Klipsch T5 II True Wireless Sport

McLaren Edition

หรูสุด สปอร์ตจัด

ใส่ Code : 425mclaren500 รับส่วนลด 500 บาท

425 Recommend

• Klipsch T5 II True Wireless Sport McLaren Edition คือการร่วมมือกันพัฒนาหูฟัง true wireless ระหว่างบริษัทเครื่องเสียงสุดเก๋าจากอเมริกา “Klipsch” และบริษัทผลิตรถหรูซุปเปอร์คาร์จากอังกฤษ “McLaren” ที่ผสมผสานความเป็นหูฟังเสียงดี การใช้งานยอดเยี่ยม และรูปลักษณ์สวยงาม หยิบจับให้ความรู้สึกเหมือนกำลังจับรถสปอร์ตหรูๆได้อย่างลงตัวครับ
• เป็นหูฟัง true wireless ระดับ high-end ที่ตอบโจทย์คนที่มีไลฟ์สไตล์แบบ active ชอบใส่หูฟังออกกำลังกาย และตอบโจทย์คนใช้งานหูฟังทั่วๆไปครับ
• เป็นหูฟังทรง In-ear ที่สวมใส่กระชับและใส่สบายมาก ด้วยจุกหูฟังออกแบบพิเศษทรงวงรี (Oval eartips) ตามรูปร่างของหูคนเรา ทำให้มันมีแรงเบียดและแรงต้านภายในช่องหูน้อย ช่วยให้เวลาใส่หูฟังนานๆจะไม่เจ็บหูครับ ใส่สบายมาก การันตีครับ
• ลูกเล่นที่น่าสนใจมากๆเลยคือกล่องชาร์จครับ ที่มีการดีไซน์ด้วยลวดลายเคฟล่า สวยพรีเมี่ยมและแข็งแรง แถมเจ้าตัวเคสยังสามารถกันนํ้าและฝุ่นได้ในระดับ IP67 เช่นเดียวกับตัวหูฟัง ช่วยให้เราใส่ออกกำลังกายกันเหงื่อได้อย่างไร้กังวลครับ
• อีกหนึ่งฟีเจอร์สุดพิเศษเฉพาะเจ้า Klipsch T5 II True Wireless Sport McLaren Edition นั่นคือระบบ Moisture-Removal system ที่ตัวกล่องชาร์จ สามารถดูดซับความชื้นจากหูฟังหลังจากการใส่ออกกำลังกายได้ ช่วยให้หูฟังแห้งสนิท เพื่อรักษาหูฟังให้มีอายุการใช้งานนานกว่าหูฟัง true wireless ทั่วไปครับ
• หากใครเป็นคนคุยโทรศัพท์บ่อยๆนี่ตอบโจทย์มากครับ เพราะหูฟังรุ่นนี้มีไมโครโฟนแบบ Beamfoaming จำนวน 4 ตัว พร้อมระบบ Clear Voice Chat เวอร์ชั่น 8.0 ช่วยลดเสียงรบกวนขณะคุยโทรศัพท์ ทีมงาน 425 ลองใช้คุยโ?รศัพท์ทั้งนอกอาคารและภายในออฟฟิศ ก็สามารถใช้คุยได้ดี เสียงคมชัดแทบจะทุกๆสภาพแวดล้อมเลยครับ
• สุ่มเสียงตอบโจทย์คนชอบโทรเสียงแบบ balanced ออกกลางๆแบบมีเสียงเบสที่หนักแน่น แรงปะทะหนักฟังสนุก เรียกว่าคาแรคเตอร์ของมันจะออกไปทาง อุ่นลึก ฟังได้กับเพลงทุกแนว ไม่ว่าจะเพลงตลาดทั่วไปหรือเพลง EDM ได้เอาอยู่ครับ
• ใครกำลังหาหูฟัง true wireless ดีไซน์หรูๆ เท่แบบมีระดับ เอาไว้ใส่ออกกำลังกายและใช้งานฟังเพลงทั่วไป ใช้คุยโทรศัพท์ด้วย Klipsch T5 II True Wireless Sport McLaren Edition เป็นหูฟัง true wireless ที่น่าหามาใช้อย่างยิ่งครับ

