TRN T200

หูฟังไร้สายสองไดร์เวอร์ (DD+BA) กันนั้า IPX5

เที่ยงตรง แม่นยำ แยกมิติขั้นเทพ !!

425 Recommend

• TRN T200 คือหูฟังไร้สายฯ Hybrid Driver เสียงสุดจัดอีกหนึ่งตัวที่ผู้เน้นรายละเอียดของเสียงกลางเด่นๆ แหลมคมๆ โทนเย็นฉํ่าต้องไม่พลาดครับ
• เป็นหูฟังไร้สายฯที่ “ใช้ไดร์เวอร์สองตัว” ในการทำงาน ซึ่งประกอบไปด้วยไดร์เวอร์ Dynamic ใช้ควบคุมเสียงย่านตํ่า และไดร์เวอร์ Balanced Armature ใช้ควบคุมเสียงย่านกลางและย่านแหลมครับ
• คาแรคเตอร์เสียงของ TRN T200 จะออกไปทางแหลมใสเนียนกริ๊บ รายละเอียดเสียงดนตรีมาเต็ม เสียงเบสออกในปริมาณที่สมเหตุสมผลครับ
• แต่จุดเด่นของมันจริงๆในความคิดเห็นของทีมงาน 425° ที่ทำให้ TRN T200 โดดเด่นกว่าหูฟังไร้สายฯรุ่นอื่นๆในราคาไล่ๆกันคือ “มิติเสียง/ซาวดน์สเตจ” ครับ
• ต้องขอบอกว่า มิติเสียงและเวทีเสียงของ TRN T200 นั้นสามารถทำได้ดีมาก ให้ความกว้างของเวทีเสียงและมิติลึกตื้นที่ฟังรู้สึกได้ง่าย ฟังดูมีอากาศ (Air) มีพื้นที่ให้เสียงดนตรีได้หายใจ และสามารถแยกเสียงดนตรีออกจากกันได้เยอะในขณะที่ยังฟังดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สามารถฟังจับโฟกัสเสียงดนตรีแต่ละชิ้นได้อย่างง่ายดายมากๆครับ
• นอกจากจะให้เสียงที่เทพแล้ว ฟีเจอร์รองรับการใช้งานทั่วไปก็เรียกว่าจัดมาให้ใช้งานอย่างครบครันเลยทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น รองรับ aptX เพื่อเพิ่มคุณภาพเสียงให้ดียิ่งขึ้น ,กันนํ้า IPX5 สำหรับใช้งานออกกำลังกาย หรือ CVC Noise Reduction ระบบลดเสียงรบกวนขณะคุยโทรศัพท์ก็มีมาให้ใช้เช่นกันครับ
• เป็นหูฟังไร้สายฯ Hybrid Driver ที่น่าจับตามองมากๆด้วยความที่ให้เสียงที่ดี แยกมิติได้ขั้นเทพ พร้อมมาตรฐานกันนํ้าถึง IPX5 ใส่ออกกำลังกายได้ และที่สำคัญ “ราคาถูกมาก” ถ้าเทียบกับเม็ดเงินที่จ่ายไปกับสิ่งที่ได้รับกลับมาจากหูฟังตัวนี้ บอกเลยว่า “คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้มครับ”

Product Highlight

• เชื่อมต่อด้วย Bluetooth เวอร์ชั่น 5.0
• ชิปเซ็ต Qualcomm รหัส QCC3020
• รองรับ aptX
• กันนํ้า IPX5
• Hybrid Driver ประกอบด้วยไดร์เวอร์ Dynamic ทำงานในย่านเสียงตํ่า และ Balanced Armature ทำงานในย่านเสียงกลางและเสียงแหลม
• มี CVC Noise Reduction ลดเสียงรบกวนขณะคุยโทรศัพท์
• เล่นต่อเนื่องได้สูงสุด 24 ชั่วโมงรวมชาร์จจากกล่องจนหมด

Product Specification (ข้อมูลจากคู่มือภายในกล่อง)

การเชื่อมต่อ (Connectivity) 

