JBL Live Free NC+ TWS

หูฟังตัดเสียงรอบข้าง active noise cancelling

เบสมันส์สะใจ

425°AUDIO สรุปชัดๆ :

• JBL Live Free NC+ หูฟัง true wireless รุ่นล่าสุดจาก JBL ที่มาพร้อมกับระบบตัดเสียงรอบข้าง active noise cancelling และอื่นๆอีกมากมาย รองรับไลฟ์สไตล์คนเมืองที่อยากได้หูฟัง true wireless เจ๋งๆสำหรับหลบเข้าไปอยู่ในโลกส่วนตัวท่ามกลางเมืองที่วุ่นวาย ให้โทนเสียงที่ฟังสนุกและมันส์มากๆ เบสหนัก ลูกโตและฟังลึก ใช้ฟังเพลง ดูหนัง หรือเล่นเกมส์ก็ใช้ดี แถมยังสามารถใส่ออกกำลังกายได้อีกด้วยครับ
• จุดเด่นของหูฟังรุ่นนี้คือระบบตัดเสียงรอบข้าง active noise cancelling ที่ช่วยให้เราใส่หูฟังเงียบ ตัดเสียงรบกวนรอบๆตัวของเราให้เบาที่สุดเพื่อใช้เปิดเพลงฟังหรือดูหนังเหมือนอยู่ในโลกส่วนตัวในทุกๆที่ที่ไป ซึ่งเจ้า JBL Live Free NC+ ก็มีระบบ active noise cancelling ที่ดีครับ ตัดเสียงรถยนต์และเสียงบรรยากาศรอบๆตัวได้เบาลงมาก ถึงแม้จะตัดได้ไม่เงียบเท่าแบรนด์ที่เทพๆเรื่อง active noise cancelling อย่าง Sony และแบรนด์อื่นๆ แต่ก็ถือว่ามีประสิทธิภาพที่ใช้ดีในชีวิตประจำวัน แต่สิ่งที่แบรนด์อื่นให้ไม่ได้แต่ JBL Live Free NC+ ให้ได้คือ “พลังเสียงเบส” อันเป็นเอกลักษณ์สไตล์ JBL ออกหนักหน่วง ลงได้ลึก และมีสัมผัสของแรงปะทะที่ดีฟังนุ่มหู เป็นโทนเสียงที่ฟังติดหูง่าย ยิ่งฟังยิ่งมันส์ หากยิ่งฟังเพลง Hiphop, EDM, R&B นี่อาจเผลอโยกหัวตามจังหวะเพลงได้แบบไม่รู้ตัวเลย อีกทั้งยังมีฟีเจอร์เสริมการใช้งานไลฟ์สไตล์ทั่วไปไม่ว่าจะใส่ดูหนัง เล่นเกมส์เล็กๆน้อยๆ หรือใส่ออกกำลังกายที่กันเหงื่อปริมาณมากๆได้ JBL Live Free NC+ ถือว่าเป็นหูฟัง true wireless ที่ตอบโจทย์คนที่อยากได้หูฟังเสียงฟังสนุก เบสหนักๆ ตัดเสียงรอบตัวและใช้งานพื้นฐานทั่วๆไปได้ดีครับ

Sound Review (เป็นความคิดเห็นของทีมงาน 425°AUDIO นะครับ)