Product Description

• เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0 มี Signal-Boost External Antenna เสริมคุณภาพสัญญาณเชื่อมต่อระหว่างหูฟังกับอุปกรณ์
• ภายในกล่องชาร์จมีระบบ Moisture-Removal System ระบบดูดความชื้นให้หูฟังแห้งอยู่ตลอดเวลาที่หูฟังอยู่ในกล่องชาร์จ
• โหมดฟังเสียงรอบข้าง Transparency Mode สำหรับจับเสียงรอบๆตัวให้ผู้ใช้งานได้ยินผ่านหูฟัง
• ไมโครโฟนแบบ Beamforming จำนวน 4 ตัว พร้อมระบบ Clear Voice Chat 8.0 (cVc 8.0) เสริมความชัดเจนของเสียงพูด และลดเสียงรบกวนรอบๆตัวเพื่อให้เสียงคุยโทรศัพท์เสียงดังฟังชัดมากที่สุด
• มีมาตรฐานการกันฝุ่นและนํ้าระดับ IP67 ครอบคลุมทั้งหูฟังและกล่องชาร์จ ทนทานต่อสถานที่ที่มีสถาวะอากาศที่หนักหน่วง
• จุกหูฟังชนิดพิเศษ Oval Eartips จุกหูฟังทรงวงรี สวมใส่เข้าทรงกับช่องหูภายในมากกว่าทรงปกติ ซีลกันเสียงภายนอกได้ดี ให้เสียงย่านตํ่าที่ชัดเจน อีกทั้งยังสวมใส่สบาย ใส่ได้นานและลดอาการใส่หูฟังนานๆแล้วล้าหู
• ไดร์เวอร์ Dynamic Moving Coil Micro Speaker ผสมผสานระหว่างกำลังขับอันทรงพลัง, สุ่มเสียงที่เป็นธรรมชาติและเสียงเบสที่หนักแน่น
• รองรับการใช้งาน AI Assistant (Google & Siri)
• เล่นต่อเนื่องได้สูงสุด 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และสามารถชาร์จจากกล่องชาร์จเพิ่มได้อีกสูงสุด 24 ชั่วโมง
• กล่องชาร์จรองรับชาร์จไร้สาย wireless charging

Product Included (อุปกรณ์ภายในกล่อง)

• หูฟัง Klipsch T5 II True Wireless Sport McLaren Edition จำนวน 1 คู่
• กล่องชาร์จ Klipsch T5 II True Wireless Sport McLaren Edition จำนวน 1 กล่อง
• จุกหูฟัง Oval Eartips จำนวน 6 คู่
• จุกหูฟัง Memory Foam จำนวน 1 คู่
• Earwings จำนวน 3 คู่
• สายชาร์จ USB-C จำนวน 1 เส้น
• หัวแปลง USB-C to USB-A จำนวน 1 อัน
• แท่นชาร์จไร้สายจำนวน 1 อัน
• แผ่น serial card จำนวน 1 แผ่น
• หนังสือ McLaren Booklet จำนวน 1 เล่ม
• สติ๊กเกอร์แบรนด์ จำนวน 1 แผ่น
• คู่มือการใช้งานจำนวน 1 เล่ม

ประสบการณ์การใช้งานจริงของทีมงาน 425Audio

เมื่อบริษัทผลิตเครื่องเสียงยักษ์ใหญ่จากอเมริกา “Klipsch” และบริษัทรถสปอร์ตสุดหรูจากอังกฤษ “McLaren” ร่วมมือกันทำหูฟัง true wireless !

• Klipsch T5 II True Wireless Sport McLaren Edition เป็นหูฟัง true wireless ที่เกิดมาจากการร่วมมือกันของบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างวงการครับ
• ซึ่งนั่นก็คือ Klipsch แบรนด์เครื่องเสียงลำโพงบ้านจากอเมริกา และ McLaren แบรนด์รถสปอร์ตสุดหรูจากประเทศอังกฤษ
• ซึ่งทำให้เจ้า Klipsch T5 II True Wireless Sport McLaren Edition เป็นหูฟังที่ถูกจับตามองมากที่สุด ณ เวลานี้ และแอดมินก็ไม่คิดว่าจะได้มีโอกาศเจอมันแบบตัวจริงเสียงจริง !! และนี่คือความประทับใจในการทดลองใช้งาน Klipsch T5 II True Wireless Sport McLaren Edition ครับ

กล่องชาร์จโครตหล่อ เป็นเคฟล่า แถมกันนํ้ากับฝุ่นได้ด้วย !!

• ดีไซน์บอกเลยหล่อโครต กล่องชาร์จเป็นลายเคฟล่าเท่ๆหุ้มด้วยพลาสติกแข็งโปร่งใส จับพลิกซ้ายพลิกขวามองเพลินมากๆ
• นอกจากตัวหูฟังจะสามารถกันนํ้ากันเหงื่อได้แล้ว ตัวกล่องชาร์จยังสามารถกันนํ้าได้เช่นเดียวกับตัวหูฟังเลยครับ กล่องชาร์จบุขอบยางตรงบานพับมาให้มันสามารถกันนํ้าและฝุ่นได้ บอกเลยเค้าใส่ใจเรื่องความปลอดภัยกับเจ้า Klipsch T5 II True Wireless Sport McLaren Edition ตัวนี้มากๆครับ

ยังไม่พอ..กล่องชาร์จมีระบบดูดความชื้นออกจากตัวหูฟังด้วย !!

• ใต้ฝากล่องชาร์จของเจ้า Klipsch T5 II MacLaren จะมี pod และมีเม็ดกันชื้นอยู่ข้างใน ซึ่งเวลาเขย่าๆจะเสียงขลุกขลิกๆเพราะพริ้งเหมือนลูกไข่เขย่าเชคกี้เชคเลยครับ
• เจ้า pod ตัวนี้ทาง Klipsch เรียกว่า Moisture-Removal Systen ซึ่งจะช่วยดูดซับความชื้นที่เกาะอยู่บนหูฟังหลังเราใช้งานเสร็จแล้วให้แห้งโดยเร็วที่สุด ซึ่งระบบนี้จะช่วยยืดอายุและรักษาตัวหูฟังทั้งสองข้างให้มีอายุการใช้งานได้ยืนยาว และอึดมากๆอีกด้วยครับ

จุกหูฟังทรงวงรีของมันใส่สบายจริงๆแหะ..ใส่ได้ทั้งวันเลย..

• เจ้า Klipsch T5 II McLaren มากับจุกหูฟังทรงพิเศษ (Oval Eartips) ซึ่งรูปร่างของมันจะเป็นทรงวงรีตามรูปร่างช่องหูของคนเราครับ
• ความพิเศษของมันคือ เมื่อมันสวมใส่เข้าตามรูปช่องหูภายใน มันจะมีแรงเบียดและแรงต้านจากจุกหูฟังภายในช่องหูน้อยกว่าจุกหูฟังทรงปกติ ส่งผลให้เราสวมใส่ได้สบาย ใส่นานแค่ไหนก็ยังโอเคครับ
• แอดมินลองใส่ขึ้นรถไฟฟ้า BTS ไปทำงาน นั่งรถเมล์ทั้งขาไปและขากลับ ซึ่งใช้เวลาเดินทางไม่ตํ่ากว่า 2 ชั่วโมง (เนื่องจากทางไปบ้านแอดมินเจอแต่รถติดมาก T T) พอถึงบ้านก็ยังรู้สึกใส่สบายไม่เจ็บหรือล้าหูแต่อย่างใด อยู่ในระดับที่แอดมินสามารถใส่ต่อได้อีก 2-3 ชั่วโมงได้สบายๆเลยครับ
• หากใครเป็นคนออกกำลังกายก็ไม่ต้องกังวลเลยครับ เพราะ Klipsch T5 II McLaren มี earfins ปีกหูฟังซิลิโคนนิ่มๆสำหรับเกี่ยวหูชั้นในให้กระชับขึ้น ล็อคแน่นมั่นใจจนใส่วิ่งออกำลังกายได้อย่างไร้กังวลครับ
• อีกทั้งตัวหูฟังดีไซน์มาให้ซีลกันเสียงภายนอกได้ดีมากๆอีกด้วย ทางผู้ผลิตเคลมไว้ว่าสวมใส่แล้ว เสียงรอบข้างเงียบลงไปถึง -22 เดซิเบล กล่าวคือ เสียงเครื่องยนต์รถเมล์, สามล้อ, เครื่องยนต์เรือข้ามฝากเงียบลงไปเยอะมากๆจนสามารถฟังเสียงเพลงโดยไม่รู้สึกถึงเสียงรบกวนได้เลยครับ

เสียงแจ่ม เบสมาเต็ม เสียงกลางโน๊ตชัด แหลมละมุนหู

• แอดมินชอบโทนเสียงของ Klipsch T5 II McLaren มากๆครับ เสียงของมันจะออกแนว balanced ที่มีการบูสเสียงย่านเบสขึ้นมาให้ฟังดูแน่นครับ
• โทนเสียงจะให้อารมณ์อุ่นๆ เบสออกระดับพอดีฟังสบายหู โดยที่ยังสามารถดึงรายละเอียดเสียงโน๊ตของเครื่องดนตรีต่างๆออกมาได้อย่างชัดเจน ละเอียดยิ๊บครับ
• สำหรับแอดมินเจ้า Klipsch T5 II True Wireless Sport McLaren Edition ฟังดีกับเพลงทุกแนวเลย ไม่ว่าจะฟัง Pop, R&B, Soul, EDM ก็ฟังสนุกจังหวะสนั่น หรือจะฟังเพลง Rock ก็ฟังมันส์ ซาวด์กีต้าร์มีความเกรี้ยวกราด มีเนื้อมีหนังกำลังดี ตอบโจทย์กับแนวเพลงทุกแนวจริงๆครับ

มีแอปพลิเคชั่นใช้ Klipsch Connect ใช้ปรับ EQ เสียง

• แอปพลิเคชั่นของ Klipsch หน้าตาอินเตอร์เฟซสวยงามสะอาดตาดีมาก และมีหน้าตาที่ใช้งานง่ายมากๆ ไม่ว่าใครๆก็สามารถมองและใช้งานได้อย่างเข้าใจได้ทันทีครับ
• ในแอปพลิเคชั่นก็จะโชว์สถานะพร้อมกับเมนูสำหรับปรับตั้งค่าหูฟังโน่นนี่นั่นต่างๆ ไม่ว่าจะดูแบตเตอรี่ของหูฟังที่หลงเหลืออยู่ในขณะนั้น, เมนูปรับเสียง EQ, เมนูเปิดฟังเสียงรอบข้าง (Transparency mode) ตลอดไปจนถึงเมนูอัพเดต firmwares ของหูฟังให้ทันสมัยอยู่เสมอครับ
• แอปพลิเคชั่นลื่นไหลดี ไม่ดื้อ ไม่เอ๋อ ตั้งแต่ใช้มาตลอดหลายวันยังไม่เจอ bug หรือข้อผิดพลาดใดๆ ยังลื่นมาจนถึงตอนที่แอดมินเขียนรีวิวนี้ครับ 55+

ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบ active และการใช้งานทั่วไป

• เหมาะกับผู้ที่มีไลฟ์สไตลแบบ active ชอบใส่หูฟังออกกำลังกายในฟิตเนสหรือวิ่งออกกำลังกายในสวนสาธารณะ เพราะการสวมใส่ที่กระชับ การกันนํ้า และโหมดฟังเสียงรอบข้างสามารถอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานประเภทนี้ได้อย่างดีเลยครับ
• เหมาะกับผู้ที่ใช้หูฟังไร้สายทั่วๆไป ไม่ว่าจะใส่นั่งทำงานในออฟฟิศ, ใส่ฟังเพลงหรือดู Youtube ระหว่างเดินทางไปทำงาน หรือจะรับสายคุยโทรศัพท์ตลอดทั้งวันครับ

Gallery :

ทดสอบดูคลิปวีดีโอ (Youtube)

Youtube

• iOS :เสียงลิปซิงค์ตรงกับปากตัวละคร ดีเลย์น้อยมาก สามารถใช้ดูได้สบายๆครับ
• Android :เสียงลิปซิงค์ตรงกับปากตัวละคร ดีเลย์น้อยมาก สามารถใช้ดูได้สบายๆครับ

ทดสอบเล่นเกมส์ (PUBG,ROV)

PUBG

• iOS :เสียงกดยิงดีเลย์พอสมควร สำหรับแอดมินแล้วหากใช้เล่นขำๆสามารถเล่นได้ แต่หากเล่นแบบจรังจังแอดมินยังไม่แนะนำครับ
• Android : แอดมินรู้สึกว่าเสียงยิงจะดีเลย์มากกว่า iOS อยู่เล็กน้อย สำหรับแอดมินถ้าใช้เล่นแบบขำๆก็พอได้อยู่ แต่ถ้าเล่นทีมแบบเอาจริงเอาจังอันนี้ไม่แนะนำครับ

ROV 

• iOS : ถ้าเพ่งจับตอนปล่อยสกิลตะรู้สึกดีเลย์ แต่ถ้าไม่เพ่งจับ เล่นเพลินๆสำหรับแอดมินสามารถใช้เล่นได้ครับ
• Android :ถ้าเพ่งจับตอนปล่อยสกิลตะรู้สึกดีเลย์ แต่ถ้าไม่เพ่งจับ เล่นเพลินๆสำหรับแอดมินสามารถใช้เล่นได้ครับ

Sound Review (เป็นความคิดเห็นขอทีมงาน 425 นะครับ)

เสียงเบส (Bass)

• เสียงกลองและเครื่องเคาะต่างๆแรงปะทะหนัก เสียงหัวกระเดื่องกลองมีเนื้อมีหนัง ลงลึก ให้สัมผัสนุ่มๆที่ฟังพอดีหู
• เสียงกีต้าร์เบสมวลหนา สั่นค้างได้นาน ความชัดของความหนักความเบาของเสียงโน๊ตชัดเจนดี หัวโน๊ตเสียงเบสชัด เสียงโน๊ตคีย์ตํ่าลงได้ลึกมีมิติ ภาพรวมจังหวะแน่นหนา แข็งแรง
• เสียงย่านเบสมีขนาดใหญ่ มีสนามเสียงที่กว้างทั้งแนวยาวและตอนลึก ใครชอบเบสต้องโดนใจแน่นอนครับ
• เสียงเบสมีโทนที่เคลียร์สะอาด ฟังลื่นหู ไม่บวมและไม่ล้นไป

เสียงเครื่องดนตรีในย่านเสียงเบส :กระเดื่องกลองชุด,กีต้าร์เบส,เสียงเครื่องสังเคราะห์ประเภทเบส

เสียงกลาง (Middle)

• ถอยหลังเล็กน้อย แต่ยังฟังได้รายละเอียดที่ชัดเจน ไม่อู้ ไม่พร่า ถ่ายทอดเสียงโน๊ตได้ถูกต้อง ครบครัน ฟังกำลังมีสีสัน
• เสียงร้องผู้ชายมีมวลขนาดพอดีๆ ขนาดเล็กกว่าเสียงเบส แต่ยังได้ยินชัดถ้อยชัดคำ ลูกองลูกเอื้อนได้ยินชัดหมด เสียงสระ ส ฟ s z c ไม่ฟรุ๊งฟริ๊งมาก ออกไปทางฟังสบายหู
• เสียงร้องผู้หญิงมีมวลขนาดพอดี มีขนาดเล็กกว่าย่านเสียงเบส แต่ยังได้ยินชัดถ้อยชัดคำ เสียงร้องผู้หญิงมีความจัดจ้าน ปลายเสียงร้องไม่เสียดหู ฟังสบาย หวานกำลังดี
• โทนโดยรวมออกอุ่นๆ นุ่มละมุนฟังสบาย เสียงโน๊ตต่างๆจัดจ้านกำลังดีครับ

เสียงดนตรีในย่านเสียงกลาง : เสียงตีคอร์ดกีต้าร์,เสียงร้อง,เสียงแสนร์กลอง (ช่วงเสียงแส้กลองแสนร์)

เสียงแหลม (Treble)

• เสียงแหลมจะถอยหลังเล็กน้อย รูปร่างมนๆ แต่รายละเอียดออกครบฟังชัด
• เสียงไฮแฮทกลอง เสียงฉาบแฉของกลองชุดไม่ทิ่มหู นุ่มละมุนดีครับ
• เสียงสะท้อนของเสียงร้อง (reverb) ลากยาวกลางๆ
• โทนจะออกหม่นๆ ดาร์คๆ เป็นโทนที่ฟังได้นานโดยที่ไม่ล้าหูง่ายครับ

เสียงเครื่องดนตรีในย่านเสียงแหลม :เสียงไฮแฮทกลองชุด, เสียงฉาบแฉกลองชุด, เสียง reverb, เสียงกระดิ่ง

เวทีเสียง (Soundstage)

• เวทีเสียงกว้างปานกลางเกือบๆไปทางกว้าง มีมวลอากาศตรงกลางอยู่เล็กน้อย ฟังกำลังได้ความรู้สึกปลอดโปร่งครับ
• เวทีเสียงตอนลึกก็ลึกกำลังดี ดนตรีที่อยู่ข้างหน้าก็สัมผัสได้ง่าย ดนตรีที่อยู่ข้างหลังสุดของเวทีก็ชัดเจนและให้ความลึกที่ดี ฟังรวมๆแล้วดูมีมิติครับ
• แยกเสียงดนตรีทำได้ห่างออกจากกันแต่ไม่ถึงกับห่างมาก ฟังออกไปทางกลมเกลียวเป็นวงเดียวกัน แต่ยังเห็นตำแหน่งของเสียงดนตรีที่ชัดเป็นตัวๆ ซ้าย กลาง ขวา ฟังจับโฟกัสได้ง่ายทั้งเวทีเสียงครับ

เวทีเสียงคืออะไร ? :เวทีเสียงคือความกว้างของเพลงที่วัดจากเสียงดนตรีที่อยู่ซ้ายสุดมายังขวาสุด หรือการจัดเรียงเครื่องดนตรีที่อยู่หน้าสุดไปจนถึงหลังสุดครับ

ภาพรวม

• จะออกไปทางเสียงเบสที่พุ่งหน้า แรงปะทะหนักฟังสนุก โดยที่ยังรักษาเสียงโน๊ตของเครื่องดนตรีต่างๆรวมไปถึงเสียงร้องเอาไว้ได้อย่างชัดเจน ถึงแม้เสียงร้อง เสียงกีต้าร์ หรือเครื่องดนตรีที่ให้เสียงโน๊ตต่างๆจะฟังไม่ได้อวบอิ่มหรอหนามาก แต่ก็ยังให้รายละเอียดและความจัดจ้านได้รู้สึกเพียงพอมากๆครับ

การทดสอบ : EQ = Flat, iPhone 11, Volume ระดับ 80%, Spotify, Tidal

หูฟัง true wireless ที่ให้เสียงคล้ายกัน..

Master & Dynamic MW07 Plus

• เรียกว่าให้เสียงคล้ายกันมากๆเลย ทั้งสองรุ่นมีสุ่มเสียงที่ออกไปทาง balanced แต่ยังได้มวลเสียงเบส แรงปะทะเสียงเบส และความชัดในระดับพอๆกันครับ
• เสียงร้องทั้งคู่ออกอุ่นๆ แต่แอดมินรู้สึกว่า Klipsch T5 II McLaren ฟังดูมีเนื้อมีหนังกว่า แต่ถ้านับเรื่องความโปร่ง MW07 Plus โปร่งกว่าเล็กน้อยครับ

B&O E8 3rd

• ถ้านับกันเฉพาะเสียงแหลม แอดมินชอบเสียงแหลมของ B&O E8 3rd มากกว่าเพราะ B&O เค้าทำเสียงแหลมมีเสียงแหลมที่พริ้วไหว เนียนลื่นและฟังสะอาดตามสไตล์ของเค้าอยู่แล้ว ต่างจาก Klipsch T5 II McLaren เสียงแหลมจะออกหม่นและดาร์ค มีความสดและดูเรียลๆกว่าครับ
• อีกทั้งเสียงเบสของ Klipsch T5 II McLaren ยังมีมวลที่หนา พุ่ง และลงได้ลึกกว่า B&O E8 3rd เรียกว่า ถ้าอยากได้อุ่นๆ หม่นๆ เบสแน่นๆ ต้องเลือก Klipsch T5 II True Wireless Sport McLaren Edition หรือหากอยากได้เสียงเบสพอดีๆ เน้นฟังเสียงร้องและเสียงแหลมพริ้วๆ เลือก B&O E8 3rd gen ครับ

การใช้งาน Klipsch T5 II True Wireless Sport McLaren Edition เบื้องต้น

ข้อมูลที่ควรทราบก่อนเริ่มใช้งาน

• ควรชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มทั้งหูฟังและกล่องชาร์จก่อนใช้งานครั้งแรก
• ควรเลือกขนาดจุกหูฟังและ earfins ที่เหมาะกับขนาดหูของเรามากที่สุด เพื่อการสวมใส่ที่กระชับสูงสุดครับ
• ควรดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Klipsch Connect (iOS & Android) มาติดตั้งบนอุปกรณ์ ผูกหูฟังกับแอปพลิเคชั่นเพื่อการใช้งาน Klipsch T5 II True Wireless Sport McLaren Edition ให้ได้เต็มประสิทธิภาพ และง่ายขึ้นครับ

การสวมใส่ที่ถูกต้อง

1. ค่อยสอดหูฟังเข้าไปในหูทั้งสองข้าง
2. บิดหูฟังกลับไปข้างหลังและบิดกลับมาข้างหน้าเล็กน้อยจนรู้สึกกระชับ
3. เมื่อสวมใส่ถูกต้อง หูฟังจะอยู่ในทรงตามภาพครับ

การเชื่อมต่อ Bluetooth

1. หยิบหูฟังทั้งสองข้างมาใส่ หูฟังจะเปิดอัตโนมัติ และเข้าโหมดจับคู่อัตโนมัติ
2. เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ ค้นหาชื่อ Klipsch T5 “Sport” และกดเชื่อมต่อเป็นอันเสร็จสิ้นครับ

ไฟสถานะหูฟังโหมดจับคู่ : ไฟสีนํ้าเงินกระพริบช้า

ไฟสถานะหูฟังเมื่อเชื่อมต่อสำเร็จ :ไฟสีนํ้าเงินกระพริบเร็ว

การใช้หูฟังข้างเดียว

1. หยิบหูฟังข้างที่ต้องการใช้งานขึ้นมาใส่
2. หากเคยเชื่อมต่อมาแล้วก่อนหน้านี้ หูฟังจะ connect กับอุปกรณ์ล่าสุดโดยอัตโนมัติ < หากไม่ ให้ไปที่หน้า Bluetooth กดแตะเชื่อมต่อ “Klipsch T5 Sport” ครับ
3. ขณะใช้หูฟังข้างเดียวแล้วต้องการมาใช้งานหูฟังสองข้าง ให้หยิบอีกข้างขึ้นมาใส่ หูฟังจะจับคู่ซ้าย-ขวาให้เองโดยอัตโนมัติครับ 

การควบคุมต่างๆ

โหมดใช้หูฟังสองข้าง

• เล่นเพลง / หยุดเพลง :กดหูฟังข้าง R 1 ครั้ง(ขณะเล่นเพลง/วีดีโอ)
• เพลงถัดไป :กดหูฟังข้าง R 2 ครั้ง (ขณะเล่นเพลง/วีดีโอ)
• ย้อนเพลง :กดหูฟังข้าง L 2 ครั้ง(ขณะเล่นเพลง/วีดีโอ)
• เพิ่มเสียง : กดหูฟังข้าง R ค้าง(ขณะเล่นเพลง/วีดีโอ)
• ลดเสียง :กดหูฟังข้าง L ค้าง(ขณะเล่นเพลง/วีดีโอ)
• รับสาย / วางสาย :กดหูฟังข้าง R 1 ครั้ง(ขณะสายเข้า) (ขณะคุยสาย)
• ปฏิเสธสาย : กดหูฟังข้าง R 2 ครั้ง (ขณะสายเข้า)
• เปิดโหมดฟังเสียงรอบข้าง (Transparency mode) : กดหูฟังข้าง L 1 ครั้ง (ขณะไม่ได้ใช้งานใดๆ)
• เรียก Voice Assistant :กดหูฟังข้าง R 2 ครั้ง (ขณะไม่ได้ใช้งานใดๆ)

โหมดใช้หูฟังข้างเดียว

• เล่นเพลง / หยุดเพลง :กดปุ่มหูฟัง 1 ครั้ง(ขณะเล่นเพลง)
• รับสาย :กดปุ่มหูฟัง 1 ครั้ง(ขณะสายเข้า)
• ปฏิเสธสาย : กดปุ่มหูฟัง 2 ครั้ง(ขณะสายเข้า)

การชาร์จแบตเตอรี่

หูฟัง

1. เก็บหูฟังทั้งสองข้างลงกล่องชาร์จ
2. ขณะชาร์จหูฟังจะขึ้นไฟสีแดงค้าง
3. หูฟังจะใช้เวลาชาร์จประมาณ 2 ชั่วโมงครับ

กล่องชาร์จ

1. เปิดฝากล่องชาร์จ เสียบสายชาร์จ USB-C ที่แถมมากับหูฟัง
2. ต่อสายแปลง USB-C to USB-A แล้วเสียบชาร์จกับคอมพิวเตอร์ หรือหัวชาร์จ 5V
3. ขณะชาร์จ ไฟกล่องชาร์จจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนเต็ม 3 ดวงครับ
4. หรือจะเสียบแท่นชาร์จไร้สายที่แถมมากับหูฟัง โดยต่อสาย USB-C เข้ากับแท่นชาร์จไร้สาย และอีกด้านต่อเข้ากับแหล่งจ่ายไฟ แล้ววางกล่อง Klipsch T5 II True Wireless Sport ลงบนแห่นชาร์จก็ได้ครับ
5. เมื่อวางบนแท่นชาร์จไร้สายแล้ว ไฟที่แท่นชาร์จไร้สายจะติดขึ้นครับ

ไฟสถานะต่างๆ

หูฟัง

• โหมด pairing : หูฟังกระพริบไฟสีนํ้าเงินช้า
• เชื่อมต่อสำเร็จ : หูฟังกระพริบไฟสีนํ้าเงินเร็ว
• แบตเตอรี่ตํ่า : หูฟังกระพริบไฟสีแดง

กล่องชาร์จ

• ไฟ 1 ดวง :เหลือแบตเตอรี่ประมาณ 0-33%
• ไฟ 2 ดวง : เหลือแบตเตอรี่ประมาณ 33-66%
• ไฟ 3 ดวง :เหลือแบตเตอรี่ประมาณ 66-100%

การ Reset หูฟัง Klipsch T5 Sport Maclaren Edition

1. ลบชื่อ “Klipsch T5 Sport” ออกจากอุปกรณ์ พร้อมกับปิด Bluetooth
2. ขณะที่หูฟังอยู่ในโหมดจับคู่** กดปุ่มหูฟังทั้งสองข้างค้างไว้ประมาณ 8 วินาทีจนไฟหูฟังทั้งสองข้างกระพริบสีนํ้าเงินสลับแดงแล้วปล่อยนิ้ว
3. หลังจากนั้นหูฟังจะเข้าโหมดจับคู่อีกครั้ง**สามารถเชื่อมต่อใช้งานใหม่ต่อไปได้เลยครับ

**ไฟสถานะโหมดจับคู่ :หูฟังข้าง R กระพริบไฟสีนํ้าเงินช้า, ข้าง L ไม่มีไฟใดๆ

Product Specification (สเปคสินค้า)

• แบรนด์ :Klipsch
• รุ่น :T5 II True Wireless Sport McLaren Edition
• ประเภท :in-ear true wireless
• Bluetooth :เวอร์ชั่น 5.0
• Audio Codec :SBC, AAC, aptX™
• Bluetooth Profile : A2DP1.3, AVRCP 1.6, HSP 1.2, HFP 1.7
• ระยะสัญญาณ :สูงสุด 10 เมตร (ไม่มีสิ่งกีดขวาง)
• ไดร์เวอร์ :Dynamic Moving Coil Micro Speaker ขนาด 5.0 MM
• ไมโครโฟน :cVc 8.0 Quad-mic (ไมค์ 4 ตัว)
• ความถี่ที่ตอบสนอง :10Hz - 19 kHz
• ค่าความเงียบขณะสวมใส่ :-22dB
• เล่นต่อเนื่อง :สูงสุด 8 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับการใช้งาน)
• กล่องชาร์จ : สูงสุด 24 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับการใช้งาน)
• ความจุแบตเตอรี่ : 50 mAh(หูฟังต่อข้าง), 360 mAh (กล่องชาร์จ)
• นํ้าหนัก :5 กรัม(หูฟังต่อข้าง), 83 กรัม(กล่องชาร์จ)

**ข้อมูลจากคู่มือภายในกล่อง

Waranty (เงื่อนไขการรับประกัน)

• รับประกัน 1 ปี ภายใต้เงื่อนไขที่ทาง Klipsch กำหนด
• *** ในส่วนของอะไหล่,สายชาร์จ,เคสชาร์จ,และอื่นๆที่มากับตัวหูฟังจะมีระยะประกันอยู่ที่ 7 วัน ***
• คุณลูกค้าต้องเก็บตัวสินค้าไว้ให้ครบไม่ว่าจะเป็น กล่อง/ซองแพคเกจจิ้ง, ตัวหูฟังทั้งสองข้าง, สายชาร์จ ,จุกหูฟังซิลิโคนทุกแบบ,แท่นชาร์จไร้สาย,รวมถึงคู่มือบุ๊คเลททุกเล่มเอาไว้ให้ครบ
• หากตัวสินค้าเสียหายจากขั้นตอนการผลิตของทางโรงงาน มีตำหนิจากการเปิดกล่องครั้งแรก ยินดีเปลี่ยนสินค้าใหม่ให้ โดยมีระยะเวลาในการแจ้งไม่เกิน 7 วันนับตั้งแต่ได้รับสินค้าวันแรก หากเกินหลังจากนั้น จะไม่รับประกันในทุกรณี
• สินค้าต้องไม่มีตำหนิจากการใช้งานผิดวิธี, ตำหนิเสียหายจากการใช้งานของลูกค้า, ร่องรอยการกระแทก หรือการขูดขีดอย่างรุนแรง
• หากเป็นปัญหาจากการใช้งานของคุณลูกค้าไม่ว่าจะเป็น สายขาดใน, แจ็คหัก, ฝาเคสชาร์จหัก,ก้านหูฟังหัก , สายยางซิลิโคนของเคสชาร์จขาด, เปิดเสียงดังจนเสียงแตก, เบิร์นหูฟังผิดวิธี(ใชแอพเบิร์นหรือคลื่นเสียงประเภท Sine Sweep, Pink Noise, White Noise) จนหูฟังเสียหาย จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• ปัญหาการคุยโทรศัพท์แล้วเป็นเสียงที่คุยไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อเปิด-ปิดตัวหูฟังอีกรอบแล้วสามารถคุยได้ตามปกติ จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• อาการกระตุกของสัญญาณขณะใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณของอุปกรณ์ไร้สายเยอะๆ เช่นบนสถานีรถไฟฟ้า,ออฟฟิตขนาดใหญ่ ***เช่น กำลังฟังเพลงอยู่แล้วสัญญาณขาดหายแล้วกลับมาเป็นปกติ *** ซึ่งจะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• สินค้ารุ่นนี้มีมาตรฐานการกันน้ำที่ระดับ IP67 ซึ่งเป็นการกันละอองน้ำและเหงื่อจากการออกกำลังกายเท่านั้น หากสินค้าเสียหายจากการลงไปแช่น้ำหรือจากแรงดันน้ำสูงๆ หรือจากนํ้าที่มีความเข้มข้นของเกลือสูง อันเป็นเหตุทำให้หูฟังและกล่องชาร์จเสียหาย จะถือว่าใช้งานผิดวิธี และจะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกันครับ