Marshall Stanmore II : ลำโพงหรู 80 Watt. สุดคลาสสิค ที่ต้องมีติดบ้าน!!

สินค้าหมด
SKU
AD072-A1
In store:
 Central World    
 Mega Bangna    
 Central Westville    
 Emsphere    
 Fashion Island    
 Paragon    
สรุปรายละเอียดสินค้า
  • Code : 425marshall200 ลดเพิ่ม 200 บาท
  • ลำโพงดีไซน์หรู เสียงแน่น พร้อมกำลังขับสูงถึง 80 Watt.
  • ดอกลำโพงแบบ Subwoofer x 1 , Tweeter x 2 (3 Way Speaker) ให้มิติเสียงที่เป็นธรรมชาติ
  • รองรับได้ทุกขนาดห้อง รวมไปถึงงานปาร์ตี้กลางแจ้ง
  • แผง Control เสียง พร้อมไฟ LED บอกตำแหน่ง สามารถปรับ Volume , Bass , Treble  
  • บลูทูธ 5.0 รองรับ aptX อัตราหน่วงระหว่างภาพกับเสียงน้อย  
  • ช่องเสียบสายสัญญาณแบบ 3.5 มม. , RCA in (โทรทัศน์ , เครื่องเล่น Vinyl)
  • รองรับ Marshall Bluetooth App ทั้งระบบ iOS & Android

แชร์
เข้าสู่ระบบเพื่อรับ Degree Points เพิ่มจากการแชร์หน้านี้!

Marshall Stanmore II Bluetooth Speaker 

ลำโพงสวยหรูสุดคลาสสิค ที่ต้องมีติดบ้าน

(Degree ฟังสนุก เบสหนักจนกำแพงบ้านสั่น)

 


 

Marshall Stanmore II Bluetooth Speaker,Marshall Stanmore II,Stanmore II,marshall standmore,ลำโพง marshall,ลำโพงบลูทูธ marshall,ลำโพงบลูทูธ,Bluetooth speaker

 

จุดกำเนิดของ “ Marshall ”

  • Marshall แบรนด์ลำโพงชั้นนำสุดคลาสสิค ที่เริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1962 โดย จิม มาร์แชล(Jim Marshall) ในยุคเริ่มแรกของทางบริษัท เริ่มโด่งดังมาจากการสร้างแอมป์ขยายเสียงสำหรับกีตาร์ไฟฟ้า ตั้งแต่ขนาดเล็กจนไปถึงขนาดใหญ่ ซึ่งนักดนตรีที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นอย่าง ริตชี แบล็กมอร์ , พีต ทาวน์เซนด์ ก็ต่างออกมายอมรับถึงคุณภาพของตู้แอมป์ของเขาว่าได้คุณภาพได้มาตรฐาน จึงเกิดเป็นเรื่องเล่า “แบบปากต่อปาก” ไปถึงวงดนตรีหลายๆวง ต่อมาแบรนด์  Marshall ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดนักดนตรี จนทำให้ Jim Marshall สามารถพัฒนาและขยายรุ่นสินค้าต่อไปได้อีกหลายรุ่น

 

“เมื่อเวลาเปลี่ยน อะไรๆก็เปลี่ยน”

  • ในเวลาต่อมา เทคโนโลยีเริ่มมีการแปรผันปรับเปลี่ยนการใช้อุปกรณ์ ให้เกิดความหลากหลายมากขึ้น จากยุค Analog มาเป็นยุค Digital ทางบริษัท Marshall ก็ได้เริ่มปรับเปลี่ยนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆของเขาอยู่ตลอด โดยมีตั้งแต่ตู้แอมป์กีตาร์รุ่นใหม่ๆ ทั้งขนาดเล็กและใหญ่ , ลำโพงแบบบลูทูธ , หูฟัง ซึ่งจุดแข็งของทางบริษัท Marshall ก็คือ ยังคงคุณภาพความคลาสสิคในเรื่องของดีไซน์และยังคงใส่ใจในเรื่องของเสียงไว้นั่นเองครับ 

 

ลำโพง Marshall Stanmore II เหมาะกับใคร ???

 

ใครหาลำโพงสวยๆ ที่เป็นเฟอร์นิเจอร์ชั้นหรูได้ เชิญ!!!!!!

