Jabra Elite 75T WLC

หูฟังไร้สายระดับพรีเมี่ยม ไมค์ 4 ตัว! รองรับ Wireless Charge 

425 Recommend

• กล่องชาร์จสามารถชาร์จแบบไร้สายได้ (Wireless Charge)
• แถมกล่องฆ่าเชื้อ UV + Wireless Charge รุ่น Energea Stera360
• ขนาดกล่องชาร์จ และ ตัวหูฟัง เล็กลงกว่า รุ่นก่อน(Jabra Elite 65T) พกพาสะดวกสบายขึ้น
• ตัวหูฟังน้ำหนักเบา สวมใส่ได้สบายมากขึ้น โดยยังคงความกระชับไว้ได้อยู่
• แบตฯอึด ใช้งานได้นานขึ้นกว่ารุ่นก่อน ใช้งานต่อเนื่องได้นาน 7.5 ชั่วโมง รวมกล่องชาร์จ 28 ชั่วโมง
• คุณภาพเสียงดีขึ้น เสียงเบสเพิ่มขึ้น 
• รองรับ FastCharge 15 นาที ใช้งานได้สูงถึง 60 นาที
• มีไมค์โครโฟถึง 4 ตัว (ข้างละ 2 ตัว) คุยโทรศัพท์ได้ชัด
• ไม่พอเท่านั้น ไมค์โครโฟนยังช่วยในเรื่องของระบบ Hearthrough (เมื่อเปิดระบบ จะทำให้เราสามารถได้ยินเสียงภายนอก)
• รองรับมาตรฐานการกันน้ำระดับ IP55 สวมใส่ออกกำลังกายได้ 

Product Highlight

• กล่องชาร์จสามารถชาร์จแบบไร้สายได้ (Wireless Charge)
• แถมกล่องฆ่าเชื้อ UV+Wireless Charge รุ่น Energea Stera360
• Bluetooh version 5.0 
• Jabra 4th generation true wireless ให้การเชื่อมต่อสุดสเถียร (true wireless stability)
• Microphone 4 ตัว สำหรับคุยโทรศัพท์ (Great Call)
• ขนาดเล็กกระทัดรัด พกพาง่าย
• ตัวหูฟังน้ำหนักเบา สวมใส่กระชับและสบาย (Secure Fit)
• ใช้งานต่อเนื่องได้ 7.5 ชม. รวมชาร์จกับกล่องได้สูงถึง 28 ชม. (Extended battery)
• พอร์ตชาร์จแบบ USB Type-C (Fully Charge : 2.20 ชม.)
• โหมด Fastcharge 15 นาที ใช้งานได้ 1 ชม.
• รองรับการเรียกใช้งาน Voice assistants (Siri & Android)
• เชื่อมต่อกับ Jabra Sound+ เพื่อตั้งค่าเสียงของหูฟังได้ (Custom EQ)
• โหมดดูดเสียงบรรยากาศรอบข้าง ด้วยไมค์โครโฟน 4 ตัว (HearThrough)
• กันน้ำมาตรฐาน IP55 สวมใส่ออกกำลังกายได้
• รับประกัน 2 ปี

Gallery

Product Specification (สเปคคร่าวๆ)

• แบรนด์ : Jabra
• รุ่น : Elite 75t
• การควบคุม : ปุ่มฟังก์ชั่น
• การเชื่อมต่อ : Jabra 4th generation Bluetooth 5.0
• Codec ที่รองรับ : SBC, AAC
• ระยะสัญญาณการเชื่อมต่อ : สูงสุด 10 เมตร
• ไดร์เวอร์ขนาด : 6 มม.
• ความถี่ที่ตอบสนอง : 20 Hz - 20,000 Hz Music , 100 Hz - 8,000 Hz Call
• ไมโครโฟน : 4 ตัว (Noise Reduction)
• มาตรฐานการกันนํ้า : IP55
• เล่นต่อเนื่อง : สูงสุด 7.5 ชั่วโมง 
• รวมกล่องชาร์จ : สูงสุด 28 ชั่วโมง
• ช่องเสียบชาร์จแบตเตอรี่ : USB Type-C
• ระยะเวลาในการชาร์จแบตฯหูฟัง : 1.5 - 2 ชั่วโมง , รองรับ Fast Charge ชาร์จ 15 นาที เล่นได้สูงสุด 1 ชั่วโมง
• ระยะเวลาในการชาร์จแบตฯกล่องชาร์จฯ : 2 ชั่วโมง 20 นาที

ประสบการณ์ใช้งานจริงจากทีมงาน 425Audio

เคสชาร์จดีไซน์เรียบหรู,ขนาดเล็ก “พกพาง่าย”

• 425° ถือว่าเป็นเคสชาร์จที่มี “ดีไซน์เรียบ แต่ดูหรู” ขนาดเล็กกระทัด น้ำหนักเบา การพกพาทำได้สะดวกสบายมากๆ ในขณะเดียวกันยังให้สัมผัสการหยิบจับได้อย่างกระชับ โดยมีผิวสัมผัสแบบเนียนๆเลยครับ

การคุยโทรศัพท์ด้วยไมค์ (Noise Reduction) 4 ตัว

• จากการทดสอบของ 425° นั้นถือว่า เป็นหูฟัง True Wireless ที่คุยโทรศัพท์ได้ดีมากๆตัวนึง ถ้าเทียบกันเฉพาะหูฟังในคลาสเดียวกัน 425° ถือว่าโดดเด่นออกมาเลย คุณภาพเสียงนั้นแทบจะเทียบเท่าการคุยโทรศัพท์แบบแนบหูได้ โดยที่โทนเสียงในหูฟังนั้นให้เสียงที่ชัดออกมาทั้งสองข้าง น้ำเสียงผู้พูดฟังเป็นธรรมชาติ ไม่บวม “ฟังง่าย” ส่วนทางไมค์โครโฟนทั้งสี่ตัวนั้นก็สามารถเก็บเสียงเราขณะพูดได้ดีมากๆและยังมีระบบตัดเสียงรบกวนรอบข้าง(Noise Reduction) ที่ช่วยให้การคุยโทรศัพท์นั้นง่ายขึ้นอีกด้วย *** ไมค์โครโฟนจะทำงานที่ข้างขวาที่เป็นข้างหลักครับ ***

ไมค์ 4 ตัว “ดูดเสียงรอบข้าง” ได้

• สำหรับหูฟังของ Jabra นั้นจะเรียกระบบนี้ว่า “HearThrough” ซึ่งเป็นโหมดที่สำคัญสำหรับการใช้งานหูฟัง True Wireless ในชีวิตประจำวันมาก “ช่วยลดอุบัติเหตุขณะใช้งานได้”

สามารถปรับ EQ หูฟังได้ (Jabra Sound +)

• สามารถตั้งค่าเสียงของหูฟังในแบบที่เราชอบได้(Custom EQ) โดยการเชื่อมต่อหูฟังและปรับผ่านแอพพลิเคชั่น Jabra Sound+ ซึ่งมีรองรับทั้งระบบ iOS & Android ซึ่งภายในแอพพลิเคชั่นนั้นมีฟังก์ชั่นที่คอยช่วยเหลือด้านการใช้งานอยู่อีกเพียบอาทิเช่น เปิดโหมดดูดเสียง,ตั้งค่าโหมดดูดเสียง,ตั้งค่าเสียงแจ้งเตือน,SoundScape,Find My Jabra(ตามหาหูฟัง)

ดูคลิปวิดีโอบน Youtube , Facebook , Netflix

• สามารถใช้ดูหนังบน Netflix หรือชมคอนเทนต์ต่างๆบน Social Media อย่าง Youtube , Facebook ได้อย่างสบายใจ ใช้งานได้สนุกไม่ติดขัด “ไม่ได้รู้สึกถึงความดีเลย์” ถ้าเกิดไม่ได้จ้องจับผิดทั้งระบบ iOS & Android 
• *** แต่ถ้าวัดเรื่องดีเลย์กันจริงๆนั้นมีความหน่วงอยู่ที่ไม่เกิน 0.4 วินาทีแน่นอนครับ ***

Sound Review (รีวิวเสียง)

เสียงเบส (Low Frequency)

• เสียงย่านเบส(Low Frequency) ของ “Jabra Elite 75t” นั้น 425° การันตีให้เป็นเบอร์ 1 ในเรื่องของโทนเสียงที่ใหญ่และลึกเลย(Deep Bass) การตอบสนองชิ้นดนตรีอย่างในเพลง If I Ain't Got You นั้นสามารถให้เสียงกระเดื่อง(Kick Drum) , เสียงกีตาร์เบส (E.bass) , ชิ้นกลองใบใหญ่ๆ(F.tom) ได้อย่างชัดเจน ฟังง่าย ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในคอนเสิร์ตที่มีชุดลำโพงขนาดใหญ่ “ได้แรงปะทะหนัก” สำหรับใครที่เน้นความแน่นนุ่ม “ถูกใจแน่นอนครับ” 

เสียงกลาง (Mid Frequency)

• เสียงย่านกลาง(Mid Frequency) ของ “Jabra Elite 75t” นั้นเป็นโทนแบบนุ่มๆ “ฟังเพราะ” แต่ในความนุ่มนวลนั้นยังคงให้เสียงร้องและชิ้นดนตรีที่ “ฟังง่าย ชัดเจนอยู่” แต่ไม่ถึงกับชัดแบบคมๆได้ขนาดนั้น อย่างเช่นเสียงชิ้นดนตรีของพวกชิ้นกลองสแนร์(Snare)จะให้ความรู้สึกที่อยู่ด้านหลังกระเดื่องไปเล็กน้อย รวมถึงพวกเสียงของกีตาร์และคีย์บอร์ดที่ควรจะฟังชัดอยู่ที่ด้านหน้า ก็ได้ความรู้สึกที่ห่างออกไปเช่นกันครับ สำหรับใครที่ชอบโทนคมๆนั้นคง “ยังไม่เหมาะ” แต่ถ้าใครเป็นคนชอบความ “นุ่มนวล” 425° ถือว่าตอบโจทย์ครับ

เสียงแหลม

• สำหรับเสียงแหลม(High Frequency) ของ “Jabra Elite 75t” นั้น “ให้น้ำเสียงได้ใกล้เคียงกับโทนเสียงกลาง” โดยยังคงเอกลักษณ์ในความนุ่มนวล ฟังได้แบบเนียนๆ ไม่มีความฉูดฉาดกระแทกหูออกมาเลยครับ เสียงชิ้นดนตรีที่ควรตอบสนองได้แบบฉูดฉาดอย่างเช่นเสียงของเครื่องทองเหลือง(Hi-Hat) , เสียงกีตาร์ย่านปลายๆ(Harmonic Distortion) ในเพลง Rock อย่างเพลง 21 Guns ของ Green Day ยังได้เสียงออกมาแบบนุ่มๆเนียนๆ โดยมีมิติเสียงที่อยู่ห่างออกจากเสียงย่านเบสไปในระดับปานกลาง แต่โดยรวมแล้ว 425° ถือว่ายังให้ความชัด ฟังง่ายอยู่ครับ 

สรุป

• “Jabra Elite 75t” มีเอกลักษณ์เสียงของตัวเองอยู่มากพอสมควร 425° เชื่อว่าถ้าใครได้ลองฟังในครั้งแรกแล้วจะจำเสียงนั้นอยู่ในหัวและความรู้สึกไปอีกนาน โดยโทนเสียงโดยรวมแล้วให้ความรู้สึกการใช้งานไปในทางที่ “ฟังสนุก” โยกได้ “ให้แรงปะทะในย่านเบสได้แบบหนักๆและโทนเสียงกลางและแหลมที่เนียนนุ่ม” สำหรับกลุ่มผู้ใช้งานที่ต้องไม่พลาด 425° ต้องยกให้เป็นกลุ่มที่ชอบฟังเพลงแบบแน่นๆ “ชอบฟังเสียงเบสเป็นหลัก” แนวเพลงที่ทาง 425° แนะนำเป็นพิเศษสำหรับตัวนี้คงไม่พ้น EDM , RnB , Neo Soul , Hip-Hop , Reggae , Pop , Pop-Rock 

How To Use “Jabra Elite 75t”

*** หากตัวสินค้ามีพลาสติกใสปิดขั้วทองเหลืองอยู่ ให้แกะพลาสติกใสบริเวณขั้วทองเหลืองของตัวหูฟังออกก่อนการใช้งาน ***
*** หูฟังและกล่องชาร์จบรรจุแบตเตอรี่ชนิดชาร์จซ้ำได้ กรุณาใช้สายชาร์จที่แนบมาในกล่องและ Adapter หัวชาร์จที่ได้มาตรฐานเท่านั้นเพื่อความปลอดภัย ***
*** การชาร์จกับแรงดันไฟที่สูงเกินมาตรฐาน อาจทำให้แบตเตอรี่เกิดความเสียหายได้ ***
*** กรุณาชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อนการใช้งานครั้งแรก *** 
*** กรุณาเช็ดและทำความสะอาดหูฟังให้แห้ง(ในกรณีที่หูฟังโดนละอองน้ำ) ก่อนที่จะนำหูฟังลงเคสชาร์จแบตเตอรี่ ***

การสวมใส่ (How To Wear)

• หูฟังทั้งสองข้างจะมีสัญลักษณ์ L (ข้างซ้าย) , R (ข้างขวา)
• สวมหูฟังทั้งสองข้างและบิดหูฟังกลับไปทางด้านหลังเพื่อเพิ่มความกระชับ

*** หากสวมใส่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เสียงบรรยากาศภายนอกรั่วเข้าไปภายในหูของเราได้และอาจทำให้ไม่ได้ยินเสียงความถี่ย่านต่ำ (Low Frequency) ***

วิธีการจับคู่บลูทูธครั้งแรก

• กดปุ่มฟังก์ชั่นที่หูฟังทั้งสองข้างเป็นเวลา “ประมาณ 1 วินาที” เพื่อ “เปิด”
• เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ของท่าน ค้นหาชื่อหูฟัง “Jabra Elite 75t” แล้วกดเชื่อมต่อ
• เมื่อกดเชื่อมต่อแล้ว จะมีข้อความปรากฏขึ้นมาอีกครั้งว่า “Pair with Jabra Elite 75t” ให้เลือก “Ok” เป็นอันเสร็จสิ้นครับ

การเชื่อมต่อ Bluetooth ครั้งต่อไป

• หยิบหูฟังทั้งสองข้างออกจากกล่องชาร์จฯขึ้นมาทั้งสองข้าง
• เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ของท่าน
• หากอุปกรณ์ของท่านเคยเชื่อมต่อกับ “Jabra Elite 75t” มาแล้ว หูฟังและอุปกรณ์ของท่านจะเชื่อมต่อกันเองโดยอัตโนมัติ

หากต้องการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น

• *** นำหูฟังทั้งสองข้างเก็บลงเคสชาร์จ ***
• *** ให้ยกเลิกการจับคู่บนอุปกรณ์ที่เคยเชื่อมต่อไปแล้ว (Forget Device) ***
• นำหูฟังทั้งสองข้างออกมาจากเคสชาร์จ
• หูฟังทั้งสองข้างจะจับคู่กันเองโดยอัตโนมัติ (Auto Pairing)
• กดปุ่มฟังก์ชั่นที่หูฟังทั้งสองข้างเป็นเวลาประมาณ 3 วินาที จนเกิด “ไฟสถานะสีน้ำเงินกระพริบ”
• เลือกจับคู่บลูทูธกับ “Jabra Elite 75t” ได้ตามขั้นตอนปกติ
• *** หากไม่สามารถเชื่อมต่อได้ ให้ลองรีเซ็ทหูฟังก่อน ***

วิธีรีเซ็ทหูฟัง (Factory Reset)

• เก็บหูฟังลงเคสชาร์จและตัดการเชื่อมต่ออุปกรณ์กับหูฟัง (Forget Device) บนอุปกรณ์ที่เคยเชื่อมต่อออกทั้งหมด
• นำหูฟังออกมาจากเคสชาร์จ
• กดปุ่มฟังก์ชั่นที่หูฟังทั้งสองข้างพร้อมกันประมาณ 10 วินาที จนเกิด “ไฟสถานะสีม่วงกระพริบ” หลังจากนั้นให้ปล่อยมือหลังจากไฟหูฟังทั้งสองข้างดับลง 
• หลังจากหูฟังทั้งสองข้างดับลง ที่หูฟังจะมี “ไฟสีน้ำเงินกระพริบ” แสดงถึงสถานะ “รอเชื่อมต่อ”
• เชื่อมต่อใช้งานบลูทูธได้ตามปกติ

วิธีเปิด & ปิดหูฟัง

• “เปิดโดยอัตโนมัติ” เมื่อหยิบขึ้นมาจากเคสชาร์จ และ “ปิดโดยอัตโนมัติ” โดยการเก็บลงเคสชาร์จ
• หากต้องการเปิดหูฟัง หลังจากที่หูฟังทั้งสองข้างถูกปิดลงโดยอัตโนมัติโดยที่ไม่ได้นำลงเคสชาร์จ ให้กดปุ่มฟังก์ชั่นที่หูฟังทั้งสองข้างเป็นเวลาประมาณ 1 วินาที

การเรียกใช้งาน Voice Assistant (Google&Siri)

• กดปุ่มฟังก์ชั่นที่หูฟังข้างขวา 2 ครั้ง จะมีเสียงสัญญาณดังขึ้น จึงเริ่มใช้เสียงสั่งการได้

การใช้งานหูฟังข้างเดียว (Mono Mode)

• สามารถทำได้เพียงแค่หูฟังข้างหลักเท่านั้นที่เป็น "หูฟังข้างขวา" ครับ

การเปิดโหมดดูดเสียงบรรยากาศรอบข้าง (HearThrough)

• กดปุ่มฟังก์ชั่นที่หูฟังข้างซ้าย 1 ครั้ง เพื่อเปิด/ปิด

การควบคุมมัลติมีเดีย

Music

• เล่น-หยุดเพลง : กดปุ่มที่หูฟังข้าง R 1 ครั้ง
• เพลงถัดไป : กดปุ่มที่หูฟังข้าง L 2 ครั้ง
• ย้อนกลับ : กดปุ่มที่หูฟังข้าง L 3 ครั้ง
• เพิ่มเสียง : กดปุ่มค้างที่หูฟังข้าง R
• ลดเสียง : กดปุ่มค้างที่หูฟังข้าง L 

Call

• รับสาย : กดปุ่มที่หูฟังข้าง R 1 ครั้ง
• วางสาย/ปฏิเสธสายสนทนา : กดปุ่มที่หูฟังข้าง R 2 ครั้ง
• เพิ่มเสียง : กดปุ่มค้างที่หูฟังข้าง R
• เปิด-ปิดไมค์ : กดปุ่มที่หูฟังข้าง L 1 ครั้ง
• ลดเสียง : กดปุ่มค้างที่หูฟังข้าง L