• บลูทูธ : เวอร์ชั่น 5.0
• ชิปเซ็ต : Qualcomm QCC3020
• ระยะห่างสัญญาณ : สูงสุด 10 เมตร (ไม่มีสิ่งกีดขวาง)
• บลูทูธโปรไฟล์ : A2DP, ACRCP, HSP, HFP, SPP
• Codec : SBC, AAC, aptX
• คลื่นความถี่ : 2402MHz-2480MHz

ฟีเจอร์ (Features)

• การกันนํ้า : IPX5
• การคุยโทรศัพท์ : CVC Noise Reduction

ไดร์เวอร์ (Driver)

• ไดร์เวอร์ : Hybrid Driver ประกอบด้วย Dynamic และ Balanced Armature
• ย่านความถี่ที่ตอบสนอง : 20-20000Hz

แบตเตอรี่ (Battery)

• ไฟขาเข้า : DC 5V
• เล่นต่อเนื่อง : สูงสุด 6-7 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับการใช้งาน)
• ระยะเวลาการ Stand By : สูงสุด 180 ชั่วโมง
• กล่องชาร์จฯ : สูงสุด 3-4 รอบ
• ระยะเวลาในการชาร์จหูฟัง : สูงสุด 2 ชั่วโมง
• ระยะเวลาในการชาร์จกล่องชาร์จฯ : สูงสุด 2 ชั่วโมง
• ความจุแบตเตอรี่หูฟัง : 50 มิลลิแอมป์ (ต่อข้าง)
• ความจุแบตเตอรี่กล่องชาร์จฯ : 600 มิลลิแอมป์

ขนาดและนํ้าหนัก (Weight&Dimension)

• นํ้าหนัก : 5.3 กรัม (หูฟังต่อข้าง), 36.9 กรัม (กล่องชาร์จฯ)

Gallery :

Sound Review (เป็นความคิดเห็นของทีมงาน 425° นะครับ)

• เสียงเบส (Low-End) : เสียงเบสของ TRN T200 ให้ความลึก-ตื้นได้ดีมากๆ หัวเสียงโน๊ตออกชัดเป็นเม็ดๆ เสียง subbass ออกชัดเจนในมวลที่พอดี มีตำแหน่งที่อยู่หลังสุดของเวที แต่ไม่ถูกบดบังและไม่ไปบดบังเสียงย่านอื่นๆเลย เป็นเสียงเบสที่สะอาด เนื้อเนียนโทนหรูหรา และความกว้างจากซ้ายไปขวาที่ใหญ่พอดี เราจะรู้สึกว่าเสียงเบสได้ห่อหุ้มเสียงย่านที่อยู่สูงขึ้นไป ซึ่งทำให้ตัวเพลงมีภาคจังหวะ (Rhythm) ที่แน่นมากๆครับ
• เสียงกลาง/เสียงร้อง (Mid-Range) : เสียงกลางออกชัดใส มีรายละเอียดเสียงเครื่องดนตรีที่ชัดเจนและเห็นได้ชัดมากๆ เสียงร้องก้าวออกมาข้างหน้า มีความชุ่มฉํ่าของเสียง เนื้อเนียน ปลายเสียงออกเป็นฝอย และสามารถแยกเสียงร้องหลักและเสียงคอรัสออกจากกันได้ชัดเจนมากๆ คมกริบ และฟังลื่นหูมากๆครับ
• เสียงแหลม (Top-End) : เสียงแหลมให้ความกรุบกรอบมากๆ สังเกตุได้จากเสียงดีดนิ้วของเพลงที่ออกกริ๊บๆ หรือเสียงฉาบแฉของกลองชุดที่ให้โทนที่สว่าง เนียน โทนในย่านเสียงแหลมให้ความสว่างและเป็นประกาย ให้ความโปร่งดีมาก และไม่มีย่านเสียงที่ทิ่มหูเลยครับ
• ซาวดน์สเตจ/มิติ (Stereo Image) : ต้องขอชมเลยครับว่า TRN T200 ให้ซาวดน์สเตจที่กว้างและลึกมากๆ การแยกมิติที่ทำได้ดีเยี่ยม สามารถแยกเสียงดนตรีที่ฟังดูแยกออกจากกันได้ห่างมาก เราสามารถฟังโฟกัสเสียงดนตรีแต่ละชิ้นได้อย่างง่ายดาย ให้อิมเมจที่สมจริงมากๆครับ
• ภาพรวม (Overall) : TRN T200 คือหูฟังไร้สายแบบไฮบริดไดร์เวอร์ที่โดดเด่นในการแยกมิติเสียงที่เทพมากๆ ให้คาแรคเตอร์เสียงที่ดีเกินราคา สดและสมจริง เต็มไปด้วยรายละเอียดเสียงดนตรีที่รีดคั้นออกมาได้อย่างหมดจด เอาอยู่กับดนตรีทุกแนวไม่ว่าจะเป็น Jazz ยันสายหูเหล็ก Metal ครับ

