Motorola Verve Buds 500 

หูฟัง True Wireless ชนิด in-ear

(Degree ดีไซน์โดดเด่น ตัวเล็ก เสียงชัด)

425 Recommend

• ขนาดและดีไซน์รูปลักษณ์ภายนอกดูปราดเปรียว สวมใส่ใช้งานได้คล่องแคล่วไม่เทอะทะ รูปลักษณ์ทันสมัย เข้ากับผู้ใช้งานได้หลากหลายกลุ่ม ใช้ดีทั้งผู้ชายและผู้หญิงครับ
• ให้สัมผัสการสวมใส่ที่เบาสบายหูและกระชับหูในเวลาเดียวกัน 
• คุณภาพเสียงในการคุยโทรศัพท์ยอดเยี่ยม เสียงเคลียร์ เสียงชัด ด้วยเทคโนโลยีไมค์โครโฟนคู่พร้อมระบบตัดสัญญาณเสียงรบกวน
• สามารถเล่นเกมและดูคลิปวิดีโอต่างๆบน Youtube,Facebook,Instagram,Netflix ได้อย่างสมูท และไม่ดีเลย์ ทั้งระบบ iOS & Android 
• การเชื่อมต่อบลูทูธทำได้เข้าใจง่ายและใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก 
• สะดวกในการเชื่อมต่อในครั้งถัดไปมากขึ้นเพราะมีระบบการจดจำและเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติกับอุปกรณ์ที่เคยเชื่อมต่อแล้ว (Auto-Pairing) 
• สามารถแยกใช้งานเพียงข้างเดียวได้อย่างอิสระเหมาะกับ Lifestyle ของแต่ละบุคคลที่แตกต่าง(Mono Mode)

Motorola Verve Buds 500’s Highlight

• เทคโนโลยีไมค์โครโฟนรับเสียงแบบไมค์คู่ พร้อมฟังก์ชั่นตัดเสียงรบกวน
• รองรับ Mono-Mode ใช้หูฟังแยกข้างได้อย่างอิสระ
• ให้การเชื่อมต่อที่เสถียรด้วยเทคโนโลยี Bluetooth 5.0 
• รองรับการใช้งาน Siri,Google Assistant,Alexa
• ควบคุมฟังก์ชั่นเสียงต่างๆที่ตัวหูฟังทั้ง 2 ข้าง (Music & Call)
• สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 3 ชม. รวมชาร์จกับเคสได้อีก 2 ครั้ง รวมเป็น 9 ชม.
• ดีไซน์เข้ากับสรีระของมนุษย์ ให้สัมผัสนุ่มเบาสบายหู (Fit & Comfort)

Gallery

สเปคของ Motorola Verve Buds 500 

General

• น้ำหนัก : 190 กรัม
• ไมค์โครโฟน : Dual Microphone ไมค์โครโฟนคู่พร้อมกับเทคโนโลยี CrystalTalk™
• Frequency range (การตอบสนองความถี่เสียง) : 20 Hz - 20,000 Hz

Control

• Voice Assistant (Siri & Android) : ✓
• Music : ✓
• Call : ✓

Battery

• ระยะเวลาในการเล่นต่อเนื่อง : 3 ชม.
• จำนวนครั้งในการชาร์จแบตเตอรี่ซ้ำกับเคสชาร์จ : 2 ครั้ง
• รวมระยะเวลาการใช้งานทั้งหมด : 9 ชม.

Connectivity

• ประเภทการเชื่อมต่อในการใช้งาน : Bluetooth
• Bluetooth Version : 5.0

“ รีวิวเสียง Motorola Verve Buds 500 ” (เป็นความคิดเห็นของทางทีมงาน 425 Audio)

เสียงย่านเบส (Low)

• เสียงย่านเบสของ Motorola Verve Buds 500 มีความบางกว่าหูฟัง In-Ear ทั่วๆไป ให้เสียงเบสได้ไม่ลึกมาก โดยจะให้ตำแหน่งเสียงของย่านเสียงเบสที่หลบอยู่ในตำแหน่งด้านหลัง เลยทำให้หูฟังตัวนี้ไม่ได้รับความรู้สึกที่อวบอิ่ม ไม่ได้ให้ความดุดันขนาดนั้น แต่ฟังโปร่งสบาย สำหรับใครที่เป็นนักฟังหูฟังสายเบสอาจจะไม่ตอบโจทย์สำหรับหูฟังตัวนี้ครับ แต่ถ้าสำหรับใครที่ชอบฟังแบบโปร่งๆ ฟังสบาย ทางทีมงานว่า Motorola Verve Buds 500 เป็นทางเลือกที่ดีเลยครับ 

เสียงย่านกลาง (Middle)

• Motorola Verve Buds 500 ให้ความคมชัดของเสียงย่านกลางได้ดีครับ มีความฉ่ำของเสียงนักร้อง ฟังไม่แห้ง ให้ตำแหน่งของเสียงร้องที่โดดเด่นอยู่ในตำแหน่งด้านหน้าของวงดนตรี ให้ความรู้สึกในการฟังที่โปร่งใสฟังสบาย หูฟังตัวนี้ตอบสนองเสียงของเครื่องดนตรีที่เป็นกีตาร์โปร่งและเครื่องดนตรีอะคูสติกต่างๆได้ดีมากๆครับ ฟังเพลงแนวอะคูสติกได้ดีเลยทีเดียวครับ อย่างเช่นเพลง Perfect ของ Ed Sheeran 

เสียงย่านแหลม (Treble,High)

• ให้รายละเอียดเสียงย่านแหลมได้ฉูดฉาดพอสมควรเลยครับ ได้ยินถึงปลายเสียงหรือหางเสียงของนักร้องได้ชัดและโดดเด่น แต่ในทางกลับกันอาจส่งผลเป็นข้อเสียได้สำหรับคนที่ไม่ได้ชอบฟังหูฟังที่มีเสียงแหลมมากๆครับ เพราะหูฟังตัวนี้จะตอบสนองเสียงย่าน Sibilant(เสียงที่รอดออกตามไรฟันของนักร้อง พวกเสียงที่เกิดจากตัว S,ส,ซ) ออกมาได้เยอะกว่าหูฟังปกติ ซึ่งส่งผลทำให้เกิดอาการแสบหูหรือบาดหูเมื่อฟังอยู่ในระดับเสียงที่ดังมากๆครับ

 สรุป

• Motorola Verve Buds 500 เป็นหูฟังที่มีเสียงย่านกลางและแหลมโดดเด่นกว่าเสียงย่านเบส ให้เสียงของนักร้องและเครื่องดนตรีอะคูสติกต่างๆได้คมชัด ให้โทนเสียงที่สว่างโปร่งใส แต่สำหรับคนที่ชอบฟังหูฟังสายเบสเยอะๆอาจจะรู้สึกว่าไม่ตอบโจทย์ครับ 
• Motorola Verve Buds 500 เหมาะกับการฟังเพลงในแนวอะคูสติกเบาๆจนไปถึงพวกเพลง Pop แบบ Mainstream ทีมงานแนะนำให้ฟังกับเพลงเบาๆชิลล์ๆ,แนวอะคูสติก เช่นกีตาร์โปร่งกับร้อง,เปียโนกับร้อง รับรองว่าไม่ผิดหวังกับความคมชัดแน่นอน สวมใส่ใช้งานได้ยอดเยี่ยมเลยทีเดียวครับ แต่ทีมงานไม่แนะนำให้ไปถึงแนวเพลงที่ร๊อคหนักๆเพราะว่าเจ้า Motorola Verve Buds 500 นั้นให้เสียงย่านกลางและย่านแหลมที่โดดเด่นและฉูดฉาดมากๆ การฟังเพลงร๊อคที่ฉูดฉาดจึงไม่น่าเหมาะสมกับหูฟังตัวนี้ซักเท่าไร เพราะจะส่งผลให้การฟังนั้นไม่สนุก,แสบหู ทำให้น่ารำคาญและสวมใส่ฟังได้ในระยะเวลาที่สั้นลงครับ
• Motorola Verve Buds 500 ใช้งานไม่ดีเลย์ทั้งระบบ iOS & Android สามารถเล่นเกมและดูคลิปวิดีโอต่างๆได้อย่างสมูทและเพลิดเพลินบน Youtube,Facebook,Instagram,Netflix 

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• Motorola Verve Buds 500
• เคสสำหรับชาร์จ
• จุกหูฟังซิลิโคน 4 คู่ (S,M,L,XL)
• สายชาร์จ MicroUSB
• คู่มือการใช้งานและใบรับประกัน

How To Use Motorola Verve Buds 500

*** ข้อแนะนำก่อนการใช้งาน ***

• เลือกจุกหูฟังให้เหมาะกับสรีระร่างกายเพื่อการสวมใส่ที่สบายและการรับฟังเสียงที่ดีที่สุด
• *** แนะนำให้ลองสวมหูฟังกับจุกหูฟังในทุกๆขนาด ***

วิธีเปิดหูฟัง

• หูฟังจะทำการเปิดโดยอัตโนมัติเมื่อหยิบออกมาจากเคสชาร์จ
• *** ในกรณีที่หูฟังไม่เปิดโดยอัตโนมัติ ให้กดปุ่มมัลติฟังก์ชั่นค้างประมาณ 2 วินาทีจนได้ยินเสียงสัญญาณ “Power On” ***

วิธีปิดหูฟัง

• กดปุ่มมัลติฟังก์ชั่นค้างประมาณ 5 วินาทีจนได้ยินเสียงสัญญาณ “Power Off”
• *** สามารถนำหูฟังเก็บใส่เคสชาร์จแล้วปิดฝาได้เลยโดยที่หูฟังจะปิดให้โดยอัตโนมัติ ***

วิธี Pairing

• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหูฟังทั้งสองข้างอยู่ในเคสชาร์จและฝาเคสปิดสนิท
• หยิบหูฟังทั้งสองข้างออกมาจากเคสหรือกดปุ่มมัลติฟังก์ชั่นค้างไว้ประมาณ 5 วินาที จนเกิดไฟสถานะที่ตัวหูฟังเป็นสี “แดง-น้ำเงิน” กระพริบ
• เลือก “Vervebuds 500” จากเมนูบลูทูธในอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ

วิธี Pairing แบบ Mono-Mode (ใช้งานข้างซ้าย)

• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหูฟังทั้งสองข้างอยู่ในเคสชาร์จและฝาเคสปิดสนิท
• หยิบหูฟังข้างซ้ายออกมาจากเคสหรือกดปุ่มมัลติฟังก์ชั่นค้างไว้ประมาณ 5 วินาที จนเกิดไฟสถานะที่ตัวหูฟังเป็นสี “แดง-น้ำเงิน” กระพริบ
• เลือก “Vervebuds 500 (L)” จากเมนูบลูทูธในอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ
• *** หากเชื่อมต่อหูฟังทั้งสองข้างอยู่แล้วต้องการจะใช้หูฟังเพียงข้างเดียวก็สามารถทำได้โดยการเก็บหูฟังข้างที่ไม่ต้องการใช้ลงในเคสชาร์จและปิดฝาให้สนิท ***

วิธี Pairing แบบ Mono-Mode (ใช้งานข้างขวา)

• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหูฟังทั้งสองข้างอยู่ในเคสชาร์จและฝาเคสปิดสนิท
• หยิบหูฟังข้างขวาออกมาจากเคสหรือกดปุ่มมัลติฟังก์ชั่นค้างไว้ประมาณ 5 วินาที จนเกิดไฟสถานะที่ตัวหูฟังเป็นสี “แดง-น้ำเงิน” กระพริบ
• เลือก “Vervebuds 500” จากเมนูบลูทูธในอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ
• *** หากเชื่อมต่อหูฟังทั้งสองข้างอยู่แล้วต้องการจะใช้หูฟังเพียงข้างเดียวก็สามารถทำได้โดยการเก็บหูฟังข้างที่ไม่ต้องการใช้ลงในเคสชาร์จและปิดฝาให้สนิท ***

วิธีใช้งานปุ่มฟังก์ชั่นสำหรับควบคุมเพลง & โทรศัพท์ (Music & Call)

โทรศัพท์

• ปฏิเสธสาย : กดมัลติฟังก์ชั่นค้าง
• รับสาย-วางสาย : กดมัลติฟังก์ชั่น 1 ครั้ง
• รับสายเรียกเข้าและวางสายที่คุยอยู่ : กดมัลติฟังก์ชั่น 2 ครั้ง
• รับสายเรียกเข้าและพักสายที่คุยอยู่ : กดมัลติฟังก์ชั่น 1 ครั้ง
• ปิดไมค์โครโฟนระหว่างการโทร : กดมัลติฟังก์ชั่น 2 ครั้ง

เพลง

• เล่นเพลง : กดมัลติฟังก์ชั่น 1 ครั้ง
• หยุดเพลง : กดมัลติฟังก์ชั่น 1 ครั้ง
• เล่นเพลงถัดไป : กดมัลติฟังก์ชั่นข้างขวา 2 ครั้ง
• เล่นเพลงก่อนหน้า : กดมัลติฟังก์ชั่นข้างซ้าย 2 ครั้ง

วิธีสั่งการ Siri, Google Assistant , Amazon Alexa บนสมาร์ทโฟนโดยใช้ปุ่มฟังก์ชั่นเสียง

• กดปุ่มมัลติฟังก์ชั่น 2 ครั้งในขณะที่อุปกรณ์กำลังสแตนบาย

วิธีรีเซ็ทหูฟัง (Factory Reset)

• ปิดหูฟังทั้ง 2 ข้างแล้วกดปุ่มมัลติฟังก์ชั่นค้างไว้ 10 วินาทีจนกว่าไฟ LED ที่บริเวณหูฟังจะเป็น “สีม่วง”กระพริบ

ไฟ LED แสดงสถานะที่หูฟัง

• กำลังรอการเชื่อมต่อ : ไฟกระพริบสีแดง-น้ำเงิน
• กำลังเชื่อมต่อ : ไฟกระพริบสีน้ำเงิน
• กำลังชาร์จ : ไฟสีแดง
• ชาร์จเต็มแล้ว : ไฟดับลง
• แบตเตอรี่อ่อน : ไฟสีแดง

ไฟ LED บริเวณกล่องชาร์จ

• ไฟสถานะ 4 ขีด : 100 %
• ไฟสถานะ 3 ขีด : 75 %
• ไฟสถานะ 2 ขีด : 50 %
• ไฟสถานะ 1 ขีด : 25 %

Warranty (การรับประกัน)

• รับประกัน 1 ปี เงื่อนไขเป็นไปตามที่ Motorola กำหนด
• *** ในส่วนของอะไหล่(จุกหูฟัง, ตัวเกี่ยวหู, คลิปหนีบหูฟังกับเสื้อ) ที่มากับตัวหูฟังจะมีระยะประกันอยู่ที่ 7 วัน
• คุณลูกค้าต้องเก็บตัวสินค้าไว้ให้ครบไม่ว่าจะเป็น กล่อง/ซองแพคเกจจิ้ง, ตัวหูฟัง, จุกหูฟัง รวมไปถึง คู่มือการใช้งาน
• หากตัวสินค้าเสียหายจากขั้นตอนการผลิตของทางโรงงาน เปลี่ยนตัวใหม่ให้ทันที
• สินค้าต้องไม่มีตำหนิจากการใช้งานผิดวิธี, ตำหนิเสียหายจากการใช้งานของลูกค้า, ร่องรอยการกระแทก หรือการขูดขีดอย่างรุนแรง
• หากเป็นปัญหาจากการใช้งานของคุณลูกค้าไม่ว่าจะเป็น สายขาดใน, แจ็คหัก, เปิดเสียงดังจนเสียงแตก, เบิร์นหูฟังผิดวิธี(ใช้แอพเบิร์นหรือคลื่นเสียงประเภท Sine Sweep, Pink Noise, White Noise) จนหูฟังเสียหาย จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกันครับ