Huawei CP12s Power Bank (12000mAh | Supercharge 40W | PD 40W | QC3.0 | FCP 18W)

425Degree Recommend

Huawei CP12s Power Bank แบตสำรองขุมพลังแรงที่สุดอีกรุ่นจากแบรนด์ Huawei มาพร้อมเทคโนโลยีการชาร์จเร็วแบบ SuperCharge จ่ายไฟสูงสุดที่ 40W เอาใจสาวก Huawei โดยเฉพาะ แต่ไม่พอแค่นี้ยังอัดแน่นเทคโนโลยีการชาร์จเร็วแบบอื่นๆมาให้อีกเพียบทั้ง PD40W, QC3.0, FCP 18W เรียกได้ว่าจะใช้ smartphone แบรนด์ไหน ก็ชาร์จได้ไวหมด เหมาะมากกับคนที่ใช้ Huawei รุ่นที่รองรับการชาร์จเร็วอยู่แล้ว รวมไปถึงคนที่ใช้ smartphone หลายๆเครื่อง หลายๆระบบที่รองรับการชาร์จเร็ว แค่มีแบตสำรองรุ่นนี้ติดกระเป๋าไว้ รับรองว่าลืมการชาร์จที่แสนจะช้าแบบเดิมๆไปได้เลยครับ

• รุ่นนี้คือแบตสำรองที่ส่งตรงมาจากแบรนด์ Huawei แท้ๆเลยครับ สเปคการใช้งานจัดหนักจัดเต็มมาให้แบบไม่มีกั๊กตามสไตล์ Huawei และแน่นอนว่าเหมาะมากกับคนที่ใช้ Smartphone Huawei อยู่แล้ว โดยเฉพาะรุ่นที่รองรับการชาร์จเร็ว สำหรับรุ่นนี้สเปคคุ้มสุดๆรองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็วของ Huawei ทุกแบบ ทั้ง SuperCharge 2.0/1.0 และ Fast Charge Protocol (FCP) และที่มากไปกว่านั้นยังรองรับระบบชาร์จเร็วของค่ายอื่นๆ อีกด้วย ทั้ง PD3.0 และ QC3.0 บอกได้เลยว่าที่สุดของแบตสำรองสเปคสุดพลัง รุ่นนี้คือคำตอบที่ตามหาเลยครับ
• หลายคนเลือกแบตสำรอง โดยดูจากมาตรฐานและระบบความปลอดภัยที่ไว้ใจได้ ซึ่ง Huawei CP12s รุ่นนี้ตอบโจทย์ทุกข้อจริงๆครับ ผ่านมาตรฐาน TUV Rheinland มาตรฐานระดับสากลที่การันตีเลยว่าอุปกรณ์มีคุณภาพดีเยี่ยม มีประสิทธิภาพตรงตามสเปค และใช้งานได้อย่างปลอดภัย 100% แต่ไม่พอแค่นี้ Huawei ยังทำการทดสอบระบบความปลอดภัยในการใช้งานด้านอื่นๆมาให้อีกเพียบ ทั้งการป้องกันการจ่ายไฟเกิน ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร ป้องกันความร้อนเกิน ฯลฯ จะลงทุนกับแบตสำรองทั้งที มันต้องได้ความอุ่นใจแบบนี้ล่ะครับถึงจะคุ้ม
• และที่ชอบที่สุด ยกให้เรื่องการจ่ายไฟเลยครับ รุ่นนี้จ่ายไฟแรงสูงสุดถึง 40W ทั้งในระบบ SuperCharge 2.0 และ PD3.0 ชาร์จ Huawei, iPhone, iPad Pro รวมถึง Macbook และ Matebook บางรุ่นได้เร็วขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ที่สำคัญจ่ายไฟออกแรงแค่ไหน ก็จ่ายไฟเข้าตัวแบตเองได้แรงเท่ากันครับ ชาร์จเข้าเร็วสุดใช้เวลาประมาณ 2 ชม.18 นาที เท่านั้น เหมาะเลยกับคนที่ไม่ชอบแบตสำรองที่ชาร์จเข้านานๆกว่าจะเต็มครับ

Highlight

• แบตสำรองรุ่นที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีการชาร์จเร็วทั้งหมด 5 แบบ ดังนี้
• -เทคโนโลยี SuperCharge 2.0 เทคโนโลยีการชาร์จเร็วเอกสิทธิ์เฉพาะจากแบรนด์ Huawei จ่ายไฟได้แรงสุดถึง 40W จากผลทดสอบของทางแบรนด์ ระบุว่าสามารถชาร์จ Huawei P30 Pro จากแบต 0-70% ได้ภายในเวลา 30 นาทีเท่านั้น
• -เทคโนโลยี SuperCharge 1.0 เทคโนโลยีการชาร์จเร็วเอกสิทธิ์เฉพาะจากแบรนด์ Huawei เช่นกัน จ่ายไฟได้แรงสุด 22.5W สามารถชาร์จ Huawei รุ่นที่รองรับจากแบต 0-58% ได้ภายในเวลา 30 นาทีเท่านั้น
• -เทคโนโลยี FCP (Fast Charge Protocol) อีกหนึ่งเทคโนโลยีการชาร์จเร็วจากแบรนด์ Huawei จ่ายไฟได้แรงสุด 18W รองรับใน Smartphone Huawei หลากหลายรุ่น
• -เทคโนโลยี PD3.0 (Power Delivery) เทคโนโลยีการชาร์จเร็วที่ช่วยปรับกระแสไฟให้สูงเมื่อแบตคงเหลือมีน้อย รองรับใน iPhone, iPad Pro, Macbook และอุปกรณ์อีกหลายรุ่น โดยจากการทดสอบสามารถชาร์จ iPhone จากแบต 0-50% ได้ภายใน 30 นาทีเท่านั้น
• -เทคโนโลยี QC3.0 (Quick Charge) เทคโนโลยีการชาร์จเร็วจาก Qualcomm แบรนด์ผู้ผลิตชิปเซ็ตชื่อดัง รุ่นนี้จ่ายไฟได้สูงสุด 18W รองรับกับ Smartphone Android หลากหลายรุ่น เช่น Samsung Galaxy

• รองรับการชาร์จเข้าแบตสำรองแบบเร็วด้วยเทคโนโลยี SuperCharge2.0/1.0, PD3.0 และ QC3.0 ซึ่งหากชาร์จเข้าด้วยระบบอะแดปเตอร์ SuperCharge2.0 (40W) จะสามารถชาร์จได้เต็มภายในเวลา 2 ชม.18 นาทีเท่านั้น
• ผ่านการรับรองมาตรฐาน TUV Rheinland ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เชื่อถือได้ในระดับสากล มีหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพสินค้าให้ตรงตามมาตรฐาน อุปกรณ์จะใช้งานได้อย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพดีเยี่ยมตรงตามสเปค

Product Detail รายละเอียดสินค้า

• แบรนด์ : Huawei จากประเทศจีน
• ชื่อรุ่น : CP12s 40W SuperCharge
• วัสดุ : พลาสติกแข็ง ABS
• สี : White (ขาว), Blue (น้ำเงิน)
• ขนาด : กว้าง 6.88 ซม. ยาว 13.30 ซม. หนา 1.55 ซม.
• น้ำหนัก : 225 กรัม
• มาพร้อมแบตเตอรี่แบบ Lithium-Cobalt Oxide ซึ่งเป็นแบตเตอรี่คุณภาพสูงที่เหมาะกับการชาร์จอุปกรณ์ และมีรูปทรงแบนจึงทำให้แบตสำรองมีความบาง ไม่เทอะทะ
• ความจุ 12000 mAh เพียงพอต่อการใช้งาน สามารถใช้งาน 1-2 วันได้สบายๆ แต่ต้องขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนด้วยนะครับ
• มีช่องพอร์ต 2 ช่อง 2 แบบ ได้แก่ ช่อง USB-A (Output) และช่อง USB-C (Input/Output)
• รุ่นนี้อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีการชาร์จเร็วมากมาย สำหรับ Huawei จะรองรับทั้ง SuperCharge 2.0 (40W), SuperCharge 1.0 (22.5W) และ Fast Charge Protocol (18W)
• และรองรับการชาร์จเร็วแบบ PD3.0(40W) ชาร์จได้ทั้ง iPhone, iPad Pro รวมไปถึง Macbook บางรุ่นด้วย
• และรองรับการชาร์จเร็วแบบ QC3.0 ด้วย ใช้ชาร์จ Smartphone Android รุ่นที่รองรับก็เร็วทันใจเช่นกัน
• แบตสำรองยังรองรับการชาร์จเข้าแบบเร็ว ด้วยเทคโนโลยี SuperCharge2.0/1.0, PD3.0 และ QC3.0 อีกด้วย
• รุ่นนี้จะมีระบบชาร์จอัตโนมัติ แค่เสียบสายชาร์จเข้ากับอุปกรณ์ก็จะทำการชาร์จให้ทันที
• มีโหมดจ่ายไฟต่ำ โดยกดปุ่ม Power ติดกัน 2 ครั้ง สำหรับการชาร์จอุปกรณ์ที่ต้องการไฟน้อย เช่น หูฟัง, Smart Watch จะช่วยให้แบตสำรองจ่ายไฟได้พอดีตัวกับอุปกรณ์
• มีไฟสถานะมาให้ 4 ดวง ซึ่ง 1 ดวงหมายถึงปริมาณแบตเตอรี่ประมาณ 25% และสามารถเช็คปริมาณแบตคงเหลือได้ด้วยการกดปุ่ม Power 1 ครั้ง
• สถานะการชาร์จเร็วทุกเทคโนโลยี จะแสดงผลที่ไฟดวงแรกที่จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว ซึ่งจะแสดงผลแบบเดียวกันทั้งการชาร์จเข้าและออก
• เมื่อชาร์จจนเต็ม ไฟสถานะจะติดค้างอยู่ไม่ดับลง จนกว่าจะมีการถอดสายชาร์จออก
• แถมสายชาร์จ USB-A to Type-C ความยาว 40 ซม. มาให้ในชุด โดยสายจะรองรับเทคโนโลยี Huawei SuperCharge/Fast Charge Protocol ด้วย
• ผิววัสดุเป็นสีขาวแบบมันเงา ไม่ได้มีการเคลือบสารกันรอยมาให้ จึงอาจเกิดรอยนิ้วมือ รอยขนแมว และคราบต่างๆได้ง่าย ดังนั้นแอดมินแนะนำให้ใช้งานอย่างระมัดระวังด้วยครับ
• สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จไฟผ่าน USB ได้ เช่น กล้องถ่ายรูป/Smartphone/Tablet/ลำโพงพกพา ได้
• ด้านข้างของแบตสำรองจะสกรีนสเปคการใช้งานมาให้ อาจจะมองเห็นได้ยากเล็กน้อย สามารถดูจากหลังกล่องหรือคู่มือที่แถมมาแทนได้ครับ
• และมาพร้อมหลากหลายระบบความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็น ป้องกันไม่ให้เกิดอุณหภูมิที่สูงหรือต่ำเกินไปขณะชาร์จ, ป้องกันความร้อน, ป้องกันกระแสไฟเกิน, ป้องกันความร้อนสูงที่พอร์ตชาร์จ, ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร, ป้องกันแรงดันไฟฟ้าต่ำ, ป้องกันการจ่ายไฟเกิน และป้องกันแรงดันไฟเกินขณะชาร์จ
• ***การชาร์จแบบ Huawei SuperCharge/Fast Charge Protocol สำหรับ Huawei จำเป็นต้องใช้อะแดปเตอร์ และสายชาร์จที่รองรับโดยเฉพาะเท่านั้นนะครับ หากใช้อแดปเตอร์ หรือสาย Type-C หรือสาย Quickcharge ทั่วๆไป (เช่น เเบรนด์ Anker/Ravpower และอื่นๆ) จะเป็นการชาร์จแบบปกติ (สูงสุด 5V/2A) เพราะ Huawei ใช้ชิปเซ็ทคนละแบบกับอุปกรณ์ Android อื่นๆนั่นเองครับ
• ***จากที่ทางทีมงานได้ทดลองใช้งานพบว่าช่อง USB-A จะไม่รองรับการชาร์จเร็วแบบ QC3.0 ใน Samsung Galaxy หลายๆรุ่นนะครับ หากต้องการชาร์จเร็วในรุ่นเหล่านี้ ให้ย้ายไปเสียบช่อง USB-C โดยใช้สายชาร์จแบบ Type-C to Type-C ที่รองรับ QC3.0 แทนครับ
• ***การเสียบใช้งานเพื่อชาร์จเร็วแบบ QC3.0 ใน Samsung Galaxy การชาร์จเร็วจะเริ่มทำงานเมื่อหน้าจอดับลง สังเกตได้จากไฟสถานะที่จะเปลี่ยนเป็นสีเขียวครับ
• ***การชาร์จเร็วแบบ PD ใน iPhone (รุ่นที่รองรับ) ต้องใช้งานร่วมกับสาย USB-C to Lightning ด้วยนะครับ ซึ่งไม่มีแถมมาให้ในชุด และควรเป็นสายที่ได้มาตรฐาน MFI ด้วยครับ
• ***ถ้าทำการเสียบชาร์จมากกว่า 1 เครื่อง ช่อง Output ทุกช่องจะปรับกระแสไฟเป็นการชาร์จแบบปกติ ไม่เป็นการชาร์จเร็ว โดยจะจ่ายไฟรวมไม่เกิน 5V/4A ครับ
• ***ไม่แนะนำให้เสียบชาร์จเข้าแบตสำรอง และใช้งานชาร์จออกไปด้วย เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานครับ
• ***สำหรับระบบชาร์จเร็ว Quick Charge จะรองรับใน Samsung รุ่นที่มีชิปเซ็ทของ Qualcomm เท่านั้น ดังนั้นเครื่องที่จำหน่ายในไทยส่วนใหญ่ที่เป็นชิปเซ็ท Exynos จะไม่รองรับชาร์จเร็ว Quick Charge โดยตรง แต่สามารถเสียบชาร์จเพื่อจ่ายไฟแบบเร็วได้ด้วยระบบของ Samsung เองที่ชื่อว่า Adaptive Fast Charge ครับ

Gallery รูปถ่ายจากสินค้าจริง

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• Huawei CP12s Power Bank x 1
• สายชาร์จ USB-A to Type-C (สาย SuperCharge) x 1
• คู่มือการใช้งาน x 1

ข้อมูลเชิงเทคนิค

• Cell Battery : Lithium-Cobalt Oxide
• Capacity : 4020 mAh x 3, 3920 mAh x 3
• Related Energy : 44.9 Wh
• Input USB-C : 5V/9V/12V-3A, 15V-2.67A, 20V-2A, 5V-4.5A, 10V-4A (40W Max) : PD 40W | Supercharge 40W | QC3.0
• Output USB-C : 5V/9V/12V-3A, 15V-2.67A, 20V-2A, 5V-4.5A, 10V-4A (40W Max) : PD 40W | QC3.0
• Output USB-A : 5V/9V/12V-2A, 4.5V-5A, 5V-4.5A, 10V-4A (40W Max) : Supercharge 40W | FCP 18W
• Output USB-C + USB-A : 5V-4A (เมื่อชาร์จพรอมกันทั้ง 2 ช่อง)
• Full Charge : ประมาณ 2 ชม.18 นาที (เมื่อใช้ Adaper และสายที่รองรับ Supercharge 40W), และประมาณ 5 ชม. 30 นาที (เมื่อใช้ Adaper และสายที่จ่ายไฟ 10W)
• Power Indicator : ไฟ LED 4 ดวง (ไฟสีขาว=ชาร์จธรรมดา, ไฟสีเขียวดวงแรก=ชาร์จเร็ว ***แสดงผลแบบนี้ทั้งการชาร์จเข้าและชาร์จออก***)

อุปกรณ์ที่รองรับการใช้งาน

ช่อง USB-A (SuperCharge, FCP)

• อุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จเร็ว Huawei SuperCharge 2.0 (40W) ได้แก่ Huawei P30 Pro, Huawei Mate 20 Pro
• อุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จเร็ว Huawei SuperCharge 1.0 (22.5W) ได่แก้ Huawei P30, Mate 20/Mate 20X, Mate 10/Mate10 Pro, Mate 9/Mate 9 Pro, P10/P10 Plus, Honor 10, Honor Note10, Honor Magic2, Honor View10, Matebook (บางรุ่น)
• อุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จเร็ว Huawei Fast Charge Protocol (FCP) (18W) ได้แก่ Huawei P9/P9Plus, Mate 8, Honor Play, Honor 7/8/9
• อุปกรณ์รุ่นอื่นๆที่รองรับการจ่ายไฟผ่านช่อง USB-A

ช่อง USB-C (PD/QC)

• อุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จเร็ว PD3.0 (Power Delivery) ได้แก่ iPad Pro 11/12.9 (2018), iPhone Xs/Xs Max, X/XR, 8/8Plus, Macbook Air 13 นิ้ว, MacBook 12 นิ้ว, Macbook Pro 13 นิ้ว (Macbook ชาร์จได้ แต่ควรชาร์จขณะอยู่ในโหมด Standby)
• อุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จเร็ว QC3.0 (Quick Charge) ได้แก่ Samsung Galaxy S10/S10+, Note9, S9/S9 Plus, Note8, S8/S8 Plus, Note FE, S7/S7 Edge ฯลฯ
• อุปกรณ์รุ่นอื่นๆที่รองรับการจ่ายไฟผ่านช่อง USB-C

การทดลองวัดค่าการจ่ายไฟ

เทสชาร์จเข้าแบตสำรอง

• เทสชาร์จเข้าแบตสำรองด้วย Adapter Huawei SuperCharge 2.0 (40W) ผ่านช่อง USB-C ผลที่ได้คือจ่ายไฟอยู่ที่ 9.63V/3.71A หรือ 35.82W ซึ่งเป็นการชาร์จตามมาตรฐาน SuperCharge 2.0 ตรงตามสเปคเลยครับ
• ***สามารถใช้ Adapter Huawei SuperCharge 1.0 (22.5W) ชาร์จเข้าผ่านช่อง USB-C ได้เช่นกัน ตัวแบตสำรองก็จะรับไฟที่ประมาณ 22.5W ครับ
• ***สามารถใช้ Adapter Huawei Fast Charge (18W) ชาร์จเข้าผ่านช่อง USB-C ได้เช่นกัน ตัวแบตสำรองก็จะรับไฟที่ประมาณ 18W ครับ

• เทสการชาร์จไฟเข้าแบตสำรองด้วย Adaper PD (60W) ผ่านช่อง USB-C ผลที่ได้คือจ่ายไฟอยู่ที่ 19.74V/1.76A หรือ 34.88W ซึ่งเป็นการชาร์จตามมาตรฐาน PD3.0 ตรงตามสเปคเช่นกันครับ

• เทสการชาร์จไฟเข้าแบตสำรองด้วย Adaper QC3.0 ผ่านช่อง USB-C ผลที่ได้คือจ่ายไฟอยู่ที่ 11.78V/1.45A หรือ 17.12W ซึ่งเป็นการชาร์จตามมาตรฐาน QC3.0 ตรงตามสเปคเช่นกันครับ

เทสชาร์จไฟออก

• เทสชาร์จไฟออกให้กับ Huawei P30 Pro ผ่านช่อง USB-A ผลที่ได้คือจ่ายไฟอยู่ที่ 9.31V/3.84A หรือ 35.81W ซึ่งเป็นการชาร์จตามมาตรฐาน SuperCharge 2.0 ตรงตามสเปคเลยครับ
• ***สำหรับ Huawei รุ่นที่รองรับ SuperChrage 1.0 หากนำมาชาร์จจะจ่ายไฟอยู่ที่ประมาณ 22.5W ซึ่งเป็นการชาร์จตามมาตรฐาน SuperCharge 1.0 ครับ
• ***สำหรับ Huawei รุ่นที่รองรับ Fast Charge Protocol (FCP) หากนำมาชาร์จจะจ่ายไฟอยู่ที่ประมาณ 18W ซึ่งเป็นการชาร์จตามมาตรฐาน Fast Charge Protocol (FCP) ครับ

• เทสการชาร์จไฟให้กับ Macbook Pro 13 (2017) ผ่านช่อง USB-C ผลที่ได้คือจ่ายไฟอยู่ที่ 19.66V/1.93A หรือ 38.02W ซึ่งเป็นการชาร์จตามมาตรฐาน PD3.0 ตรงตามสเปคเช่นกันครับ (ควรชาร์จขณะอยู่ในโหมด standby)
• ***สำหรับการชาร์จ iPad Pro รุ่นที่รองรับชาร์จเร็ว PD ตัว iPad Pro จะรับกำลังไฟได้สูงสุดประมาณ 30W ครับ
• ***สำหรับการชาร์จ iPhone รุ่นที่รองรับชาร์จเร็ว PD ตัว iPhone จะรับกำลังไฟได้สูงสุดประมาณ 15W ครับ

• เทสการชาร์จไฟให้กับ Samsung Galaxy S10+ ผ่านช่อง USB-C ผลที่ได้คือจ่ายไฟอยู่ที่ 8.71V/1.62A หรือ 14.20W ซึ่งขึ้นชาร์จด่วนที่หน้าจอตรงตามสเปคครับ
• ***สำหรับการชาร์จด่วนใน Samsung ทุกรุ่น แนะนำให้ชาร์จผ่านช่อง USB-C นี้เท่านั้น หากชาร์จช่อง USB-A อาจทำให้ชาร์จได้ไม่เต็มประสิทธิภาพครับ

• และหากชาร์จพร้อมกันทั้ง 2 ช่อง แบตสำรองจะปรับกำลังไฟเป็นการชาร์จแบบธรรมดาทั้งคู่ โดยมีกำลังไฟรวมไม่เกิน 5V/4A ครับ

สรุปเรื่องการจ่ายไฟ

• หากเสียบชาร์จ Smartphone (Huawei/Honor) ที่รองรับ SuperCharge 2.0/1.0, Fast Charge ผ่านช่อง USB-A x 1 เครื่อง ชาร์จได้ จะเป็นการชาร์จเร็วแบบ SuperCharge 2.0/1.0, Fast Charge
• หากเสียบชาร์จ iPhone/iPad/Smartphone ที่รองรับ PD/QC3.0 ผ่านช่อง USB-C x 1 เครื่อง ชาร์จได้ จะเป็นการชาร์จเร็วแบบ PD/QC3.0
• หากเสียบชาร์จพร้อมกัน 2 เครื่อง ทั้ง 2 ช่องจะปรับกระแสไฟเป็นการชาร์จแบบธรรมดากำลังไฟรวมไม่เกิน 5V/4A ครับ

การใช้งานโดย 425degree

• *การทดสอบโดยการชาร์จทิ้งไว้เฉยๆ การใช้งานจริงจะขึ้นอยู่กับการเล่นโทรศัพท์ระหว่างชาร์จ แสงหน้าจอ Notification ด้วยซึ่งอาจทำให้รอบน้อยกว่าที่แจ้งในที่นี่ได้ครับ *(เช่น 10000 mAh ตัวแบตจะมีไฟส่วนหนึ่งที่สูญเสียไปที่ตัวอุปกรณ์ระหว่างที่ชาร์จประมาณ 30% และจะมีอีกส่วนหนึ่งที่สูญเสียไฟไปในการแปลงไฟเข้าสู่เครื่องโทรศัพท์ ดังนั้นเวลาชาร์จจริงจะไม่มีแบตสำรองตัวไหนชาร์จได้เต็ม 10000 mAh เต็มตาม Spec ครับ)

• Huawei P30 Pro (4200 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• Huawei P30 (3650 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• Huawei Mate 20X (5000 mAH) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• Huawei Mate 20 Pro (4200 mAH) = ประมาณ 2 รอบ
• Huawei Mate 20 (4000 mAH) = ประมาณ 2 รอบ
• Huawei P20 Pro (4000 mAH) = ประมาณ 2 รอบ
• Huawei P20 (3400 mAH) = ประมาณ 2 รอบครึ่ง
• iPhone Xs Max (3,174 mAh) = ประมาณ 2 รอบครึ่ง
• iPhone Xs (2,658 mAh) = ประมาณ 3 รอบ
• iPhone XR (2,942 mAh) = ประมาณ 3 รอบ
• iPhone X (2716 mAh) = ประมาณ 3 รอบ
• iPhone 8 Plus (2675 mAh ) = ประมาณ 3 รอบ
• iPhone 8 (1821 mAh) = ประมาณ 4 รอบครึ่ง
• iPhone 7 Plus (2900 mAh) = ประมาณ 3 รอบ
• iPhone 7 (1960 mAh) = ประมาณ 4 รอบ
• iPhone 6 Plus/6s Plus ( 2915 mAh ) = ประมาณ 3 รอบ
• iPhone 6/6s (1810 mAh) = ประมาณ 4 รอบครึ่ง
• iPad Pro 11 (2018) (7812 mAh) = ประมาณ 1 รอบ
• iPad Pro 10.5 (2017) (8827 mAh) = ประมาณ 1 รอบ
• iPad Air 2019 (8134 mAh) = ประมาณ 1 รอบ
• iPad Mini 5 (5124 mAh) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• Samsung Galaxy S10+ (4100 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• Samsung Galaxy S10 (3400 mAh) = ประมาณ 2 รอบครึ่ง
• Samsung Galaxy S10e (3100 mAh) = ประมาณ 2 รอบครึ่ง
• Galaxy Note 9 (4000 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• Galaxy Note 8 (3300 mAh) = ประมาณ 2 รอบครึ่ง
• Galaxy S8 (3000 mAh) = ประมาณ 6 รอบ
• Galaxy S8 Plus (3500 mAh) = ประมาณ 5 รอบ
• Galaxy S7 (3000 mAh) = ประมาณ 2 รอบครึ่ง
• Galaxy S7 Edge (3600 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• Galaxy S6 (2550 mAh) = ประมาณ 3 รอบ
• Galaxy S6 Edge (2600 mAh) = ประมาณ 3 รอบ

เงื่อนไขการรับประกัน

• ทางร้าน 425degree รับประกันสินค้าภายใน 1 ปีในความเสียหายที่เกิดจากการผลิตและความเสียหายที่ว่านั้นไม่รวมถึงการกระทำของผู้ใช้งานหรือการใช้งานที่ผิดวิธี โดยลูกค้าจะต้องเก็บกล่องบรรจุภัณฑ์เอาไว้เพื่อใช้ยืนยันในการขอรับประกันครับ
• อุปกรณ์เสริมที่แถมมาในกล่อง (สายชาร์จ) จะรับประกัน 7 วันครับ
• ***สำหรับการชาร์จเข้าแบตสำรอง แนะนำว่าควรใช้หัวชาร์จที่จ่ายไฟได้ตรงตามสเปคที่ระบุมาเท่านั้นนะครับ หากใช้หัวชาร์จที่จ่ายไฟน้อยกว่าที่สเปคระบุ จะทำให้ชาร์จเข้าได้ช้าและส่งผลเสียต่ออุปกรณ์ทำให้ใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หากลูกค้าใช้หัวชาร์จที่ไม่ตรงสเปค แล้วอุปกรณ์เกิดความเสียหาย กรณีนี้จะไม่รวมอยู่ในการรับประกันนะครับ

การตรวจเช็ค Serial Number

• ***ลูกค้าสามารถเช็ค Serial Number ว่าเป็นสินค้าของแท้ 100% ได้โดยทำตามขั้นตอนดังนี้ครับ
• ที่ข้างกล่องจะมีสติ๊กเกอร์โลโก้แบรนด์ Huawei ติดอยู่
• ให้ขูดที่สติ๊กเกอร์ เพื่อให้เห็น QR Code ทั้งหมด
• จากนั้นนำ Smartphone มาสแกน เพื่อตรวจเช็คได้เลยครับ

การรับรองมาตรฐานและความปลอดภัย

• ผ่านการรับรองมาตรฐาน TUV Rheinland, CE, RoHS, CQC แจ้งไม่ครบ
• TUV Rheinland : เป็นหน่วยงานอิสระในการบริการตรวจสอบคุณภาพสินค้าที่มาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยห้องปฏิบัติการจะอยู่ที่ประเทศเยอรมนีและญี่ปุ่น มีจุดมุ่งหมายคือคัดกรองสินค้าที่มีตุณภาพสูงตรงตามมาตรฐาน และใช้งานได้อย่างปลอดภัยทั้งต่อมนุษย์ และสิ่งแวดล้อมโดยรอบด้วย
• CE : เป็นเครื่องหมายที่แสดงการรับรองจากผู้ผลิตว่าสินค้ามีคุณสมบัติตามข้อกำหนดด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรป
• China RoHS: มาตรการควบคุมการก่อมลพิษจากผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สารสนเทศ ตามกฎหมายของประเทศจีน ซึ่งระบุว่าอุปกรณ์นี้จะสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยภายในระยะเวลา 10 ปีโดยประมาณ
• CQC: มีหน้าที่ตรวจสอบมาตรฐานทางเทคนิคของสินค้า ติดตามคุณภาพ และรับรองระบบคุณภาพสินค้าจากประเทศจีนให้เป็นที่ยอมรับและเทียบเท่าในระดับสากล
• และยังรับรองว่าเป็นสินค้าที่สามารถนำไปรีไซเคิลต่อได้ครับ ถือว่าช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้ดีครับ
• มีระบบตัดวงจรไฟอัตโนมัติหากเกิดความร้อนเกินกว่ากำหนด ช่วยควบคุมปริมาณการจ่ายไฟและไม่ทำให้เกิดการกระชากไฟ ปลอดภัยสำหรับชาร์จอุปกรณ์

การทำความสะอาดและดูแลรักษา

• ควรใช้งานในที่อากาศถ่ายเทได้ เพื่อลดการสะสมความร้อนที่ตัวอุปกรณ์ครับ
• หลีกเลี่ยงการใช้งานในที่ที่ความชื้นสูง หรือบริเวณที่เปียกแฉะ
• ก่อนใช้งานทุกครั้งให้ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์
• ขณะเสียบใช้งานหรือถอดออก ควรจับที่ตัวบอดี้ เพื่อป้องกันสายไฟหักหรือขาดครับ
• หมั่นเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ ไม่ควรใช้สารเคมีใดๆครับ เพราะตัวหนังสือสกรีนอาจหลุดลอกได้ (และโปรดระมัดระวังเรื่องความชื้นของผ้าด้วยครับ ผ้าควรจะหมาดมากๆจนเกือบแห้งครับ)