Hishield Paper Like Film iPad Air 5 (2022) / iPad Air 4 (2020)

(ฟิล์มวาดภาพ สำหรับ iPad)

425Degree Recommend

สำหรับใครที่ใช้ iPad และเน้นการใช้งานคู่กับ Apple Pencil เป็นหลัก อาจจะเคยเจอปัญหาเมื่อยมือ เขียนแล้วเกร็งมือ เป็นเพราะหน้าจอกระจก iPad มันลื่นเกินไปนั่นเอง 425 มีตัวช่วยดีๆมาแนะนำครับ Hishield Paper Like Film เป็นเนื้อฟิล์มที่ออกแบบมาเพื่องานเขียนโดยเฉพาะ ให้ทั้งสัมผัสของการเขียนและเสียงที่คล้ายกับการเขียนดินสอบนกระดาษจริงๆ ซึ่งน่าจะตอบโจทย์การใช้งานของใครหลายคนเลยครับ

• สิ่งที่ 425 ชอบมากที่สุดสำหรับ Hishield Paper Like Film คือความง่ายในการติดตั้งครับ ด้วยดีไซน์ที่มีการแบ่งแผ่นลอกฟิล์มออกเป็น 3 ท่อน ทำให้เราเลือกลอกพลาสติกได้ทีละชิ้นและช่วยกะตำแหน่งได้ตรงยิ่งขึ้นครับ มั่นใจว่าลูกค้าเอาไปติดเองที่บ้านได้ง่ายๆแน่นอนครับ
• ในความเห็นของ 425 เมื่อติดฟิล์มรุ่นนี้แล้วอาจทำให้สีของหน้าจอแลดูซีดลงเล็กน้อย เช่น ความดำของสีดำจะดำไม่สุดครับ เพราะเนื้อฟิล์มจะเป็นแบบฝ้าๆ ฟิล์มรุ่นนี้จึงไม่เหมาะกับคนที่มีอาชีพที่ต้องการความแม่นยำของสีสูง เช่น ช่างภาพหรือ Graphic Designer บางสายงาน รวมถึงคนที่ใช้งาน iPad เพื่อดูหนังหรือเล่นเกมเป็นหลัก จะไม่แนะนำให้ติดรุ่นนี้ครับ แต่ 425 จะแนะนำฟิล์มรุ่นนี้ว่าเหมาะสำหรับคนที่เน้นใช้งานวาดเขียนหรือจดบันทึกด้วย Apple Pencil เป็นหลัก กลุ่มนี้จะได้ประโยชน์ของ Drawing Film แบบเต็มๆแน่นอนครับ

***ภาพประกอบจะเป็นของรุ่น iPad Pro 11 (2020) นะครับ ซึ่งดีไซน์และขนาดจะใกล้เคียงกัน ไว้สำหรับประกอบการตัดสินใจ

เปรียบเทียบฟิล์มประเภท Paper Like เลือกแบรนด์ไหนดี?

ตอนนี้สินค้าประเภทฟิล์มกระดาษหรือ Paper Like Film ใน 425 มีด้วยกันทั้ง 3 แบรนด์ ได้แก่ Gorilla, HiShield และ Genius ซึ่งแต่ละแบรนด์จะมีข้อดีและข้อด้อยแตกต่างกันเล็กๆน้อยๆครับ แต่โดยรวมแล้วสามารถใช้งานได้ดี สมราคาทั้ง 3 แบรนด์ ซึ่งรายละเอียดการใช้งานจริง 425 ได้รวบรวมความคิดเห็นในหัวข้อต่างๆเอาไว้ เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกแบรนด์ที่ตรงใจ ตอบโจทย์การใช้งานจริงที่สุดครับ

• ระดับความสากเมื่อเขียนด้วย Apple Pencil : เมื่อเปรียบเทียบแรงเสียดทานที่ปลาย Apple Pencil ของแบรนด์ Gorilla และ Hishield มีความสากที่ใกล้เคียงกันมากจนเกือบจะเหมือนกัน แต่ Hishield จะมีความลื่นกว่านิดหน่อยเวลาแรเงาหรือทำ Shade ส่วน Gorilla ทำได้ดีเกือบๆเท่าๆกัน แต่อาจต้องออกแรงมากกว่านิดหน่อยครับ ส่วน Genius จะลื่นที่สุด ลื่นมากๆ ไม่ค่อยขูดกับหัว Apple Pencil ครับ ลักษณะคล้ายฟิล์มด้านผิวจะค่อนข้างเรียบลื่นครับ
• ระดับความสากเมื่อทัชหน้าจอ : สำหรับหัวข้อนี้ 425 จะชอบสัมผัสของ Genius ที่สุดครับ เพราะเนื้อฟิล์มจะค่อนข้างละเอียดและลื่น สามารถทัชได้ลื่นมือมากๆ ไม่มีเสียงเอี๊ยดอ๊าดหรือนิ้วสะดุดเลย และเวลาเล็บข่วนโดนฟิล์มจะไม่รู้สึกสากมาก ส่วน Gorilla และ Hishield ต่างจาก Genius อย่างชัดเจนในเรื่องการทัช เพราะเนื้อฟิล์มจะหยาบกว่าอย่างชัดเจน เวลาสไลด์นิ้วจะหนืดนิ้วพอสมควรครับ ซึ่ง Gorilla จะลื่นกว่า Hishield เล็กน้อยเท่านั้น อาจเพราะใน Package จะมี Nano Coating มาให้ ก็มีส่วนช่วยได้ครับ
• เสียง : จากที่ลองเล่นดูแล้ว ทั้ง 3 แบรนด์ให้เสียงที่ดีและดังพอๆกันครับ มีความใกล้เคียงกับเสียงดินสอที่เขียนบนกระดาษจริงๆทั้ง 3 แบรนด์เลยครับ
• ความง่ายในการติดตั้ง : หัวข้อนี้ Hishield และ Genius ชนะครับ เพราะมีการแบ่งพลาสติกสำหรับลอกฟิล์มออกเป็นท่อนๆ ทำให้แบ่งติดได้ง่ายและรวดเร็วกว่า ลูกค้าสามารถดูวีดีโอการติดตั้งและทำได้เองแน่นอน ส่วน Gorilla ถึงจะไม่มีการแบ่งฟิล์มมาให้ แต่ก็ไม่ได้ติดยากมากครับ อาจต้องเล็งเยอะกว่าเท่านั้นเอง
• ความสด/ซีดของหน้าจอ : หัวข้อนี้ต้องบอกว่าทั้ง 3 แบรนด์ทำได้ดีไม่หนีกันมากเท่าไหร่ครับ ซึ่งทุกแบรนด์ยังให้ภาพที่คมชัดเช่นเดิม แต่จะทำให้ความสดของสีหน้าจอลดลง เช่น สีดำจะดำไม่สุดเพราะเนื้อฟิล์มจะเป็นแบบฝ้าๆครับ หัวข้อนี้ถือว่าได้คะแนนเท่ากันครับ
• ราคา : เมื่อเทียบราคาของ iPad ทุกรุ่น สำหรับแบรนด์ Genius จะราคาย่อมเยาที่สุด เริ่มที่ 449-609 บาท ส่วน Gorilla จะรองลงมา เริ่มที่ 590-890 บาท และ Hishield จะราคาสูงที่สุด เริ่มที่ 790-1190 บาท
• แต่ละรุ่นเหมาะกับใคร : ทั้ง 3 แบรนด์ สามารถใช้จดบันทึก วาดเขียน วาดระบายสี รวมไปถึงเล่นเวป เล่นเกม ได้ทั้งหมดครับ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีข้อดีที่ต่างกันไป ทำให้เหมาะกับคนที่ใช้งานเฉพาะทางที่ต่างกันเล็กน้อยครับ
• Gorilla : เหมาะกับคนที่เน้นการจดบันทึก การเขียนที่เป็นตัวหนังสือซะเป็นส่วนใหญ่ เช่น นักศึกษาที่ต้องจดโน๊ต จดเลคเชอร์ หรือคนที่ชอบวาดแพลนเนอร์ใน iPad จะแนะนำเป็น Gorilla ครับ เพราะมีเนื้อฟิล์มที่หยาบและสากที่สุด เวลาลาก Apple Pencil จะมีแรงต้านที่คล้ายหัวดินสอจิกลงเนื้อกระดาษจริงๆครับ สำหรับใครที่ชอบจดขยุกขยิก 425 แนะนำ Gorilla เลยครับ
• Hishield : แบรนด์นี้จะมีความคล้าย Gorilla ค่อนข้างมากในเรื่องของสัมผัสเนื้อฟิล์มครับ จึงใช้งานได้ใกล้เคียงกัน สามารถจดบันทึกได้ดี แต่จะมีเพิ่มจุดเด่นในเรื่องของการวาด การลงสี สำหรับแบรนด์ Hishield จะสามารถระบาย หรือลาก Apple Pencil แบบเร็วๆได้สมูทกว่า ไม่ต้องลงน้ำหนักเยอะ ทำให้ไม่เมื่อยมือ สามารถถ่ายทอดน้ำหนักของข้อมือได้ดีครับ ซึ่งใครที่เน้นวาดภาพ ตั้งแต่มือสมัครเล่นไปจนถึงระดับมืออาชีพ จะแนะนำรุ่นนี้ครับ
• Genius : เหมาะกับคนที่ใช้งาน iPad แบบครึ่งๆ ทั้งวาดทั้งจด แต่ก็ยังใช้ iPad ดูหนัง เล่นเกมหรือท่องเวปด้วย Genius จะเหมาะที่สุดครับ เพราะการใช้งานจะกลางๆ เขียนดี วาดดี และยังทัชลื่น ในราคาที่ถูกที่สุดด้วยครับ

Highlight

• ติดตั้งง่าย ด้วยการแบ่งแผ่นลอกฟิล์มเป็น 3 ตอน และสามารถรีดฟองอากาศได้ง่าย
• มีความใสเคลียร์สูง คงความคมชัดของสีจอดีเยี่ยม

Product Detail รายละเอียดสินค้า

• แบรนด์ : Hishield
• ชื่อรุ่น : Paper Like Film
• สำหรับ : iPad Air 5 (2022) / iPad Air 4 (2020)
• วัสดุ : PET Film
• สี : ใสผิวด้าน(Matte Clear)
• เนื้อฟิล์มเป็นพลาสติก PET มีความเหนืยว ไม่ยืดหยุ่น ไม่ย้วย สามารถติดได้ง่าย และรีดฟองออกง่าย
• ขนาดของฟิล์มเป็นแบบเต็มจอ แต่สามารถใส่ร่วมกับเคสได้หลากหลายรุ่น โดยไม่ดันกับขอบเคส
• สามารถติดตั้งได้ง่าย ด้วยแผ่นลอกฟิล์มที่แบ่งเป็น 3 ตอน
• ***จากการลองใช้งานจริง สามารถใช้งานร่วมกับ Apple Pencil ได้โดยไม่เกิดรอยขีดข่วน หรือทำให้เนื้อฟิล์มเป็นรอยลึก
• ***เมื่อติดฟิล์มรุ่นนี้ จะทำให้สีของหน้าจอแลดูซีดลง เช่นสีดำจะดำไม่สนิท ซึ่งเป็นอาการปกติของการติดฟิล์มที่มีลักษณะผิวด้าน แต่เนื้อฟิล์มไม่มีผลต่อความละเอียดของภาพครับ
• ***เนื้อฟิล์มสามารถกันรอยขีดข่วนแบบเบาๆหรือรอยขนแมวได้ แต่ไม่สามารถกันรอยจากของมีคมได้
• ***ทางเเบรนด์มีการเคลือบสารกันรอยนิ้วมือมาให้ และด้วยผิวสัมผัสแบบด้าน จึงเกิดรอยนิ้วมือขึ้นยากกว่าปกติ เเต่ 425 ทดสอบแล้วพบว่า ยังมีโอกาสคราบรอยนิ้วมือขึ้นให้เห็นบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ และสามารถเช็ดออกได้ง่ายครับ

Gallery รูปถ่ายสินค้า

***ภาพประกอบจะเป็นของรุ่น iPad Pro 11 (2020) นะครับ ซึ่งดีไซน์และขนาดจะใกล้เคียงกัน ไว้สำหรับประกอบการตัดสินใจ

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• ฟิล์ม Hishield Paper Like Film iPad Pro11(2018) x 1
• Wet Wipes x 1
• Microfiber Dry Wipes x 1
• Dust Removal x 1
• ตัวรีดฟองอากาศ x 1

เงื่อนไขการรับประกัน

• ทางร้าน 425Degree รับประกันสินค้าภายใน 7 วันในกรณีดังต่อไปนี้
• ความเสียหายที่เกิดจากการผลิตจากโรงงานเท่านั้น เช่นเปิดกล่องและพบว่าสินค้าเสียหาย/สินค้าไม่ครบ
• ทางร้านจะไม่รับประกันในกรณีที่ ฟิล์มเกิดความเสียหายจากการติดแล้วเกิดความผิดพลาด และจากการใช้งานของลูกค้าแล้วสินค้าเสียหาย
• ***เนื่องจากสินค้ารุ่นนี้ไม่สามารถเคลมได้หากติดแล้วผิดพลาดหรือเสียหาย จึงแนะนำให้ศึกษาขั้นตอนการติดตั้งก่อนการติดตั้งจริงอย่างละเอียดครับ
• ลูกค้าต้องเก็บกล่องสินค้าเพื่อใช้ในการเปลี่ยนสินค้าเป็นตัวใหม่กับทางร้าน 425Degree

วิธีการติดตั้ง

• เริ่มจากเช็ดทำความสะอาดหน้าจอด้วยแผ่นแอลกอฮอล์ให้สะอาดเรียบร้อย
• จากนั้นเช็ดอีกครั้งด้วยผ้า Microfiber
• ติดสติ้กเกอร์เพื่อกะตำแหน่งฟิล์มให้อยู่กึ่งกลาง
• จากนั้น ลอกสติ้กเกอร์หมายเลข 1 ออก ใช้ที่รูดฟองอากาศรูดเบาๆเพื่อเก็บฟองอากาศ
• ลอกสติ้กเกอร์หมายเลข 2 ออก และใช้ที่รูดฟองอากาศรูดเบาๆเพื่อเก็บฟองอากาศ
• จากนั้น แกะสติ้กเกอร์สำหรับกะตำแหน่งออก แล้วลอกสติ้กเกอร์หมายเลข 3
• ไล่เก็บฟองอากาศให้เรียบร้อยทั่วทั้งหน้าจอ และลอกสติ้กเกอร์หมายเลข 4 เป็นลำดับสุดท้าย (ต้องระวังไม่ให้เนื้อฟิล์มติดขึ้นมาครับ)
• ในขั้นตอนนี้ อาจมีฟองอากาศเล็กๆเหลืออยู่ ให้ใช้ผ้า Micro Fiber รองก่อนแล้วใช้ที่รูดเก็บฟองอากาศเล็กๆออกให้หมด

ตัวอย่างเคสที่สามารถใช้งานร่วมกันได้

• สามารถใส่ร่วมกับเคสแบรนด์ทั่วไปได้ทั้งหมด เช่น ESR, Mutural, Xundd, UAG, STM, JTLegend, LAUT, Prodigee, Just Must และอื่นๆ
• ไม่สามารถใส่ร่วมกับเคสบางดีไซน์ เช่น Otterbox Defender Series, Switcheasy CoverBuddy Smart Keyboard Folio Compatible, Supcase The UB Pro