x 1
• สายชาร์จ USB-A to Type-C (ความยาว 80 ซม.) x 1
• คู่มือการใช้งาน x 1

ข้อมูลเชิงเทคนิค

• Standard : Qi wireless standard
• Battery:Lithium polymer
• Total Wattage : 3.7V 37Wh
• Capacity :10000 mAh
• USB-C Input (PD/QC): 5V/3A, 9V/2A, 12V/1.5A (Max 18W)
• Normal Output : 5V/2.4A (Max 12W)
• Wireless Charge Output : 5V/1A, 9V/1.2A (รองรับ 5W/7.5W/10W)
• Charging distance : -20℃~ 85℃
• Working temperature : 0℃~ 40℃
• Full Charge : 2.5 ชม. ( ใช้หัวชาร์จ PD 18W )
• Power Indicator : LED 5 ดวง (ดวงแรก=เป็นสีฟ้าบอกสถานะชาร์จไร้สาย, ดวงที่ 2-5=เป็นสีขาวบอกปริมาณแบตเตอรี่)

อุปกรณ์ที่รองรับการใช้งาน

รองรับการชาร์จผ่านช่อง USB-A และ USB-C

• iPhone Xs/Xs Max, XR, X
• iPhone 8/8 Plus,7/7 Plus, 6s/6/6s Plus/6Plus
• iPhone SE/5s/5
• Samsung Galaxy S9/S9 Plus
• Samsung Galaxy S8/S8 Plus
• Samsung Galaxy Note 9/8/FE/5
• Samsung Galaxy S9/S9 Plus
• Samsung Galaxy S8/S8 Plus
• Samsung Galaxy Tab Pro S
• Huawei P30/P30 Pro
• Huawei Mate 20/ Mate 20 Pro
• Huawei Mate 10/Mate 10 Pro
• Huawei P20/P20 Pro
• Nintendo Switch
• และอุปกรณ์อื่นๆที่รองรับการจ่ายไฟผ่านช่อง USB-A, USB-C

รองรับการใช้งาน Fast Wireless Charger

รองรับกำลังไฟ 7.5W

• iPhone Xs Max
• iPhone Xs
• iPhone XR
• iPhone X
• iPhone 8/8 Plus

รองรับกำลังไฟ 10W

• Samsung Galaxy Note 9/8/FE/5
• Samsung Galaxy S10/S10+
• Samsung Galaxy S9/S9 Plus
• Samsung Galaxy S8/S8 Plus
• Samsung Galaxy S7/S7 Edge
• Samsung Galaxy S6 Edge Plus

รองรับกำลังไฟ 5W

• อุปกรณ์อื่นๆที่รองรับการชาร์จไร้สายระบบ Qi Wireless Charger

การทดลองวัดค่าการจ่ายไฟ

ทดลองชาร์จไฟเข้า

• ทดสอบการชาร์จไฟเข้าด้วย Adaper PD (18W) ผ่านช่อง USB-C ผลที่ได้คือจ่ายไฟอยู่ที่ 9.17V/1.87A หรือ 17.19W ซึ่งเป็นการชาร์จตามมาตรฐาน PD ตามสเปคที่ระบุมาเลยครับ

• ทดสอบการชาร์จไฟเข้าด้วย Adaper QC3.0 (18W) ผ่านช่อง USB-C ผลที่ได้คือจ่ายไฟอยู่ที่ 12.05V/1.51A หรือ 18.21W ซึ่งเป็นการชาร์จตามมาตรฐาน QC3.0 ตามสเปคที่ระบุมาเลยครับ

ทดลองชาร์จไฟออก

• ทดสอบการชาร์จไฟให้กับ iPhone X ผ่านช่อง USB-C ผลที่ได้คือจ่ายไฟอยู่ที่ 8.87V/1.71A หรือ 15.20W ซึ่งเป็นการชาร์จตามมาตรฐาน PD เลยครับ

• ทดสอบการชาร์จไฟให้กับ Samsung Galaxy Note9 ผ่านช่อง USB-C ผลที่ได้คือจ่ายไฟอยู่ที่ 8.83V/1.37A หรือ 12.16W ซึ่งเป็นการชาร์จตามมาตรฐาน QC3.0 เลยครับ

• ทดสอบการชาร์จไฟให้กับ iPad Mini ผ่านช่อง USB ผลที่ได้คือจ่ายไฟอยู่ที่ 5.07V/1.83A หรือ 9.28W ซึ่งตรงตามสเปคที่ระบุมาเลยครับ

สรุปเรื่องการจ่ายไฟ

• หากเสียบชาร์จ iPhone/Smartphone (รุ่นที่รองรับการชาร์จเร็ว PD/QC) ผ่านช่อง USB-C 1 เครื่อง สามารถชาร์จได้ จะเป็นการชาร์จเร็ว PD/QC
• หากชาร์จไร้สาย iPhone/Smartphone (รุ่นที่รองรับ Fast Wireless Charge) 1 เครื่อง สามารถชาร์จได้ จะเป็นการชาร์จเร็วแบบไร้สาย
• หากเสียบชาร์จ iPhone/Smartphone ช่อง USB-C และชาร์จช่อง USB-A ไปพร้อมกัน สามารถชาร์จได้ ช่อง USB-C ยังเป็นการชาร์จเร็วแบบ PD/QC
• หากเสียบชาร์จ iPhone/Smartphone ช่อง USB-A และชาร์จไร้สายไปพร้อมกัน สามารถชาร์จได้ การชาร์จไร้สายยังเป็นการชาร์จแบบเร็ว
• หากเสียบชาร์จ iPhone/Smartphone ช่อง USB-C และชาร์จไร้สายไปพร้อมกัน สามารถชาร์จได้ จะเป็นการชาร์จปกติทั้งคู่
• สำหรับกล้องทั่วไป หรืออุปกรณ์อื่นๆ ให้ดูตามปริมาณไฟที่ใช้นะครับ (ดูได้ที่คู่มืออุปกรณ์) ถ้าเป็น 1A ให้คิดเหมือน Smartphone ถ้าเป็น 2A ให้คิดเป็น Tablet ครับ

การใช้งานโดย 425degree

• *การทดสอบโดยการชาร์จทิ้งไว้เฉยๆ การใช้งานจริงจะขึ้นอยู่กับการเล่นโทรศัพท์ระหว่างชาร์จ แสงหน้าจอ Notification ด้วยซึ่งอาจทำให้รอบน้อยกว่าที่แจ้งในที่นี่ได้ครับ *(เช่น 10000 mAh ตัวแบตจะมีไฟส่วนหนึ่งที่สูญเสียไปที่ตัวอุปกรณ์ระหว่างที่ชาร์จประมาณ 30% และจะมีอีกส่วนหนึ่งที่สูญเสียไฟไปในการแปลงไฟเข้าสู่เครื่องโทรศัพท์ ดังนั้นเวลาชาร์จจริงจะไม่มีแบตสำรองตัวไหนชาร์จได้เต็ม 10000 mAh เต็มตาม Spec ครับ)

• iPhone Xs Max (3,174 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• iPhone Xs (2,658 mAh) = ประมาณ 2 รอบครึ่ง
• iPhone XR (2,942 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• iPhone X (2716 mAh) = ประมาณ 2 รอบครึ่ง
• iPhone 8 Plus (2675 mAh ) = ประมาณ 2 รอบครึ่ง
• iPhone 8 (1821 mAh) = ประมาณเกือบๆ 4 รอบ
• iPhone 7 Plus (2900 mAh) = ประมาณ 2 รอบครึ่ง
• iPhone 7 (1960 mAh) = ประมาณ 3 รอบครึ่ง
• iPhone 6 Plus/6s Plus ( 2915 mAh ) = ประมาณ 2 รอบครึ่ง
• iPhone 6/6s (1810 mAh) = ประมาณ 3 รอบครึ่ง
• Samsung Galaxy S10+ (4100 mAh) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• Samsung Galaxy S10 (3400 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• Samsung Galaxy S10e (3100 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• Galaxy Note 9 (4000 mAh) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• Galaxy Note 8 (3300 mAh) = ประมาณเ 2 รอบ
• Galaxy S8 (3000 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• Galaxy S8 Plus (3500 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• Galaxy S7 (3000 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• Galaxy S7 Edge (3600 mAh) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• Galaxy S6 (2550 mAh) = ประมาณ 2 รอครึ่ง
• Galaxy S6 Edge (2600 mAh) = ประมาณ 2 รอบครึ่ง
• iPad mini 4 (5124 mAh) = ประมาณ 1 รอบ
• iPad Air 2 (7340 mAh) = ประมาณเกือบๆ 1 รอบ
• iPad Pro (10307 mAh) = ประมาณครึ่งรอบ
• Huawei Mate 20X (5000 mAH) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• Huawei Mate 20 Pro (4200 mAH) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• Huawei Mate 20 (4000 mAH) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• Huawei P20 Pro (4000 mAH) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• Huawei P20 (3400 mAH) = ประมาณ 2 รอบ

เงื่อนไขการรับประกัน

• ทางร้าน 425Degree รับประกันสินค้า 1 ปีสำหรับตัวสินค้าหลัก ในความเสียหายที่เกิดจากการผลิตและความเสียหายที่ว่านั้นไม่รวมถึงการกระทำของผู้ใช้งานหรือการใช้งานที่ผิดวิธี โดยลูกค้าจะต้องเก็บกล่องบรรจุภัณฑ์เอาไว้เพื่อใช้ยืนยันในการขอรับประกันครับ
• สำหรับสายชาร์จที่แถมมาในกล่องจะรับประกัน 7 วันครับ
• ***สำหรับการชาร์จเข้าแบตสำรอง แนะนำว่าควรใช้หัวชาร์จที่จ่ายไฟได้ตรงตามสเปคที่ระบุมาเท่านั้นนะครับ หากใช้หัวชาร์จที่จ่ายไฟน้อยกว่าที่สเปคระบุ จะทำให้ชาร์จเข้าได้ช้าและส่งผลเสียต่ออุปกรณ์ทำให้ใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หากลูกค้าใช้หัวชาร์จที่ไม่ตรงสเปค แล้วอุปกรณ์เกิดความเสียหาย กรณีนี้จะไม่รวมอยู่ในการรับประกันนะครับ

การรับรองมาตรฐานและความปลอดภัย

• ผ่านการรับรองมาตรฐาน CE, FCC, RoHS certifications
• CE : เป็นเครื่องหมายที่แสดงการรับรองจากผู้ผลิตว่าสินค้ามีคุณสมบัติตามข้อกำหนดด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรป
• FCC : อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์/คอมพิวเตอร์ทุกชิ้นก่อนที่จะนำไปขายในสหรัฐฯจะต้องได้รับการรับรองจาก FCC (เป็นองค์กรของรัฐบาลสหรัฐฯ) เพื่อให้ตรงกับข้อจำกัดทางกฎหมายเกี่ยวกับการเป็นตัวนำและการกระจายคลื่นวิทยุ
• RoHS : เป็นมาตรฐานเพื่อสิ่งแวดล้อม กำหนดให้ชิ้นส่วนทุกอย่างที่ประกอบเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ตั้งแต่แผงวงจร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงสายไฟ จะต้องมีสารที่เป็นอันตรายไม่เกินไปกว่าที่กำหนด (ตะกั่ว/ปรอท/แคดเมียม/เฮกซะวาเลนท์/โพลีโบรมิเนต/โพลีโบรมิเนต)
• และยังรับรองว่าเป็นสินค้าที่สามาระนำไปรีไซเคิลต่อได้ครับ ถือว่าช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้ดีครับ
• มีระบบตัดวงจรไฟอัตโนมัติหากเกิดความร้อนเกินกว่ากำหนด ช่วยควบคุมปริมาณการจ่ายไฟและไม่ทำให้เกิดการกระชากไฟ ปลอดภัยสำหรับชาร์จอุปกรณ์

การทำความสะอาดและดูแลรักษา

• ควรใช้งานในที่อากาศถ่ายเทได้ เพื่อลดการสะสมความร้อนที่ตัวอุปกรณ์ครับ
• หลีกเลี่ยงการใช้งานในที่ที่ความชื้นสูง หรือบริเวณที่เปียกแฉะ
• ก่อนใช้งานทุกครั้งให้ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์
• ขณะเสียบใช้งานหรือถอดออก ควรจับที่ตัวบอดี้ เพื่อป้องกันสายไฟหักหรือขาดครับ
• หมั่นเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ ไม่ควรใช้สารเคมีใดๆครับ เพราะตัวหนังสือสกรีนอาจหลุดลอกได้ (และโปรดระมัดระวังเรื่องความชื้นของผ้าด้วยครับ ผ้าควรจะหมาดมากๆจนเกือบแห้งครับ)