IDMIX Power Mint 8000mAh (Q8) (Powerbank 8000 mAh+PD+QC+Fast Wireless charge)

แบรนด์

• IDMIX แบรนด์ Gadget/Accessories ชื่อดังจากประเทศจีน
• แบรนด์ IDMIX ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2014 เป็นแบรนด์ที่นำเอานวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำๆมาใส่ลงในอุปกรณ์เสริมสำหรับ Smartphone/Tablet โดยเริ่มต้นจาการออกแบบอุปกรณ์ third party สำหรับ iPhone/iPad ก่อนจะขยายธุรกิจให้ใช้ได้กับหลายอุปกรณ์มากขึ้น โดยแบรนด์ IDMIX จะมีคอนเซ็ปต์ในการดีไซน์ที่เรียกว่า "Industrial Design" คือเน้นดีไซน์ให้สวยพรีเมี่ยม เพื่อมอบประสบการณ์ในการใช้งานที่ดีที่สุด จนทำให้ IDMIX ได้รับรางวัลระดับโลกในด้านการออกแบบมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นWin Gold Pin Design Award (ปี 2015) ,Red Dot Design Award (ปี 2016), iF Design Award (ปี 2017) และเมื่อต้นปี 2018 ที่ผ่านมา IDMIX ได้เข้าร่วมแคมเปญกับ Indigogo ซึ่งเป็นเว็บไซต์สำหรับระดมทุนเพื่อพัฒนาและต่อยอดนวัตกรรมที่คุ้มค่าน่าลงทุน โดยได้รับความสนใจอย่างท่วมท้น ได้รับการระดมทุนเป็นเงินกว่า 9,200,000 บาทเลยทีเดียว

สิ่งที่ควรรู้

• ***iOS เวอร์ชั่น 13.1 ขึ้นไป จะชาร์จเร็วไร้สายช้าลงครับ จากที่เคยจ่ายไฟ 7.5W จะปรับเหลือความเร็วที่ประมาณ 5W ซึ่งจะใช้เวลาในการชาร์จเต็ม 100% ช้าลงประมาณ 20-30 นาทีครับ ซึ่งสาเหตุไม่ได้เป็นอาการเสียของตัวแท่นชาร์จครับ แต่อาจเป็นการปิดกั้นสเปคจากทาง Apple ที่เกิดจากการอัพเดท iOS ซึ่งเท่าที่ 425 ได้ทดสอบ พบว่าเป็นตั้งแต่ ios 13.1 ขึ้นไปครับ และเป็นกับแท่นชาร์จทุกรุ่นทุกแบรนด์ที่ 425 มีในร้านครับ ข้อมูลนี้อัพเดท ณ วันที่ 8/11/19 ครับ
• ***สำหรับการชาร์จเร็วสังเกตง่ายๆจากไฟสถานะที่จะเป็นสีเขียว 1 ดวง โดยการชาร์จเร็วนี้จะต้องเสียบชาร์จหรือวางชาร์จไร้สายเพียงเครื่องเดียวเท่านั้นครับ
• ***รุ่นนี้ไม่มีระบบชาร์จอัตโนมัตินะครับ ต้องกดปุ่ม Power ทุกครั้งเพื่อเปิดการใช้งาน รวมถึงเมื่อจะเสียบชาร์จหรือวางชาร์จไร้สายเพิ่ม หลังจากเสียบหรือวางแล้ว ต้องกดปุ่ม Power ทุกครั้งเพื่อทำการชาร์จใหม่ครับ ดังนั้นหากพบปัญหาชาร์จไม่เข้าแนะนำให้กดปิดและเปิดแบตสำรองอีกครั้ง ก่อนเริ่มใช้งานครับ
• ***จากที่ทางทีมงานได้ทดลองใช้งานพบว่าช่อง USB3.0 จะไม่รองรับการชาร์จเร็วใน Samsung Galaxy Note9 และ S9/S9 Plus นะครับ หากต้องการชาร์จเร็วให้ย้ายไปเสียบช่อง USB-C โดยใช้สายชาร์จแบบ USB-C to C ที่รองรับ QC3.0 แทนครับ
• ***การเสียบใช้งานเพื่อชาร์จเร็วแบบ QC3.0 ใน Samsung Galaxy การชาร์จเร็วจะเริ่มทำงานเมื่อหน้าจอดับลงครับ
• ***การชาร์จเร็วแบบ PD ใน iPhone (รุ่นที่รองรับ) ต้องใช้งานร่วมกับสาย USB-C to Lightning ด้วยนะครับ (ต้องเป็นสายที่ได้มาตรฐาน MFI เท่านั้นครับ)
• ***ถ้าทำการเสียบชาร์จมากกว่า 1 เครื่อง ช่อง Output ทุกช่องจะปรับกระแสไฟเป็นการชาร์จแบบปกติ ไม่เป็นการชาร์จเร็วครับ
• ***จากที่ 425 ได้ลองใช้ เมื่อใช้งานร่วมกับ Smartphone Huawei ที่รองรับชาร์จไร้สาย เช่น P30 Pro จะมีบางจังหวะที่วางแล้วไม่ชาร์จ คาดว่าน่าจะเป็นจากตัวเครื่อง Huawei เอง ที่สามารถจับสัญญาณได้ค่อนข้างอ่อน และเป็นที่แบตสำรองไร้สายที่ Coil จ่ายไฟอาจเล็กกว่าแท่นชาร์จไร้สายแบบตั้งโต๊ะ ทำให้เวลาใช้ Smartphone Huawei ร่วมกับแบตสำรองไร้สายจึงจับสัญญาณกันยาก และเมื่อใส่เคสเข้าไปก็ยิ่งเพิ่มระยะระหว่างตัวเครื่องและแบตสำรอง ทำให้โอกาสชาร์จติดยากขึ้นกว่าเดิมครับ
• ***สำหรับระบบชาร์จเร็ว Quick Charge จะรองรับใน Samsung รุ่นที่มีชิปเซ็ทของ Qualcomm เท่านั้น ดังนั้นเครื่องที่จำหน่ายในไทยส่วนใหญ่ที่เป็นชิปเซ็ท Exynos จะไม่รองรับชาร์จเร็ว Quick Charge โดยตรง แต่สามารถเสียบชาร์จเพื่อจ่ายไฟแบบเร็วได้ด้วยระบบของ Samsung เองที่ชื่อว่า Adaptive Fast Charge ครับ

ข้อมูลทั่วไป

• ผลิตภัณฑ์เป็นของแท้ 100% ผลิตและออกแบบโดยแบรนด์ IDMIX จากประเทศจีน
• วัสดุทำจาก Polycarbonate (PC) + พลาสติก ABS ทนทานและป้องกันความร้อนได้ดี ให้ผิวสัมผัสที่ด้านผสมเงาดูสวยงามลงตัว
• แบตสำรองรุ่นนี้ออกแบบตามคอนเซ็ปต์ "Industrial Design" ซึ่งเป็นแนวคิดหลักของแบรนด์ IDMIX จนได้รับรางวัลด้านการออกแบบระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Win Gold Pin Design Award (ปี 2015) ,Red Dot Design Award (ปี 2016), iF Design Award (ปี 2017) การันตีได้เลยว่าทุกชิ้นงานผ่านการสร้างสรรค์มาอย่างดีแน่นอนครับ
• นอกจากนี้ IDMIX Power Mint รุ่นนี้ยังได้เข้าร่วมแคมเปญกับ Indigogo เว็บไซต์ระดมทุนเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ จนมีผู้ให้ความสนใจระดมทุนเป็นเงินกว่า 9,200,000 บาทเลยทีเดียว
• สำหรับสเปคการใช้งาน รุ่นนี้ ell Battery เป็นแบบ Li–Polymer ข้อดีคือเก็บประจุไฟได้ดี ทนต่อความร้อน ปลอดภัย และ มีคุณภาพสูงครับ
• มาพร้อมความจุ 8000 mAh เหมาะกับใช้งานในหนึ่งวันขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคน และยังพกพาง่ายเพราะมีความบาง น้ำหนักเบามากๆครับ
• ตัว Powerbank ไม่มีระบบจ่ายไฟอัตโนมัติมาให้ เมื่อต้องการใช้งานต้องกดปุ่ม Power ที่ด้านข้างทุกครั้งครับ
• รุ่นนี้ถือเป็นแบตสำรองรุ่นแรกๆของโลกที่รองรับการชาร์จเร็วแบบไร้สาย โดยจ่ายไฟได้สูงสุดถึง 10W ใน Android และ 7.5W ใน iPhone เทียบเท่ากับการชาร์จด้วยแท่นชาร์จเร็วแบบไร้สายเลยครับ

• ชาร์จพร้อมกันได้มากสุด 3 เครื่อง คือเสียบชาร์จ 2 เครื่อง และชาร์จแบบไร้สายอีก 1 เครื่อง
• กำลังไฟรวมสูงสุดที่ใช้ในการชาร์จออกของแบตสำรองรุ่นนี้คือ 18W โดยมีสเปคการจ่ายไฟดังนี้
• Fast Wireless Charge จะจ่ายไฟสูงสุดที่ 10W เมื่อวางชาร์จแบบไร้สายเครื่องเดียว
• ช่อง USB3.0 (QC 3.0) จ่ายไฟสูงสุดที่ 5V/3A, 9V/2A, 12V/1.5A เมื่อเสียบชาร์จเครื่องเดียว
• ช่อง USB-C จ่ายไฟสูงสุดที่ 5V/3A, 9V/2A, 12V/1.5A รองรับทั้งการชาร์จเร็วแบบ PD2.0 และ QC3.0 เมื่อเสียบชาร์จเครื่องเดียว
• ***เมื่อมีการชาร์จมากกว่า 1 เครื่อง ระบบจะปรับกระแสไฟให้เป็นการชาร์จแบบธรรมดาทุกช่อง รวมถึง Wireless Chage ด้วยครับ โดยจะมีกำลังไฟเฉลี่ยอยู่ที่ 5V/1A ครับ
• ชาร์จไฟเข้าแบตสำรองได้ 2 ช่องทาง สำหรับช่อง Micro-USB รองรับ QC2.0 จะชาร์จเข้าได้ที่กำลังไฟ 5V/2A, 9V/2A และช่อง USB-C จะรองรับ PD2.0/QC3.0 ชาร์จเข้าได้ที่กำลังไฟ 5V/3A, 9V/2A, 12V/1.5A
• ***ในการชาร์จไฟเข้าแบตสำรอง ถ้าชาร์จช่อง Micro-USB ควรใช้ Adapter ที่รองรับ QC2.0 ขึ้นไป ส่วนช่อง USB-C ควรใช้ Adapter ที่รองรับ PD2.0/QC3.0 ที่จ่ายไฟได้ 18W ขึ้นไปครับ
• ในกล่องจะมีถุงผ้าและสายชาร์จแถมมาให้ โดยสายชาร์จจะเป็นสายแบบ 2in1 : USB-A to MicroUSB/Type-C สามารถเสียบต่อกันเพื่อเปลี่ยนหัวชาร์จได้ครับ โดยสายจะรองรับ QC3.0/2.0 และรองรับการ Sync กับคอมพิวเตอร์ทั้งหัวแบบ Micro-USB และ Type-C ครับ
• หากใครอยากหา Adapter/สายชาร์จไปใช้งานเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้เว็บไซต์ Adapter รองรับ QCคลิกที่นี่เลยครับ, Adapter รองรับ PDคลิกที่นี่เลยครับ, สายชาร์จแบบต่างๆคลิกที่นี่เลยครับ

• ไฟแสดงสถานะเป็นไฟ LED สีฟ้าจำนวน 4 ดวง ซึ่งไฟ 1 ดวงหมายถึงปริมาณไฟประมาณ 25%
• การชาร์จไฟเข้าแบตสำรอง ไฟสถานะจะกระพริบ ตามปริมาณไฟที่ชาร์จเข้าไปแล้วครับ เช่นถ้าชาร์จถึง 75% แล้วไฟดวงที่ 3 จะกระพริบไปเรื่อยๆครับ
• เมื่อชาร์จไฟเข้าแบตสำรองจะเต็ม 100% แล้ว จะมีการตัดไฟ แต่ไฟสถานะจะติดค้างทั้ง 4 ดวงจนกว่าจะถอดสายชาร์จครับ
• สามารถเช็คปริมาณแบตได้ด้วยการกดปุ่มด้านข้าง 1 ครั้ง ไฟสถานะจะแสดงเป็นสีฟ้าตามปริมาณคงเหลือ
• ด้านหน้าแบตสำรองมีการสกรีนโลโก้แบรนด์ และสัญลักษณ์สำหรับวางชาร์จแบบไร้สายครับ
• ด้านหลังของแบตสำรอง มีสกรีนตัวหนังสือเกี่ยวกับรายละเอียดการจ่ายไฟชัดเจน เพื่อความเข้าใจในการใช้งานครับ
• รุ่นนี้ไม่มียางกันลื่นสำหรับวางชาร์จมาให้ แนะนำให้ระมัดระวังตัวเครื่องลื่นหล่นเวลาวางชาร์จไร้สายด้วยครับ
• มีให้เลือก 2 สีน้ำเงินเข้ม (Deep Blue), สีขาว (White)

วัสดุ

• ตัวบอดี้ Powerbank ทำจากพลาสติก ABS คุณภาพดี มีคุณสมบัติป้องกันความร้อนได้ดี
• ขอบด้านข้างผลิตจากพลาสติกแข็ง PC (Polycarbonate) ที่มีความแข็งแรงพร้อมเคลือบสีแบบ Metallic มาให้เพิ่มความเงาวาวสวยงาม

ขนาดและน้ำหนัก

• กว้าง 7.6 ซม. ยาว 16.28 ซม. หนา 1.2 ซม.
• หนัก 194 กรัม

ข้อมูลเชิงเทคนิค

• Cell Battery : Li-polymer
• Capacity : 8000 mAh
• Rated Energy : 29.6 WH/3.7V
• Full Charge (โดยประมาณ) : 3 ชั่วโมง (ใช้หัวชาร์จ PD/QC3.0 18W ขึ้นไป)
• Power Indicator : LED 4 ดว (สีฟ้า=โหมดสแตนบายและชาร์จออกปกติ), (สีเขียว 1 ดวง=สถานะการชาร์จเร็ว)
• Input 1 (Micro USB) : 5V/2A, 9V/2A
• Input 2 (USB-C) : 5V/3A, 9V/2A, 12V/1.5A (PD2.0/QC3.0)
• Output 1 (USB3.0) : 5V/3A, 9V/2A, 12V/1.5A (QC3.0)
• Output 2 (USB-C) : 5V/3A, 9V/2A, 12V/1.5A (PD2.0/QC3.0)
• Output 3 (Fast Wireless Charge) : 5V/2A
• Total Output : 18W
• Wireless charging distance : 3-8 mm.
• Standard : Qi wireless standard

อุปกรณ์ที่รองรับการใช้งาน

• ***จากที่ทางทีมงานได้ทดลองใช้งานพบว่าช่อง USB3.0 จะไม่รองรับการชาร์จเร็วใน Samsung Galaxy Note9 และ S9/S9 Plus นะครับ หากต้องการชาร์จเร็วให้ย้ายไปเสียบช่อง USB-C โดยใช้สายชาร์จแบบ USB-C to C ที่รองรับ QC3.0 แทนครับ

รองรับการชาร์จผ่านช่อง USB-A Output

• iPhone Xs Max
• iPhone Xs
• iPhone XR
• iPhone X
• iPhone 8/8 Plus
• iPhone 7/7 Plus
• iPhone 6s/6/6s Plus/6Plus
• iPhone SE/5s/5
• Samsung Galaxy S8/S8 Plus
• Samsung Galaxy Note8/FE/5
• และอุปกรณ์อื่นๆที่รองรับการจ่ายไฟผ่านช่อง USB

รองรับการชาร์จผ่านช่อง USB-C

• iPhone Xs Max
• iPhone Xs
• iPhone XR
• iPhone X
• iPhone 8/8 Plus
• iPhone 7/7 Plus
• iPhone 6s/6/6s Plus/6Plus
• iPhone SE/5s/5
• Samsung Galaxy S9/S9 Plus
• Samsung Galaxy S8/S8 Plus
• Samsung Galaxy Note 9/8/FE//5
• Samsung Galaxy Tab Pro S
• Huawei Mate 20/ Mate 20 Pro
• Huawei Mate 10/Mate 10 Pro
• Huawei P20/P20 Pro
• Nintendo Switch
• และอุปกรณ์อื่นๆที่รองรับการจ่ายไฟผ่านช่อง USB-C

รองรับการใช้งาน Fast Wireless Charger

รองรับกำลังไฟ 7.5W

• iPhone Xs Max
• iPhone Xs
• iPhone XR
• iPhone X
• iPhone 8/8 Plus

รองรับกำลังไฟ 10W

• Samsung Galaxy Note 9/8/FE/5
• Samsung Galaxy S9/S9 Plus
• Samsung Galaxy S8/S8 Plus
• Samsung Galaxy S7/S7 Edge
• Samsung Galaxy S6 Edge Plus

รองรับกำลังไฟ 5W

• อุปกรณ์อื่นๆที่รองรับการจ่ายไฟแบบไร้สายระบบ Qi Wireless Charger

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• IDMIX Power Mint 8000mAh (Q8) x 1
• สายชาร์จหัวพอร์ตแบบ 2in1 (Micro-USB, Type-C) ความยาว 30 ซม. x 1
• ถุงผ้าสำหรับจัดเก็บ x 1
• คู่มือการใช้งาน x 1

การรับประกัน

• ทางร้าน 425Degree รับประกันสินค้า 1 ปีในความเสียหายที่เกิดจากการผลิตและความเสียหายที่ว่านั้นไม่รวมถึงการกระทำของผู้ใช้งานหรือการใช้งานที่ผิดวิธี โดยลูกค้าจะต้องเก็บกล่องบรรจุภัณฑ์เอาไว้เพื่อใช้ยืนยันในการขอรับประกันครับ
• สำหรับสายชาร์จที่แถมมาในกล่องจะรับประกัน 7 วันครับ
• ***สำหรับการชาร์จเข้าแบตสำรอง แนะนำว่าควรใช้หัวชาร์จที่จ่ายไฟได้ตรงตามสเปคที่ระบุมาเท่านั้นนะครับ หากใช้หัวชาร์จที่จ่ายไฟน้อยกว่าที่สเปคระบุ จะทำให้ชาร์จเข้าได้ช้าและส่งผลเสียต่ออุปกรณ์ทำให้ใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หากลูกค้าใช้หัวชาร์จที่ไม่ตรงสเปค แล้วอุปกรณ์เกิดความเสียหาย กรณีนี้จะไม่รวมอยู่ในการรับประกันนะครับ

รีวิวIDMIX Power Mint 8000mAh (Q8) ( ประสบการณ์ใช้งานจริงจาก 425Degree )

• หลังจากที่แอดมินได้ลองใช้งาน IDMIX Power Mint 8000mAh (Q8) ถือได้ว่ารุ่นนี้เป็นแบตสำรองที่มีฟังก์ชั่นชาร์จเร็วแบบไร้สายตัวแรกๆของโลกเลยครับ แถมยังมาพร้อมสเปคที่อัดแน่น ทั้งชาร์จเร็วแบบ PD2.0/QC3.0/QC2.0 เรียกได้ว่าจะใช้ iPhone หรือ Samsung มีแบตสำรองนี้ตัวเดียวเอาอยู่ทุกสถานการณ์แน่นอนครับ
• จุดเด่นที่แอดมินชอบมากคือดีไซน์ที่ดูพรีเมี่ยม บางเฉียบและน้ำหนักเบา และรุ่นนี้ยังได้รับรางวัลด้าน Best Design การันตีมาจากหลายเวทีด้วย บอกเลยว่าเรื่องดีไซน์สวยน่าใช้งานไม่แพ้รุ่นอื่นๆแน่นอนครับ
• การออกแบบสีสันยิ่งช่วยให้แบตสำรองดูพรีเมี่ยมมากๆ รุ่นสีน้ำเงินเข้ม (Deep Blue) จะให้ลุคแบบเรียบเท่พรีเมี่ยม ส่วนรุ่นสีขาว (White) จะเพิ่มสีสันที่ขอบด้วยสีโรสโกลด์ให้ฟีลแบบหรูหรามีระดับเหมาะกับสาวๆมากครับ

• ความพิเศษของแบตสำรองรุ่นนี้คือนอกจากชาร์จเร็วด้วยการเสียบชาร์จได้แล้ว ยังสามารถชาร์จเร็วแบบไร้สายได้ด้วย และสามารถชาร์จพร้อมกันได้สูงสุดถึง 3 อุปกรณ์เลยครับ
• สำหรับช่องรับไฟเข้า ตัวนี้สามารถรับไฟเข้าได้ 2 ช่องทางครับ คือ Micro-USB และ USB-C (เวลาชาร์จไฟเข้าต้องเลือกชาร์จทางใดทางหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถชาร์จไฟเข้าพร้อมกัน 2 ช่องได้นะครับ)
• รุ่นนี้จะมีช่องพอร์ตชาร์จต่างๆ มาให้ 3 ช่อง และมีฟังก์ชั่น Wireless Charger มาให้ด้วย โดยสเปคการจ่ายไฟจะมีดังนี้ครับ
• ช่อง Micro-USB (ที่ขอบด้านข้าง) จะเป็นช่องสำหรับชาร์จไฟเข้าเท่านั้น ซึ่งรองรับ QC2.0 สามารถรับกำลังไฟได้มากถึง 5V-2A ,9V-2A ช่วยให้ชาร์จไฟเข้าแบตสำรองได้เต็มเร็วขึ้นครับ

• ช่อง USB3.0 (สีเขียว) ช่องนี้จะเป็นช่อง Output เท่านั้น โดยจ่ายไฟแบบ QC3.0 ที่กำลังไฟ 5V/3A, 9V/2A, 12V/1.5A ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่นำมาเสียบด้วยครับ และถึงหากอุปกรณ์ที่นำมาเสียบไม่รองรับ QC ช่องนี้ก็จะจ่ายไฟที่ 5V-1A ครับ
• ช่อง USB-C ช่องนี้จะเป็นทั้งช่อง Input และ Output โดยจะจ่ายไฟได้เต็มกำลังทั้งเข้าและออกที่ 18W รองรับ PD2.0/QC3.0 จ่ายกำลังไฟที่ 5V/3A, 9V/2A, 12V/1.5A ครับ
• ***การชาร์จเข้าต้องเลือกชาร์จผ่านช่องใดช่องหนึ่งนะครับ ไม่สามารถชาร์จเข้าพร้อมกันหลายๆช่องได้ครับ
• ***การชาร์จเร็วทั้งไฟเข้าและไฟออกจำเป็นต้องใช้ร่วมกับอุปกรณ์ที่รองรับด้วยนะครับ เช่น การชาร์จเร็วแบบ QC3.0/2.0 ต้องใช้อแดปเตอร์และสายที่รองรับ QC3.0/2.0, การชาร์จเร็วแบบ PD เมื่อใช้กับ iPhone ก็ต้องใช้สาย USB-C to Lightning เป็นต้นครับ

• ส่วนของฟังก์ชั่น Wireless Charger จะเป็นการชาร์จเร็วแบบไร้สายที่รองรับกำลังไฟสูงสุดถึง 10W เลยครับ โดยรุ่นของ Samsung จะรองรับได้เต็มกำลังที่ 10W ส่วน iPhone รุ่นที่รองรับจะอยู่ที่ 7.5W ครับ

• เมื่อชาร์จอุปกรณ์พร้อมกันมากกว่า 1 เครื่องขึ้นไป ฟังก์ชั่นการชาร์จเร็ว PD/QC3.0 รวมถึงการชาร์จเร็วไร้สายจะไม่ทำงาน แต่จะปรับกระแสไฟให้เป็นการชาร์จด้วยกำลังไฟแบบเฉลี่ยที่ประมาณ 5V/1A ครับ ซึ่งก็ยังถือว่าเพียงพอต่อการชาร์จอยู่ดีครับ

• ทางทีมงานได้ทดลองวัดกำลังการจ่ายไฟในการชาร์จแบบต่างๆ ผลออกมาดังนี้ครับ
• ช่อง USB-C ช่องนี้รองรับ PD2.0 โดยเราทดลองเสียบชาร์จกับ iPhone 8 Plus พบว่าจะจ่ายไฟที่ประมาณ 8.77V 1.56A หรือ 13.70W ซึ่งเป็นกำลังไฟตามมาตรฐานการชาร์จเร็วแบบ PD2.0 เลยครับ

• ช่อง USB-C ช่องนี้รองรับ PD2.0/QC3.0 โดยเราทดลองเสียบชาร์จกับ Samsung Galaxy Note9 พบว่าจะจ่ายไฟที่ประมาณ 8.81V 1.13A หรือ 9.99W ซึ่งขึ้นชาร์จด่วนที่หน้าจอตรงตามสเปคครับ

• ช่อง USB3.0 ช่องนี้รองรับ QC3.0 เราทดลองเสียบชาร์จกับ Samsung Galaxy Note8 พบว่าจะจ่ายไฟที่ประมาณ 8.94V 1.54A หรือ 13.83W ซึ่งขึ้นชาร์จด่วนที่หน้าจอตรงตามสเปคเช่นเดียวกันครับ

• ช่อง USB3.0 ช่องนี้รองรับ QC2.0 ด้วย เราทดลองเสียบชาร์จกับ Samsung Galaxy Note4 พบว่าจะจ่ายไฟที่ประมาณ 8.94V 1.54A หรือ 13.83W ซึ่งขึ้นชาร์จด่วนที่หน้าจอตรงตามสเปคเช่นเดียวกันครับ

• ส่วนของ Wireless Charger เราทดลองวางชาร์จ Samsung Galaxy Note9 พบว่าหน้าจอแสดงคำว่า "การชาร์จด่วนแบบไร้สาย" ซึ่งตรงตามสเปคที่ระบุมาจริงๆครับ

• และหากเสียบชาร์จออกมากกว่า 1 เครื่อง ระบบการชาร์จเร็วจะไม่ทำงานนะครับ (ทั้ง QC และ PD) แต่จะปรับกำลังไฟเป็นแบบปกติและจ่ายเข้าอุปกรณ์แต่ละเครื่องอย่างเพียงพอครับ

• ตัวนี้ไม่มีระบบจ่ายไฟอัตโนมัตินะครับ ต้องกดปุ่ม Power ทุกครั้งเพื่อเปิดการใช้งาน รวมถึงเมื่อชาร์จแบบเสียบสายอยู่แล้วจะวางชาร์จแบบไร้สายเพิ่มอีกเครื่อง ก็ต้องกดปุ่ม Power เพื่อทำการชาร์จครับ

• ในเรื่องของความปลอดภัย ตัวนี้ก็ให้มาครบครับ ไม่ว่าจะเป็น ระบบป้องกันกระแสไฟฟ้าลัดวงจร, ระบบป้องกันการจ่ายไฟเกินเมื่อชาร์จ, ระบบตัดไฟอัตโนมัตเมื่อชาร์จเต็ม ซึ่งใช้งานได้อย่างปลอดภัยหายห่วงแน่นอนครับ
• ไฟแสดงสถานะเป็นไฟ LED สีขาวจำนวน 4 ดวง เมื่อมีการชาร์จพร้อมกันมากกว่า 1 เครื่อง การจ่ายไฟจะเป็นแบบธรรมดา โดยสังเกตที่ไฟสถานะจะเป็นสีฟ้า แต่หากจะชาร์จเร็วต้องชาร์จเพียงเครื่องเดียว ไม่ว่าจะเสียบชาร์จหรือชาร์จไร้สาย โดยสังเกตได้จากไฟสถานะที่จะเป็นสีเขียว 1 ดวงครับ

• ด้วยความจุแบตขนาดถึง 8000 mAh ทำให้เหมาะสำหรับใช้งานใน 1 วัน ซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนด้วยนะครับ

• รุ่นนี้แต่ละสี จะมีผิวสัมผัสที่ต่างกัน รุ่นสีน้ำเงินเข้ม (Deep Blue) ตัวแบตสำรองผิวสัมผัสจะเป็นแบบด้าน แต่มีขอบเป็นสีเงินอมดำแบบ Metallic เฉพาะส่วนขอบจึงอาจเกิดรอยนิ้วมือและรอยขนแมวค่อนข้างง่าย ส่วนรุ่นสีขาว (White) จะเป็นแบบมันเงาทั้งหมด โดยจะมีขอบเป็นสีโรสโกลด์แบบ Metallic รุ่นนี้จึงเกิดลายนิ้วมือและรอยขนแมวให้เห็นได้ง่ายกว่า แอดมินแนะนำให้ใช้งานอย่างระมัดระวังด้วยครับ

สรุปเรื่องการจ่ายไฟนะครับ

• หากชาร์จอุปกรณ์พร้อมกันมากกว่า 1 เครื่องขึ้นไป จะทำให้ฟังก์ชั่นการชาร์จเร็วเช่น PD2.0/QC3.0 ไม่ทำงานครับ และจะจ่ายไฟแบบเฉลี่ยที่ประมาณช่องทางละ 5V/1A
• กล้องทั่วไปหรืออุปกรณ์อื่นๆให้ดูตามปริมาณไฟที่ใช้นะครับ (ดูได้ที่คู่มืออุปกรณ์ ) ถ้าเป็น 1A ให้คิดเหมือน Smartphone ถ้าเป็น 2A ให้คิดเป็น Tablet ครับ
• ***ปริมาณไฟที่ชาร์จได้จะขึ้นอยู่กับคุณภาพของสายชาร์จ และอุปกรณ์ที่นำมาเสียบชาร์จด้วยนะครับ***

สำหรับช่อง USB 3.0

• หากเสียบชาร์จ iPhone/iPad/Tablet 1 เครื่อง จะชาร์จไฟแบบ QC3.0
• หากเสียบชาร์จ Smartphone (ที่รองรับ QC3.0) 1 เครื่อง จะจ่ายไฟแบบ QC3.0
• หากเสียบชาร์จอุปกรณ์ช่องอื่นๆร่วมด้วย (มากกว่า 1 เครื่อง) จะจ่ายไฟแบบปกติ

สำหรับช่อง USB-C

• หากเสียบชาร์จ iPhone/iPad (ที่รองรับ PD2.0) 1 เครื่อง จะจ่ายไฟแบบ PD2.0
• หากเสียบชาร์จ Smartphone (ที่รองรับ QC3.0) 1 เครื่อง จะจ่ายไฟแบบ QC3.0
• หากเสียบชาร์จ iPhone/iPad/Smartphone/Tablet (ที่ไม่รองรับ PD2.0,QC3.0) 1 เครื่องชาร์จความเร็วปกติครับ
• หากเสียบชาร์จอุปกรณ์ช่องอื่นๆร่วมด้วย (มากกว่า 1 เครื่อง) จะจ่ายไฟแบบปกติ

สำหรับระบบชาร์จเร็วแบบไร้สาย (Fast Wireless Charger)

• หากชาร์จ iPhone/Smartphone (ที่รองรับ Fast Wireless Charger) 1 เครื่อง จะจ่ายไฟแบบ Fast Wireless Charge (Android 10W/ iPhone 7.5W)หากเสียบชาร์จอุปกรณ์ช่องอื่นๆร่วมด้วย (มากกว่า 1 เครื่อง) จะจ่ายไฟแบบปกติ

การใช้งานโดย 425degree

• ***การทดสอบโดยการชาร์จทิ้งไว้เฉยๆ การใช้งานจริงจะขึ้นอยู่กับการเล่นโทรศัพท์ระหว่างชาร์จ แสงหน้าจอ Notification ด้วยซึ่งอาจทำให้รอบน้อยกว่าที่แจ้งในที่นี่ได้ครับ *(เช่น 10000 mAh ตัวแบตจะมีไฟส่วนหนึ่งที่สูญเสียไปที่ตัวอุปกรณ์ระหว่างที่ชาร์จประมาณ 30% และจะมีอีกส่วนหนึ่งที่สูญเสียไฟไปในการแปลงไฟเข้าสู่เครื่องโทรศัพท์ ดังนั้นเวลาชาร์จจริงจะไม่มีแบตสำรองตัวไหนชาร์จได้เต็ม 10000 mAh เต็มตาม Spec ครับ)
• iPhone Xs Max (3,174 mAh) ;= ประมาณเกือบๆ 2 รอบ
• iPhone Xs (2,658 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• iPhone XR (2,942 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• iPhone X (2716 mAh ) = ประมาณ 2 รอบ
• iPhone 8 (1821 mAh ) = ประมาณ 3 รอบ
• iPhone 7 (1960 mAh ) = ประมาณเกือบๆ 3 รอบ
• iPhone 8 Plus ( 2675 mAh ) = ประมาณ 2 รอบ
• iPhone 7 Plus ( 2900 mAh ) = ประมาณ 2 รอบ
• iPhone 6/6s ( 1810 mAh ) = ประมาณ 3 รอบ
• iPhone 6 Plus/6s Plus ( 2915 mAh ) = ประมาณ 2 รอบ
• Galaxy Note 8 ( 3300 mAh ) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• Galaxy S8 (3000 mAh) = ประมาณเกือบๆ 2 รอบ
• Galaxy S8 Plus (3500 mAh) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• Galaxy S7 (3000 mAh) = ประมาณเกือบๆ 2 รอบ
• Galaxy S7 Edge (3600 mAh) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• Galaxy S6 ( 2550 mAh ) = ประมาณ 2 รอบ
• Galaxy S6 Edge ( 2600 mAh ) = ประมาณ 2 รอบ
• iPad mini 4 (5124 mAh) = ประมาณ 1 รอบ
• iPad Air 2 (7340 mAh) = ประมาณเกือบๆ 1 รอบ
• iPad Pro (10307 mAh) = ประมาณครึ่งรอบ
• Huawei P9 (3000 mAh) = ประมาณเกือบๆ 2 รอบ
• Huawei P9 Plus (3400 mAh) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• Huawei Mate 9 (4000 mAh) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• Huawei Mate9 Pro (4000 mAh) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง

การรับรองมาตรฐานและความปลอดภัย

• ผ่านการรับรองมาตรฐาน UL,UN38.3, RoHS, FCC, CE, MSDS certifications
• UL : เป็นมาตรฐานที่รับรองความปลอดภัยของสินค้า โดยใช้วิทยาศาสตร์ด้านความปลอดภัยและวิศวกรรมเกี่ยวกับความปลอดภัยเป็นหลักเกณฑ์ โดยจะครอบคลุมผลิตภัณฑ์หลายชนิด ได้แก่ อุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องมือทางการแพทย์ ชิ้นส่วนอิเล็ฏทรอนิกส์ต่างๆ เพื่อให้มีความปลอดภัยตั้งแต่สภาพแวดล้อมในการผลิต ไปจนถึงการใช้งานจริงของผู้บริโภค
• UN38.3 : มาตรฐานความปลอดภัยในการขนส่งแบตเตอรี่ทางอากาศยาน เป็นข้อบังคับในการขนส่งของสหประชาชาติ
• RoHS : เป็นมาตรฐานเพื่อสิ่งแวดล้อม กำหนดให้ชิ้นส่วนทุกอย่างที่ประกอบเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ตั้งแต่แผงวงจร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงสายไฟ จะต้องมีสารที่เป็นอันตรายไม่เกินไปกว่าที่กำหนด (ตะกั่ว/ปรอท/แคดเมียม/เฮกซะวาเลนท์/โพลีโบรมิเนต/โพลีโบรมิเนต)
• FCC : อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์/คอมพิวเตอร์ทุกชิ้นก่อนที่จะนำไปขายในสหรัฐฯจะต้องได้รับการรับรองจาก FCC (เป็นองค์กรของรัฐบาลสหรัฐฯ) เพื่อให้ตรงกับข้อจำกัดทางกฎหมายเกี่ยวกับการเป็นตัวนำและการกระจายคลื่นวิทยุ
• CE : เป็นเครื่องหมายที่แสดงการรับรองจากผู้ผลิตว่าสินค้ามีคุณสมบัติตามข้อกำหนดด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรป
• MSDS : มาตรฐานการรับรองด้วยเอกสารข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมี ว่าจะไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายขณะใช้งานอุปกรณ์

การทำความสะอาดและดูแลรักษาเพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน

• ควรใช้งานในที่อากาศถ่ายเทได้ เพื่อลดการสะสมความร้อนที่ตัวอุปกรณ์ครับ
• หลีกเลี่ยงการใช้งานในที่ที่ความชื้นสูง หรือบริเวณที่เปียกแฉะ
• ก่อนใช้งานทุกครั้งให้ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์
• ขณะเสียบใช้งานหรือถอดออก ควรจับที่ตัวบอดี้ เพื่อป้องกันสายไฟหักหรือขาดครับ
• หมั่นเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ ไม่ควรใช้สารเคมีใดๆครับ เพราะตัวหนังสือสกรีนอาจหลุดลอกได้ (และโปรดระมัดระวังเรื่องความชื้นของผ้าด้วยครับ ผ้าควรจะหมาดมากๆจนเกือบแห้งครับ)