เทียบเสียง TRN T200 VS KZ T1 ศึก Hybrid Driver ตัวไหนเสียงดีกว่า !! (เป็นความคิดเห็นของทีมงาน 425° นะครับ)

เสียงเบส (Low-End) :

• เริ่มจากการฟังเทียบกันระหว่าง T200 และ T1 โดยผมจะขอเริ่มจาก TRN T200 ทันทีที่เพลงเริ่มเล่น ผมสังเกตุได้ว่าเสียงเบสของ TRN T200 เป็นโทนเสียงที่ผมชอบมากๆ โดยตำแหน่งของมันจะถอยหลังออกไปจนอยู่หลังสุดของเวทีโดยที่ยังได้ยินหัวเสียงโน๊ตเบสและเสียง subbass ได้อย่างชัดเจน มีเนื้อเสียงที่เนียนกำลังดี โทนสว่าง แรงปะทะของกระเดื่องกลอง (Kickdrum) มีนํ้าหนักกำลังดี ไม่เวอร์วังหรือรุกเร้าจนเกินไป อีกทั้งยังรู้สึกได้ถึงอากาศ (Air) ในช่วงเสียงย่านตํ่าที่ฟังแล้วสบายหู ให้ความรู้สึกโล่งๆประหนึ่งเหมือนมีพื้นที่ให้หายใจหายคอได้สบายๆ ซึ่งจุดนี้แหละที่มันทำให้เสียงย่านตํ่าของ T200 มีมิติลึกตื้นและรู้สึกถึงขนาดที่ใหญ่ โอบอุ้มเสียงย่านที่อยู่สูงขึ้นไปได้อยู่หมัดมากๆครับ
• ต่อมาเป็นคิวของ KZ T1 (จะขออนุญาติเรียกสั้นๆว่า T1 นะครับ) จุกหูฟังขนาดเดียวกัน เพลงเดียวกัน ระดับเสียงเท่ากัน เมื่อเพลงเริ่มบรรเลง หูที่ติดซาวด์ของ T200 มาเมื่อกี้ก็สามารถบอกได้ชัดเจนเลยว่า เสียงเบส T1 จะฟังดูก้าวออกมาข้างหน้ามากๆ มีมวลที่หนา หัวเสียงชัดเจน subbass กระพรือเป็นมวลหนาๆ มีแรงปะทะที่รุกเร้า โทนจะทึบๆเหมือนมองดูภาพวาดในห้องที่มีไฟสลัวๆ เก็บตัวได้เร็วปานกลาง แต่ก็มีบางช่วงเพลงที่หางเสียงเบสรวบตัวเก็บได้ไม่ไวพอจนเผลอไปบังเสียงกลางหรือเสียงแหลม เป็นย่านเสียงตํ่าที่อัตราส่วนมากที่สุดในบรรดาเสียงทั้งสามย่าน ให้ความตื่นตาตื่นใจและความเร้าใจได้ดี หากชอบเสพเสียงเบสอย่างเดียวโดยไม่เน้นรายละเอียดของเสียงกลางและเสียงแหลมมาก T1 จะตอบโจทย์กับความชอบแนวๆนั้นเลยครับ

เสียงกลาง (Mid-Range) :

• กลับมาที่ TRN T200 คราวนี้ลองเปลี่ยนไปทดสอบกับแนว Jazz บ้าง เมื่อเพลงเริ่มบรรเลงผมรู้สึกถึงความ smooth ความลื่นไหล และรายละเอียดของเสียงเครื่องดนตรีต่างๆมากมาย และที่สำคัญที่สุดเลยคือ “เสียงร้องเพราะมาก” (กอ ไก่ ลากยาว) เสียงคำร้องชัดถ้อยชัดคำ ปลายออกเป็นประกายใสๆ ผสานกับเสียงลมของผู้ร้องที่ออกมาพร้อมคำร้องได้อย่างกลมกล่อม มีโทนสว่างและฟังไม่ล้าหูเลย เสียงกลางของ T200 เป็นย่านเสียงที่ดีมากๆ มีปริมาณมากพอที่จะฟังได้ดีกับเพลงทุกแนวครับ
• สลับมาฟัง T1 สิ่งแรกที่บอกได้อย่างชัดเจนเลยคือซาวด์ของ T1 นั้นทึบและหม่นกว่า T200 อยู่พอสมควรเลย โทนเสียงร้องจะดาร์คมาก และไม่ออกเป็นประกายเหมือน T200 แต่จะได้เปรียบที่นุ่มกว่า แต่ส่วนตัวผมแล้ว ผมชอบเสียงย่านกลางแบบ T200 มากกว่าครับ

เสียงแหลม (High) :

• กลับมาที่ T200 ผมสามารถบอกได้เลยว่าย่านเสียงแหลมของหูฟังรุ่นนี้เป็นย่านเสียงที่ชอบที่สุดในหูฟังไร้สายฯราคาแถวๆไม่เกินสองพัน มันออกเป็นประกายฝอยๆ ฉํ่าๆ และเนื้อเสียงเนียนมาก และที่สำคัญเป็นย่านเสียงที่จูนมาดีมาก ผมใช้ฟังเพลงที่ผมชอบผมกลับได้ยินเสียงบางเสียงที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนจากหูฟังของผมเลย เสียงแหลมโปร่ง มีเสียงอากาศชโลมอยู่เต็มเวทีเสียง ฟังสบาย หายใจสะดวกมากๆครับ
• เปลี่ยนมาฟัง T1 กันบ้าง เหมือนเดิมครับ จุกหูฟังเหมือนกัน ระดับเสียงเท่ากัน เพลงเดียวกัน ผลลัพท์ที่ได้คือเสียงของ T1 จะออกทึบกว่า T200 มากๆ ราวกับหนังคนละม้วนเลยครับ มีรายละเอียดที่น้อยกว่า และฟังโฟกัสรายละเอียดของเสียงดนตรีได้ยากกว่า T200 ผมค่อนข้างกล้าพูดเลยว่าเสียงแหลม T1 สู้ T200 ไม่ได้จริงๆครับ

เวทีเสียง&มิติ (Soundstage&Depth) :

• เริ่มจาก T200 อีกเช่นเคย เวทีเสียงและมิติของ T200 สามารถทำได้ดีมากๆ จะเรียกว่ายอดเยี่ยมเลยก็ว่าได้ มีขนาดเวทีเสียงที่กว้างมากๆวัดจากซ้ายไปขวา โปร่งโล่ง แต่สิ่งที่ผมชอบที่สุดของ T200 คือการแยกมิติเสียงดนตรีแต่ละชิ้นออกจากกัน ซึ่งฟังดูกระจายตัวออกจากกันได้ดี อีกทั้งยังสามารถฟังจับได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเสียงที่วิ่งจากซ้ายไปขวา หรือจากขวาไปซ้ายก็จับได้อย่างง่ายดาย เป็นหูฟังไร้สายฯที่ให้มิติเสียงได้ยอดเยี่ยมมากๆครับ
• พอได้ฟังเวทีเสียงกว้างๆ มิติเทพๆจาก T200 แล้วมาฟัง KZ T1 รู้สึกเหมือนโดนย้ายจากห้องนอนกว้างๆไปอยู่ห้องนอนที่แคบลง และมีไฟที่สลัวกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทำให้การมองเห็นแทบจะทำได้ยากนิดนึง การแยกมิติเสียงดนตรีของ T1 นั้นทำได้ดีในระดับนึง จะฟังโฟกัสจับเสียงดนตรีก็ต้องมีเพ่งฟังกันบ้างบางครั้ง แต่โดยรวมแล้ว T1 ยังอยู่ในจุดที่ฟังสบายครับ

สรุปรุ่นไหนเสียงดีกว่า ? (Summary) :

• โดยปกติแล้ว เวลาผมเขียนเทียบเสียงหรือทำ Comparison ผมจะพยายามเป็นกลางมากๆ ผมจะคิดเสมอว่าซาวด์ของหูฟังแต่ละรุ่นเป็นเรื่องของรสนิยมชมชอบ ไม่ใช่เรื่องของอะไรดีกว่าหรือแย่กว่า เช่นเดียวกับ TRN T200 และ KZ-T1 ที่มีรสชาติต่างกัน บางคนอาจจะชอบแนว T1 มากกว่าเนื่องจากชอบเสียงเบสที่รุกเร้า ฟังสนุกๆ แต่กับบางคนไม่ชอบเสียงเบสที่ตูมตามมาก แต่ชอบเสียงเบสที่มีมิติ สว่าง จับต้องได้และมองเห็นได้อย่างชัดเจนก็อาจจะเลือก TRN T200 แต่สำหรับผมแล้ว ถ้าผมกำตังอยู่สองพันบาท ผมจะเลือก TRN T200 อย่างไม่ลังเลเนื่องจากเป็นคนชอบหูฟังไร้สายฯที่มีมิติดีๆ เสียงเบสที่จับต้องได้ง่ายและไม่ตูมตามเกินไป เสียงกลางมีรายละเอียดที่เด่นชัด และเสียงแหลมที่สว่างและโปร่งโล่งให้ความรู้สึกเหมือนฟังเพลงกับลำโพงตู้ในห้องฟังเพลง หากท่านใดมีความชอบแนวๆเดียวกับผม ผมแนะนำ TRN T200 หนักๆเลยครับ

Phone Calls Review (เป็นความคิดเห็นของทีมงาน 425° นะครับ)

• เสียงปลายสาย : เสียงปลายสายชัดใส ไม่อุดอู้หรือสว่างแหลมจนแสบหู มีระดับเสียงที่ฟังง่าย ดังชัดเจนครับ
• เสียงไมโครโฟน : เสียงไมโครโฟนจัดว่าอยู่ในระดับที่ดี เสียงพูดของเราชัดในระดับพอดี โทนกลางๆ มีเสียงบรรยากาศ เสียงรถ หรือเสียงรบกวนรอบๆตัวให้ได้ยินบ้าง คุยในที่ที่ไม่มีเสียง หรือเสียงเบาจะสามารถใช้งานได้สบายๆ แต่ถ้าอยู่ในที่ที่เสียงดัง เสียงรบกวนอาจดังกลบเสียงพูดของเราจนคู่สายอาจเกิดความรำคานได้ หากอยากใช้หูฟังคุยโทรศัพท์จริงๆ ให้หาที่เงียบๆคุยจะดีกว่าครับ

ทดสอบดูคลิปออนไลน์

• Android บลูทูธเวอร์ชั่น 5.0 : ไม่พบอาการดีเลย์จากการดู Youtube, Netflix ครับ
• iOS บลูทูธเวอร์ชั่น 5.0 : ไม่พบอาการดีเลย์จากการดู Youtube, Netflix ครับ

ทดสอบเล่นเกมส์ออนไลน์

• Android บลูทูธเวอร์ชั่น 5.0 : ทดสอบกับ PUBG และ Call OF Duty Mobile พบอาการดีเลย์พอสมควร ยังไม่แนะนำให้ใช้เล่นเกมส์ครับ
• iOS บลูทูธเวอร์ชั่น 5.0 : ทดสอบกับ PUBG และ Call Of Duty Mobile พบอาการดีเลย์พอสมควร ทีมงาน 425° ยังไม่แนะนำให้ใช้เล่นเกมส์ครับ

คำแนะนำก่อนเริ่มใช้งาน TRN T200

• หากหูฟังมีแผ่นพลาสติกใสที่แปะแผ่นทองแดงที่หูฟังหรือกล่องชาร์จฯ ควรลอกออกก่อนครับ
• ควรชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อนใช้งานครั้งแรกครับ
• วิธีการเบิร์นหูฟังที่ดีที่สุด และปลอดภัยที่สุดคือการเปิดเพลงหลายๆแนวในระดับเสียงที่เหมาะสมกับเราฟังไปเรื่อยๆ เพื่อให้ไดร์เวอร์เข้าที่และขับเสียงได้เต็มยิ่งขึ้นครับ

การเปิดใช้งานหูฟัง

• เมื่อหยิบหูฟังออกจากกล่องชาร์จฯ หูฟังจะเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติครับ

การปิดใช้งานหูฟัง

• เก็บหูฟังทั้งสองข้างลงกล่องชาร์จฯ ปิดฝา หูฟังจะปิดการใช้งานโดยอัตโนมัติ และอยู่ในสถานะชาร์จแบตเตอรี่จากกล่องชาร์จฯครับ

การเชื่อมต่อ Bluetooth ครั้งแรก

• หยิบหูฟังทั้งสองข้างออกจากกล่องชาร์จฯ หูฟังจะกระพริบไฟสีนํ้าเงินสลับแดง และหูฟังอีกข้างจะกระพริบไฟสีนํ้าเงินเป็นระยะๆครับ
• เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ของเรา ค้นหาชื่อ “TRN T200 L” หรือ “TRN T200 R” แล้วกดเชื่อมต่อ
• หลังจากเลือกเชื่อมต่อแล้ว จะมีเมนูปรากฏขึ้นแจ้งว่า เราต้องการเชื่อมต่อกับ “TRN T200 X” หรือไม่ ให้เลือกเชื่อมต่อ ชื่อหูฟังทั้งสองข้างจะถูกเชื่อมต่อกับตัวอุปกรณ์ครับ

***หากหูฟังอยู่ในโหมดจับคู่เป็นเวลาเกินกว่า 5 นาที และไม่ถูกเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ใดๆ หูฟังทั้งสองข้างจะปิดการใช้งานโดยอัตโนมัติครับ

การเชื่อมต่อ Bluetooth ครั้งต่อไป

• หากหูฟังเคยเชื่อมต่อกับอุปกรณ์นั้นๆมาแล้ว หูฟังจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ล่าสุดให้เราโดยอัตโนมัติทันทีที่เราหยิบหูฟังออกจากกล่องชาร์จฯและเปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ครับ

การควบคุมเพลง

• เล่นเพลง : แตะที่หูฟังข้างใดข้างหนึ่ง 2 ครั้ง เพื่อเล่นเพลง/เล่นวีดีโอ
• หยุดเพลง : ขณะเพลงเล่น แตะที่หูฟังข้างใดข้างหนึ่ง 2 ครั้ง เพื่อหยุดเพลง/วีดีโอ
• เลื่อนไปยังเพลงถัดไป : แตะที่หูฟังข้าง L 3 ครั้งติดกัน
• เลื่อนไปยังเพลงก่อนหน้านี้ : แตะที่หูฟังข้าง R 3 ครั้งติดต่อกัน
• เพิ่มเสียง : แตะที่หูฟังข้าง R ค้างไว้ จะมีเสียงสัญญาณดังขึ้น ดังขึ้น 1 ครั้ง คือเพิ่ม 1 ระดับครับ
• ลดเสียง : แตะที่หูฟังข้าง L ค้างไว้ จะมีเสียงสัญญาณดังขึ้น ดังขึ้น 1 ครั้ง คือลด 1 ระดับครับ

การคุยโทรศัพท์

• รับสาย : ขณะมีสายเข้า แตะที่หูฟังข้างข้างใดข้างหนึ่งจำนวน 2 ครั้งติดต่อกันเพื่อรับสาย
• วางสาย : ขณะคุยสาย แตะที่หูฟังข้างใดข้างหนึ่งจำนวน 2 ครั้งติดต่อกันเพื่อวางสาย
• ปฏิเสธสาย : เมื่อมีสายเรียกเข้า แตะที่หูฟังข้างใดข้างหนึ่งค้างไว้ประมาณ 1 วินาที สายจะถูกตัดไปครับ

การเรียกใช้งาน Ai Assistant (Google&Siri)

• แตะที่หูฟังข้างใดข้างหนึ่งค้างไว้ 2 วินาทีแล้วปล่อย หลังจากนั้นจะมีสัญญาณของ AI Assistant ดังขึ้น จึงเริ่มใช้งานได้เลยครับ

การใช้งานหูฟังข้างเดียว (Mono Mode)

• ขณะใช้งานหูฟังสองข้าง ให้เก็บข้างที่ไม่ต้องการใช้ลงกล่องชาร์จฯ เป็นอันเสร็จสิ้นครับ

***เพิ่มเติม หากเก็บหูฟังข้างที่ไม่ใช้งานแล้วข้างที่ใส่อยู่เพลงดับหรือถูกตัดการเชื่อมต่อ ให้รอสักครู่ หูฟังจะ Reconnect กับอุปกรณ์ของเราโดยอัตโนมัติครับ
***เพิ่มเติม 2 ที่หน้าเมนูอุปกรณ์ Bluetooth ของอุปกรณ์ของเราควรจะโชว์ชื่อหูฟังทั้ง “TRN T200 L” และ “TRN T200 R” เพื่อให้ตัวหูฟังแต่ละข้างกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อด้วยสามารถเชื่อมต่อสลับกันเองได้อย่างอิสระครับ

การชาร์จแบตเตอรี่

หูฟัง

• เก็บหูฟังทั้งสองข้างลงกล่องชาร์จฯ หูฟังทั้งสองข้างจะชาร์จแบตเตอรี่จากตัวกล่อง สังเกตุได้จากไฟสีแดงขึ้นค้างครับ
• เมื่อหูฟังทั้งสองข้างชาร์จแบตเตอรี่เต็มแล้ว จะขึ้นไฟสีนํ้าเงินค้างไปสักระยะแล้วจะดับไปครับ

กล่องชาร์จฯ

• เสียบสายชาร์จฯ Micro-USB ที่กล่องชาร์จฯของ TRN T200 และเสียบสาย USB เข้ากับคอมพิวเตอร์หรือ laptop หรือเสียบชาร์จกับ adaptor 5V 1A ขึ้นไปครับ
• ขณะชาร์จแบตเตอรี่ กล่องชาร์จฯจะกระพริบไฟสีแดงครับ
• เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็มแล้ว จะขึ้นไฟสีแดงค้างครับ

ไฟแสดงสถานะต่างๆของ TRN T200

หูฟัง

• หูฟังข้างซ้ายกระพริบไฟสีนํ้าเงินสลับแดง,หูฟังอีกข้างกระพริบไฟสีนํ้าเงินเป็นระยะๆ : หูฟังอยู่ในโหมดจับคู่กับอุปกรณ์
• หูฟังข้าง L และ R กระพริบไฟสีนํ้าเงินเป็นระยะๆ : หูฟังเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในสถานะปกติ พร้อมใช้งาน
• หูฟังกระพริบไฟสีแดงทุกๆ 10 วินาที (พร้อมเสียงเตือนในหูฟัง) : หูฟังแบตเตอรี่ใกล้หมดแล้ว

กล่องชาร์จฯ

• กล่องชาร์จฯขึ้นไฟสีฟ้าค้าง : กล่องชาร์จฯมีแบตเตอรี่มากกว่า 50% ขึ้นไป
• กล่องชาร์จฯกระพริบไฟสีแดง : กล่องชาร์จฯมีแบตเตอรี่ตํ่ากว่า 20%
• กล่องชาร์จฯกระพริบไฟสีแดง (ขณะเสียบสายชาร์จ) : กล่องชาร์จฯกำลังชาร์จไฟเข้ากล่องชาร์จฯ
• กล่องชาร์จฯขึ้นไฟสีแดงค้าง (ขณะเสียบสายชาร์จ) : กล่องชาร์จฯชาร์จแบตเตอรี่เต็มแล้ว

การ Reset Factory (ใช้ในกรณีที่หูฟังทำงานผิดปกติ)

1. เก็บหูฟังทั้งสองข้างลงกล่องชาร์จฯ หูฟังทั้งสองข้างจะขึ้นไฟสีแดงค้างครับ
2. ขณะที่หูฟังทั้งสองข้างขึ้นไฟสีแดง ให้แตะหูฟังทั้งสองข้างพร้อมกัน 3 ครั้งติดต่อกัน หลังจากนั้นจะมีไฟสีนํ้าเงินกระพริบประมาณ 3 ครั้งครับ
3. หยิบหูฟังออกจากกล่องชาร์จฯ หูฟังจะทำการจับคู่กันและเข้าสู่โหมดจับคู่กับอุปกรณ์ เป็นอันเสร็จสิ้นการ Factory Reset ครับ

***ก่อนเริ่มทำการ Reset Factory ให้ลบความจำหูฟังในโทรศัพท์ของเราออกก่อนเริ่มทำการ Reset Factory ครับ

Product Include (อุปกรณ์ภายในกล่อง)

• หูฟัง TRN T200 จำนวน 1 คู่
• กล่องชาร์จฯ TRN T200 จำนวน 1 กล่อง
• จุกหูฟัง (Eartips) จำนวน 3 คู่ (S/M/L)
• สายชาร์จ Micro-USB
• คู่มือ

วิธีการเก็บรักษาหูฟัง TRN T200

• หากใส่หูฟังออกกำลังกาย ควรเช็ดหูฟังให้แห้งก่อนเก็บหูฟังลงกล่องชาร์จฯทุกครั้ง
• ไม่ควรใส่ TRN T200 อาบนํ้าและว่ายนํ้าครับ
• ไม่ควรเก็บหูฟังไว้ในที่ที่ร้อนจัด หรือชื้นจัดครับ
• หูฟังและกล่องชาร์จฯควรอยู่ด้วยกัน ไม่ควรพกไปอย่างใดอย่างหนึ่ง
• หากไม่ได้ใช้หูฟังเป็นระยะเวลานานๆ ควรหยิบออกมาชาร์จแบตฯทุกครั้งเพื่อกระตุ้นแบตเตอรี่ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานยิ่งขึ้นครับ

Warranty (เงื่อนไขประกันสินค้า)

• รับประกัน 6 เดือน ภายใต้เงื่อนไขที่ทาง TRN กำหนด
• ในส่วนของอุปกรณ์ที่มากับตัวกล่อง สายชาร์จ Micro-USB, จุกหูฟังทุกไซส์ มีระยะการรับประกันอยู่ภายใน 7 วัน
• คุณลูกค้าจะต้องเก็บตัวสินค้าเอาไว้ให้ครบไม่ว่าจะเป็นกล่อง, ซองแพ็คเกจจิ้ง, ตัวหูฟัง และอื่นๆที่มากับกล่อง เป็นต้นครับ
• หากตัวสินค้าเสียหายจากขั้นตอนการผลิตของโรงงานเช่น มีตำหนิ, สีลอก ยินดีเปลี่ยนสินค้าใหม่ให้ มีระยะการรับประกันไม่เกิน 7 วันนับตั้งแต่ได้รับสินค้า หากเกินจากนี้ จะไม่รับประกันในทุกกรณีครับ
• สินค้าจะต้องไม่มีร่องรอย การขีดข่วนอย่างรุนแรง หรือรอยที่เกิดจากตัวผู้ใช้งานเองครับ
• หากเป็นปัญหาจากการใช้งานของคุณลูกค้าไม่ว่าจะเป็น เปิดเสียงดังจนเสียงแตก, เบิร์นหูฟังผิดวิธี(ใช้แอพเบิร์นหรือคลื่นเสียงประเภท Sine Sweep, Pink Noise, White Noise จนหูฟังเสียหาย จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกันครับ
• ปัญหาการคุยโทรศัพท์แล้วเป็นเสียงที่คุยไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อเปิด-ปิดตัวหูฟังอีกรอบแล้วสามารถคุยได้ตามปกติ จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกันครับ
• ***หากสินค้ามีคราบนํ้าหรือความชื้นด้านในหูฟัง อันเกิดมาจากการใช้งานผิดวิธีเช่น ใส่ว่ายนํ้า ใส่อาบนํ้า หรือใส่วิ่งลุยฝนหนักๆ หรือโดนนํ้าเกินกว่าค่า IPXX ที่กำหนดไว้กับตัวสินค้า จะถือว่าใช้งานผิดวิธี และจะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกันครับ