ESR Car Charger PD+QC3.0 45W ( ที่ชาร์จไฟในรถ PD+QC3.0 )

แบรนด์

• ESR จากประเทศ China

สิ่งที่ควรรู้

• ***หากพบว่าเมื่อเสียบชาร์จเร็วแบบ PD แล้วระบบมีการตัดไฟเป็นเวลา 3-5 วินาที และมีการชาร์จเข้าใหม่อีกครั้งอัตโนมัติ ถือเป็นอาการปกติของการชาร์จแบบ PD นะครับ เนื่องจากระบบจะปรับกระแสไฟจากแบบปกติให้เป็นแบบชาร์จเร็ว PD นั่นเอง ซึ่งจากที่ทาง 425degree ทำการเทสกับอุปกรณ์ PD หลายๆแบรนด์ก็พบอาการนี้เช่นกัน ซึ่งไม่ได้เป็นความเสียหายใดๆของอุปกรณ์ครับ

  วัสดุ

  • ที่ชาร์จทำจากพลาสติกเเข็ง ABS คุณภาพดีเเข็งเเรง ทนความร้อนสูงป้องกันไฟเเละทนทานต่อการใช้งานได้เป็นอย่างดี

  

  ขนาดและน้ำหนัก

  • กว้าง 25 มม. ยาว 86 มม. สูง 22 มม.
  • หนัก 27 กรัม

  ข้อมูลเชิงเทคนิค

  • AC Input : DC 12-24V
  • Output : 2 Port  (Type-C / USB QC3.0)
  • Type-C : 5V/3.0A, 9V/3.0A, 12V/2.25A
  • USB QC3.0 : 5V/3.0A, 9V/2.0A, 12V/1.5A

  อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • ESR Car Charger PD+QC3.0 45W x 1
  • เเผ่นข้อมูลรายละเอียดสินค้า x 1

  อุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จช่อง Type-C

  • iPhone X, iPhone 8/8 Plus (ใช้สาย Type-C to Lightning ในการชาร์จ) หากสนใจ คลิกที่นี่
  • Apple's MacBook 12 นิ้ว ***ชาร์จได้แต่ไม่แนะนำครับ เพราะการจ่ายไฟในรถยนต์ไม่สเถียรเหมือนไฟบ้าน แต่หากฉุกเฉินมีงานด่วนเข้ามาแล้วแบตหมดก็สามารถชาร์จได้ แต่ควรปิดเครื่องแล้วชาร์จจะดีกว่าไม่แนะนำให้ชาร์จไปใช้งานไป
  • iPad Pro
  • Galaxy S9/S9 Plus, S8/S8 Plus, Note 8
  • Google's second Chromebook Pixel
  • ASUS Transformer book T100HA
  • Dell XPS 13 & 15
  • HP Elite x2 1012 G1
  • Razer Blade Stealth, Blade (2016)
  • Nokia N1, ASUS ZenPad S8, Google's Pixel C
  • Nexus 5X, Nexus 6P
  • Asus ZenFone 3 Deluxe
  • BLU Vivo XL and BLU Vivo 5
  • HTC 10, LG G5
  • Microsoft Lumia 950, 950 XL
  • Motorola Moto Z, Moto Z Force
  • หรืออุปกรณ์ที่รองรับการจ่ายไฟผ่านช่อง Type-C

  อุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จช่อง USB Quick Charge 3.0

  • ตรวจสอบรุ่นมือถือที่รองรับระบบ Quick Charge ได้ที่นี่ คลิก และถึงแม้ว่า Smartphone ที่ไม่รองรับ QC  ก็สามารถเสียบชาร์จในช่องนี้ได้ จ่ายไฟได้สูงสุดที่ 5V/2.4A ครับ
  • หรืออุปกรณ์ที่รองรับการจ่ายไฟผ่านช่อง USB 

  การรับประกัน

  • ตัวผลิตภัณฑ์รับประกันภายใน 2 ปี ภายใต้เงื่อนไขที่ทางแบรนด์กำหนด โดยความเสียหายที่เกิดจากการผลิตและไม่รวมถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้งานผิดประเภท โดยผู้ซื้อต้องเก็บกล่องบรรจุภัณฑ์เพื่อใช้ในการยืนยันในการซื้อสินค้ากับทางร้าน 425Degree

  ประสบการณ์ใช้งานจริงจาก 425Degree

  • ESR Car Charger PD+QC3.0 45W เป็นที่ชาร์จในรถอีกตัวหนึ่งที่แอดมินชอบมากที่สุดเลย ด้วยจุดเด่นที่จ่ายไฟได้ถึง 45W มาพร้อมช่อง Type-C ที่ชาร์จ iPhone X, 8/8 Plus ได้เร็วสุดๆด้วยการชาร์จเร็วแบบ PD และมีอีกช่องเป็น USB ที่ชาร์จ Android ได้เร็วสุดๆด้วย Quick Charge 3.0 อีกด้วยครับ จะใช้ iOS หรือ Android ก็ชาร์จได้เร็วทั้งคู่ครับ

  

  • PD คือระบบการจ่ายไฟที่ชาร์จได้เร็วสุดๆ และยังปรับกระแสไฟได้หลายระดับ (5V/3.0A, 9V/3.0A, 12V/2.25A) การจ่ายไฟแบบ PD นั้นจะต้องชาร์จผ่านช่อง Type-C เท่านั้น การจ่ายไฟในช่องนี้สูงถึง 27W ใช้ชาร์จ Macbook 12 นิ้ว และ iPad Pro ได้ด้วย สำหรับใครที่ใช้ iPhone X, iPhone 8/8 Plus เราขอแนะนำครับ

  

  • แอดมินรู้สึกตื่นเต้นเมื่อใช้งาน ESR Car Charger PD+QC3.0 45W ครั้งแรกมากเพราะเป็นที่ชาร์จในรถตัวแรกของทางร้านที่ชาร์จเร็ว PD ได้ ซึ่งที่ชาร์จในรถตัวอื่นๆยังไม่สามารถชาร์จ iPhone X, 8, 8 Plus ได้เร็วเท่าตัวนี้

  

  • แอดมินว่าตัวชาร์จในรถตัวนี้ทำจากพลาสติกคุณภาพดี สีเงาสวยเลยทีเดียว ยังมีผิวสัมผัสที่ลื่นด้วยนะครับ ส่วนดีไซน์มาในรูปร่างค่อนข้างยาวกว่าที่ชาร์จตัวอื่น ซึ่งแอดมินว่าเสียบเข้า-ออกได้ง่ายกว่าที่ชาร์จในรถตัวอื่นๆ และยังเห็นช่องเสียบสายชาร์จได้ชัดกว่าด้วยครับ

  

  • ด้านข้างได้สกรีนโลโก้แบรนด์ ESR ดูลงตัวกันดีครับ และมีโลโก้ Quick Charge 3.0 ที่แสดงถึงความเร็วในการชาร์จที่เร็วกว่าที่ชาร์จในรถทั่วไปตามท้องตลาดครับ

  

  • บริเวณด้านหน้ามีไฟสถานะอยู่ระหว่างช่องชาร์จทั้ง 2 ช่อง โดยไฟจะติดเมื่อเสียบที่ชาร์จกับที่จุดบุหรี่ เพื่อแสดงว่าพร้อมให้เสียบสายชาร์จแล้วครับ

  

  • มาถึงช่องชาร์จบ้างครับ ช่องแรกจะเป็นช่อง Type-C ที่มีจุดเด่นตรงที่จ่ายไฟได้เร็วสุดๆ และยังปรับกระแสไฟได้หลายระดับ (5V/3.0A, 9V/3.0A, 12V/2.25A) และชาร์จเร็วแบบ PD ได้ด้วยนะครับ การจ่ายไฟในช่องนี้สูงถึง 27W ใช้ชาร์จ Macbook 12 นิ้ว และ iPad Pro ได้ด้วย สำหรับใครที่ใช้ iPhone X, iPhone 8/8 Plus แนะนำให้ชาร์จด้วยช่องนี้จะเร็วกว่าที่ชาร์จทั่วไปมากเลย ส่วน iPhone รุ่นอื่นๆที่ไม่มี PD ก็ชาร์จได้ครับ โดยจะชาร์จแบบปกติที่ 1A ครับ

  

  • ***ในการชาร์จ iPhone/iPad ในช่องนี้ต้องใช้สาย Type-C to Lightning แอดมินมีรุ่นแนะนำคือ Baseus Tough Type-c to Lightning PD 18W 1m คลิกที่นี่
  • สำหรับ Smartphone ทั่วไปที่มีช่องชาร์จเป็น Type-C ก็ชาร์จด้วยช่องนี้ได้เช่นกันครับ โดยใช้สายชาร์จ Type-C to Type-C ในการชาร์จ
    

  

  • ส่วนช่องชาร์จ 1 อีกช่องคือช่อง USB ที่ชาร์จสามารถเร็วแบบ Quick Charge 3.0 ซึ่งเป็นระบบชาร์จเร็วเฉพาะของ Android ครับ ช่องนี้จะจ่ายไฟได้สูงสุดที่ 5V/3.0A, 9V/2.0A, 12V/1.5A (ระบบจะปรับการจ่ายไฟให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ที่ชาร์จโดยอัตโนมัติ) โดยอุปกรณ์ที่มาเสียบต้องรองรับระบบ Quick Charge ด้วยนะครับ และถึงแม้ว่า Smartphone ที่ไม่รองรับ Quick Charge ก็สามารถเสียบชาร์จในช่องนี้ได้ แต่จะจ่ายไฟสูงสุดที่ 5V/2.4A ครับ
  • ตรวจสอบรุ่นของ Smartphone ที่รองรับระบบ Quick Charge ได้ที่นี่ คลิก

  

  • โดยปกติ การชาร์จด้วย Quick Charge 2.0 และ 3.0 สามารถใช้ร่วมกันได้แต่การชาร์จแบบ Quick Charge 2.0 จะเฉลี่ยอยุ่ที่กระแสไฟ 2.1A เท่านั้นแต่การชาร์จแบบ Quick Charge 3.0 จะอยู่ที่ 2.4A สูงสุดและแตกต่างกันในเรื่องของ Volt กระแสไฟ ซึ่งแบบ 3.0 จะมีกระแสไฟที่แรงและจ่ายไฟได้เร็วกว่า 2.0 ถึง 38% เทียบกันตั้งแต่เริ่มชาร์จที่ 0% แต่ทั้งนี้การชาร์จแบบ 3.0 และ 2.0 จะมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อ สายชาร์จ และ Smartphone มีการรองรับกับระบบครับ

  

  • แอดมินได้ชาร์จ iPhone 8 Plus โดยชาร์จในช่อง Type-C ซึ่งในช่องนี้จะชาร์จเร็วแบบ PD ได้ ผลการวัดไฟก็คือ 12.2V / 1.3A ซึ่งชาร์จได้เร็วตามมาตรฐาน PD จริงๆครับ

  

  • ส่วนช่อง USB อีกช่องสามารถจ่ายไฟแบบ Quick Charge 3.0 ได้ครับ แอดมินได้ลองเอา Galaxy S9 มาชาร์จดู ผลการวัดไฟก็คือ 9.0V / 0.5A ซึ่งชาร์จได้เร็วครับ (การจ่ายไฟขึ้นอยู่กับแบตคงเหลือใน Smarthphone ด้วยครับ)

  

  

  • ในช่องนี้แอดมินได้ลองชาร์จ Tablet ดูบ้าง ซึ่งผลการวัดไฟก็ได้ที่ 5V / 1.7A เป็นกำลังไฟที่ชาร์จ Tablet ให้เต็มได้ปกติครับ

  

  • คราวนี้มาลองชาร์จ iPhone ในช่อง USB กันดูบ้าง ผลการวัดไฟก็คือ 5.0V / 1.6A ซึ่งแอดมินว่าถึงแม้จะไม่เร็วเท่าช่อง Type-C ที่ชาร์จแบบ PD ได้แต่ก็เร็วกว่าที่ชาร์จในรถทั่วไปครับ

  

  • และแอดมินยังได้ลองเสียบชาร์จ 2 เครื่องพร้อมๆกัน พบว่าทั้งสองเครื่องสามารถจ่ายไฟได้ทั้ง 2 ช่องและถือว่าที่ชาร์จในรถตัวนี้ทำได้ดีทีเดียวในการชาร์จอุปกรณ์พร้อมกัน 2 เครื่อง
  • ที่ชาร์จในรถตัวนี้จ่ายไฟได้ทั้งหมด 45W แต่การจ่ายไฟแต่ละช่องจะแยกกันนะครับ ช่อง Type-C (PD) จ่ายไฟได้สูงสุดที่ 27W ส่วนช่อง USB QC 3.0 จ่ายไฟได้สูงสุดที่ 18W หรือพูดง่ายๆก็คือชาร์จเร็วทั้ง Quick Charge กับ PD พร้อมกันทั้งสองช่องได้

  

  • ช่องชาร์จเสียบและถอดได้ง่ายครับ ไม่ฝืดหรือหลวมจนเกินไป ส่วนระยะห่างของช่องกว้างมาก สามารถใช้ร่วมกับหัวชาร์จได้ทุกแบบแน่นอนครับ

  

  • มีสกรีนสเป็คการจ่ายไฟและการรับรองความปลอดภัยที่ด้านหลังชัดเจน

  

  สรุปเรื่องการจ่ายไฟนะครับ

  **ปริมาณไฟที่ชาร์จได้จะขึ้นอยู่กับคุณภาพของสายชาร์จ และอุปกรณ์ที่นำมาเสียบชาร์จด้วยครับผม

  สำหรับเสียบช่อง Type-C

  • iPhone X/8/8 Plus x 1 เครื่อง ชาร์จได้เร็วครับ เพราะจ่ายไฟแบบ PD ได้สูงสุดถึง 27W
  • iPhone/Smartphone รุ่นอื่นๆ x 1 เครื่อง ชาร์จได้ครับ สามารถจ่ายไฟได้ปกติ
  • iPad/Tablet x 1 เครื่อง ชาร์จได้ครับ สามารถจ่ายไฟได้ปกติ
  • iPad Pro x 1 เครื่อง ชาร์จได้ครับ สามารถจ่ายไฟได้ปกติ
  • Macbook 12" 1 เครื่อง ชาร์จได้ครับ สามารถจ่ายไฟได้ปกติ
  • ***Macbook 12" ต้องการไฟประมาณ 29W ซึ่งใช้ Adapter ตัวนี้ชาร์จได้ค่อนข้างช้า***
  • จริงๆแล้วในทางทฤษฎีช่องนี้ชาร์จให้ Macbook 12" ได้ก็จริงแต่แอดมินไม่แนะนำเลยครับ เพราะการจ่ายไฟในรถยนต์ไม่สเถียรเหมือนไฟบ้าน แต่หากฉุกเฉินมีงานด่วนเข้ามาแล้วแบตหมดก็สามารถชาร์จได้ แต่ปิดเครื่องแล้วชาร์จจะดีกว่าไม่แนะนำให้ชาร์จไปใช้งานไป
  • ***หากต้องการใช้การชาร์จแบบ PD กับ iPhone X,8,8 Plus แนะนำให้ใช้สาย Type-C to Lightning ครับ คลิกที่นี่***

  สำหรับเสียบช่อง USB Quick Charge 3.0

  • Smartphone ที่รองรับ QC 3.0 x 1 เครื่องชาร์จได้เร็วครับ เพราะจ่ายไฟแบบ Quick Charge 3.0 สูงสุดถึง 18W
  • iPhone/Smartphone อื่นๆที่ไม่รองรับ QC x 1 เครื่อง ชาร์จได้ครับ สามารถจ่ายไฟได้ปกติ
  • iPad/Tablet x 1 เครื่อง ชาร์จได้ครับ สามารถจ่ายไฟได้ปกติ

  ข้อมูลทั่วไป

  • ผลิตภัณฑ์เป็นของแท้ 100% ผลิตโดยแบรนด์ ESR จากประเทศจีน
  • ESR Car Charger PD+QC3.0 45W ทำจากพลาสติกคุณภาพสูงทนความร้อนและกันไฟ

  

  • ดีไซน์ของตัวนี้มาในรูปร่างค่อนข้างยาวกว่าที่ชาร์จตัวอื่น และมีสกรีนโลโก้แบรนด์ ESR และ Quick Charge 3.0 ชัดเจน

  

  • มีไฟสถานะอยู่ระหว่างช่องชาร์จทั้ง 2 ช่อง ไฟจะติดเมื่อสตาร์ทรถ เพื่อแสดงว่าพร้อมให้เสียบสายชาร์จได้แล้ว

  

  • มาพร้อมช่องชาร์จ 2 ช่อง คือ Type-C (PD) และ USB (Quick Charge 3.0) ที่สามารถชาร์จพร้อมกันได้ทั้ง 2 ช่อง

  

  • ช่อง Type-C จ่ายไฟได้หลายระดับ 5V/3.0A, 9V/3.0A, 12V/2.25A จะปรับกระแสไฟที่เหมาะสมกับอุปกรณ์โดยอัตโนมัติ

  

  • PD คือระบบการจ่ายไฟที่ชาร์จได้เร็วสุดๆ และยังปรับกระแสไฟได้หลายระดับ (5V/3.0A, 9V/3.0A, 12V/2.25A) การจ่ายไฟแบบ PD นั้นจะต้องชาร์จผ่านช่อง Type-C เท่านั้น การจ่ายไฟในช่องนี้สูงถึง 27W ใช้ชาร์จ Macbook 12 นิ้ว และ iPad Pro ได้ด้วย
  • ชาร์จเร็ว PD ใช้ได้กับ iPhone X, 8, 8 Plus ส่วน iPhone รุ่นอื่นๆชาร์จด้วยกระแสไฟ 1A

  

  • ช่อง USB Quick Charge 3.0 จ่ายไฟได้หลายระดับ 5V/3.0A, 9V/2.0A, 12V/1.5A ระบบจะปรับการจ่ายไฟให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ที่ชาร์จโดยอัตโนมัติเช่นกัน
  • ตรวจสอบรุ่นของ Smartphone ที่รองรับระบบ Quick Charge ได้ที่นี่ คลิก

  

  • และถึงแม้ว่า Smartphone ที่ไม่รองรับ Quick Charge ก็สามารถเสียบชาร์จในช่องนี้ได้ แต่จะจ่ายไฟสูงสุดที่ 5V/2.4A
  • ESR Car Charger PD+QC3.0 45W มีให้เลือก 2 สี ขาว, ดำ

  

  • สำหรับใครที่ใช้ iPhone X, 8, 8 Plus หรือจะเป็น Android ที่ชาร์จ Quick Charge ได้แอดมินแนะนำที่ชาร์จในรถตัวนี้เลยครับ ชาร์จ Smartphone ของคุณได้เร็วสะใจแน่นอน

  

  การรับรองมาตรฐานและความปลอดภัย

  • ผ่านการรับรองมาตรฐาน RoHS, CE, CCC certifications
  • RoHS : เป็นมาตรฐานเพื่อสิ่งแวดล้อม กำหนดให้ชิ้นส่วนทุกอย่างที่ประกอบเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ตั้งแต่แผงวงจร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงสายไฟ จะต้องมีสารที่เป็นอันตรายไม่เกินไปกว่าที่กำหนด (ตะกั่ว/ปรอท/แคดเมียม/เฮกซะวาเลนท์/โพลีโบรมิเนต/โพลีโบรมิเนต)
  • CE : เป็นเครื่องหมายที่แสดงการรับรองจากผู้ผลิตว่าสินค้ามีคุณสมบัติตามข้อกำหนดด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรป
  • CCC : เป็นมาตรฐานชี้วัดคุณภาพของเครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของประเทศจีน ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วปลอดภัย ได้รับการตรวจสอบและได้ใบรับรองเรียบร้อยแล้ว
  • และยังรับรองว่าเป็นสินค้าที่สามาระนำไปรีไซเคิลต่อได้ครับ ถือว่าช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้ดีครับ

  การทำความสะอาดและดูแลรักษาเพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน

  • ควรใช้งานในที่อากาศถ่ายเทได้ เพื่อลดการสะสมความร้อนที่ตัวอุปกรณ์ครับ
  • หลีกเลี่ยงการใช้งานในที่ที่ความชื้นสูง หรือบริเวณที่เปียกแฉะ
  • ก่อนใช้งานทุกครั้งให้ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์
  • ขณะเสียบใช้งานหรือถอดออก ควรจับที่ตัวบอดี้ เพื่อป้องกันสายไฟหักหรือขาดครับ
  • หมั่นเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ ไม่ควรใช้สารเคมีใดๆครับ เพราะตัวหนังสือสกรีนอาจหลุดลอกได้ (และโปรดระมัดระวังเรื่องความชื้นของผ้าด้วยครับ ผ้าควรจะหมาดมากๆจนเกือบแห้งครับ)