Mpow X7

ปรับ EQ ได้ 3 โหมด

ตัดเสียงรอบข้าง ANC ดี แบตเตอรี่อึดๆ

425AUDIO สรุปชัดๆ :

• Mpow X7 เป็นหูฟัง true wireless ที่เป็นแฝดคนละฝากับ SoundPEATS T2 แต่ถึงแม้จะหน้าตาเหมือนกัน แต่เก่งกันคนละด้านครับ
• จุดเด่นของ Mpow X7 ที่ SoundPEATS T2 ทำไม่ได้คือ Mpow X7 ให้โทนเสียงเบสได้ดีกว่า หนักหน่วงกว่า และโทนเสียงมีความอุ่นกว่าในขณะที่ SoundPEATS T2 จะออกแนวกระชับ และโทนจะออกสว่างกว่าครับ
• อีกทั้งเจ้า Mpow X7 ยังสามารถปรับ EQ เสียงได้ถึง 3 เสียง ได้แก่ “Bass+ Mode” (เน้นเบสลูกยักษ์ เหมาะกับคนเน้นเสพเสียงเบส) “Movie Mode” (เหมาะกับคนชอบแนวเสียงฟังสบาย เบสพอดีๆ ฟังโปร่งไม่อึดอัด) และสุดท้าย “Standard Mode” (โทนเสียงเริ่มต้นลูกผสมระหว่างแนวเสียงโหมด Bass+ Mode และ Movie Mode) ด้วยเหตุนี้ทำให้ Mpow X7 ให้เสียงที่ตอบโจทย์รสนิยมคนฟังได้หลากหลายกว่า ใครชอบเสียงแบบไหน ก็เลือกปรับได้ตามใจชอบเลยครับ
• แต่สิ่งที่ SoundPEATS T2 ทำได้ดีกว่าคือระบบตัดเสียงรอบข้าง Active Noise Cancelling ที่ตัดได้เงียบกว่า Mpow X7 อย่างชัดเจนครับ
• ส่วนฟีเจอร์และสเปคอื่นๆนั้นก็แทบจะเหมือนๆกัน แต่ถ้าใครกำลังสับสนว่าจะเลือกตัวไหนดีระหว่าง Mpow X7 กับ SoundPEATS T2 ทีมงานขอสรุปสั้นๆเลยครับว่าถ้าลูกค้าเน้นตัดเสียงรอบข้างเงียบๆจะแนะนำเป็น SoundPEATS T2 แต่ถ้าลูกค้าเน้นเบสหนักกว่า เน้นฟังเพลงและปรับเสียงได้หลากหลายกว่า ทีมงานแนะนำเป็น Mpow X7 ส่วนการใช้งานอื่นๆไม่ว่าจะการคุยโทรศัพท์ การออกกำลังกาย การเล่นเกมส์นั้นก็แทบจะทำได้เหมือนๆกันเลยครับ

Product Highlight

• โหมดตัดเสียงรอบข้าง Active Noise Cancelling
• โหมดดูดเสียงรอบข้าง Transparency Mode
• ปรับ EQ เสียงได้ 3 แบบ ได้แก่ Bass+, Movie Mode และ Standard Mode
• เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.2
• ไมโครโฟนแบบ Dual-mic คุยโทรศัพท์ชัด
• ควบคุมด้วยระบบสัมผัส (Touch Control)
• กันนํ้าระดับ IPX5
• ใช้หูฟังข้างเดียวได้ (Mono Mode)
• เล่นต่อเนื่องได้สูงสุด 8 ชม. ต่อ 1 รอบ (แบบเปิดโหมด ANC)
• ชาร์จหูฟังกับกล่องชาร์จได้สูงสุด 3 รอบ (รวมสูงสุด 32 ชม.)

ประสบการณ์การใช้งานจริงของทีมงาน 425AUDIO

ดีไซน์ :

• เมื่อทีมงานได้เห็นหน้าตามันครั้งแรกก็ต้องบอกเลยครับนี่มัน SoundPEATS T2 ชัดๆ วัสดุ รูปทรง หน้าตา ไฟ LED บอกสถานะและอื่นๆคือเหมือนกันเลย พูดง่ายๆคือเหมือนทุกอย่างยกเว้นโลโก้บนฝากล่องชาร์จครับ
• แม้แต่หูฟังก็เหมือนกันอย่างชัดเจนทั้งขนาดและความยาว จะต่างก็แค่ Mpow X7 จะไม่ยิงโลโก้บนปุ่มสัมผัสครับ

การสวมใส่ :

• เท่าที่ทีมงานสวมใส่ Mpow X7 ต้องบอกเลยครับว่าใส่ secure ดีมาก มีความกระชับ เกาะหูดี ใส่แล้วไม่แน่นหูจนปวดหู ถือว่าใส่สบายมากๆเลย ซึ่งฟิลลิ่งการสวมใส่ก็เหมือนกับ SoundPEATS T2 เด๊ะๆเลยครับ

การใส่ออกกำลังกาย :

• Mpow X7 มาพร้อมกับมาตรฐานกันนํ้าระดับ IPX5 (sweatproof) ซึ่งช่วยกันเหงื่อจากการใช้งานในชีวิตประจำวันและกันเหงื่อจากการออกกำลังกายได้ดีครับ
• หากเพื่อนๆเป็นคนที่ออกกำลังกายอยู่กับที่ เพื่อนๆสามารถใส่ Mpow X7 ออกกำลังกายได้อย่างสบายมากๆครับ แต่ถ้าเพื่อนๆคนไหนจะเอาไปใส่วิ่งหนักๆอันนี้ทีมงานแนะนำให้ระวังเรื่องเหงื่อไหลเข้าไปโดนหูฟัง เพราะจะทำให้หูฟังเริ่มคลายความกระชับได้ แต่ถ้าไม่ติดเรื่องต้องเอามือมันจับปรับหูฟังให้แน่นขณะวิ่งบ้างเป็นครั้งคราวก็สามารถพอใช้ใส่วิ่งได้ครับ
• ด้วยความที่การสวมใส่มันเหมือนกัน เรื่องการใส่ออกกำลังกายระหว่าง Mpow X7 และ SoundPEATS T2 นั้นก็แทบไม่ต่างกันเลยครับ ใช้ออกกำลังกายได้แบบเบาๆ ออกกำลังกายอยู่กับที่หรือใส่วิ่งบนลู่วิ่งเบาๆก็สามารถใช้งานได้ดีทั้ง 2 ตัวเลยครับ

การตัดเสียงรอบข้าง Active Noise Cancelling และโหมดดูดเสียง Transparency Mode

• ในเรื่องของโหมดตัดเสียงรอบข้าง Active Noise Cancelling ต้องบอกเลยครับว่า Mpow X7 นั้นทำได้ดี สามารถตัดเสียงแอร์ พัดลมจนแทบจะไม่ได้ยิน แบล็คกราวน์เงียบขึ้นอย่างเห็นได้ชัดครับ
• ส่วนโหมดดูดเสียงรอบข้าง Transparency Mode ก็ทำได้ดีเช่นเดียวกันครับ เสียงดัง ชัด โทนเสียงจะออกดิจิตอลนิดหน่อย แต่ยังฟังดูเป็นธรรมชาติ ทิศทางเสียงคมชัดและแม่นยำครับ
• หากเทียบ Mpow X7 กับ SoundPEATS T2 เรื่องโหมดตัดเสียงรอบข้าง Active Noise Cancelling นั้นทีงงานต้องบอกเลยครับว่า SoundPEATS T2 ทำได้ดีกว่า ตัดเงียบกว่า ในขณะที่โหมดดูดเสียงรอบข้าง Transparency Mode นั้น ทั้ง Mpow X7 และ SoundPEATS T2 ทำได้ดีพอๆกัน ความรู้สึกตอนใช้งานแทบไม่ต่างกันเลยครับ

การคุยโทรศัพท์

• Mpow X7 ติดไมค์มาข้างละ 2 ตัว และมีระบบตัดเสียงรบกวนตอนคุยโทรศัพท์
• เท่าที่ทีมงานทดสอบคุยในห้องทำงานในบ้าน (ซึ่งไม่ค่อยมีเสียงรบกวนมาก) พบว่าเสียงไมค์ทำได้ดีครับ ให้ทั้งความดังในระดับพอดี เสียงชัดเคลียร์ใส ฟังง่าย พูดในระดับเสียงปกติปลายสายก็ฟังเราพูดได้รู้เรื่องทันทีโดยไม่เรียกให้พูดซํ้า
• พอมาใช้คุยในสถานที่ที่มีเสียงรบกวนรอบข้างดังๆ ปลายสายจะยังได้ยินเสียงรอบๆตัวของเราพอสมควร แต่เสียงพูดของเรายังฟังรู้เรื่อง อยู่ในระดับที่พอใช้คุยได้ครับ
• หากเทียบเรื่องไมโครโฟนคุยโทรศัพท์กับ SoundPEATS T2 ทีมงานคิดว่าใช้คุยได้ดีพอๆกันครับ ความรู้สึกตอนใช้งานจริงแทบจะไม่ต่าง (ถึงขนาดปลายสายยังฟังแยกเสียงไมค์ของ Mpow X7 และ SoundPEATS T2 ไม่ออก) ซึ่งทั้งสองตัวสามารถใช้คุยโทรศัพท์ในชีวิตประจำวันได้สบายๆครับ

การเล่นเกมส์

• ทดสอบเล่นเกมส์ PUBG กับ iPhone 11 ทีมงานพบว่า Mpow X7 ดีเลย์อยู่เสี้ยววินาทีนึงเท่านั้น (กะด้วยความรู้สึกก็ประมาณ 0.4-0.5 วินาที) ถ้าเล่นเพลินๆจะไม่รู้สึก แต่ถ้าเพ่งจับจะรู้สึกอยู่นิดๆ ซึ่งทีมงานคิดว่าพอใช้เล่นได้ ทิศทางเสียงจัดว่าคมชัดและแม่นยำดีครับ
• ทดสอบเล่นเกมส์ ROV กับ iPhone 11 ทีมงานพบว่า Mpow X7 แทบจะไม่ดีเลย์เลยครับ เสียงปล่อยสกิลตรงภาพดี ซาวด์เกมส์ก็กระหึ่มให้ความรู้สึกคึกคัก ใช้เล่น ROV มันส์มากครับ
• หากเทียบเรื่องการเล่นเกมส์ระหว่าง Mpow X7 กับ SoundPEATS T2 ทีมงานรู้สึกว่าสามารถใช้เล่นได้ดีพอๆกัน ดีเลย์น้อยพอๆกัน ต่างแค่โทนเสียงเกมส์ที่ SoundPEATS T2 จะให้เสียงแนวเคลียร์ๆใสๆ เบสออกกำลังดี แต่ในอีกด้านนึง Mpow X7 จะให้ซาวด์ในเกมส์ได้กระหึ่มกว่า เบสเยอะกว่า และเรื่องทิติทิศทางของเสียงก็ทำได้ดีพอๆกันครับ

**ค่าความหน่วงอาจให้ผลลัพท์ที่แตกต่างขึ้นอยู่กับบางอุปกรณ์

การดูคลิปออนไลน์

• ทีมงานใช้ Mpow X7 ดู Youtube หรือพวกคลิปออนไลน์ทั่วไปพบว่าแทบไม่ดีเลย์เลยครับ เสียงตรงภาพแบบสนิท ไม่รู้สึกดีเลย์เลยแม้จะเพ่งจับผิดครับ
• แต่สิ่งที่ทีมงานชอบใน Mpow X7 มากๆเลยคือเวลาใช้ดูหนัง, ดูซีรี่ย์ใน Netflix ให้ซาวด์ของภาพยนต์ได้กระหึ่มมันส์มากๆ แถมถ้าใครคิดว่าเบสมันกระหึ่มเกินไปก็สามารถปรับ EQ เป็นโหมด Movie Mode ได้ ซึ่งโหมดนี้จะให้เสียงที่เคลียร์ โปร่ง และฟังสบายมากขึ้นครับ
• ในเรื่องของการดูคลิปออนไลน์หรือดูหนัง หากเทียบ Mpow X7 กับ SoundPEATS T2 ทีมงานพบว่าใช้ดูได้ยอดเยี่ยมทั้งคู่ แต่ Mpow X7 แอบให้รสชาติซาวด์ของหนังได้หลากหลายกว่า (เพราะปรับ EQ ได้ 3 แบบ) ซึ่งช่วยให้เราเสพภาพและเสียงได้หลากหลายกว่าครับ

เสียง :

• โทนเสียงของ Mpow X7 นั้นจะมีความหลากหลายเพราะสามารถปรับ EQ เสียงได้ถึง 3 แบบ โดยค่าดั้งเดิมจะเป็น EQ เสียงแบบ Standard Mode ซึ่งแนวเสียงนี้จะออกแนวเบสกระชับ เสียงกลางมีความเคลียร์ และเสียงแหลมมีความคมใสในระดับพอดีๆครับ
• ส่วน EQ แบบ Bass+ Mode อันนี้คือตรงตัวตามชื่อเลย ในโหมดนี้เราจะได้เบสที่ลูกใหญ่ขึ้น ออกหนักหน่วงและมีความกระหึ่มแบบขั้นสุด ในขณะที่เสียงร้องและเสียงแหลมจะยังมีความเคลียร์ รายละเอียดยังฟังชัด และไม่โดนเสียงเบสมารบกวนเลยครับ
• ส่วน EQ แบบ Movie Mode อันนี้เสียงจะออกแนว Balance หรือออกแนวกลางๆ สมดุลย์ๆครับ เบสจะมีปริมาณแบบพอดีๆ ไม่ได้ตูมตามมาก แต่เสียงร้องและเสียงแหลมจะมีความเด่นชัดขึ้น พุ่งมาข้างหน้าเวทีเสียงมากขึ้น จะออกแนวฟังสบายๆ ฟังชิลๆ ใครไม่ชอบเบสหนักก็สามารถใช้โหมด Movie Mode ได้ อีกทั้งโหมดนี้เวลาใช้ดูหนังจะช่วยเพิ่มเสียงพูดของตัวละครชัดเจนขึ้นอีกด้วยครับ
• หากเทียบเสียงระหว่าง Mpow X7 กับ SoundPEATS T2 นั้นต้องบอกเลยครับว่า “เสียงต่างกันอย่างสิ้นเชิง” แนวเสียงของ SoundPEATS T2 เบสจะออกในระดับที่พอดีๆ และโทนเสียงมีความคมสว่างกว่า ในขณะที่แนวเสียงของ Mpow X7 จะออกเด่นไปทางเบส ให้เบสได้ลูกโตกว่า และโทนเสียงมีความนุ่มกว่า ส่วนเรื่องรายละเอียดเสียงดนตรีต่างๆทำได้ดีพอๆกันครับ
• แต่ Mpow X7 ปรับ EQ เสียงได้ 3 โหมดในขณะที่ SoundPEATS T2 ปรับไม่ได้ ทำให้ Mpow X7 ให้รสชาติเสียงได้หลากหลายและตอบโจทย์กับความชอบของแต่ละคนได้กว้างกว่า ถ้าชอบเสียงเคลียร์ๆ ใสๆ ก็ปรับเป็น Movie Mode (โหมดเสียงนี้จะแนวๆ SoundPEATS T2) หรือถ้าชอบเบสหนักก็ปรับเป็น Bass+ Mode ได้ เรียกว่าใครชอบโทนเสียงแบบไหนก็เลือกปรับได้ตามใจชอบเลยครับ

ความคุ้มค่า

• ด้วยระดับราคานี้ต้องบอกเลยครับว่า Mpow X7 เป็นหูฟัง true wireless ที่ตอบโจทย์คนเน้นฟังเพลงมากๆ ด้วยจุดเด่นพิเศษที่มันสามารถปรับ EQ เสียงได้ถึง 3 เสียง ทำให้ตอบโจทย์รสนิยมคนฟังได้กว้าง อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยเสริมประสบการณ์การฟังเพลงให้ดียิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นระบบ Active Noise Cancelling ที่ช่วยให้เราฟังเพลงได้แบบไม่มีเสียงรบกวนเข้ามากวนตัวเพลงและมีแบตเตอรี่ที่เหลือเฟือต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันครับ

ระหว่าง SoundPEATS T2 กับ Mpow X7 ตัวไหนดีกว่า ?

• หากท่านซีเรียสเรื่องระบบตัดเสียงรอบข้าง Active Noise Cancelling ว่า มันจะต้องใส่เงียบที่สุด เป็นคนชอบอยู่ในโลกส่วนตัว ไม่อยากได้ยินเสียงรบกวนภายนอกขณะใส่หูฟังฟังเพลง ทีมงานจะแนะนำ SoundPEATS T2 มากกว่า เพราะมันตัดเสียงรอบข้างได้เงียบกว่า Mpow X7 อย่างรู้สึกได้ชัดเจนเลยครับ
• แต่ถ้าท่านไม่เน้นเรื่องระบบ Active Noise Cancelling มาก แต่เน้นฟังเพลง อยากได้โทนเสียงสบายๆก็ปรับ EQ ได้ หรือบางเวลาอยากได้เบสหนักๆก็สามารถเปลี่ยน EQ เสียงได้ดั่งใจ ทีมงานจะแนะนำเป็น Mpow X7 เพราะมันสามารถปรับ EQ เสียงได้ 3 เสียง ซึ่ง SoundPEATS T2 ปรับไม่ได้ครับ

Sound Review (เป็นความคิดเห็นของทีมงาน 425°AUDIO นะครับ)

• ด้วยความที่ Mpow X7 สามารถปรับ EQ ได้ถึง 3 เสียง แอดมินเลยจะรีวิวเสียง EQ ของแต่ละโหมดว่ามีโทนเสียงออกไปแนวไหนบ้าง ตามไปดูกันเลยครับ

Standard Mode (โหมดเสียงเริ่มต้น) :

• ย่านเสียงแรกที่ดูเด่นมากๆเลยคือเสียงเบสครับ ออกชัด อวบหนา ฟังดูเป็นลูกโตๆ หัวโน๊ตเบส (upperbass) มีความชัดเจน ฟังจับต้องได้ ฟังดูเป็นโน๊ตๆ เสียงช่วง deepbass ออกหนา หนัก และลงได้ตํ่าลึก แรงปะทะจากเสียงกลองมีความกระแทกกระทั้น เสียงเครื่องตีออกตุ้บตั้บฟังสนุกมาก เสียงร้องมีความเคลียร์ในระดับพอดีๆ ติดอุ่นเล็กๆ แต่ไม่รู้สึกว่าขุ่นไปหรือจัดมากไป เสียงแหลมมีความคมในระดับกำลังดี ยังได้ความฟรุ้งฟริ้งกรุ๊งกริ๊งแบบสวยๆ ไม่มีบาดหู เวทีเสียงมีขนาดกลางๆ และมีมิติลึก-ตื้นที่ฟังแล้วรู้สึกได้ง่ายๆแบบไม่ต้องเพ่งฟัง โหมดเสียงนี้เหมาะฟังเพลงแนว Pop, Modern Rock, หรือเพลง mainstream ทั่วๆไปครับ

Bass+ Mode (โหมดเบสหนัก) :

• สำหรับทีมงานโหมด Standard Mode เบสว่าหนักมากแล้ว ในโหมด Bass+ Mode ยังหนักได้อีกครับ ในโหมดนี้เบสจะออกเป็นลูกขนาดยักษ์ หัวโน๊ตเสียงมีความคมชัดขึ้น deepbass ลงได้ตํ่าลึกและมีความกระหึ่มมากขึ้น ถึงแม้เบสจะหนักแค่ไหน เบสก็ไม่มีทีท่าจะไปกวนเสียงร้องหรือเสียงแหลมเลยครับ เสียงร้องออกชัดเคลียร์แบบกำลังดี ไม่ได้ถอยไปและไม่พุ่งกระแทกหน้ามากไป เสียงแหลมยังทำได้ดีครับ ออกคมในระดับกำลังดี ยังได้ความกรุ๊งกริ๊งฟรุ๊งฟริ๊งอยู่ เวทีเสียงมีขนาดกลางๆ แต่มีมิติที่ฟังลึกอย่างรู้สึกได้ง่ายมากๆ โทนเสียงในโหมดนี้ เหมาะฟังเพลงที่มีเสียงกลองกับเสียงเบสมันส์ๆอย่างเพลง Hip-Hop, Electronic, Dubstep, R&B ครับ

Movie Mode (โหมดเสียง balance) :

• ถ้าในโหมด Movie Mode อันนี้คือเสียงเบสจะถูกดันไปอยู่หลังสุดของเวทีเสียง เบสจะเหลือแค่ลูกขนาดกลางๆ หัวโน๊ตชัด deepbass ลงลึกพอสัมผัสได้ แรงปะทะดีฟังสนุก แต่ไม่ตูมตามเท่าโหมด Standard กับ Bass+ แต่เสียงร้องจะพุ่งมาข้างหน้ามากขึ้น เสียงกีตาร์ เสียงคีย์บอร์ดมีความเคลียร์ใสและเผยรายละเอียดของเสียงดนตรีมากขึ้น ในขณะเดียวกันเสียงแหลมก็ออกคมใส และมีความเคลียร์มากขึ้น เสียงฉาบแฉของกลองชุดมีความสว่างขึ้น เวทีเสียงมีขนาดกลางๆ ทั้งแนวยาวและแนวลึก ในโหมดเสียงนี้จะเหมาะฟังเพลงแนวๆเบาๆอย่าง Jazz, Acoustic, Bossa Nova, Classic อะไรทำนองนี้ครับ

สรุป :

• ต้องบอกเลยครับว่าโทนเสียงของ Mpow X7 เนี่ย มีความยืดหยุ่นและให้รสชาติกับผู้ฟังได้หลากหลายรสนิยมครับ ถ้าชอบเบสหนัก แรงปะทะตูมตาม ก็ปรับเป็นโหมด Bass+ หรือถ้าชอบแบบเบสพอดีๆ เน้นโทนเสียงโดยรวมก็เปิดโหมด Standard หรือถ้าชอบแนวกลางๆ เน้นฟังเสียงร้องเด่นๆ ก็ปรับเป็น Movie แถมโหมดนี้ใช้ดูหนัง Netflix ได้ดีด้วยนะครับ เอาเป็นว่า Mpow X7 เนี่ย เป็นหูฟังที่ฟังได้ดีเกือบทุกแนวดนตรีเลยครับ

Gallery :

การใช้งาน Mpow X7 เบื้องต้น

คำแนะนำก่อนเริ่มใช้งานครั้งแรก

• ควรชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อนใช้งานครั้งแรก
• หากหูฟังมีแผ่นสติกเกอร์ใสแปะที่ขั้วชาร์จทั้งหูฟังและกล่องชาร์จ ให้ลอกออกให้หมดครับ
• หากหูฟังโนเหงื่อหรือนํ้า ให้รีบเช็ดให้แห้งสนิทก่อนเก็บลงกล่องชาร์จ
• ห้ามใช้หัวชาร์จแบบ Fast charge เพราะจะทำให้แบตเตอรี่กล่องชาร์จเสียหายได้
• ควรเลือกขนาดจุกหูฟังให้เหมาะสมกับขนาดช่องหู เพื่อการสวมใส่ที่กระชับสูงสุด

การเปิด-ปิด

• เปิดใช้งานหูฟัง : หยิบหูฟังออกจากกล่องชาร์จ
• ปิดใช้งานหูฟัง : เก็บหูฟังลงกล่องชาร์จพร้อมกับปิดฝา
• การเปิดหูฟังแบบ manual : ขณะหูฟังปิดอยู่ แตะหูฟังทั้งสองข้างค้าง 2 วินาที

การสวมใส่

1. เลือกขนาดจุกหูฟังให้เหมาะสมกับขนาดช่องหู
2. ค่อยๆสอดหูฟังทั้งสองข้างเข้าช่องหู บิดไปข้างหลังและหน้าเล็กน้อยจนรู้สึกกระชับ

การเชื่อมต่อ Bluetooth

1. หยิบหูฟังทั้งสองข้างออกจากกล่องชาร์จ > หูฟังจะเข้าโหมดจับคู่อัตโนมัติ
2. เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ แตะเชื่อมต่อ “Mpow X7”

**หากหูฟังอยู่ในโหมดจับคู่เป็นเวลา 1 นาทีแล้วยังไม่ถูกเชื่อมต่อ > หูฟัง Power off อัตโนมัติ

การเชื่อมต่อ Bluetooth กับอุปกรณ์ใหม่

1. หากหูฟังเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ก่อนหน้านี้อยู่ แตะหูฟังทั้งสองข้างค้างไว้ 6-7 วินาที เพื่อตัดการเชื่อมต่อ > หูฟังจะเข้าโหมดจับคู่โดยอัตโนมัติ
2. เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ใหม่ แตะเชื่อมต่อ “Mpow X7”

การเปิดโหมดตัดเสียงรอบข้าง Active Noise Cancelling และโหมดดูดเสียงรอบข้าง Transparency Mode

• แตะหูฟังข้างซ้าย (L) ค้าง 3 วินาที เพื่อเลื่อนเปลี่ยนโหมดไปเรื่อยๆ โดยจะเรียงจากโหมดดูดเสียงรอบข้าง (Ambient Sound) > โหมดตัดเสียงรอบข้าง (Noise Cancelling On) > ไม่เปิดโหมดใดๆ (Noise Cancelling Off)

การปรับ EQ เสียง

• ขณะหูฟังเล่นเพลง แตะหูฟังข้างขวา (R) ค้าง 2-3 วินาที จะมีเสียงสัญญาณเตือน
• Standard Mode (ค่าเสียงเริ่มต้น) : สัญญาณเตือน 3 ครั้ง
• Movie Mode (เสียง Balance) : สัญญาณเตือน 2 ครั้ง
• Bass+ Mode (เสียงเบสหนัก) : สัญญาณเตือน 1 ครั้ง

**ค่าเริ่มต้นจากโรงงานหูฟังจะอยู่ในโหมดเสียง Standard Mode**

การฟังชั่นต่างๆ

การเล่นเพลง

• เล่นเพลง/หยุดเพลง : แตะหูฟังข้างซ้าย (L) x2
• เพิ่มเสียง : แตะหูฟังข้างขวา (R) x1
• ลดเสียง : แตะหูฟังข้างซ้าย (L) x1
• ไปยังเพลงถัดไป : แตะหูฟังข้างขวา (R) x3
• ย้อนเพลง : แตะหูฟังข้างซ้าย (L) x3
• เรียก Google & Siri : แตะหูฟังข้างขวา (R) x2

การคุยโทรศัพท์

• รับสาย : แตะหูฟังข้างไหนก็ได้ x1
• วางสาย : แตะหูฟังข้างไหนก็ได้ x2
• ปฏิเสธสาย : แตะหูฟัง้ขางไหนก็ได้ค้าง 1-2 วินาที

**บางฟังชั่นอาจใช้งานไม่ได้กับบางแอปพลิเคชั่น**

การชาร์จแบตเตอรี่

หูฟัง :

1. เก็บหูฟังลงกล่องชาร์จแล้วปิดฝา
2. ขณะชาร์จ ไฟหน้ากล่องชาร์จ ดวงที่ 1 และดวงที่ 3 จะกระพริบไฟสีนํ้าเงิน
3. หากหูฟังข้างซ้ายชาร์จเต็มแล้ว ไฟดวงที่ 1 จะดับไป
4. หากหูฟังข้างขวาชาร์จเต็มแล้ว ไฟดวงที่ 2 จะดับไป
5. หากหูฟังชาร์จแบตเต็มแล้ว ไฟจะสีนํ้าเงินจะดับไป และเปลี่ยนมาโชว์ไฟของแบตเตอรี่กล่องชาร์จ

กล่องชาร์จ :

1. เสียบสายชาร์จ USB-C ชาร์จกับคอมพิวเตอร์ หรือหัวชาร์จ 5V 1A
2. ขณะชาร์จ ไฟหน้ากล่องชาร์จจะกระพริบสีขาวและเพิ่มไปทีละดวงๆ
3. เมื่อชาร์จเต็มแล้ว > ไฟเต็ม 3 ดวง

**ห้ามใช้หัวชาร์จที่มีค่าไฟเกิน 5V/1A เพราะอาจจะทำให้แบตเตอรี่หูฟังและกล่องชาร์จเสียหายได้

ไฟสถานะต่างๆ

หูฟัง

• โหมดจับคู่ : หูฟังกระพริบไฟสีนํ้าเงิน-ขาวทั้งสองข้าง
• เชื่อมต่อแล้ว : หูฟังขึ้นไฟสีขาวทั้งสองข้าง
• หูฟังกำลังเล่นเสียง : ไม่มีไฟใดๆ
• หูฟังกำลังชาร์จแบตฯกับกล่องชาร์จ : หูฟังขึ้นไฟสีนํ้าเงินค้างทั้งสองข้าง

กล่องชาร์จ

• ไฟ 1 ดวง : กล่องชาร์จเหลือแบตเตอรี่ 0-19%
• ไฟ 2 ดวง : กล่องชาร์จเหลือแบตเตอรี่ 20-69%
• ไฟ 3 ดวง : กล่องชาร์จเหลือแบตเตอรี่ 70-99%
• ไฟ 4 ดวง : กล่องชาร์จแบตเต็ม 100%
• ไฟดวงที่ 1 กระพริบสีนํ้าเงิน : หูฟังข้างซ้ายกำลังชาร์จแบตเตอรี่
• ไฟดวงที่ 3 กระพริบสีนํ้าเงิน : หูฟังข้างขวากำลังชาร์จแบตเตอรรี่

การ Factory Reset

1. ลบชื่อ “Mpow X7” ออกจากเครื่องและปิด Bluetooth
2. เปิดฝากล่องชาร์จ แตะสัมผัสหูฟังทั้งสองข้าง 5 ครั้ง หากทำสำเร็จ ไฟหูฟังจะกระพริบสีนํ้าเงิน 4 ครั้ง
3. ปิดฝากล่องชาร์จ แล้วเชื่อมต่อใช้งานใหม่ตามวิธีข้างต้นได้เลยครับ

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• หูฟัง Mpow X7 จำนวน 1 คู่
• กล่องชาร์จ Mpow X7 จำนวน 1 กล่อง
• จุกหูฟังจำนวน 3 คู่ (S/M/L)
• สายชาร์จ USB-C จำนวน 1 เส้น
• คู่มือการใช้งาน

เงื่อนไขการรับประกันสินค้า (Warranty)

• รับประกัน 1 ปี ภายใต้เงื่อนไขที่ทาง MPOW กำหนด
• รับประกัน 7 วัน สำหรับผู้ซื้อช่วงโปรโมชั่น Christmas Sale ตั้งแต่วันที่ 24/12/2021 - 5/01/2022
• หากหูฟัง, กล่องชาร์จ และอุปกรณ์เสริมอื่นๆมีตำหนิ ชำรุดเสียหาย หรือไม่สามารถใช้งานได้ตั้งแต่แกะกล่องครั้งแรก ให้รีบแจ้งทำเรื่องขอเปลี่ยนสินค้าภายใน 7 วัน หากเกินหลังจากนี้ เงื่อนไขและการพิจารณาจะเป็นไปการรับประกันสินค้าแบบปกติ
• การรับประกันสินค้าแบบปกติ จะครอบคลุมเฉพาะหูฟังเท่านั้น **ไม่รวมอุปกรณ์เสริมอื่นๆที่มากับกล่องแพ็คเกจ
• คุณลูกค้าต้องเก็บตัวสินค้าไว้ให้ครบไม่ว่าจะเป็น กล่อง/ซองแพคเกจจิ้ง, ตัวหูฟังทั้งสองข้าง, กล่องชาร์จ, สายชาร์จ ,จุกหูฟังซิลิโคนทุกแบบ, ใบเสร็จ หากขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง บริษัทขออนุญาติใช้ดุลยพินิจในการพิจารณาตามความเหมาะสม
• สินค้าต้องไม่มีตำหนิจากการใช้งานผิดวิธี, ตำหนิเสียหายจากการใช้งานของลูกค้า, ร่องรอยการกระแทก หรือการขูดขีดอย่างรุนแรง หูฟังแตก, ฝากล่องชาร์จหัก, นํ้าเข้าในหูฟังและกล่องชาร์จ, ใช้คลื่นเสียง sine wave, pink noise หรือคลื่นเสียงในการเบิร์นอื่นๆจนดอกลำโพงในหูฟังฉีกขาดหรือเสียหาย สิ่งเหล่านี้จะถือว่าเกิดจากผู้ใช้งานเอง ซึ่งจะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• ปัญหาการคุยโทรศัพท์แล้วเป็นเสียงที่คุยไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อเปิด-ปิดตัวหูฟังอีกรอบแล้วสามารถคุยได้ตามปกติ ถือว่าหูฟังปกติดี
• อาการกระตุกของสัญญาณขณะใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณของอุปกรณ์ไร้สายเยอะๆ เช่นบนสถานีรถไฟฟ้า,ออฟฟิตขนาดใหญ่ ***เช่น กำลังฟังเพลงอยู่แล้วสัญญาณขาดหายแล้วกลับมาเป็นปกติ *** ซึ่งจะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• สินค้ารุ่นนี้มีมาตรฐานการกันน้ำที่ระดับ IPX5 กันเหงื่อจากการออกกำลังกายเท่านั้น หากสินค้าเสียหายจากการลงไปแช่น้ำหรือจากแรงดันน้ำสูงๆ หรือจนทำให้เกิดนํ้าเข้าไปในแผงวงจรหูฟัง จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน