Romoss PH50Pro 10000mAh Power Bank QC3.0+PD ( Powerbank 10000 mAh+QC3.0+PD )

แบรนด์

• Romoss จาก Hongkong

วัสดุ

• ตัวบอดี้ Powerbank ทำจากพลาสติก ABS คุณภาพสูง ทนทานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

ขนาดและน้ำหนัก

• กว้าง 6.2 ซม. ยาว 13.8 ซม. หนา 21 มม.
• หนัก  288 กรัม

ข้อมูลเชิงเทคนิค

• Cell Battery ::  LG Lithium – Polymer
• Capacity :: 10000 mAh
• Full Charge :: 7 ชั่วโมง
• Input Micro USB :: DC 5V-2A or 9V- 2A  (18W Max)(QC 2.0)
• Input Type-C :: DC 5V-2A or 9V-2A (18W Max)(QC 2.0+PD 3.0)
• Output USB3.0 :: DC 5V-3A or 9V-2A or 12V- 1.5A (18W Max)(QC 3.0)
• Output Type-C :: DC 5V-3A or 9V-2A or 12V-1.5A (18W Max)(QC 3.0+PD3.0)
• Related Energy :: 37 Wh/ 3.7 V.
• ***ถ้าทำการเสียบชาร์จมากกว่า 1 เครื่อง ช่อง Output ทุกช่องจะปรับกระแสไฟเป็นการชาร์จแบบปกติ ไม่เป็นการชาร์จเร็วครับ

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• Romoss PH50Pro 10000mAh Power Bank QC3.0+PD  x 1
• สายชาร์จ Micro USB x 1 (จ่ายไฟมาตรฐาน 1A ไม่สามารถใช้ Quickcharge ได้ครับ)
• คู่มือการใช้งาน x 1

การรับประกัน

• ทางร้าน 425degree รับประกันสินค้าภายใน 1 ปีในความเสียหายที่เกิดจากการผลิตและความเสียหายที่ว่านั้นไม่รวมถึงการกระทำของผู้ใช้งานหรือการใช้งานที่ผิดวิธี โดยลูกค้าจะต้องเก็บกล่องบรรจุภัณฑ์เอาไว้เพื่อใช้ยืนยันในการขอรับประกันครับ
• ***สำหรับการชาร์จเข้าแบตสำรอง แนะนำว่าควรใช้หัวชาร์จที่จ่ายไฟได้ตรงตามสเปคที่ระบุมาเท่านั้นนะครับ หากใช้หัวชาร์จที่จ่ายไฟน้อยกว่าที่สเปคระบุ จะทำให้ชาร์จเข้าได้ช้าและส่งผลเสียต่ออุปกรณ์ทำให้ใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หากลูกค้าใช้หัวชาร์จที่ไม่ตรงสเปค แล้วอุปกรณ์เกิดความเสียหาย กรณีนี้จะไม่รวมอยู่ในการรับประกันนะครับ

วิธีเช็ค Serial Number ของแท้

• ลิงค์สำหรับเช็ค Serial Number คลิกที่นี่เลยครับ

ประสบการณ์ใช้งานจริงจาก 425Degree

• จากการลองใช้งานเอง พบว่าตัว Romoss PH50Pro 10000mAh Power Bank QC3.0+PD แบตสำรองความจุกำลังพอดีสำหรับใช้งานวันต่อวัน และมาในขนาดที่พอดีมือ น้ำหนักไม่มากจนเกินไปครับ

• ในเรื่องดีไซน์ถือว่าทำได้สวยทีเดียวครับ งานประกอบดีเยี่ยม ดู Premium ผิวสัมผัสเป็นแบบ (Waves) คล้ายคลื่นครับ
• อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องจะแถมสาย Micro-USB มาให้ 1 เส้นด้วยครับ

• จากที่ลองใช้งานแอดมินรู้สึกชอบแบตสำรองตัวนี้นะครับ เนื่องจากดีไซน์สวยงาม ดูแล้วสบายตาดี อีกทั้งความจุก็เยอะเหลือเฟือ ชาร์จได้สบายใจไม่ต้องกังวลว่าจะหมดเลยครับ

• จุดเด่นของแบตสำรองรุ่นนี้คือมีช่อง Type-C ซึ่งรองรับทั้งไฟเข้าและออกครับ ทำให้สามารถจ่ายไฟแรงขึ้นและนำไปใช้งานได้หลากหลายมากขึ้นเช่น ชาร์จ iPad Pro/ MacBook 12" หรือเกมส์ Nintendo Switch ครับ
• แต่ข้อเสียที่แอดมินพบก็คือ ถึงแม้ว่าจะนำไปใช้งานได้หลากหลาย แต่เราก็จำเป็นต้องหาสายCable ที่รองรับมาใช้งานควบคู่ด้วย อย่างเช่น หากเราต้องการชาร์จไฟแบบ PD เข้า iPhone X เราก็จำเป็นต้องหาสาย Type-c to Lightning มาใช้เสียบ หรือถ้าเราจะชาร์จ Macbook 12" ก็ต้องใช้สาย Type-C to Type-C มาใช้ครับ

• ข้อเสียอีกอย่างคือ ช่องชาร์จไฟออกทั้ง 2 ช่อง ให้มาค่อนข้างชิดกัน เมื่อแอดมินลองเสียบหัวชาร์จทั้ง 2 ช่องพร้อมๆกัน พบว่าเบียดกันมากๆครับ และหัวชาร์จบางดีไซน์อาจเสียบไม่ได้หากเสียบใช้งานพร้อมกัน 2 ช่องไม่ได้ครับ

• จากภาพด้านบน รุ่นนี้มีช่องทั้งหมด 3 ช่องครับ ซึ่งแอดมินจะอธิบายทีละช่อง ด้านล่างนี้ครับ (ช่องด้านหัว 2 ช่อง และอยู่ที่ด้านข้างอีก 1 ช่องครับ)
• ช่องด้านล่างจะเป็นช่อง USB3.0 (USBสีฟ้า)(เป็นช่องชาร์จไฟออกเท่านั้นครับ) จะจ่ายไฟออกได้เต็มที่ถึง 18W ด้วยระบบ Quick Charge 3.0 สามารถจ่ายไฟได้สูงสุดที่ 5V-3A or 9V-2A or 12V-1.5A ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่นำมาเสียบด้วยครับ และถึงแม้ว่าอุปกรณ์ที่นำมาเสียบจะไม่รองรับ QC2.0-3.0 ช่องนี้ก็ยังสามารถจ่ายไฟได้ 5V-3A ซึ่งก็ยังสูงกว่าการชาร์จจากอแดปเตอร์มาตรฐานของ Apple ซะอีกครับ ช่องนี้เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่รองรับการจ่ายไฟผ่านช่อง USB เช่น IOS Device /Android /iPhone/Samsung หรือ Digital Camera บางรุ่นที่รองรับ
• ช่องด้านบนจะเป็นช่อง Type-C (เป็นได้ทั้งช่องชาร์จไฟเข้าและไฟออก) จะจ่ายไฟออกได้เต็มที่ถึง 18W เช่นกัน โดยช่องนี้จะมีทั้งระบบ Quick Charge 3.0 และ PowerDelivery 3.0 และยังรองรับ FCP ซึ่งเป็นเทคโนโลยีชาร์จเร็วของHuawei ซึ่งช่องนี้สามารถจ่ายไฟออกได้มากถึง 5V-3A or 9V-2A or 12V-1.5A ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่นำมาเสียบด้วยครับ ส่วนการชาร์จไฟเข้าแบตสำรอง ช่องนี้สามารถรับไฟเข้าได้มากถึง 5V-2A or 9V-2A ด้วยระบบ Quick Charge 3.0 และ PowerDelivery 3.0 เช่นกันครับ ซึ่งทำให้หากเราชาร์จไฟเข้าจากช่องนี้ จะทำให้แบตสำรองเราเต็มไวมากๆเลยครับ ช่องนี้เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่รองรับการจ่ายไฟผ่านช่อง Type-C เช่น Samsung Galaxy Note8/Galaxy S8/S8Plus/New MacBook12"/iPad Pro/iPhone 8/ iPhone 8 Plus/ iPhone X /Nintendo Switch / Huawei รุ่นที่รองรับ เป็นต้นครับ
• ***ถ้าทำการเสียบชาร์จมากกว่า 1 เครื่อง ช่อง Output ทุกช่องจะปรับกระแสไฟเป็นการชาร์จแบบปกติ ไม่เป็นการชาร์จเร็วครับ

• ส่วนช่องที่อยู่ด้านข้างแบตสำรองจะเป็น Micro-USB (เป็นช่องชาร์จไฟเข้าเท่านั้นครับ) ซึ่งรองรับ QC2.0 สามารถรับไฟได้มากถึง 5V-2A or 9V-2A ช่วยให้ชาร์จไฟเข้าแบตสำรองได้เต็มเร็วขึ้นครับ
• ***การชาร์จเร็วทั้งไฟเข้าและไฟออกจำเป็นต้องใช้ร่วมกับอุปกรณ์ที่รองรับด้วยครับ เช่นสาย Type-C/สายMicro-USB หรืออแดปเตอร์ที่นำมาเสียบชาร์จก็จำเป็นต้องรองรับ QC2.0-3.0 เป็นอย่างน้อยด้วยครับ
• ข้อดีของตัวนี้คือสามารถชาร์จไฟเข้าได้ทั้ง Micro-USB และ Type-C ซึ่งหากใช้กับสายชาร์จและอแดปเตอร์ที่รองรับก็จะสามารถชาร์จไฟเข้าได้เร็วและประหยัดเวลาครับ

• จากที่ลองจับดูแล้ว แบตสำรองมีขนาดไม่ใหญ่เท่าไหร่เลยครับ อีกทั้งยังน้ำหนักกำลังดี ไม่หนักจนเกินไป แอดมินว่าสามารถพกพาไปใช้งานระหว่างวันได้สบายๆทั้งผู้ชายผู้หญิงเลยครับ

• จากที่แอดมินลองเทสการจ่ายไฟ พบว่าหากเสียบชาร์จ iPhone X จะจ่ายไฟได้ประมาณ 5.01V 1.71A ซึ่งเป็นปริมาณไฟที่เยอะพอสมควรเลยครับ ถือว่าชาร์จ iPhone ได้เต็มไวแน่นอนครับ

• จากที่ลองจ่ายไฟให้ Galaxy Note4 พบว่าจะจ่ายไฟที่ประมาณ 9.07V 1.43A ซึ่งเป็นการชาร์จด่วนและทำให้มือถือเต็มไวแน่นอนครับ

• จากที่ลองจ่ายไฟให้ iPad พบว่าจะจ่ายไฟที่ประมาณ 5.01V 1.83A ซึ่งเป็นปริมาณไฟที่ชาร์จ iPad ได้เต็มตามปกติเลยครับ

• จากที่ลองจ่ายไฟให้ Tablet พบว่าจะจ่ายไฟที่ประมาณ 5.01V 1.70A ซึ่งเป็นปริมาณไฟที่ชาร์จ Tablet ได้เต็มตามปกติเลยครับ

• หากเสียบชาร์จ iPad Pro 1 เครื่องแล้ว แล้วต้องการชาร์จ iPad/Tablet/iPhone/Smartphone เพิ่มอีกเครื่อง ก็สามารถทำได้ครับ แต่จะจ่ายไปเฉลี่ยอยู่ที่ 5V/1.5A นะครับ ซึ่งชาร์จได้เต็มเหมือนกันครับ

สรุปเรื่องการจ่ายไฟนะครับ

• ในเรื่องของแบตเตอรี่ แบรนด์ Romoss เลือกใช้เซลล์แบตเตอรี่แบบ Li-Polymer จากแบรนด์ LG ครับ ช่วยป้องกันความร้อน แบตบวม และการระเบิดได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือว่าปลอดภัยมากครับ 
• หากเสียบชาร์จ iPad/Tablet 1-2 เครื่อง ชาร์จได้ปกติครับ
• หากเสียบชาร์จ iPhone/Smartphone 1-2 เครื่อง ชาร์จได้ปกติครับ
• ***ไม่สามารถใช้งานกับ MacBook Pro ได้นะครับ เพราะจ่าย​ไฟ W ไม่พอครับ

การใช้งานโดย 425degree

• *การทดสอบโดยการชาร์จทิ้งไว้เฉยๆ การใช้งานจริงจะขึ้นอยู่กับการเล่นโทรศัพท์ระหว่างชาร์จ แสงหน้าจอ Notification ด้วยซึ่งอาจทำให้รอบน้อยกว่าที่แจ้งในที่นี่ได้ครับ *(เช่น 10000 mAh ตัวแบตจะมีไฟส่วนหนึ่งที่สูญเสียไปที่ตัวอุปกรณ์ระหว่างที่ชาร์จประมาณ 30% และจะมีอีกส่วนหนึ่งที่สูญเสียไฟไปในการแปลงไฟเข้าสู่เครื่องโทรศัพท์ ดังนั้นเวลาชาร์จจริงจะไม่มี Powerbank ตัวไหนชาร์จได้เต็ม 10000 mAh เต็มตาม Spec ครับ)
• iPhone X (2716 mAh ) =ประมาณ 2 รอบครึ่ง
• iPhone 8 (1821 mAh ) =ประมาณ 3 รอบครึ่ง
• iPhone 7 (1960 mAh ) = ประมาณ 3 รอบครึ่ง
• iPhone 7 Plus ( 2900 mAh ) = ประมาณ 2 รอบครึ่ง
• iPhone 6/6s ( 1810 mAh ) = ประมาณ 3 รอบครึ่ง
• iPhone 6 Plus/6s Plus ( 2915 mAh ) = ประมาณ 2 รอบครึ่ง
• Galaxy S8 (3000 mAh) = ประมาณ 2 รอบกว่าๆ
• Galaxy S8 Plus (3500 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• Galaxy S7 (3000 mAh) = ประมาณ 2 รอบกว่าๆ
• Galaxy S7 Edge (3600 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• Galaxy S6 ( 2550 mAh ) = ประมาณ 2 รอบครึ่ง
• Galaxy S6 Edge ( 2600 mAh ) = ประมาณ 2 รอบครึ่ง
• iPad mini 4 (5124 mAh) = ประมาณ 1 รอบกว่าๆ
• iPad Air 2 (7340 mAh) = ประมาณ 1 รอบ
• iPad Pro (10307 mAh) = ชาร์จได้ประมาณ 60-70%
• Huawei P9 (3000 mAh) = ประมาณ 2 รอบกว่าๆ
• Huawei P9 Plus (3400 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• Huawei Mate 9 (4000 mAh) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• Huawei Mate9 Pro (4000 mAh) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง

• รุ่นนี้มีแถบไฟ LED ขึ้นเป็นหลอดแสดงสถานะเป็นขีดปริมาณไฟคงเหลือในแบตสำรองครับ ซึ่งไฟหนึ่งขีดหมายถึงปริมาณไฟประมาณ 25% ครับ ซึ่งรุ่นนี้มาเป็นไฟสีฟ้าอ่อนครับ ซึ่งในรุ่นนี้ไฟสถานะจะอยู่ด้านข้างครับ

• ซึ่งในขณะชาร์จไฟเข้าตัวแบตสำรองจะขึ้นไฟ 1-4 ขีด และเมื่อไฟแสดงครบ 1 รอบ ไฟก็จะกระพริบบอกปริมาณไฟที่มีอยู่ใน Powerbank ไปเรื่อยๆจนกระทั่งเต็มก็จะหยุดกระพริบ ซึ่งเมื่อชาร์จเต็มจะตัดไฟอัตโนมัติครับ แต่จะมีไฟแสดงสถานะขึ้นว่าแบตเต็มโดยไฟติด 4 ดวงค้างไว้จนกว่าจะถอดสายชาร์จออกครับ

• มีระบบตัดวงจรไฟอัจฉริยะ ช่วยควบคุมปริมาณการจ่ายไฟ และ ไม่ทำให้เกิดการกระชากไฟ ปลอดภัยสำหรับ ชาร์จอุปกรณ์

• จากที่แอดมินลองเทส ตัวนี้มีระบบชาร์จอัตโนมัติครับ ซึ่งเมื่อเสียบสายเข้ากับอุปกรณ์ ตัวแบตสำรองก็จะทำการจ่ายไฟทันทีซึ่งสะดวกสบายมากๆครับ
• หากระบบชาร์ตอัตโนมัติไม่ทำงาน เราก็สามารถกดปุ่ม Power ด้านข้างเพื่อเป็นการเปิดให้แบตสำรองเริ่มจ่ายไฟได้ครับ ซึ่งปุ่มนี้ก็เอาไว้เชคสถานะไฟเช่นกัน

• ในเรื่องของแบตเตอรี่ แบรนด์ Romoss เลือกใช้เซลล์แบตเตอรี่แบบ Li-Polymer ช่วยป้องกันความร้อน แบตบวม และการระเบิดได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือว่าปลอดภัยมากครับ

ข้อมูลทั่วไป

• ผลิตภัณฑ์เป็นของแท้ 100% ผลิตโดยแบรนด์ Romoss แบรนด์ผลิตอุปกรณ์เสริมและแบตสำรอง เเบรนด์ดังจากประเทศฮ่องกง
• Cell Battery เป็นแบบ Li-Polymer ข้อดีคือ เก็บประจุไฟได้ดี ทนต่อความร้อน และ มีคุณภาพสูงครับ
• มาพร้อมความจุ 10000 mAh และ มีช่องจ่ายไฟแบบ USB A และ Type-C สามารถชาร์จ Smartphone พร้อมกัน 2 เครื่อง หรือ ชาร์จ Smartphone พร้อม iPad/Tablet ได้ (ช่องชาร์จไฟออกทั้ง 2 อยู่ค่อนข้างชิดกันครับ หากให้ใช้สายชาร์จมาตรฐานของ Apple ใช้ได้แน่นอนครับ แต่หากหัวใหญ่กว่านั้นแอดมินไม่คอนเฟิร์มครับ)

• งานประกอบแน่นหนา ผิวสัมผัสดูพรีเมี่ยม ต้องบอกตรงๆเลยว่า งานผลิตของ Romoss ดูดีมากๆครับ

• เมื่อชาร์จไฟเข้าแบตสำรอง แถบสถานะแบตที่เป็นแถบไฟ LED สีฟ้าจะกระพริบเพื่อบอกปริมาณแบต

• ในกล่องมีแถมสาย Micro-USB มาให้ 1 เส้นครับ ซึ่งสายตัวนี้ไม่รองรับการชาร์จเร็วนะครับ สายนี้รองรับการจ่ายไฟ 5V 1A ซึ่งแอดมินแนะนำว่าควรหาสายอื่นมาใช้งานสำหรับชาร์จไฟเข้าแบตสำรองครับ เนื่องจากเป็นแบตที่ความจุเยอะมาก จำเป็นต้องใช้เวลามากในการชาร์จให้เต็ม ซึ่งหากใช้งานกับสายที่รองรับ QC2.0-3.0 จะช่วยให้ประหยัดเวลามากขึ้นครับ

• แบตสำรองนี้มีระบบจ่ายไฟอัตโนมัติไม่ทำงาน เราก็สามารถกดปุ่ม Power ด้านข้างเพื่อเป็นการเปิดให้แบตสำรองเริ่มจ่ายไฟได้ครับ ซึ่งปุ่มนี้ก็เอาไว้เชคสถานะไฟเช่นกัน
• ตัวแบตสำรอง ใช้เทคโนโลยี Interligent IC Chip ที่ออกแบบโดยวิศวะกร ช่วยรักษาค่าประจุไฟในแบตสำรองไว้ได้นานกว่าแบตสำรองทั่วไป
• แบตสำรองทั่วไปตามท้องตลาด เมื่อชาร์จเต็มและไม่ได้ใช้งานนานๆ ไฟจะลดลง แต่ของ Romoss จะเก็บประจุไฟได้ยาวนานกว่า และลดลงน้อยกว่าแม้ปิดไว้
• มีปุ่มกดเพื่อเช็คสถานะไฟด้วยแถบไฟ LED สีฟ้า

• เมื่อชาร์จแบตสำรองเต็ม แถบไฟ LED จะขึ้นโชว์ทั้ง 4 ขีดค้างไว้จนกว่าจะมีการถอดสายชาร์จออกครับ
• ปริมาณไฟเหมาะสำหรับใช้งาน 1-2 วันแล้วแต่สภาพการใช้งาน
• สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จไฟผ่าน USB เช่นกล้องถ่ายรูป/Smartphone/Tablet/ลำโพงพกพา

• ด้านท้ายของแบตสำรองจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการจ่ายไฟครับ

• Powerbank ทั่วไปตามท้องตลาด เมื่อชาร์จเต็มและไม่ได้ใช้งานนานๆ ไฟจะลดลง แต่ของ Romoss จะเก็บประจุไฟได้ยาวนานกว่า และลดลงน้อยกว่าแม้ปิดไว้
• ปริมาณไฟเหมาะสำหรับใช้งาน 1-2 วัน เหมาะกับใครที่อยากได้แบตสำรองใช้งานระหว่างวัน ตัวเล็กพกพาง่าย และชาร์จพร้อมๆกันได้ 2 เครื่อง ตัวนี้ถือว่าน่าใช้ครับ

การรับรองมาตรฐานและความปลอดภัย

• ผ่านการรับรองมาตรฐาน CE, FCC certifications
• CE : เป็นเครื่องหมายที่แสดงการรับรองจากผู้ผลิตว่าสินค้ามีคุณสมบัติตามข้อกำหนดด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรป
• FCC : อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์/คอมพิวเตอร์ทุกชิ้นก่อนที่จะนำไปขายในสหรัฐฯจะต้องได้รับการรับรองจาก FCC (เป็นองค์กรของรัฐบาลสหรัฐฯ) เพื่อให้ตรงกับข้อจำกัดทางกฎหมายเกี่ยวกับการเป็นตัวนำและการกระจายคลื่นวิทยุ
• และยังรับรองว่าเป็นสินค่าที่สามารถนำไปรีไซเคิลต่อได้ครับ ถือว่าช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้ดีครับ
• มีระบบตัดวงจรไฟอัตโนมัติหากเกิดความร้อนเกินกว่ากำหนด ช่วยควบคุมปริมาณการจ่ายไฟและไม่ทำให้เกิดการกระชากไฟ ปลอดภัยสำหรับชาร์จอุปกรณ์

การทำความสะอาดและดูแลรักษาเพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน

• ควรใช้งานในที่อากาศถ่ายเทได้ เพื่อลดการสะสมความร้อนที่ตัวอุปกรณ์ครับ
• หลีกเลี่ยงการใช้งานในที่ที่ความชื้นสูง หรือบริเวณที่เปียกแฉะ
• ก่อนใช้งานทุกครั้งให้ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์
• ขณะเสียบใช้งานหรือถอดออก ควรจับที่ตัวบอดี้ เพื่อป้องกันสายไฟหักหรือขาดครับ
• หมั่นเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ ไม่ควรใช้สารเคมีใดๆครับ เพราะตัวหนังสือสกรีนอาจหลุดลอกได้ (และโปรดระมัดระวังเรื่องความชื้นของผ้าด้วยครับ ผ้าควรจะหมาดมากๆจนเกือบแห้งครับ)