• เสียงเบส : เสียงเบสออกหนัก มวลหนา หัวโน๊ตชัด deepbass หนามากและลงได้ลึก มีแรงปะทะที่ฟังสนุก กระแทกหูดี แต่ไม่ได้กระแทกหนักไปจนรำคาน สัมผัสของแรงปะทะของเสียงกลองจะออกนุ่มหู คาแรคเตอร์เสียงเบสของ JBL เรียกว่าเฉพาะตัวและฟังมีรสชาติเป็นของตัวเองมากๆครับ
• เสียงกลาง : เสียงกลางจะออกไปทางฟังโปร่งครับ ไม่ได้มีมวลหนาที่ฟังได้เนื้อได้หนังแต่เสียงโน๊ตจากกีต้าร์หรือเครื่องเมโลดี้อื่นๆยังชัดเจนฟังมีสีสัน เสียงร้องมวลจะขนาดกลางๆ แต่มีเนื้อเสียงที่ฟังหวานมาก โดยเฉพาะเสียงนักร้องผู้หญิงนี่ อ่อนช้อยละมุนไพเราะมากๆ เนื้อเสียงร้องเนียนไม่เสียดหูเลยครับ
• เสียงแหลม : เสียงแหลมอันนี้มีความคมใส โทนสว่างฟรุ๊งฟริ๊งกำลังดี ฟังติดหูง่าย รายละเอียดฉาบแฉชัดเจน สว่างไม่มีสากเสี้ยน ยิ่งฟังกับบางเพลงจะได้ยินเอฟเฟคเสียงสะท้อนงามๆจากปลายเสียงร้องด้วยครับ
• เวทีเสียง : เวทีเสียงจัดว่าค่อนมาทางกว้าง เป็นความกว้างที่ฟังดูตื้นและลึกแบบชัดเจน เราจะรู้สึกได้เลยว่าเสียงชิ้นไหนอยู่หน้าอยู่หลัง และฟังดูไม่บดบังกันและกันเลย การแยกเสียงชิ้นดนตรีต่างๆทำได้ดีครับ ไม่ได้ห่างมากแต่ก็ไม่ชิดกันมากไปครับ
• สรุป : JBL Live Free NC+ ให้โทนเสียงออกไปทาง V-shape ให้เสียงเบสที่หนา ฟังแน่น ลงได้ลึกอย่างรู้สึกได้แบบไม่ต้องเพ่ง มีแรงปะทะที่ฟังสนุกและให้รายละเอียดเสียงดนตรีได้ดี ฟังเพราะ ฟังลื่นหู เป็นโทนเสียงที่ฟังเพลง Pop, R&B หรือเพลง mainstream ได้สนุกสนานและตื่นเต้นเร้าใจ หรือจะฟัง acoustic เสพเสียงกีต้าร์โปร่งใสๆก็จัดว่าฟังดี ส่วนเพลงแนว Rock ในความคิดเห็นของทีมงาน 425°AUDIO คิดว่า เสียงกีต้าร์ที่ติดเอฟเฟคเสียงแตกอาจจะยังฟังไม่สาดมากพอสำหรับบางท่าน แต่ถ้าใครชอบฟังเสียงกระเดื่องกลองรัวๆกับเสียงกีต้าร์เบสที่ฟังแน่นๆอย่าง Metal ก็จัดว่าฟังมันส์ทีเดียวครับ

425°AUDIO Experience

ประสบการณ์การใช้งานจริงจากทีมงาน 425°AUDIO

“ JBL Live Free NC+ หูฟังตัดเสียงรอบข้าง ANC เบสหนัก-ลึกฟังมันส์แบบได้รายละเอียดเสียงดนตรี”

• JBL Live Free NC+ เป็นหูฟัง true wireless รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน และเหล่าสาวก JBL ค่อนข้างให้ความสนใจมากๆเนื่องจากในรุ่น JBL Live Free NC+ เป็นหูฟังที่อัพเกรดเทคโนโลยีภายในใหม่ทั้งหมด มาพร้อมกับเทคโนโลยีกันเสียงรอบข้าง active noise cancelling ที่ช่วยลดเสียงรอบตัวเราให้เงียบที่สุดขณะที่เราใส่หูฟังฟังเพลง และมีฟีเจอร์อื่นๆที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้งานในชีวิตประจำวันมากๆครับ

“ ดีไซน์สุด compact เล็กกระทัดรัด นํ้าหนักเบาพกพาง่าย.. ”

• กล่องชาร์จมีขนาดเล็กมาก (พอๆกับขนาดไข่ไก่) ด้วยความที่แอดมินเป็นคนชอบหูฟังดีไซน์เล็กๆอยู่แล้วเลยรู้สึกปลื้มกับ JBL Live Free NC+ มากพอสมควรครับ เพราะสามารถพกพาใส่กระเป๋าสะพายใบเล็กๆได้ หรือจะพกใส่กระเป๋ากางเกงก็ได้ และนํ้าหนักของมันเบามากด้วย เรื่องการพกพาส่วนตัวทีมงานให้ 10/10 เลยครับ
• ด้านหน้ากล่องจะมีไฟ LED สีขาวใช้บอกปริมาณแบตเตอรี่ของกล่องชาร์จ และใช้แจ้งเตือนว่าหูฟังกำลังชาร์จแบตฯกับกล่องชาร์จอยู่ ถ้าหูฟังชาร์จแบตฯเต็มแล้วไฟหน้ากล่องฯจะดับไป เท่าที่พลิกๆดูแล้ววัสดุดูดีครับ จับแล้วดูสมราคา ไม่ก้องแกงค์ครับ

“ การสวมใส่ที่เน้นความกระชับ ซีลกันเสียงมาอย่างดี แถมมีปลอกซิลิโคนเสริมความกระชับอีกหนึ่งชั้น ! ”

• ตัว body หูฟังของ JBL Live Free NC+ จะดีไซน์มาเป็นทรงกลมๆเข้าสรีระช่องหูคน มีจุกซิลิโคนเนื้อดีแถมมาให้ 3 คู่ และมีปลอก body หูฟังวัสดุซิลิโคน (gel-sleeves) แถมมาให้ 2 คู่ ทีมงานเลือกใส่จุกเบอร์ L และปลอกซิลิโคนเบอร์ L ครับ
• เท่าที่ทีมงาน 425°AUDIO ทดลองสวมใส่แล้ว ความรู้สึกแรกเลยคือ “ความกระชับ” อย่างพอดี ไม่หลวมไปและไม่แน่นหูไป ลองโยกหัวแรงๆ กระโดดแรงๆก็ไม่มีทีท่าว่าจะหลุดแต่อย่างใดครับ
• การซีลกันเสียงเรียกว่าทำมาได้ดีครับ เมื่อสวมใส่แล้ว (แบบยังไม่เปิด active noise cancelling) พบว่าเสียงรอบตัวเงียบลงพอสมควร ซีลกันเสียงมาดีมาก ทำให้เวลาเราฟังเพลงเราจะได้ยินเสียงย่านเบสชัดขึ้น ฟังดูโตและดูหนักแน่นขึ้นครับ
• ทีมงาน 425°AUDIO ทดลองใส่วิ่งบนลู่วิ่งใน fitness อยู่ช่วงเวลานึงเพื่อทดสอบว่าใส่ออกกำลังกายแล้วจะหลุดไหม โดนเหงื่อแล้วจะลื่นไหม ผลปรากฏว่ามันยังเกาะติดหูของเราตลอดการออกกำลังกาย โดนเหงื่อแค่ไหนก็ไม่มีทีท่าว่าจะหลุด น่าจะเป็นผลพวงของเจ้าปลอกซิลิโคน gel-sleeves ที่ช่วยให้หูฟังเกาะหูของเราได้มั่นคงและแข็งแรงมากๆครับ
• เท่าที่สวมใส่มาประมาณ 2-3 ชม. ก็พบว่ายังอยู่ในระดับที่ใส่สบายครับ อาจจะมีรู้สึกแน่นๆหูเล็กน้อย แต่ก็ไม่มากไปจนใส่ต่อไปไม่ไหวครับ โดยรวมแล้วเจ้า JBL Live Free NC+ เป็นหูฟังที่ใส่กระชับและใส่สบายกำลังดีครับ

“ ระบบตัดเสียงรอบข้าง Active noise cancelling ตัดเงียบ ฟังเพลงเสียงชัดขึ้น.. ”

• จุดเด่นของ JBL Live Free NC+ คือระบบตัดเสียงรอบข้าง active noise cancelling ที่จะช่วยตัดเสียงรอบข้างขณะเราใส่หูฟังฟังเพลง ส่งผลให้เราได้ยินเสียงเพลงชัดขึ้น ย่านเสียงมาเต็มขึ้น เพราะไม่มีเสียงรบกวนรอบตัวเข้ามากวนบรรยากาศในหูฟังครับ
• เท่าที่ลองทดสอบระบบตัดเสียงรอบข้าง active noise cancelling ของ JBL Live Free NC+ ในออฟฟิศพบว่าตัดได้เงียบดีครับ เสียงคนคุยกันรอบตัวเบาลงเยอะ จะมีก็ได้ยินเสียงย่านแหลมบ้างประปราย แต่เมื่อเปิดเพลงฟังด้วยก็คือ ไม่ได้ยินอะไรเลยนอกจากเสียงเพลงครับ
• ลองเอาไปใส่ริมถนนใหญ่ที่มีเสียงรบกวนดังๆบ้าง ทันทีที่ทีมงาน 425°AUDIO เปิดโหมด active noise cancelling แล้วพบว่าเสียงเครื่องยนต์ของรถยนต์ที่วิ่งผ่านไปผ่านมา เงียบลงเยอะเลยครับ อาจจะยังมีได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์บ้างแบบลางๆ ไกลๆ แต่พอเปิดเพลงฟังก็แทบจะไม่ได้ยินเสียงรอบๆตัวแล้วครับ บรรยากาศในหูฟัง ณ ตอนนั้นเรียกว่า มาเต็มทั้งสามย่าน เบส กลาง แหลม ชัดทุกย่าน ฟังมันส์มากครับ
• หรือถ้าเกิดเจอเพื่อนระหว่างทางแล้วต้องมีการพูดคุยกัน เราสามารถแตะหูฟังข้างซ้าย 2 ครั้งเพื่อเปิดโหมด TalkThru เพื่อให้หูฟังดูดเสียงรอบข้าง เบาเสียงเพลงลง ให้เราได้พูดคุยสนทนากับเพื่อนได้เลยโดยที่ไม่ต้องถอดหูฟังออกจากหู พอเสร็จแล้วก็แตะหูฟังข้างซ้ายอีก 3 ครั้ง เพื่อปิดโหมดแล้วกลับไปฟังเพลงที่เราชอบได้ โอ้ย..ง่ายกว่าถอดหูฟังออกและใส่กลับเยอะครับ

“ ไมโครโฟนจัดว่าใช้คุยในที่เงียบได้ ถ้าคุยที่เสียงดังใช้แนบหูชัวร์กว่า ”

• JBL Live Free NC+ ติดไมค์มาข้างละ 2 ตัว และเวลามีคนโทรเข้าหาเราขณะใส่หูฟังจะมีเสียงคนพูดบอกชื่อผู้ที่โทรมาด้วยครับ (ในกรณีเป็นเบอร์ที่เราเมมชื่อเป็นภาษาอังกฤษไว้ในเครื่องนะครับ)
• ทดสอบโทรศัพท์แบบปกติ ในที่เสียงเงียบพบว่าจัดอยู่ในระดับที่คุยได้สบายๆ ไม่ต้องตะเบงปลายสายก็ฟังเราได้รู้เรื่อง โทนเสียงชัดถ้อยชัดคำดี แต่พอโทรคุยที่ที่มีเสียงดังเช่นข้างนอกปลายสายแจ้งว่าเสียงรถค่อนข้างดังกวนเสียงพูดของเราพอสมควร แต่ยังฟังรู้เรื่องครับ
• ทดสอบโทรผ่านแอปฯ Line โทรคุยในที่เสียงเงียบๆปลายสายบอกว่าเสียงพูดมีความคมใสกว่าโทรแบบปกติ พูดในระดับเสียงปกติปลายสายก็ได้ยินชัดเจนครับ แต่พอมาคุยในที่ที่เสียงดังปลายสายยังแจ้งว่าได้ยินเสียงรถดังกวนเสียงพูดของเราพอสมควร แต่ยังฟังพอรู้เรื่องครับ
• สรุป ไมค์ของ JBL Live Free NC+ ถือว่าใช้คุยในออฟฟิศ ภายในบ้าน หรือที่อื่นๆที่มีเสียงรบกวนไม่ดังมากได้สบายๆ แต่ถ้าใช้คุยในที่เสียงดังๆ ถ้าคุยระยะสั้นก็พอไหวอยู่ครับ แต่ถ้าคุยจริงจังแนะนำว่าให้วิ่งหาที่เงียบๆคุยจะดีกว่าครับ

“ ดูคลิปออนไลน์ ไม่ดีเลย์ ! ”

• แน่นอนว่าหูฟัง true wireless ยุคนี้ดูคลิปออนไลน์ไม่ดีเลย์กันแล้ว เหมือนกับ JBL Live Free NC+ ที่ใช้ดูคลิปฯ Youtube,Netflix,Facebook Clips และ Tiktok ไม่ดีเลย์เลยครับ
• ทดสอบกับ iOS ใช้ดูคลิปฯหลายๆคลิปเสียงไม่ดีเลย์เลยครับ ไม่ว่าจะใช้ดู Youtube,Netflix ก็ใช้ดูได้ สบายบรื๊อ..
• ลองมาทดสอบกับ Android บ้าง ซึ่งทีมงาน 425°AUDIO พบว่าใช้ JBL Live Free NC+ ดู Youtube,Netflix มีดีเลย์เล็กน้อยครับ แต่ยังใช้ดูได้สบายๆแบบไม่ขัดตา ใครเสพคลิปวีดีโอบ่อยๆก็สามารถใช้ดูได้สบายๆจ้า

“ เล่นเกมส์ดีเลย์น้อยมากแต่.. ”

• ในเรื่องของการใช้เล่นเกมส์ระหว่าง iOS และ Android ทีมงาน 425°AUDIO เจอผลลัพท์ที่หลากหลายมากๆครับ
• ทีมงาน 425°AUDIO ใช้ iPhone 11 เล่น PUBG และ Call of Duty Mobile กับ JBL Live Free NC+ พบว่าเสียงตรงภาพดีครับ กดยิงเสียงมาตรงภาพ แต่ถ้าเพ่งจับดีเลย์จะรู้สึกอยู่นิดๆ จัดว่าใช้เล่นได้ครับ
• แต่สำหรับ Android พบว่าดีเลย์พอสมควรเวลาใช้เล่นเกมส์ PUBG และ Call of Duty Mobile (Samsung Galaxy S20) ดีเลย์แบบชัดเจนมาก หากใครใช้ Android แล้วอยากได้หูฟังเล่นเกมส์ด้วยจะยังไม่แนะนำเท่าไหร่ แต่ถ้าเกมส์แนวอื่นๆอย่าง ROV, LoL Wildlift, Crash of clan จะมีดีเลย์นิดๆ แต่ใช้เล่นได้ครับ

“ เบสมันส์ ลูกใหญ่ ฟังลึก เสียงแหลมคมใสฟังลื่นหู ”

• หากหูใครเคยผ่านโทนเสียงแนวๆ JBL มาจะพอนึกภาพออกครับว่าคาแรคเตอร์เสียงของเค้านั้นให้เสียงย่านเบสที่มีความโดดเด่น และมีความคมใสของเสียงแหลมที่เผยให้เห็นถึงรายละเอียดของเสียงดนตรีครับ
• ซึ่งโทนเสียงของ JBL Live Free NC+ ก็จะออกแนวๆนั้นเลยครับ เมื่อท่านใส่หูฟังและเปิดเพลงแล้ว โทนเสียงที่ท่านจะได้คือ “เบส” หรือ “เสียงย่านตํ่า” มวลหนาๆ ฟังแน่นๆ แรงปะทะที่หนักนุ่มหูฟังสะใจ และเสียงเบสที่สามารถลงได้ลึกประหนึ่งเหมือนเสียงเบสอยู่ตำแหน่งหลังคอของท่านเลยครับ
• เสียงกลางมีความใสที่ถอยหลังให้ฟังมีความโปร่ง เผยรายละเอียดเสียงดนตรีออกมาให้ได้ยินได้อย่างง่ายดาย เสียงร้องไม่ถอยจากตัวแต่ก็ไม่ลํ้าหน้าจากวงดนตรีมาก เสียงคำร้องยังมีความชัดถ้อยชัดคำ เนื้อเสียงหวานเนียนฟังลื่นหู ปลายเสียงร้องไปได้ไกลมีปลายฟรุ๊งฟริ๊ง
• เสียงแหลมมีความเนียนลื่น เสียงฉาบแฉมีความฟรุ๊งฟรฺิ๊งไม่ทิ่มหู ปลายลากได้ไกล ขณะฟังจะรู้สึกถึงความมีนํ้ามีนวลของเสียงแหลม ให้ความรู้สึกที่ชุ่มฉํ่า ไม่มีสากเสี้ยนมาทิ่มหูครับ
• เวทีเสียงจัดว่ากว้างทีเดียว ฟังแล้วรู้สึกเหมือนยืนฟังเพลงในห้องขนาดกลางๆ ที่เสียงดนตรีแต่ละชิ้นเรียงรายอยู่บนอากาศที่ฟังคมชัด โฟกัสเสียงชิ้นดนตรีแต่ละชิ้นได้อย่างง่ายดาย ไม่รู้สึกว่าเสียงดนตรีชิ้นไหนบดบังชิ้นอื่นๆ อีกทั้งยังรู้สึกถึงเวทีเสียงในตอนลึก รู้สึกถึงเสียงชิ้นดนตรีที่อยู่หลังสุด อยู่กลางและอยู่หน้าได้อย่างไม่ต้องเพ่งครับ

สรุป : JBL Live Free NC+ เหมาะกับใครบ้าง ?

• JBL Live Free NC+ เป็นหูฟัง true wireless ที่ตอบโจทย์ lifestyle ทั่วไป โดยเฉพาะผู้ที่ใส่หูฟังขณะเดินทางเป็นประจำทุกวันเพื่อตัดเสียงรบกวนภายนอกรอบๆตัวให้เงียบเหมือนอยู่ในโลกส่วนตัว เน้นฟังเพลงเบสมันส์ๆสะใจ หรือใส่ดู Youtube, Netflix ก็ได้ ใช้คุยโทรศัพท์ได้บ้างนิดหน่อย และใส่ออกกำลังกายใน fitness กันเหงื่อหนักๆได้ด้วยครับ

Gallery :

Product Highlight

• เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.1 เชื่อมต่อเร็ว สัญญาณการเชื่อมต่อแข็งแรง
• รองรับ Google Fast Pair เชื่อมต่อเร็วกับ Android แตะเชื่อมต่อได้เลยทันทีที่เปิดฝากล่องชาร์จ
• ระบบตัดเสียงรอบข้าง Active Noise Cancelling ใส่หูฟังเงียบ ฟังเพลงอย่างส่วนตัว
• ระบบฟังเสียงรอบตัวผ่านหูฟัง Smart Ambient สัมผัสโลกภายนอกหูฟังโดยที่ไม่ต้องถอดหูฟังออกจากหู
• ไมโครโฟน Beam foaming dual-mic เสียงคุยชัด
• ระบบ TalkThru สนทนากับผู้อื่นโดยไม่ต้องถอดหูฟัง
• กันนํ้าระดับ IPX7 ใส่ออกกำลังกายได้
• ระบบเสียง JBL Signature Sound ให้เสียงเบสที่หนักแน่น ลงได้ลึก และรายละเอียดคมใสฟังสนุก
• หูฟังรับส่งสัญญาณแบบ Dual Connect ใช้หูฟังข้างเดียวได้
• มี gel-sleeves ปลอดซิลิโคน body หูฟังใส่กระชับ
• รองรับ Google Assistant และ Alexa
• แบตเตอรี่ 7 ชม.+14 ชม. รวมสูงสุด 21 ชั่วโมง
• รองรับ Wireless Charging
• รองรับแอปพลิเคชั่น My JBL Headphones (iOS & Android)

การใช้งาน JBL Live Free NC+ เบื้องต้น

คำแนะนำเพิ่มเติมก่อนเริ่มใช้งาน

• ควรชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อนใช้งานครั้งแรก
• ควรทดลองใส่จุกหูฟังทุกขนาด และเลือกใส่ขนาดที่กระชับกับหูของเรามากที่สุด
• โปรดโหลดแอปพลิเคชั่น My JBL Headphones มาติดตั้งในอุปกรณ์ (iOS & Android) เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่เต็มประสิทธิภาพ
• หากหูฟังโดนนํ้า โนเหงื่อจากการใส่ออกกำลังกายหรือใส่ใช้งานในชีวิตประจำวัน ควรเช็ดหูฟังให้แห้งก่อนเก็บลงกล่องชาร์จ

การสวมใส่

การเชื่อมต่อ Bluetooth ครั้งแรก

การเชื่อมต่อ Bluetooth กับอุปกรณ์ใหม่

การใช้หูฟังข้างเดียว (Mono Mode)

การควบคุม

การชาร์จแบตเตอรี่

สถานะไฟต่าง

การ Factory Reset

1. ลบชื่อ “JBL Live Free NC+” ออกจากเมนู Bluetooth แล้วปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์
2. เปิดฝากล่องชาร์จ กดปุ่มหลังกล่องชาร์จ (ข้างๆช่องเสียบสายชาร์จ) ค้างไว้จนไฟ LED ในกล่องชาร์จขึ้สีแดงแล้วดับไป
3. ปิดฝากล่องชาร์จ เป็นอันเสร็จสิ้นครับ

Product Included (อุปกรณ์ภายในกล่อง)

• หูฟัง JBL Live Free NC+ จำนวน 1 คู่
• กล่องชาร์จ JBL Live Free NC+ จำนวน 1 กล่อง
• จุกหูฟัง 3 ขนาด (S / M / L)
• gel-sleeve จำนวน 2 ขนาด
• สายชาร์จ USB-C จำนวน 1 เส้น
• คู่มือการใช้งาน

เงื่อนไขประกันสินค้า (Warranty)

• สินค้ารับประกันศูนย์ 1 ปี เงื่อนไขตามที่ บจก. มหาจักรดีเวลอปเมนท์ กำหนด
• โปรดเข้าไปลงทะเบียนการรับประกันสินค้าตามลิงค์ที่อยู่นี้ สามารถทำตามขั้นตอนตามหน้าเว็บไซต์ได้เลยครับ : http://warranty.mahajak.com/th/warranty-audio.php
• หากพบปัญหาการใช้งานสินค้า โปรดติดต่อ 02-3789900 ต่อ 135, 138