  • ตัวลำโพงไม่ได้มีดีแค่เรื่องเสียง เพราะมีดีไซน์ที่เรียบหรู พรีเมียม สะดุดตามากๆ เหมาะสำหรับคนที่หลงรัก “ดีไซน์แบบย้อนยุค คลาสสิค” หลงรักความเป็นแบรนด์ Marshall แค่เอามาตั้งไว้บนโต๊ะทำงานเฉยๆ ก็สามารถเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านได้แล้วครับ

Marshall Stanmore II Bluetooth Speaker,Marshall Stanmore II,Stanmore II,marshall standmore,ลำโพง marshall,ลำโพงบลูทูธ marshall,ลำโพงบลูทูธ,Bluetooth speaker  

ใครเพื่อนมาบ้านบ่อยๆ...รักความสนุกและหลงใหลในเสียงเพลง ต้องจัด!!!

  • ด้วยขนาด , น้ำหนักของตัวลำโพง Marshall Stanmore II ที่มีค่อนข้างเยอะ ผสมกับฟังก์ชันที่ต้องใช้ปลั๊กไฟเสียบใช้งานตลอด ทีมงานจึงแนะนำว่าเป็นลำโพงที่เหมาะกับการใช้งานภายในบ้าน มากกว่าการพกพาไปตามที่ต่างๆครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ด้วยคุณภาพเสียงที่ให้มาเต็มเปี่ยมขนาดนี้ การนำเจ้า Marshall Stanmore II ไปใช้ในสวนหน้าบ้าน , จัดปาร์ตี้บาร์บีคิว , ปาร์ตี้ Hang Out กับเพื่อนๆก็ทำได้แบบสุดโต่งเลยล่ะครับ

Marshall Stanmore II Bluetooth Speaker,Marshall Stanmore II,Stanmore II,marshall standmore,ลำโพง marshall,ลำโพงบลูทูธ marshall,ลำโพงบลูทูธ,Bluetooth speaker

 

ชอบดูหนัง , เล่นเครื่องเล่นแผ่นเสียง Vinyl ยุคเก่าๆ...ก็เหมาะมาก !!!

  • เจ้าลำโพง Marshall Stanmore II ตัวนี้มีช่องเสียบสายสัญญาณ RCA (แดง-ขาว) ติดมาให้ด้วยทางด้านหลังครับ ทำให้ลำโพงตัวนี้ยังสามารถรอบรับการเสียบใช้งานได้หลากหลายอุปกรณ์มากยิ่งขึ้น ตั้งแต่เครื่องเล่นแผ่นเสียงยุคเก่าๆ , ทีวียุคเก่าๆ , Smart TV ก็ใช้งานได้สบายๆเลยครับ     

Marshall Stanmore II Bluetooth Speaker,Marshall Stanmore II,Stanmore II,marshall standmore,ลำโพง marshall,ลำโพงบลูทูธ marshall,ลำโพงบลูทูธ,Bluetooth speaker


 

“ Marshall Stanmore II ” Features

 

ระดับเสียงกว้าง รองรับการใช้งานได้ทุกห้อง รวมไปถึงกลางแจ้ง

  • ตัวลำโพงให้กำลังขับสูงถึง 80 Watt. มาพร้อมกับ 2 x Tweeter , 1 x Subwoofer  ปรับระดับเสียงได้กว้าง รองรับการใช้งานได้ทุกห้อง ไม่ว่าจะเปิดฟังเพลงเบาๆก่อนนอน , ฟังเพลง & ดูหนังในห้องนั่งเล่น , รวมไปถึงการจัดปาร์ตี้กลางแจ้งแบบตึ้บๆก็ทำได้สบายๆ

Marshall Stanmore II Bluetooth Speaker,Marshall Stanmore II,Stanmore II,marshall standmore,ลำโพง marshall,ลำโพงบลูทูธ marshall,ลำโพงบลูทูธ,Bluetooth speaker


 สัญญาณการเชื่อมต่อสุดสเถียรและรองรับอุปกรณ์ไร้สายได้หลากหลาย , รองรับ aptX

  • Bluetooth 5.0 และรองรับ aptX Technology ช่วยให้สัญญาณการเชื่อมต่อสเถียรภาพมากยิ่งขึ้น อัตราการหน่วงระหว่างภาพและเสียงน้อยลง เชื่อมต่อในระยะไกลสูงสุดถึง 30 ฟุต ( 9.14400 เมตร) สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ไร้สายได้ตั้งแต่ Smartphone , Tablet , จนไปถึง Computer แม้่ว่าจะเชื่อมต่อกับมือถืออยู่ แต่เดินไปห้องข้างๆก็ยังฟังได้แบบไร้รอยต่อ

 


 ดีไซน์คลาสสิค ให้อารมณ์ย้อนยุคไปในปี ค.ศ. 1962

  • ยังคงเอกลักษณ์ในเรื่องของดีไซน์แบบย้อนยุค , คลาสสิค และใช้วัสดุคุณภาพสูง ไว้ให้เหมือนลำโพงรุ่นแรกๆในปี ค.ศ. 1962 ที่สามารถนำไปไว้ที่ห้องไหนภายในบ้านก็ได้

Marshall Stanmore II Bluetooth Speaker,Marshall Stanmore II,Stanmore II,marshall standmore,ลำโพง marshall,ลำโพงบลูทูธ marshall,ลำโพงบลูทูธ,Bluetooth speaker


 แผงควบคุมปรับได้ดั่งใจ (Control Your Sound)

  • ควบคุมความดัง , ปรับ Tone เสียง Bass , Treble ได้ตามใจชอบ ด้วยแผงควบคุมด้านบนลำโพง ให้อารมณ์ย้อนไปในยุค Analog อยากจะเพิ่ม Bass ก็ทำได้ดั่งใจ อยากจะเพิ่มความดังให้กำแพงบ้านสั่นก็หมุนได้เลย
  • และจุดที่ทีมงานชอบอีกอย่างคือ "ตำแหน่งไฟ LED" ที่สามารถบอกได้อย่าง "แม่นยำ" ว่าตอนนี้เราปรับอยู่ที่ระดับไหนแล้วครับ

Marshall Stanmore II Bluetooth Speaker,Marshall Stanmore II,Stanmore II,marshall standmore,ลำโพง marshall,ลำโพงบลูทูธ marshall,ลำโพงบลูทูธ,Bluetooth speaker

 

Marshall Stanmore II Bluetooth Speaker,Marshall Stanmore II,Stanmore II,marshall standmore,ลำโพง marshall,ลำโพงบลูทูธ marshall,ลำโพงบลูทูธ,Bluetooth speaker


 การเชื่อมต่อโดยสายสัญญาณ (Wired Connectivity)

  • รองรับการเชื่อมต่อแบบเสียบสายทั้งช่องสัญญาณแบบ Aux in 3.5 mm. (Universal Audio) & RCA in สำหรับใครที่ต้องการเสียบกับ Smart TV , เครื่องเล่นแผ่นเสียง ก็เสียบสายสัญญาณเข้า RCA in ได้เลยครับ

Marshall Stanmore II Bluetooth Speaker,Marshall Stanmore II,Stanmore II,marshall standmore,ลำโพง marshall,ลำโพงบลูทูธ marshall,ลำโพงบลูทูธ,Bluetooth speaker

Marshall Stanmore II Bluetooth Speaker,Marshall Stanmore II,Stanmore II,marshall standmore,ลำโพง marshall,ลำโพงบลูทูธ marshall,ลำโพงบลูทูธ,Bluetooth speaker


 เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกันสองอุปกรณ์ (Multi-Host) 

  • ตัวลำโพงรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกันสองอุปกรณ์ (Multi-Host) พร้อมสลับใช้งานได้อย่างสะดวก ใครมีทั้ง Mobile , Tablet ก็เชื่อมต่อทิ้งไว้เลยตั้งแต่ครั้งแรก และสลับการใช้งานได้เลยตามใจชอบ 

Marshall Stanmore II Bluetooth Speaker,Marshall Stanmore II,Stanmore II,marshall standmore,ลำโพง marshall,ลำโพงบลูทูธ marshall,ลำโพงบลูทูธ,Bluetooth speaker


 

Sound Review (รีวิวเสียง)

สำหรับบทเพลง Mainstream , เพลงฮิตติด Top Chart ทั้งเพลงไทย , สากล

  • ตัวลำโพง Marshall Stanmore II สามารถตอบสนองย่านความถี่ของเสียงร้อง ในย่านเสียงกลาง ออกมาได้อย่างโดดเด่น น้ำเสียงของนักร้องได้โทนที่ธรรมชาติพุ่งออกมาด้านหน้า ให้ความรู้สึกที่อยู่แนวหน้าของชิ้นดนตรี ฟังง่าย ไม่โดนชิ้นดนตรีกลบเกลื่อนครับ 
  • ส่วนย่านความถี่ที่ต่ำและความถี่สูง(Low & High Frequency) สามารถตอบสนองและให้ความรู้สึกออกมาได้อย่าง Balance (พอดี) ในตำแหน่งที่ถอยหลังออกไป จากเสียงของนักร้อง ทำให้ได้มิติการฟังที่ดีครับ 
  • ถึงแม้ว่าบทเพลงบางเพลงจะมี Style EDM , Dance เข้ามาผสมผสาน เสียงย่านต่ำในเพลงเยอะๆ แต่เจ้าลำโพงตัวนี้ก็ยังให้เสียงร้องที่ชัดถ้อยชัดคำ ฟังได้ง่ายอยู่ครับ 

เพลงที่ 425Audio ใช้ทดสอบกับ Mainstream 

  • Spotify Playlist Thailand Top 50 >>> ลงใจ , คิดถึงแต่ (Bowkylion)  , ฝนตกไหม , แอบดี , ถ้าฉันเป็นเขา , ภาวนา
  • Spotify Global Top 50 >>> Blinding Lights , The Box , Dance Monkey

 

ต่อไปลองเน้นเป็นบทเพลงที่หนักขึ้นมาหน่อย เพราะว่าตั้งแต่ Acoustic ขึ้นมาจนถึงการผสมผสานของ EDM นี่ฟังได้แบบสบายๆ

  • ลองมาเริ่มกับเพลง Rock ช่วงต้นๆปี ค.ศ. 2000 กันหน่อย อย่างบทเพลงยอดฮิตอย่าง The Reason ของ Hoobastank 
  • ความรู้สึกแรกที่จับต้องได้คือ ความมันและความหนึบของเสียงกลองชุดพร้อมกีตาร์เบส เมื่อบทเพลงเริ่มมาด้วยกันทั้งแบรนด์ (เปียโน , กีตาร์ , เบส , กลอง) เจ้าลำโพง Marshall Stanmore II สามารถให้เสียงของ กระเดื่อง(Kick) และ สแนร์(Snare) ได้อย่างแน่น ให้อารมณ์เหมือนนั่งอยู่หน้ามือกลองได้เลยครับ (Kick กระแทกหน้า) 
  • พอเริ่มมีเสียงของนักร้องขึ้นมา คาแรคเตอร์ของลำโพงก็กลับมาเหมือนเดิมคือ ฟังร้องชัด พร้อมกับความมันของเสียงย่านต่ำ ที่คอยโอบอุ้มบทเพลงไปได้อย่างอวบอิ่ม
  • ส่วนในท่อนฮุคของเพลงที่เริ่มมีเสียงแตกของกีตาร์ไฟฟ้า(Distortion) นักร้องก็ยังชัดอยู่ แม้ว่าจะมีเสียงของกีตาร์ที่หนา เพิ่มเข้ามา โดยที่เสียงกีตาร์ไฟฟ้าในเพลงนี้ได้โทนที่หนาและพุ่งมากๆจากตัวลำโพง แต่มิติและความแม่นยำนั้นยังยอดเยี่ยม ไม่ได้รู้สึกว่าโดนบดบังแต่อย่างใด

ขอลองเปลี่ยนฝั่งไปเป็น Rock แบบ Nickelback บ้าง

  • เริ่มอัดไปกับเพลงมันๆ กระแทกกระทั้นอย่าง Edge Of A Revolution เลยล่ะกัน 
  • เจ้าลำโพง Marshall Stanmore II ยังคงคาแรคเตอร์เสียง ความมันที่เป็นเอกลักษณ์ในการฟังเพลง Rock ไว้ได้อย่างโหดมากๆ เอาคาแรคเตอร์เสียงกีตาร์ไฟฟ้า ,  กีตาร์เบส , และกลองชุด ออกมาได้อย่างทรงพลังเลย โดยความหนาของเนื้อเสียงกีตาร์ไฟฟ้ายังเป็นธรรมชาติ ฟังสนุก ให้ความรู้สึกได้คล้ายการฟังลำโพงจากห้องอัดได้ โดยที่ให้ความรู้สึกที่โดนบิดเบียนมาจากเสียงจริงน้อยมากๆครับ

Stereo Image

  • สำหรับเรื่องมิติความกว้างของ Stage ทีมงานถือว่าตอบโจทย์แบบนั้นได้ยาก เรียกว่าไม่ได้ตอบโจทย์ในเรื่องของการฟังแบบกว้างๆแยกมิติขนาดนั้น แต่ถ้าเป็นจุดเด่นของเขาจริงๆ ทีมงานยกย่องในเรื่องของมิติความลึกมากกว่า ที่สามารถจับต้องได้แบบไม่ยากว่าเครื่องอะไรอยู่ข้างหน้า,ข้างหลัง ทำให้การฟังเพลงนั้นได้อรรถรส ฟังสนุกมากๆครับ  

ฟัง Rock อย่างมัน 

  • เป็นลำโพงที่ฟัง Rock ดีสุดในคลาสแล้วแหละครับ ตอบโจทย์ชาวร๊อคได้ไปถึงชาว Metal แน่ๆ คุณภาพระดับ World Class ตามสไตล์ต้นกำเนิดของ Marshall เลยครับ

สรุป

  • ทางทีมงาน 425Audio ขอไม่พูดเยอะละกันครับ เนื่องจากน้ำเสียงของเจ้าลำโพง Marshall Stanmore II ตัวนี้เอาไปฟังกับบทเพลงอะไรก็ดูดี ฟังสนุก ฟังเพราะไปหมด โดยจุดเด่นของเขาคือ การให้เสียงร้องที่ชัดถ้อยชัดคำ เนื้อเสียงหนาได้น้ำได้นวล มีการแบ่งมิติความลึกของเสียงให้ชิ้นดนตรี ทั้งย่านเสียงสูงและเสียงต่ำถอยออกไปข้างหลังหน่อย ทำให้เสียงร้องพุ่งออกมาที่ด้านหน้า โดยรวมแล้วทำให้การฟัง ฟังได้แบบ Balance (พอดี) กลมกล่อมลงตัวมากๆครับ

 

Product Specification (สเปคคร่าวๆ)

 

  • ตอบสนองความถี่ (FREQUENCY RANGE) : 50 – 20,000 Hz
  • ปุ่ม Control (Front) : Volume , Bass , Treble
  • STEREO/MONO : Stereo
  • MAXIMUM SOUND PRESSURE LEVEL : 101 dB @ 1 m
  • CABINET PRINCIPLE : Bass-reflex
  • POWER AMPLIFIERS : 1x 50 Watt Class D amplifier for the woofer , 2 x 15 Watt Class D amplifiers for the tweeters
  • DIMENSION : 350 x 195 x 185 mm
  • WEIGHT : 4.65 kg

 

Product Include (อุปกรณ์ภายในแพคเกจ)

  • ลำโพง Marshall Stanmore II
  • สายไฟ
  • คู่มือการใช้งานเบื้องต้น

 

Warranty (เงื่อนไขประกันสินค้า)

  • รับประกัน 1 ปี ภายใต้เงื่อนไขที่ทาง Marshall กำหนด
  • *** ในส่วนของอะไหล่ เเละสายชาร์จที่มากับตัวลำโพงจะมีระยะประกันอยู่ที่ 7 วัน
  • คุณลูกค้าต้องเก็บตัวสินค้าไว้ให้ครบไม่ว่าจะเป็น กล่อง/ซองแพคเกจจิ้ง, ตัวลำโพง, สายสัญญาณ รวมไปถึง คู่มือการใช้งาน
  • หากตัวสินค้าเสียหายจากขั้นตอนการผลิตของทางโรงงาน เปลี่ยนตัวใหม่ให้ทันที
  • สินค้าต้องไม่มีตำหนิจากการใช้งานผิดวิธี, ตำหนิเสียหายจากการใช้งานของลูกค้า, ร่องรอยการกระแทก หรือการขูดขีดอย่างรุนแรง
  • หากเป็นปัญหาจากการใช้งานของคุณลูกค้าไม่ว่าจะเป็น สายขาดใน, แจ็คหัก, เปิดเสียงดังจนเสียงแตก, เบิร์นลำโพงผิดวิธี(ใช้แอพเบิร์นหรือคลื่นเสียงประเภท Sine Sweep, Pink Noise, White Noise) จนดอกลำโพงเสียหาย จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
  • สินค้ารุ่นนี้ไม่มีมาตรฐานการกันนํ้า หากสินค้าเสียหายจากอาการนํ้าเข้าในทุกกรณี จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
  • อาการกระตุกของสัญญาณขณะใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณของอุปกรณ์ไร้สายเยอะๆ เช่นบนสถานีรถไฟฟ้า,ออฟฟิตขนาดใหญ่ ***เช่น กำลังฟังเพลงอยู่แล้วสัญญาณขาดหายแล้วกลับมาเป็นปกติ *** จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
 

 

 

ขั้นตอนการเคลมสินค้า

 

ขั้นตอน 1 กรอกแบบฟอร์มการรับประกัน https://warranty.ash-asia.com/wholesale-warranty-claim/
เพื่อรับบริการรับประกัน โปรดติดต่อตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้าของบริษัท Ash asia ("CSR") โดยกรอกแบบฟอร์มเรียกร้อง ( https://warranty.ash-asia.com/wholesale-warranty-claim/) หรือทางอีเมลที่ [email protected]

ขั้นตอน 2 รับหมายเลข Claim ID (WSCI- xxxx ) สำหรับผลิตภัณฑ์ของคุณ
โปรดอย่าส่งคืนสินค้าใด ๆ หากไม่ได้รับหมายเลข RMA เนื่องจากทางบริษัท Ash asia ไม่สามารถติดตามสินค้ากับคุณและอาจสูญหายหรือถูกวางผิดที่ หากสินค้าใดถูกส่งคืนโดยไม่มีหมายเลข RMA ที่ถูกต้องทางบริษัท Ash asia จะไม่รับผิดชอบต่อสินค้าของคุณหากสินค้าเสียหายหรือสูญหาย

ขั้นตอน 3 จัดส่งผลิตภัณฑ์ของคุณไปยังศูนย์บริการของบริษัท Ash asia
กรุณาแพ็คสินค้า + อุปกรณ์ทั้งหมดลงกล่อง พร้อมจ่าหน้ากล่องว่า

ฝ่ายเคลมสินค้า และแจ้ง Claim ID
ที่อยู่ บริษัท แอชเอเชีย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
ห้อง 2301 ชั้น 23 อาคารเดอะมิลเลนเนียทาวเวอร์ 62 ซ.หลังสวน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
โทร. 02-252-2990 ต่อ 105 (เบอร์สำนักงาน)
โปรดแน่ใจว่าหมายเลข Claim ID ( WSCI- xxxx ) ถูกพิมพ์อย่างชัดเจนบนกล่อง!

ขั้นตอน 4 บริษัท Ash asia ทำการประเมินผลิตภัณฑ์ของคุณและเตรียมการแก้ไขปัญหา
เมื่อได้รับและดำเนินการตามคำขอรับประกันของคุณแล้วคุณจะได้รับอีเมลยืนยันจากบริษัท Ash asia และช่างเทคนิคป้องกันตัวเลือกจะประเมินผลิตภัณฑ์ของคุณ โปรดทราบว่าโดยทั่วไปบริษัท Ash asia จะให้การยืนยันภายใน 2-3 วันทำการ อย่างไรก็ตามในช่วงที่มีความต้องการใช้งานสูงสุดอาจใช้เวลาถึง 10 วันทำการ เพื่อให้บริษัท Ash asia ตอบกลับคุณ เมื่อบริษัท Ash asia ประมวลผลผลิตภัณฑ์ของคุณแล้วให้ซ่อมแซมเวลาตอบสนองโดยเฉลี่ย 5 วันทำการ

 

ข้อมูลเพิ่มเติม
Fashion Island STOREไม่
SKUAD072-A1
แบรนด์MARSHALL
CTW STOCKไม่
MB STOCKไม่
ES STOCKไม่
WV STOCKไม่
Paragon STOREไม่
0
เรทติ้ง:
0% of 100
Write Your Own Review
เฉพาะสมาชิกเท่านั้นที่สามารถเขียนรีวิวได้ กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก
คำถามลูกค้า
ไม่มีคำถาม
โปรดทราบ, เฉพาะผู้ใช้ที่เข้าสู่ระบบเท่านั้นที่สามารถส่งคำถามได้
สินค้าที่คุณอาจจะชอบ!