ไฟสถานะบนหูฟัง & เคสชาร์จ

การชาร์จแบตเตอรี่

หูฟัง

• เมื่อเปิดฝากล่องชาร์จ บริเวณหูฟังจะมีไฟสถานะบอกถึงสถานะแบตเตอรี่

กล่องชาร์จฯ

• เสียบสายชาร์จ USB Type-C กับกล่องชาร์จฯ แล้วเสียบเข้ากับ adaptor หรือช่องเสียบ USB บนคอมพิวเตอร์
• ขณะชาร์จแบตเตอรี่กล่องชาร์จฯ จะมีไฟสถานะขึ้นด้านหลัง

อายุการใช้งานของแบตเตอรี่

• สามารถใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 7.5 ชม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โดยใช้เวลาชาร์จแบตฯประมาณ 1.5 - 2  ชม
• สามารถชาร์จเพิ่มกับเคสได้อีก : 2-3 ครั้ง (รวมใช้งานได้ทั้งหมดประมาณ 28 ชม.)

Product Include (อุปกรณ์ภายในกล่อง)

• หูฟัง  
• เคสชาร์จแบตเตอรี่
• จุกซิลิโคนทั้งหมด 3 คู่ 
• สายชาร์จแบตเตอรี่ USB Type-C
• คู่มือการใช้งานเบื้องต้น & บัตรรับประกัน

Warranty (เงื่อนไขประกันสินค้า)

• รับประกัน 2 ปี ภายใต้เงื่อนไขที่ทาง Jabra กำหนด
• *** ในส่วนของอะไหล่,สายชาร์จ,เคสชาร์จ ที่มากับตัวหูฟังจะมีระยะประกันอยู่ที่ 7 วัน ***
• คุณลูกค้าต้องเก็บตัวสินค้าไว้ให้ครบไม่ว่าจะเป็น กล่อง/ซองแพคเกจจิ้ง, ตัวหูฟังทั้งสองข้าง, สายชาร์จ ,จุกหูฟังซิลิโคนทุกแบบ 
• หากตัวสินค้าเสียหายจากขั้นตอนการผลิตของทางโรงงาน เปลี่ยนตัวใหม่ให้ทันที
• สินค้าต้องไม่มีตำหนิจากการใช้งานผิดวิธี, ตำหนิเสียหายจากการใช้งานของลูกค้า, ร่องรอยการกระแทก หรือการขูดขีดอย่างรุนแรง
• หากเป็นปัญหาจากการใช้งานของคุณลูกค้าไม่ว่าจะเป็น สายขาดใน, แจ็คหัก, ฝาเคสชาร์จหัก,ก้านหูฟังหัก , สายยางซิลิโคนของเคสชาร์จขาด, เปิดเสียงดังจนเสียงแตก, เบิร์นหูฟังผิดวิธี(ใช้แอพเบิร์นหรือคลื่นเสียงประเภท Sine Sweep, Pink Noise, White Noise) จนหูฟังเสียหาย จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• ปัญหาการคุยโทรศัพท์แล้วเป็นเสียงที่คุยไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อเปิด-ปิดตัวหูฟังอีกรอบแล้วสามารถคุยได้ตามปกติ จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• อาการกระตุกของสัญญาณขณะใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณของอุปกรณ์ไร้สายเยอะๆ เช่นบนสถานีรถไฟฟ้า,ออฟฟิตขนาดใหญ่ ***เช่น กำลังฟังเพลงอยู่แล้วสัญญาณขาดหายแล้วกลับมาเป็นปกติ *** ซึ่งจะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• หากตัวหูฟังหรือชิ้นส่วนของกล่องชาร์จเสียหรือชำรุด ที่เกิดจากการใช้งานไปแล้วเกินกว่า 7 วัน จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• สินค้ารุ่นนี้มีมาตรฐานการกันน้ำที่ระดับ IP55 ซึ่งเป็นการกันละอองน้ำและเหงื่อจากการออกกำลังกายเท่านั้น หากสินค้าเสียหายจากการลงไปแช่น้ำหรือจากแรงดันน้ำสูงๆในทุกกรณี จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน