JLab Go Air

หูฟังไร้สายไซส์มินิ

เน้นพกหยิบใช้แบบคล่องๆ

425 Recommend

• JLab JBuds GO Air หูฟัง true wireless ไซส์เล็ก เน้นหยิบใช้ง่าย รวดเร็ว เก็บได้ทันทีเมื่อต้องการ เน้นใช้แบบไม่คิดเยอะ !
• ตัวหูฟังกันละอองนํ้าและฝุ่นระดับ IP44 ใส่กันเหงื่อหรือออกกำลังกายแบบเบาๆในฟิตเนสได้สบายๆ
• มี EQ ให้ปรับเสียงถึง 3 แบบ ได้แก่ signature บูสเบสกับเสียงร้อง balanced ปรับเสียงให้สมดุลย์ และ Bass-boost บูสเสียงเบสให้กระหึ่มครับ
• ด้วยความที่เป็นหูฟังที่เน้นหยิบใช้ง่าย การใช้หูฟังข้างเดียวได้มันต้องมา ! JBuds GO Air สามารถใช้หูฟังข้างเดียวได้ทั้งสองข้างครับ เพราะแต่ละข้างสามารถสลับหน้าที่กันเป็นหูฟังข้างหลักและข้างรองได้ ใช้สบายมากๆครับ
• เท่าที่ทีมงาน 425 ทดสอบดูคลิปบน Youtube, Facebook และ Netflix กับ iPhone 11 พบว่ามีดีเลย์อยู่เล็กน้อย แต่ก็สามารถใช้ดูได้อย่างไม่กวนจิตกวนใจมากนักครับ
• ตัวหูฟังสามารถใช้งานได้สูงสุด 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 รอบ ซึ่งทีมงาน 425 ทดสอบใช้ได้เกือบๆ 4 ชั่วโมงกว่าๆ และสามารถชาร์จเพิ่มจากกล่องชาร์จจนหมดได้ 3 รอบ แบตเตอรี่ขนาดนี้ มากพอต่อการใช้งานในแต่ละวันแน่นอนครับ
• เห็นเล็กๆแบบนี้ แต่เสียงฟังสนุกไม่เบาเลยครับ เสียงเบสให้มวลที่ใหญ่ แรงปะทะหนักลงลึกซะใจมากๆ ฟังเพลงป๊อปตลาดหรือเพลงที่มีจังหวะเร็วๆได้มันส์มากๆครับ
• เป็นหูฟัง true wireless ที่เหมาะกับผู้ใช้งานทั่วไป เน้นหยิบขึ้นมาใส่ฟังง่ายๆเพลินๆขณะเดินทาง อีกทั้งยังมีขนาดที่กระทัดรัด ช่วยให้สะดวกต่อการพกพา ไม่กินพื้นที่สัมภาระเยอะมากครับ

Product Description (ข้อมูลสินค้า)

• เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0
• ดีไซน์เล็กกระทัดรัด พกพาสะดวก
• ใช้หูฟังข้างเดียวได้ทั้งสองข้าง
• กันละอองนํ้าระดับ IP44
• ปรับ EQ เสียงได้ 3 แบบ (Signatrue, Balanced และ Bass Boost)
• แบตเตอรี่รวมสูงสุด 20 ชั่วโมง

Product Included (อุปกรณ์ภายในกล่อง)

• หูฟัง JLab GO Air จำนวน 1 คู่
• กล่องชาร์  JLab GO Air จำนวน 1 กล่อง
• จุกหูฟังจำนวน 3 คู่ (S / M / L)
• คู่มือการใช้งาน

Gallery :

Sound Review (เป็นความคิดเห็นของทีมงาน 425 นะครับ)

• เสียงเบสมวลหนา แรงปะทะหนัก สปีดไว deepbass มวลขนาดพอดี ได้ยินได้อย่างไม่ต้องเพ่ง ลงลึกปานกลาง เสียงหัวโน๊ตชัดเจนครับ
• เสียงกลางถอยหลัง รายละเอียดเสียงโน๊ตออกปานกลาง ฟังโปร่ง เสียงร้องมวลปานกลาง ชัดถ้อยชัดคำ หางเสียงร้องไม่อิ่มมาก เสียงร้องผู้ชายคีย์ตํ่าออกดาร์คไปเล็กน้อย เสียงร้องผู้หญิงออกคมกำลังดี
• เสียงแหลมมวลขนาดปานกลาง ปลายมีความคมใสฟังขัด เนื้อเสียงเนียนปานกลาง อาจมีกวนหูเล็กน้อยแต่ยังฟังดูดี รายละเอียดออกครบครับ
• เวทีเสียงไม่กว้างมาก แต่ให้ความลึกที่รู้สึกได้ จำแหน่งเสียงแต่ละชิ้นจะฟังดูติดๆกัน แต่ยังฟังชัดดูเป็นชิ้นๆครับ

สรุป :

• โดยรวมแล้ว เสียงจะออกไปทาง V-shape เหมาะกับฟังเพลงจังหวะสนุกๆ ตุ้บๆ อย่างเพลงป๊อปตลาดทั่วไป เพลง EDM ทั่วไป เพลงป๊อปเกาหลีและอื่นๆที่มีจังหวะที่รวดเร็ว ฟังสนุกดีครับ

หูฟัง true wireless ที่ให้เสียงคล้ายกัน

Earfun Free

• ในเรื่องของเสียงเบสเรียกว่าให้ความมันส์ใกล้เคียงกับ Earfun Free เลยครับ หัวโน๊ตเบสพุ่งชัดเป็นลูก deepbass ดังกว้างใหญ่กังวาน แต่ Earfun Free มีเนื้อเสียงเบสที่สะอาดกว่า ลื่นหูกว่าพอสมควรครับ
• เสียงร้องของทั้งสองรุ่นให้อารมณ์เดียวกัน แต่ JLab JBuds ให้เสียงร้องผู้ชายคีย์ตํ่าๆติดอู้ไปเล็กน้อย ต่างจาก Earfun Free ที่เสียงร้องของเค้าจะเนียนโปร่งกว่าครับ

Jabees Firefly 2 Touch

• Jabees Firefly 2 Touch จะให้เสียงเบสที่มีเนื้อมีหนัง แต่ subbass จะไม่ดังกังวานเท่า JLab JBuds GO Air ที่ deepbass กังวานและกว้างใหญ่กว่า แต่ก็ฟังดูไม่มีเนื้อมีหนังเท่า Jabees Firefly 2 touch ครับ
• JLab JBuds GO Air ให้เสียงที่คมขึ้นขอบกว่า Jabees Firefly 2 Touch ครับ อีกทั้งโทนยังสว่างใสเห็นรายละเอียดชัดกว่าอีกด้วยครับ

การใช้งาน JLab JBuds Go Air เบื้องต้น

ข้อควรทราบก่อนเริ่มใช้งาน JLab JBuds Go Air

• โปรดดึงแผ่นกลางกล่องชาร์จออกก่อนครับ
• โปรดชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อนใช้งานครั้งแรก
• หากหูฟังโดนเหงื่อจากการใช้งาน โปรดเช็ดให้แห้งก่อนเก็บลงกล่องชาร์จ

การเชื่อมต่อ Bluetooth

1. หยิบหูฟังทั้งสองข้างออกจากกล่องชาร์จ หูฟังจะเข้าโหมดจับคู่โดยอัตโนมัติในการเชื่อมต่อครั้งแรก
2. เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ ค้นหาชื่อ “JLab GO Air” แล้วกดเชื่อมต่อเป็นอันเสร็จสิ้นครับ

ไฟสถานะโหมดจับคู่ :หูฟังข้างนึงกระพริบไฟสีนํ้าเงิน-ขาว, อีกข้างขึ้นไฟสีขาวค้าง

การเชื่อมต่อ Bluetooth กับอุปกรณ์ใหม่

1. ลบชื่อ “๋JLab GO Air” ออกจากอุปกรณ์ พร้อมทั้งปิด Bluetooth
2. หยิบหูฟังทั้งสองข้างออกจากกล่องชาร์จ หูฟังจะเข้าโหมดจับคู่โดยอัตโนมัติในการเชื่อมต่อครั้งแรก
3. เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ ค้นหาชื่อ “JLab GO Air” แล้วกดเชื่อมต่อเป็นอันเสร็จสิ้นครับ

ไฟสถานะโหมดจับคู่ :หูฟังข้างนึงกระพริบไฟสีนํ้าเงิน-ขาว, อีกข้างขึ้นไฟสีขาวค้าง

การใช้หูฟังข้างเดียว

1. เชื่อมต่อใช้งานหูฟังทั้งสองข้าง
2. เก็บข้างที่ไม่ต้องการใช้ลงกล่องชาร์จ หูฟังอีกข้างจะใช้งานต่อไปได้
3. หากต้องการกลับมาใช้หูฟังสองข้าง ให้หยิบหูฟังอีกข้างขึ้นมาใส่ หูฟังแต่ละข้างจะ sync ซ้าย-ขวากันเองโดยอัตโนมัติ

***หูฟังข้าง L และ หูฟังข้าง R สามารถสลับกันเป็นข้างหลักและข้างรองได้ ทำให้มันสามารถใช้งานหูฟังข้างเดียวได้ทั้งสองข้าง

การควบคุมทั่วไป

• เปิดหูฟัง :แตะหูฟังข้าง L ค้างไว้ 3+ วินาที (ขณะหูฟังปิดอยู่)
• เรียก Google & Siri :แตะข้าง L 2 ครั้ง (ขณะไม่ใช้งานใดๆ)
• เปลี่ยน EQ เสียง :แตะหูฟังข้าง L 3 ครั้ง (ขณะเล่นเพลง)

การควบคุมเพลง

• เล่นเพลง / หยุดเพลง :แตะหูฟังข้าง R 2 ครั้ง (ขณะเล่นเพลง)
• ไปยังเพลงถัดไป :แตะหูฟังข้าง R ค้างไว้ 1+ วินาที (ขณะเล่นเพลง)
• ย้อนเพลง : แตะหูฟังข้าง L ค้างไว้ 1+ วินาที (ขณะเล่นเพลง)
• เพิ่มเสียง :แตะหูฟังข้าง R 1 ครั้ง (ขณะเล่นเพลง)
• ลดเสียง : แตะหูฟังข้าง L 1 ครั้ง (ขณะเล่นเพลง)

การควบคุมการคุยโทรศัพท์

• รับสาย :แตะหูฟังข้าง R 1 ครั้ง 
• วางสาย :แตะหูฟังข้าง R 2 ครั้ง
• ปฏิเสธสาย :แตะหูฟังข้ข้าง R ค้างไว้ 1+ วินาที

***บางฟังชั่นอาจไม่สามารถใช้งานได้กับบางแอปพลิเคชั่น

การชาร์จแบตเตอรี่

หูฟัง

1. เก็บหูฟังลงกล่องชาร์จทั้งสองข้าง
2. ขณะหูฟังชาร์จ ไฟกลางกล่องชาร์จจะกระพริบไฟสีนํ้าเงิน
3. เมื่อหูฟังชาร์จเต็มแล้ว ไฟกลางกล่องชาร์จจะดับไป

กล่องชาร์จ 

1. แกะสายชาร์จ USB-A ออกมาแล้วเสียบชาร์จกับคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท๊อป หรือหัวชาร์จ 5V 1A ครับ
2. ขณะชาร์จ ไฟกลางกล่องชาร์จจะจะกระพริบสีแดง
3. เมื่อชาร์จเต็มแล้ว ไฟกลางกล่องชาร์จจะเป็นสีเขียวครับ

ไฟสถานะต่างๆ

หูฟัง

• โหมดจับคู่ : หูฟังข้างหลักกระพริบนํ้าเงิน-ขาว, ข้างรองขึ้นสีขาวค้าง (สามารถสลับได้ทั้งสองข้าง)
• เชื่อมต่อเสร็จแล้ว และรอการใช้งาน :หูฟังทั้งสองข้างขึ้นไฟสีขาวค้าง
• หูฟังกำลังใช้งาน :หูฟังทั้งสองข้างไม่มีไฟใดๆ

กล่องชาร์จ

• ไฟสีเขียว : กล่องชาร์จเหลือแบตตั้งแต่ 25-100%
• ไฟสีแดง : กล่องชาร์จเหลือแบตน้อยกว่า 25%
• ไฟกระพริบสีนํ้าเงิน : หูฟังกำลังชาร์จแบตเตอรี่จากกล่องชาร์จ
• ไฟกระพริบสีแดง (ขณะชาร์จแบต) : กล่องชาร์จกำลังชาร์จ
• ไฟสีเขียว (ขณะชาร์จแบต) :กล่องชาร์จชาร์จแบตเตอรี่เต็มแล้ว

การ Reset Factory

1. ลบชื่อ JLab AIR Go ออกจากอุปกรณ์แล้วปิด Bluetooth
2. เก็บหูฟังทั้งสองข้างลงกล่องชาร์จทั้งสองข้าง
3. ขณะที่ไฟหูฟังทั้งสองข้างขึ้นไฟสีนํ้าเงินค้าง แตะหูฟังทั้งสองข้างติดกัน 5 ครั้ง ไฟหูฟังจะกระพริบ 3 ครั้งติดกันครับ 
4. หยิบหูฟังทั้งสองข้างออกจากกล่องชาร์จ หูฟังจะเข้าโหมดจับคู่โดยอัตโนมัติ เชื่อมต่อใช้งานใหม่ได้เลยครับ

Product Description (สเปคสินค้า)

• แบรนด์ : JLab
• รุ่น :Go Air
• Bluetooth :5.0
• ระยะสัญญาณ : สูงสุด 10 เมตร
• IPXX Ratiing :IP44
• ไดร์เวอร์ :dynamic ขนาด 8 มม. , แม่เหล็ก Neodymium
• ความถี่ที่ตอบสนอง :20Hz - 20kHz
• ความต้านทาน :32 โอห์ม
• ไมโครโฟน :MEMS
• เล่นต่อเนื่อง : สูงสุด 5 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับการใช้งาน) 
• กล่องชาร์จ : 15 ชั่วโมง (ประมาณ 3 รอบ)
• ระยะเวลาในการชาร์จ :ประมาณ 1.5 ชม.(หูฟัง) , ประมาณ 2 ชม.(กล่องชาร์จ)
• ชาร์จไว :ชาร์จ 15 นาที เล่นได้สูงสุด 1 ชั่วโมง(หูฟัง)
• ความจุแบตเตอรี่ : 43 mAh(หูฟังต่อข้าง), 370 mAh(กล่องชาร์จ)
• ชนิดแบตเตอรี่ :Lithium polymer
• นํ้าหนัก : 5 กรัม(หูฟังต่อข้าง) , 50 กรัม(กล่องชาร์จ)

***ข้อมูลจากคู่มือภายในกล่อง

Warranty (เงื่อนไขประกันสินค้า)

• รับประกัน 1 ปี ภายใต้เงื่อนไขที่ทาง JLab กำหนด
• *** ในส่วนของอะไหล่,สายชาร์จ,เคสชาร์จ ที่มากับตัวหูฟังจะมีระยะประกันอยู่ที่ 7 วัน ***
• คุณลูกค้าต้องเก็บตัวสินค้าไว้ให้ครบไม่ว่าจะเป็น กล่อง/ซองแพคเกจจิ้ง, ตัวหูฟังทั้งสองข้าง, สายชาร์จ ,จุกหูฟังซิลิโคนทุกแบบ 
• หากตัวสินค้าเสียหายจากขั้นตอนการผลิตของทางโรงงาน เปลี่ยนตัวใหม่ให้ทันที
• สินค้าต้องไม่มีตำหนิจากการใช้งานผิดวิธี, ตำหนิเสียหายจากการใช้งานของลูกค้า, ร่องรอยการกระแทก หรือการขูดขีดอย่างรุนแรง
• หากเป็นปัญหาจากการใช้งานของคุณลูกค้าไม่ว่าจะเป็น สายขาดใน, แจ็คหัก, ฝาเคสชาร์จหัก,ก้านหูฟังหัก , สายยางซิลิโคนของเคสชาร์จขาด, เปิดเสียงดังจนเสียงแตก, เบิร์นหูฟังผิดวิธี(ใช้แอพเบิร์นหรือคลื่นเสียงประเภท Sine Sweep, Pink Noise, White Noise) จนหูฟังเสียหาย จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• ปัญหาการคุยโทรศัพท์แล้วเป็นเสียงที่คุยไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อเปิด-ปิดตัวหูฟังอีกรอบแล้วสามารถคุยได้ตามปกติ จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• อาการกระตุกของสัญญาณขณะใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณของอุปกรณ์ไร้สายเยอะๆ เช่นบนสถานีรถไฟฟ้า,ออฟฟิตขนาดใหญ่ ***เช่น กำลังฟังเพลงอยู่แล้วสัญญาณขาดหายแล้วกลับมาเป็นปกติ *** ซึ่งจะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• หากตัวหูฟังหรือชิ้นส่วนของกล่องชาร์จเสียหรือชำรุด ที่เกิดจากการใช้งานไปแล้วเกินกว่า 7 วัน จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• สินค้ารุ่นนี้มีมาตรฐานการกันน้ำที่ระดับ IP44 กล่าวคือ สามารถกันละอองนํ้าจากรอบทิศทางได้ ฟีเจอร์นี้รองรับสำหรับการใช้งานโดนเหงื่อจากการใช้งานในชีวิตประจำวันเท่านั้น หากนำไปใส่อาบนํ้า, ว่ายนํ้า หรือใส่หูฟังวิ่งลุยฝนหนักๆ อันเป็นเหตุให้หูฟังเสียหายจากนํ้า จะถือว่าใช้งานผิดวิธี ประกันจะไม่ครอบคลุมในกรณีนี้ครับ