Saramonic Blink500 Set B1 TX+RX3.5 mm (ไมค์ Wireless)
- ไมค์ไร้สาย (Wireless) เกรดพรีเมี่ยม แบรนด์ Saramonic
- ตัวส่งสัญญาณมีไมค์ในตัว และมีไมค์หนีบปกเสื้อพร้อมโฟมกันเสียงลมให้ในชุด
- คุณภาพเสียงระดับมืออาชีพ ลดเสียงรบกวนได้ดี ส่งสัญญาณได้ไกล
- ขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวก และใช้งานง่ายมาก
- สำหรับ Smartphone / Tablet / Compact Camera / Mirrorless / DSLR / กล้องวิดีโอ และอื่นๆ
Saramonic Blink500 Set B1 TX+RX 3.5 mm
( ไมค์ Wireless )
425Degree Recommend
Saramonic Blink500 ไมค์ไร้สาย (Wireless) เกรดพรีเมี่ยม ที่จะเปลี่ยนภาพลักษณ์ไมค์ไร้สายแบบเดิมๆ ที่ตัวใหญ่ หนัก และอาจจะต้องใส่ถ่าน ซึ่ง Blink500 รุ่นนี้มาในรูปแบบ Ultra compact คือมีขนาดที่เล็ก และเบามากๆครับ โดยความพิเศษอยู่ที่ตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) มีไมค์ในตัวเลยใช้งานสะดวกมากๆ แถมยังมีไมค์หนีบปกเสื้อ (Lavalier) แถมมาให้ในชุด สามารถเสียบที่ตัวส่งเพื่อใช้งานได้เลย เรียกว่าทางแบรนด์ให้มาแบบคุ้มๆเลยครับ ทั้งตัวส่งและตัวรับสัญญาณมีแบตเตอรี่ในตัว ใช้งานได้ยาวๆ และที่สำคัญคือใช้งานง่ายมากๆ หากเคยเชื่อมต่อแล้วเพียงแค่กดเปิดก็ใช้งานได้ทันทีครับ รุ่นนี้ส่งสัญญานได้ไกลและนิ่งมาก เหมาะมากๆสำหรับทำรายการ หรือถ่ายงานทั่วไป รวมถึง YouTuber และ Vlogger ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนไปถึงระดับมืออาชีพเลยครับ คุณภาพเสียงสูง ให้เสียงชัดเจน ลดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดี เป็นไมค์ไร้สายที่ 425 อยากให้ลองครับ
- Blink500 ใช้เทคโนโลยีการส่งสัญญาณแบบ 2.4 GHz ซึ่งส่งสัญญาณได้ไกลมาก หากไม่มีสัญญาณรบกวนหรือสิ่งกีดขวาง สามารถส่งสัญญาณได้ถึง 30-70 เมตรเลยทีเดียวครับ ใช้งานนอกสถานที่ได้แบบไม่มีปัญหา
- ด้วยไมค์ Built in ในตัว ช่วยให้ใช้งานสะดวกมากๆ ไม่ต้องต่อไมค์เสริมให้ยุ่งยาก ลดปัญหาสายมากวนใจ แต่หากอยากใช้งานไมค์ Lavalier ก็มีแถมให้ในชุด สามารถเสียบใช้งานได้เลย เรียกว่าคุ้มค่าจริงๆครับ มีให้ครบทุกการใช้งานเลย
- มีแบตเตอรี่ในตัวทั้งตัวส่งและตัวรับ ตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) ใช้งานได้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง และตัวรับสัญญาณ (Receiver) ใช้งานได้ประมาณ 5-6 ชั่วโมง หรือจะพก Power Bank เพื่อชาร์จไปใช้ไปก็ทำได้สบายครับ
- ใช้งานได้กับหลากหลายอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น Smartphone, Tablet, Compact Camera, Mirrorless, DSLR, กล้องวิดีโอ และอุปกรณ์อื่นๆที่มีช่องสำหรับต่อไมโครโฟนขนาด 3.5 mm โดยมีสายสำหรับการเชื่อมต่อมาให้ทั้งแบบ TRS และ TRRS
- ไม่ต้องเป็นมืออาชีพก็ใช้งานได้ง่าย เพราะออกแบบมาให้ติดตั้งง่าย ใช้งานง่าย ใช้ได้ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับมืออาชีพ ไม่ว่าจะถ่าย Vlog ทั่วไป หรือถ่ายงานจริงจัง ทำรายการตามช่อง YouTube ต่างๆ ก็ใช้งานได้ไม่ติดขัด เพราะสเปคดีมากๆ ระดับพรีเมี่ยมจริงๆครับ
VDO Review จาก Youtube
VDO Review จากทางแบรนด์
Highlight
- Saramonic Blink500 ไมค์ไร้สาย (Wireless) จาก Saramonic แบรนด์ไมโครโฟนคุณภาพสูง
- มีไมค์ในตัวส่งสัญญาณ ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาสะดวก มาพร้อกับไมค์หนีบปกเสื้อ (Lavalier) และมีแบตเตอรี่ในตัว
- คุณภาพเสียงระดับพรีเมี่ยม ส่งสัญญาณได้ไกล และเสียงดีเลย์ต่ำ โดยต่ำกว่า 0.6 วินาที (0.6 ms)
- ใช้งานง่าย ไม่ต้องมีความรู้พื็้นฐานก็สามารถใช้งานได้ ไม่ว่าจะระดับเริ่มต้นหรือมืออาชีพ และใช้งานได้ในทุกสถานที่
Product Detail รายละเอียดสินค้า
- แบรนด์ : Saramonic จาก USA
- ชื่อรุ่น : Blink500 Set B1 TX+RX 3.5 mm
- วัสดุ : พลาสติกแข็ง PC (Polycarbonate)
- สี : Black (ดำ)
- ขนาด : ตัวรับสัญญาณ (Receiver) กว้าง 6.2 ซม. ยาว 3.3 ซม. หนา 1.55 ซม. | ตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) กว้าง 6.3 ซม. ยาว 4.3 ซม. หนา 1.65 ซม.
- น้ำหนัก : ตัวรับสัญญาณ (Receiver) 26.5 กรัม | ตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) 34 กรัม
- สำหรับ : Smartphone / Tablet (ทั้งระบบ IOS และ Android) / Compact Camera / Mirrorless / DSLR / กล้องวิดีโอ หรืออุปกรณ์อื่นๆที่มีช่องสำหรับต่อไมโครโฟนขนาด 3.5 มม. (Jack Plug)
Product Detail จาก 425Degree
- ไมโครโฟนไร้สาย (Wireless) แบรนด์ Saramonic
- Saramonic แบรนด์ไมโครโฟนคุณภาพสูง ซึ่งเป็นผู้ผลิตไมโครโฟนและอุปกรณ์ทางด้านเสียงอื่นๆ
- มีตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) และตัวรับสัญญาณ (Receiver) พร้อมไมค์หนีบปกเสื้อ (Lavalier) มาให้ในชุด
- เป็นแบบ Dual-Channel โดยสามารถใช้ตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) 2 ตัว ต่อตัวรับสัญญาณ (Receiver) 1 ตัว ช่วยให้การใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น (ในชุดมีตัวส่งสัญญาณมาให้เพียง 1 ตัวนะครับ หากต้องการใช้ 2 ตัว จะต้องแยกซื้อเพิ่มครับ)
- ตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) มีไมค์ในตัว (Built-in Mic) และมีช่องต่อไมโครโฟนขนาด 3.5 mm (Jack Plug)
- โดยสามารถนำไมค์หนีบปกเสื้อ (Lavalier) ที่ให้มาเสียบเข้ากับตัวส่งเพื่อใช้งานได้เลย
- ใช้เทคโนโลยีการส่งสัญญาณโดยใช้คลื่นสัญญาณ 2.4 GHz
- ส่งสัญญาณได้ไกล สามารถใช้งานได้ในระยะประมาณ 50 เมตร (โดยไม่มีสิ่งกีดขวาง) (แต่จากการทดสอบจากรายการหลายๆช่อง พบว่า หากไม่มีสิ่งกีดขวาง อาจใช้งานได้ไกลถึงระยะ 70-100 เมตรครับ)
- ***หากใช้งานในสถานที่ที่มีสัญญาณอื่นๆเป็นจำนวนมาก จะใช้งานได้ในระยะที่ใกล้ขึ้นไปอีกนะครับ
- รูปแบบการรับเสียงเป็นแบบ Omni-directional โดยรับเสียงได้รอบทิศทางแบบ 360 องศารอบตัวไมค์
- คุณภาพเสียงระดับพรีเมี่ยม ให้เสียงชัดเจน ลดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดี
- มีเสียงดีเลย์ต่ำ โดยต่ำกว่า 0.6 วินาที (0.6 ms)
- ด้านหลังตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) มีคลิปสำหรับหนีบ สามารถหนีบปกเสื้อ เข็มขัด กระเป๋ากางเกง หรือบริเวณอื่นๆได้
- ตัวรับสัญญาณ (Receiver) มีขนาดที่เล็กกว่า ตัวส่งสัญญาณ (Transmitter)
- โดยด้านหลังตัวรับสัญญาณ (Receiver) มีคลิปสำหรับหนีบ ซึ่งมีขนาดที่พอดีกับช่อง Hot Shoe สามารถเสียบเพื่อติดตั้งใช้งานได้
- ตัวรับสัญญาณ (Receiver) มีช่องสำหรับต่อใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ (LINE OUT) เช่น Smartphone / Tablet (ทั้งระบบ IOS และ Android) /Compact Camera / Mirrorless / DSLR / กล้องวิดีโอ หรืออุปกรณ์อื่นๆ
- มีสาย TRS และสาย TRRS แบบหัวแจ็คขนาด 3.5 mm สำหรับต่อใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆมาให้ในชุด
- โดยสาย TRS สำหรับต่อใช้งานร่วมกับกล้อง Compact Camera / Mirrorless / DSLR / กล้องวิดีโอ หรืออุปกรณ์อื่นๆ
- ส่วนสาย TRRS สำหรับต่อใช้งานร่วมกับ Smartphone / Tablet (สำหรับ IOS และ Android) หรืออุปกรณ์อื่นๆ
- โดยสามารถต่อเข้ากับอุปกรณ์ที่มีช่องสำหรับต่อไมโครโฟนขนาด 3.5 mm (Jack Plug)
- ตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) และตัวรับสัญญาณ (Receiver) มีแบตเตอรี่ในตัวแบบ Lithium-ion Battery สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ประมาณ 6 ชั่วโมง (แต่จากการทดสอบจากรายการหลายๆช่อง พบว่า ตัวส่งสัญญาณใช้งานได้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง และตัวรับสัญญาณใช้งานได้ประมาณ 5-6 ชั่วโมง)
- ใช้พอร์ตชาร์จแบบ USB-C ทั้งตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) และตัวรับสัญญาณ (Receiver) โดยมีสาย USB-C 2 เส้น แถมมาให้ในชุด
- ทั้งสาย USB-C รวมถึงสาย TRS และ TRRS เป็นแบบเคลือบทอง (Gold-Plated) ป้องกันการเกิดสนิม
- ตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) และตัวรับสัญญาณ (Receiver) มีปุ่ม Power สำหรับเปิด/ปิด การใช้งาน
- ตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) มีไฟ LED บริเวณปุ่ม Power แสดงสถานะการใช้งาน มีปุ่ม (+) / (-) สำหรับเพิ่ม-ลดเสียง และกด (+) / (-) ค้างพร้อมกันเพื่อ Pair สำหรับการเชื่อมต่อกับตัวรับสัญญาณ (Receiver)
- โดยสามารถปรับเพิ่ม-ลดเสียงได้ 6 ระดับเสียง ซึ่งแบ่งเป็น 2 ระดับเสียงต่อ 1 สถานะไฟ LED
- ตัวรับสัญญาณ (Receiver) มีไฟ LED ด้านใต้ปุ่ม Power และด้านข้างบริเวณพอร์ตชาร์จ แสดงสถานะการใช้งาน และมีช่องเล็กๆ ด้านใต้คำว่า 'Pair' เพื่อเสียบเข็มสำหรับการเชื่อมต่อ (Pairing Pin-Hole) สำหรับการเชื่อมต่อตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) เข้ากับตัวรับสัญญาณ (Receiver) ในครั้งแรก หรือในกรณีที่ตัวส่งและตัวรับไม่เชื่อมต่อกัน
- ตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) และตัวรับสัญญาณ (Receiver) มีขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา และพกพาสะดวก
- วัสดุพลาสติกแข็งคุณภาพดี งานประกอบแน่นหนา
- มีไมค์หนีบปกเสื้อ (Lavalier) ความยาวสาย 1.2 เมตร พร้อมโฟมกันเสียงลม (Foam Lavalier Windscreen) ให้ในชุด สำหรับต่อใช้งานเข้ากับตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) เพื่อเสียงที่ชัดเจนขึ้น (สามารถใช้ไมค์เสริมอื่นๆได้ แต่คุณภาพเสียงที่ได้ ขึ้นอยู่กับคุณภาพของไมค์ที่ใช้ด้วยนะครับ)
- มีคลิปสำหรับหนีบปกเสื้อมาให้ในชุด สำหรับติดเข้ากับตัวไมค์และติดที่เสื้อเพื่อใช้งาน
- มีเข็มสำหรับเสียบเข้ากับช่องสำหรับเชื่อมต่อ (Pairing Pin Hole) ของตัวรับสัญญาณ (Receiver) ให้มาในชุด
- มีการสกรีนโลโก้แบรนด์ Saramonic เพิ่มความพรีเมี่ยม
- เหมาะสำหรับถ่ายงาน Video แบบเคลื่อนที่ หรือบันทึกเสียงทั่วไป
- ***ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง ไม่สามารถหลีกเลี่ยงเสียงรบกวนจากรอบข้างได้ครับ
- ***ในสถานที่ที่มีสัญญาณต่างๆเป็นจำนวนมาก อาจทำให้เกิดปัญหาในการส่งสัญญาณ ซึ่งอาจทำให้เสียงขาดหายได้ครับ (แนะนำให้ฟังเสียง (Monitor) ในขณะที่บันทึกตลอดเวลา เพื่อเช็กว่ามีเสียงขาดหายหรือไม่ครับ)
- ***สำหรับ Smartphone ระบบ Android บางรุ่นอาจไม่รองรับการใช้งานร่วมกับไมค์รุ่นนี้ครับ โดยจำเป็นต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน 'Cinema FV-5' หรือ 'Open Camera' เพื่อให้สามารถใช้งานร่วมกันได้ครับ (สามารถดูวิธีการตั้งค่าแอปได้ในหัวข้อ 'การใช้งานเพิ่มเติม' ครับ)
- ***จากการใช้งานจริงของ 425 พบว่า Smartphone ที่มีช่องสำหรับต่อไมโครโฟนแบบพอร์ต USB-C ที่จำเป็นต้องใช้อะแดปเตอร์เพื่อแปลงเป็นช่อง 3.5 mm (Jack Plug) เพื่อต่อใช้งานเข้ากับสาย TRRS พบว่า ไม่สามารถใช้งานได้ครับหากต้องการใช้งานร่วมกับช่องสำหรับต่อไมโครโฟนพอร์ต USB-C แนะนำเป็นรุ่น Saramonic Blink500 Set B5 TX+Type-C ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกัน แตกต่างกันเพียงตัวรับสัญญาณ (Receiver) ที่มาในลักษณะของพอร์ต USB-C โดยเฉพาะครับ
- ***หากใช้งานร่วมกับ Smartphone ที่มีช่องสำหรับต่อไมโครโฟนแบบพอร์ต Lightning แนะนำเป็นรุ่น Saramonic Saramonic Blink500 Set B3 TX+Lightning ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกัน แตกต่างกันเพียงตัวรับสัญญาณ (Receiver) ที่มาในลักษณะของพอร์ต Lightning โดยเฉพาะครับ
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- Blink500 TX Transmitter with Built-In Microphone and Clip (ตัวส่งสัญญาณ) x 1
- Blink500 RX Receiver with Built-In Clip and Camera Shoe-Mount (ตัวรับสัญญาณ) x 1
- 1’ (30.5 cm) Gold-Plated 3.5mm TRS to TRS Output Cable for Cameras (สาย TRS เป็น TRS ความยาว 30.5 ซม.) x 1
- 1’ (30.5 cm) Gold-Plated 3.5mm TRS to TRRS Output Cable for Smartphones and Tablets (สาย TRS เป็น TRRS ความยาว 30.5 ซม.) x 1
- 1’ (30.5 cm) Gold-Plated USB-C to USB-A Charging Cables (สาย USB-C เป็น USB-A สำหรับชาร์จ) x 2
- SR-M1 Omnidirectional Lavalier Microphone (ไมค์หนีบปกเสื้อ) x 1
- Alligator-Style Lavalier Microphone Clip (คลิปสำหรับติดที่ไมค์เพื่อหนีบปกเสื้อ) x 1
- Foam Lavalier Windscreen (โฟมกันเสียงลมสำหรับใส่เข้ากับหัวไมค์) x 1
- Pairing Pin (เข็มสำหรับเสียบช่อง Pair ที่ตัวรับสัญญาณ(Receiver) เพื่อเชื่อมต่อ x 1
- Warranty Card (ใบรับประกัน) x 1
- User Manual (คู่มือการใช้งาน) x 1
ข้อมูลเชิงเทคนิค
Blink500 RX
-
Transmission Type: 2.4GHz Digital Frequency
- Modulation: GFSK
- Audio Output Connector: 3.5 mm Jack
- Audio Output level: –60 dBV
- Power Requirements: Built-in Li-ion Battery or USB-C DC 5V
- Built-In Battery Life: Approx. 6 hours
- Antenna: PIFA Antenna
- Weight: Approx. 26.5g (0.93oz)
- Dimensions: 62×33×15.5mm
- Operating Temperature: 0°C to 50°C
- Storage Temperature: –20°C to +55°C
Blink500 TX
- Transmission Type: 2.4GHz Digital Frequency
- Modulation: GFSK
- Operating Range: Up to 164′ (50m)
- RF Output Power: 10mW
- Polar Pattern: Omnidirectional
- Frequency Response: 50Hz-18KHz
- Maximum SPL: Built-in Microphone: 120dB SPL
- Lavalier Microphone: 110dB SPL
- Sensitivity: Built-in Microphone: -42dB
- Lavalier Microphone: -30dB
- SNR: >78dB
- Power Requirements: Built-in Li-ion Battery or USB-C DC 5V
- Built-in Battery Life: Approx. 6 hours
- Antenna: PIFA Antenna
- Audio Inputs: 3.5mm TRS Lavalier Microphone Input or Built-in Microphone
- Weight: Approx. 34g (1.2oz)
- Dimensions: 63×43×16.5mm
- Operating Temperature: 0°C to 50°C
- Storage Temperature: –20°C to +55°
อุปกรณ์ที่รองรับการใช้งาน
- กล้อง Compact Camera / Mirrorless / DSLR / เครื่องบันทึกเสียง / และอุปกรณ์บันทึกเสียงหรือวิดีโออื่นๆ ที่มีช่องสำหรับต่อไมโครโฟนขนาด 3.5 mm (Jack Plug)
- Smartphone / Tablet ที่มีช่องสำหรับต่อไมโครโฟนขนาด 3.5 mm (Jack Plug)
- หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่มีช่องสำหรับต่อไมโครโฟนขนาด 3.5 mm (Jack Plug)
วิธีการใช้งาน
การเชื่อมต่อระหว่าง ตัวส่งสัญญาณ(Transmitter) และตัวรับสัญญาณ(Receiver)
- เปิดตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) โดกดปุ่ม Power ค้างไว้จนมีไฟสีน้ำเงินกะพริบขึ้นมา
- เปิดตัวรับสัญญาณ (Receiver) โดยกดปุ่ม Power ค้างไว้จนไฟสีน้ำเงินกะพริบขึ้นมา
- เสียบเข็มที่ให้มาในชุด ที่ช่องสำหรับการเชื่อมต่อ (Pairing Pin Hole) บนตัวรับสัญญาณ (Receiver) จนไฟสีน้ำเงินกะพริบเร็วขึ้น (กะพริบทุก 0.5 วินาที)
- *การเสียบเข็มเข้าไปในช่องสำหรับการเชื่อมต่อ เป็นการเสียบเข้าและกดลงไปแล้วดึงออกนะครับ ไม่ต้องเสียบค้างไว้ครับ
- กดปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง (+) / (-) ที่ตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) ค้างไว้ประมาณ 10 วินาที
- เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จ ไฟสถานะของตัวรับสัญญาณ (Receiver) จะเป็นสีน้ำเงินค้างไว้ไม่กะพริบ ส่วนไฟสถานะของตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) จะกะพริบช้าลง
- *หากการเชื่อมต่อไม่สำเร็จ ไฟสถานะ LED จะกะพริบทุก 1 วินาที ให้ทำตามขั้นตอนด้านบนอีกครั้งนึงครับ
- เมื่อการเชื่อมต่อครั้งแรกสำเร็จ ในการใช้งานครั้งต่อไป ตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) และตัวรับสัญญาณ (Receiver) จะเชื่อมต่อกันโดยอัตโนมัติเมื่อเปิดใช้งาน
ตัวส่งสัญญาณ(Transmitter)
- 1. ปุ่ม Power (Power Key) กดค้างเพื่อ เปิด/ปิด การใช้งาน
- 2. ไฟสถานะ LED (แสดงสถานะแบตเตอรี่ ระดับเสียง และสถานะการเชื่อมต่อ)
- สถานะแบตเตอรี่
- - ไฟสีแดง : แบตเตอรี่ต่ำ
- - ไฟสีเขียว : กำลังชาร์จไฟเข้า (เมื่อแบตเตอรี่เต็มไฟจะดับอัตโนมัติ)
- ระดับเสียง
- - ไฟสีน้ำเงิน 3 ดวง แสดงสถานะระดับเสียง
- - ปรับเพิ่ม-ลดเสียง โดยกดปุ่ม (+) เพื่อเพิ่มเสียง และกดปุ่ม (-) เพื่อลดเสียง
- - ไฟ 1 ดวง = การปรับ เพิ่ม-ลด เสียง 2 ระดับ ปรับเสียงได้มากสุด 6 ระดับ
- *เมื่อลดระดับเสียงลงจนไฟดับ จะเป็นการปิดไมค์ เสียงจะไม่เข้าตัวส่งสัญญาณ (Transmitter)
- สถานะการเชื่อมต่อ
- - ไฟสีน้ำเงินมุมซ้ายล่าง แสดงสถานะการเชื่อมต่อ
- - ไฟสีน้ำเงินกะพริบ ทุก 1 วินาที : ไม่มีการเชื่อมต่อ
- - ไฟสีน้ำเงินกะพริบ ทุก 3 วินาที : เชื่อมต่อสำเร็จ
- 3. ช่องสำหรับต่อไมโครโฟน ขนาด 3.5 mm (Jack Plug)
- 4. ช่องพอร์ตชาร์จ USB Type-C
- 5. คลิปสำหรับหนีบ
- 6. ปุ่มปรับระดับเสียงและการเชื่อมต่อ
ตัวรับสัญญาณ (Receiver)
- 1. ปุ่ม Power (Power Key) กดค้างเพื่อ เปิด/ปิด การใช้งาน
- 2. ไฟสถานะ LED (แสดงสถานะแบตเตอรี่ และสถานะการเชื่อมต่อ)
- สถานะแบตเตอรี่
- - ไฟสีแดง : แบตเตอรี่ต่ำ
- สถานะการเชื่อมต่อ
- - ไฟสีน้ำเงินกะพริบ ทุก 1 วินาที : ไม่มีการเชื่อมต่อ
- - ไฟสีน้ำเงินกะพริบ ทุก 0.5 วินาที : กำลังหาตัวส่งสัญญาณเพื่อทำการเชื่อมต่อ
- - ไฟสีน้ำเงินค้าง : เชื่อมต่อสำเร็จ
- 3. ช่องพอร์ตชาร์จ USB Type-C
- 4. ไฟ LED แสดงสถานะการชาร์จแบตเตอรี่
- - ไฟสีเขียว : กำลังชาร์จไฟเข้า (เมื่อแบตเตอรี่เต็มไฟจะดับอัตโนมัติ)
- 5. ช่องสำหรับต่ออุปกรณ์ (LINE OUT)
- - สำหรับเชื่อมต่อกับ Smartphone, Tablet ผ่านสาย TRRS ที่ให้มาในชุด
- - สำหรับเชื่อมต่อกับกล้องต่างๆ, เครื่องบันทึกเสียง และอุปกรณ์บันทึกเสียงหรือวิดีโออื่นๆ ผ่านสาย TRS ที่ให้มาในชุด
- 6. ช่องเสียบเข็มสำหรับการเชื่อมต่อ (Pairing Pin-Hole)
- 7. คลิปสำหรับหนีบ (ขนาดมาตรฐานพอดีกับ Hot Shoe ของตัวกล้อง)
สายสำหรับการเชื่อมต่อ
- สายแบบ TRRS (3.5mm TRRS connector)
สำหรับเชื่อมต่อกับ Smartphone, Tablet หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่มีช่องสำหรับต่อไมโครโฟนขนาด 3.5 mm (Jack Plug)
- สายแบบ TRS (3.5mm TRS connector)
สำหรับเชื่อมต่อกับกล้องต่างๆ, เครื่องบันทึกเสียง และอุปกรณ์บันทึกเสียงหรือวิดีโออื่นๆ อุปกรณ์อื่นๆ ที่มีช่องสำหรับต่อไมโครโฟนขนาด 3.5 mm (Jack Plug)
การใช้งานร่วมกับ Smartphone / Tablet (หรืออุปกรณ์อื่นๆ)
- เชื่อมต่อตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) เข้ากับตัวรับสัญญาณ (Receiver) (สามารถดูวิธีการเชื่อมต่อได้ในหัวข้อ 'การเชื่อมต่อ' ครับ)
- นำสาย TRRS ต่อเข้ากับ Smartphone / Tablet ผ่านช่องสำหรับต่อไมโครโฟนขนาด 3.5 mm
- โดยเสียบด้านหัวแจ็คแบบ 4-Pole (มีขีด 3 เส้น) เข้ากับ Smartphone / Tablet (แบบหัวตรง มีป้าย TRRS พร้อมลูกศรติดอยู่)
- จากนั้นเสียบหัวแจ็ค (แบบหัวงอ) อีกด้านของสายเส้นเดียวกัน ซึ่งเป็นแบบ 3-Pole (มีขีด 2 เส้น) เข้ากับตัวรับสัญญาณ (Receiver) ผ่านช่องสำหรับต่ออุปกรณ์ (LINE OUT)
- เปิดการใช้งานตัวรับสัญญาณ (Receiver) และตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) ก็พร้อมใช้งานครับ
การใช้งานร่วมกับกล้องต่างๆ (หรืออุปกรณ์อื่นๆ)
- เชื่อมต่อตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) เข้ากับตัวรับสัญญาณ (Receiver) (สามารถดูวิธีการเชื่อมต่อได้ในหัวข้อ 'การเชื่อมต่อ' ครับ)
- นำสาย TRS ต่อเข้ากับตัวกล้องผ่านช่องสำหรับต่อไมโครโฟนขนาด 3.5 mm (สายหัวแจ็คแบบ 3-Pole (มีขีด 2 เส้น) ทั้ง 2 ฝั่ง)
- โดยเสียบหัวแจ็คเข้ากับตัวกล้อง และเสียบหัวแจ็คอีกด้านของสายเส้นเดียวกันเข้ากับตัวรับสัญญาณ (Receiver) ผ่านช่องสำหรับต่ออุปกรณ์ (LINE OUT)
- เปิดการใช้งานตัวรับสัญญาณ (Receiver) และตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) ก็พร้อมใช้งานครับ
การติดตั้งไมโครโฟน
- ตัวส่งสัญญาณ (Trsnsmitter) มีช่องสำหรับต่อไมโครโฟนขนาด 3.5 mm (Jack Plug) สามารถใช้งานร่วมกับไมค์เสริม เพื่อเสียงที่ชัดเจนขึ้น
- วิธีการติดตั้งไมค์
- เสียบหัวแจ็คของตัวไมค์ เข้ากับช่องต่อไมโครโฟนขนาด 3.5 mm บนตัวส่งสัญญาณ (Trsnsmitter)
- เปิดการใช้งานตัวส่งสัญญาณ (Trsnsmitter) ก็พร้อมใช้งานครับ
- *มีไมค์หนีบปกเสื้อ (Lavalier) ความยาวสาย 1.2 เมตร พร้อมโฟมกันเสียงลม (Foam Lavalier Windscreen) ให้ในชุด (สามารถใช้ไมค์เสริมอื่นๆได้ แต่คุณภาพเสียงที่ได้ ขึ้นอยู่กับคุณภาพของไมค์ที่ใช้ด้วยครับ)
การติดไมค์บนเสื้อ
- เริ่มจากการติดตั้งไมค์เข้ากับคลิปสำหรับหนีบปกเสื้อ โดยนำตัวไมค์ใส่เข้าไปในห่วงพลาสติกของตัวคลิป
- จากนั้นติดไมค์บนเสื้อ โดยให้ตัวไมค์อยู่ทางด้านหน้า และห่างจากใบหน้าประมาณ 20-25 ซม. (8-10 นิ้ว)
- **หากเสียงที่ได้รับไม่เสถียร ให้กลับหัวไมค์ลง เพื่อลดเสียงลมหายใจและเสียงรบกวนจากการเคลื่อนไหวของศีรษะครับ
- ***แนะนำให้ใส่โฟมกันเสียงลม (Foam Lavalier Windscreen) เข้ากับตัวไมค์ไว้ตลอดนะครับ (แม้ว่าจะใช้งานในอาคาร) เพื่อหลีกเลี่ยงเสียงรบกวน รวมถึงป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรกเข้าไปในตัวไมค์ครับ
- ***แนะนำให้ติดไมค์แบบตัวสายอยู่ด้านในเสื้อนะครับ เพื่อลดเสียงรบกวนจากการเคลื่อนไหวของสายครับ
ไฟแสดงสถานะ LED
- ตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) และตัวรับสัญญาณ (Receiver) เชื่อมต่อกัน : Receiver ขึ้นไฟสีน้ำเงิน | Transmitter ไฟสีน้ำเงินกะพริบทุก 3 วินาที
- ตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) และตัวรับสัญญาณ (Receiver) ไม่เชื่อมต่อกัน : Receiver ไฟสีน้ำเงินกะพริบทุก 1 วินาที | Transmitter ไฟสีน้ำเงินกะพริบทุก 1 วินาที
- ปิดการใช้งานตัวรับสัญญาณ (Receiver) (แต่เปิดการใช้งานตัวส่งสัญญาณ (Transmitter)) : Receiver ไม่โชว์ไฟ | Transmitter ไฟสีน้ำเงินกะพริบ
- ปิดการใช้งานตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) (แต่เปิดการใช้งานตัวรับสัญญาณ (Receiver)) : Receiver ไฟสีน้ำเงินกะพริบ | Transmitter ไม่โชว์ไฟ
- แบตเตอรี่ต่ำ : Receiver ขึ้นไฟสีแดง | Transmitter ขึ้นไฟสีแดง
การใช้งานเพิ่มเติม
- ***สำหรับ Smartphone ระบบ Android บางรุ่นอาจไม่รองรับการใช้งานร่วมกับไมค์รุ่นนี้ครับ โดยจำเป็นต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน 'Cinema FV-5' หรือ 'Open Camera' เพื่อให้สามารถใช้งานร่วมกันได้ครับ (สามารถดูวิธีการตั้งค่าแอปได้ในหัวข้อ 'การใช้งานเพิ่มเติม' ครับ)
- วิธีการตั้งค่าในแอปพลิเคชัน Open Camera : เมื่อเปิดแอปแล้วให้เข้าไปที่ Setting > Video setting > Audio source > ให้เลือกเป็น External mic ครับ
- วิธีการตั้งค่าในแอปพลิเคชัน Cinema FV-5 : เมื่อเปิดแอปแล้วให้เข้าไปที่ Setting > Audio > Audio source > ให้เลือกเป็น External mic ครับ
คู่มือการใช้งาน
- สามารถดูคู่มือการใช้งานเพิ่มเติมได้คลิกที่นี่เลยครับ
เงื่อนไขการรับประกัน
- ตัวผลิตภัณฑ์ (เฉพาะตัวส่งสัญญาณ (Transmitter) และตัวรับสัญญาณ (Receiver)) รับประกันภายใน 1 ปี ภายใต้เงื่อนไขที่ทางแบรนด์กำหนด โดยความเสียหายที่เกิดจากการผลิตและไม่รวมถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้งานผิดประเภท
- อุปกรณ์เสริมอื่นๆ (ไมค์เสริม และสายชาร์จ) ที่แถมมาในกล่อง รับประกัน 1 เดือน ในความเสียหายที่เกิดจากการผลิตและไม่รวมถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้งานผิดประเภท
- **โดยผู้ซื้อจำเป็นต้องลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ ภายใน 15 วัน เพื่อรับสิทธิ์ในการรับประกันครับ**
- สามารถสแกน QR Code บนกล่องบรรจุภัณฑ์เพื่อลงทะเบียน หรือ คลิกที่นี่ได้เลยครับ
- *ลูกค้าจะต้องเก็บกล่องบรรจุภัณฑ์และอุปกรณ์ในกล่องให้ครบถ้วนเอาไว้เพื่อใช้ยืนยันในการขอรับประกันครับ
การรับรองมาตรฐานและความปลอดภัย
- ผ่านการรับรองมาตรฐาน CE, FCC, RoHS certifications
- CE : เป็นเครื่องหมายที่แสดงการรับรองจากผู้ผลิตว่าสินค้ามีคุณสมบัติตามข้อกำหนดด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรป
- FCC : อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์/คอมพิวเตอร์ทุกชิ้นก่อนที่จะนำไปขายในสหรัฐฯจะต้องได้รับการรับรองจาก FCC (เป็นองค์กรของรัฐบาลสหรัฐฯ) เพื่อให้ตรงกับข้อจำกัดทางกฎหมายเกี่ยวกับการเป็นตัวนำและการกระจายคลื่นวิทยุ
- RoHS : เป็นมาตรฐานเพื่อสิ่งแวดล้อม กำหนดให้ชิ้นส่วนทุกอย่างที่ประกอบเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ตั้งแต่แผงวงจร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงสายไฟ จะต้องมีสารที่เป็นอันตรายไม่เกินไปกว่าที่กำหนด (ตะกั่ว/ปรอท/แคดเมียม/เฮกซะวาเลนท์/โพลีโบรมิเนต/โพลีโบรมิเนต)
การทำความสะอาดและดูแลรักษา
- หลีกเลี่ยงการใช้งานในที่ที่ฝุ่นเยอะและความชื้นสูง หรือบริเวณที่เปียกแฉะ
- ก่อนใช้งานทุกครั้งให้ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์
- ขณะเสียบใช้งานหรือถอดออก ควรจับที่ตัวบอดี้ เพื่อป้องกันสายไฟหักหรือขาดครับ
- เก็บไมโครโฟนในกระเป๋าที่แถมมาเมื่อไม่ได้ใช้งาน เพื่อป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรก
- หมั่นเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าสะอาด ไม่ควรใช้สารเคมีใดๆครับ (โปรดระมัดระวังเรื่องความชื้นของผ้าด้วยครับ ผ้าควรจะเป็นผ้าแห้งครับ)
Fashion Island STORE | ไม่ |
---|---|
SKU | AH135-A1-A |
แบรนด์ | Saramonic |
CTW STOCK | ไม่ |
MB STOCK | ไม่ |
ES STOCK | ไม่ |
WV STOCK | ไม่ |
Paragon STORE | ไม่ |