Energea ENERPAC 8000mAh WPF Wireless Charge+PD18W (Wireless Fast Charge | 8000 mAh | PD18W | QC3.0)

425Degree Recommend

อีกหนึ่งตัวเลือกของแบตสำรองแบบชาร์จไร้สายคุณภาพสูง สเปคชาร์จเร็วมีมาให้แบบครบๆ ดีไซน์ทั้งเบาและบาง ออกแบบมาเพื่อการพกพาโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับคนที่มองหาแบตสำรองพกพาง่าย ติดตัวไว้ใช้ระหว่างวัน โดยมีขนาดพอๆ iPhone XS MAX เท่านั้น ถ้ามองหาแบตสำรองคุ้มๆ พกง่าย ขอแนะนำแบตสำรองรุ่นนี้จาก Energea ตอบโจทย์สุดๆ เลยครับ

• จากที่ทีมงาน 425degree ได้ลองใช้งานจริงจุดที่ชอบมากๆ คือฟังก์ชั่นการชาร์จเร็วที่ใส่มาให้แบบครบจริงๆครับ ทั้งชาร์จเร็วแบบใช้สาย PD/QC 3.0 และยังชาร์จเร็วแบบไร้สายได้อีกด้วย
• ดีไซน์ที่มีความกะทัดรัด แถมมีความโค้งมนถือง่าย น้ำหนักเบา พร้อมกับระบบชาร์จเร็วแบบไร้สาย ทำให้มีความคล่องตัวเวลานำไปใช้งานนอกสถาน พกง่าย ใช้งานง่าย สะดวกมากๆครับ

Highlight

• Energea Enerpac 8000WPF แบตสำรองรุ่นนี้มีระบบ Dual in put คือมีช่องชาร์จไฟเข้าทั้งแบบ Micro-USB และ USB-C ทำให้สะดวกในการชาร์จไฟเข้าแบตสำรอง โดยที่เรานำสายชาร์จเก่าที่มีมาใช้ด้วยกันได้ ไม่จำเป็นต้องไปหาซื้อสายชาร์จใหม่ และในกล่องก็ยังแถมสาย USB-C มาให้ด้วยครับ

Product Detail รายละเอียดสินค้า

• แบรนด์ : ENERGEA จาก Hongkong
• ชื่อรุ่น : ENERPAC 8000WPF
• วัสดุ : พลาสติก ABS
• สี : Black(ดำ)
• ขนาด : กว้าง 7.57 ซม. ยาว 16.16 ซม. หนา 1.3 ซม.
• น้ำหนัก : 192 กรัม
• Cell Battery เป็นแบบ Highest Quality Li-Polymer ข้อดีคือ เก็บประจุไฟได้ดี และทนต่อความร้อนสูง
• มาพร้อมความจุ 8000 mAh มีช่อง Output ชาร์จออกพร้อมกันได้ถึง 3 เครื่อง
• รองรับการชาร์จเร็ว PD สูงสุดถึง 18W ชาร์จได้ทั้ง iPhone และ iPad Pro
• มาพร้อมเทคโนโลยี QC3.0/QC2.0 ชาร์จเร็วสำหรับ smartphone android
• ระบบชาร์จเร็วแบบไร้สาย ได้สูงสุดถึง 10W ในระบบ android และ ได้สูงสุดถึง 7.5W ใน iPhone
• แบตสำรองรองรับการชาร์จเร็วทั้งชาร์จเข้า (โดยที่ใช้คู่กับอแดปเตอร์ 5V/9V 2A) และชาร์จออก
• มีไฟสถานะ 4 ดวง ซึ่ง 1 ดวง หมายถึง ปริมาณแบตประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ สามารถเช็คปริมาณแบตได้ด้วยการกดปุ่มด้านข้าง 1 ครั้ง
• เมื่อชาร์จเข้าแบตสำรองเต็ม ไฟ LED จะติดค้างทั้ง 4 ดวง จนกว่าจะมีการถอดสายชาร์จออกครับ
• รวมถึงการชาร์จเข้ากับอุปกรณ์อื่นๆ จนเต็ม ไฟที่แบตสำรองจะไม่ดับอัตโนมัติจนกว่าจะถอดสายออกเช่นกันครับ
• เมื่อมีการชาร์จแบบเร็ว ไฟสถานะดวงขวาสุดจะเปลี่ยนจากสีฟ้าเป็นสีเขียว
• วัสดุมีผิวสัมผัสเป็นแบบด้าน ช่วยให้ถือใช้งานได้อย่างถนัดมือ
• สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จไฟผ่าน USB ได้ เช่น กล้องถ่ายรูป/Smartphone/Tablet/ลำโพงพกพา
• ด้านหลังของแบตสำรองจะเป็นสกรีนข้อมูลเชิงเทคนิคมาให้ เพื่อการใช้งานที่ถูกต้องครับ
• มาพร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน ทั้งป้องกันการจ่ายไฟเกิน, ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร และป้องกันความร้อนเกินปริมาณ
• ***iOS เวอร์ชั่น 13.1 ขึ้นไป จะชาร์จเร็วไร้สายช้าลงครับ จากที่เคยจ่ายไฟ 7.5W จะปรับเหลือความเร็วที่ประมาณ 5W ซึ่งจะใช้เวลาในการชาร์จเต็ม 100% ช้าลงประมาณ 20-30 นาทีครับ ซึ่งสาเหตุไม่ได้เป็นอาการเสียของตัวแท่นชาร์จครับ แต่อาจเป็นการปิดกั้นสเปคจากทาง Apple ที่เกิดจากการอัพเดท iOS ซึ่งเท่าที่ 425 ได้ทดสอบ พบว่าเป็นตั้งแต่ ios 13.1 ขึ้นไปครับ และเป็นกับแท่นชาร์จทุกรุ่นทุกแบรนด์ที่ 425 มีในร้านครับ ข้อมูลนี้อัพเดท ณ วันที่ 8/11/19 ครับ
• ***แบตสำรองรุ่นนี้มีระบบชาร์จอัตโนมัติครับ เวลาเสียบสายทุกแบบ ยกเว้นระบบชาร์จไร้สายที่ต้องมีการกดปุ่มที่ตัวแบตสำรองทุกครั้งครับ
• ***ถ้ามีการชาร์จแบบใช้สายแล้วจะทำการชาร์จแบบไร้สายเพิ่มอีก 1 อุปกรณ์ ต้องมีการกดปุ่มที่ตัวแบตสำรองด้วยนะครับ
• ***การเสียบใช้งานเพื่อชาร์จเร็วแบบ QC3.0 โดยที่การชาร์จเร็วจะเริ่มทำงานเมื่อหน้าจอดับลง สังเกตได้จากไฟสถานะที่จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว 1 ดวงเพื่อแสดงสถานะชาร์จเร็วครับ
• ***การชาร์จเร็วแบบ PD ใน iPhone (รุ่นที่รองรับ) ต้องใช้งานร่วมกับสาย USB-C to Lightning ด้วยนะครับ (ต้องเป็นสายที่ได้มาตรฐาน MFI เท่านั้นนะครับ)
• ***ถ้าทำการเสียบชาร์จมากกว่า 1 เครื่องขึ้นไป ช่องชาร์จออกจะปรับกำลังไฟเป็นการชาร์จปกติทุกช่องครับ
• ***สามารถชาร์จอุปกรณ์พร้อมกันได้ถึง 3 เครื่อง แต่กระแสไฟจะจ่ายแบบชาร์จปกตินะครับ
• ***การชาร์จเร็วระบบไร้สายในครั้งแรกไฟสถานะจะมีการติดเป็นสีน้ำเงิน และดับลง ต้องรอสักครู่ถึงจะติดอีกครั้งเป็นสีเขียว ซึ่งเป็นอาการปกติของอุปกรณ์ ไม่ได้เกิดความเสียหายแต่อย่างใดครับ
• ***ดีไซน์ของ Power Bank รุ่นนี้ส่วนฐานอาจจะมีความโค้งกว่าปกติเล็กน้อย ในการวางใช้งานกับบางพื้นผิว อาจจะพบอาการวางแล้วไม่เรียบไปกับพื้นทั้งหมด ซึ่งสินค้าจะเป็นแบบนี้เหมือนกันทุกตัว ไม่ได้เกิดจากความเสียหายใดๆ ครับ
• ***ด้วยการเคลือบผิวแบตสำรองแบบด้านของรุ่นนี้ อาจทำให้เกิดรอยนิ้วมือ หรือรอยขนแมวได้โดยง่ายครับ
• ****จากที่ 425 ได้ลองใช้ เมื่อใช้งานร่วมกับ Smartphone Huawei ที่รองรับชาร์จไร้สาย เช่น P30 Pro จะมีบางจังหวะที่วางแล้วไม่ชาร์จ คาดว่าน่าจะเป็นจากตัวเครื่อง Huawei เอง ที่สามารถจับสัญญาณได้ค่อนข้างอ่อน และเป็นที่แบตสำรองไร้สายที่ Coil จ่ายไฟอาจเล็กกว่าแท่นชาร์จไร้สายแบบตั้งโต๊ะ ทำให้เวลาใช้ Smartphone Huawei ร่วมกับแบตสำรองไร้สายจึงจับสัญญาณกันยาก และเมื่อใส่เคสเข้าไปก็ยิ่งเพิ่มระยะระหว่างตัวเครื่องและแบตสำรอง ทำให้โอกาสชาร์จติดยากขึ้นกว่าเดิมครับ
• ***สำหรับระบบชาร์จเร็ว Quick Charge จะรองรับใน Samsung รุ่นที่มีชิปเซ็ทของ Qualcomm เท่านั้น ดังนั้นเครื่องที่จำหน่ายในไทยส่วนใหญ่ที่เป็นชิปเซ็ท Exynos จะไม่รองรับชาร์จเร็ว Quick Charge โดยตรง แต่สามารถเสียบชาร์จเพื่อจ่ายไฟแบบเร็วได้ด้วยระบบของ Samsung เองที่ชื่อว่า Adaptive Fast Charge ครับ

Gallery รูปถ่ายจากสินค้าจริง

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• Energea Enerpac 8000WPF x 1
• สายชาร์จ USB-A to Type-C (ความยาว 25 ซม.) x 1
• คู่มือการใช้งาน x 1

ข้อมูลเชิงเทคนิค

• Energea Enerpac 8000WPF 8000 mAh
• Battery: Li-Polymer
• Capacity: 8000 mAh
• Total Wattage: 29.6Wh
• Input Micro-USB: 5V/2A, 9V/2A (Fast Charge)
• Input USB-C: 5V/2A, 9V/2A (PD/QC2.0)
• Output 1 (USB3.0): 5V/3A, 9V/2A, 12V/1.5A (QC3.0)
• Output 2 (USB-C): 5V/3A, 9V/2A, 12V/1.5A (PD2.0/QC3.0)
• Output 3 (Fast Wireless Charge): 5V/2A (5W/7.5W/10W)
• Power Indicator: LED 4 ดวง (ไฟสีฟ้าทั้งหมด = ชาร์จปกติ, ไฟสีเขียวดวงขวาสุดติด 1 ดวง=ชาร์จเร็ว ***แสดงผลเหมือนกันทั้งการชาร์จเข้าและชาร์จออก***)

อุปกรณ์ที่รองรับการใช้งาน

รองรับการชาร์จผ่านช่อง USB-A Output

• iPhone XS Max
• iPhone XS
• iPhone XR
• iPhone X
• iPhone 8/8 Plus
• iPhone 7/7 Plus
• iPhone 6s/6/6s Plus/6Plus
• iPhone SE/5s/5
• Samsung Galaxy S9/S9 Plus
• Samsung Galaxy S8/S8 Plus
• Samsung Galaxy Note 9/8/FE/5
• และอุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับการจ่ายไฟผ่านช่อง USB

รองรับการชาร์จผ่านช่อง USB-C

• iPhone XS Max
• iPhone XS
• iPhone XR
• iPhone X
• iPhone 8/8 Plus
• iPhone 7/7 Plus
• iPhone 6s/6/6s Plus/6Plus
• iPhone SE/5s/5
• Samsung Galaxy S9/S9 Plus
• Samsung Galaxy S8/S8 Plus
• Samsung Galaxy Note 9/8/FE/5
• Samsung Galaxy Tab Pro S
• Huawei Mate 20/ Mate 20 Pro
• Huawei Mate 10/Mate 10 Pro
• Huawei P20/P20 Pro
• Nintendo Switch (***ชาร์จได้ขณะที่ไม่ได้ใช้งาน***)
• และอุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับการจ่ายไฟผ่านช่อง USB-C

รองรับการใช้งาน Fast Wireless Charger

รองรับกำลังไฟ 7.5W

• iPhone XS Max
• iPhone XS
• iPhone XR
• iPhone X
• iPhone 8/8 Plus

รองรับกำลังไฟ 10W

• Samsung Galaxy Note 9/8/FE/5
• Samsung Galaxy S9/S9 Plus
• Samsung Galaxy S8/S8 Plus
• Samsung Galaxy S7/S7 Edge
• Samsung Galaxy S6 Edge Plus

รองรับกำลังไฟ 5W

• อุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับการจ่ายไฟแบบไร้สายระบบ Qi Wireless Charger

การทดลองวัดค่าการจ่ายไฟ

• ทดลองการชาร์จไฟให้กับ iPhone XS Max ผ่านช่อง USB-C ผลที่ได้คือจ่ายไฟอยู่ที่ 8.78V/1.98A หรือ 17.39Wซึ่งเป็นการชาร์จตามมาตรฐาน PD เลยครับ

• ทดลองการชาร์จไฟให้กับ Samsung Galaxy S10+ ผ่านช่อง USB-C ผลที่ได้คือจ่ายไฟอยู่ที่8.83V/1.62A หรือ 14.39W ซึ่งขึ้นชาร์จด่วนที่หน้าจอตรงตามสเปคครับ

• ทดลองการชาร์จไฟให้กับ Samsung Galaxy S10+ ผ่านช่อง USB3.0 (ช่องสีเขียว) ผลที่ได้คือจ่ายไฟอยู่ที่ 8.69V/1.62A หรือ 14.16W ซึ่งขึ้นชาร์จด่วนที่หน้าจอตรงตามสเปคครับ

• และทดลองฟังก์ชั่นการชาร์จเร็วแบบไร้สายกับ Samsung Galaxy S10+ ผลที่ได้คือขึ้นคำว่า Fast Charging Wirelessly ตรงตามสเปคเช่นเดียวกันครับ

• ***หากทำการชาร์จพร้อมกันตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไป ช่องชาร์จออกจะปรับกำลังไฟลดลงเป็นการชาร์จปกติทุกช่องครับ

สรุปเรื่องการจ่ายไฟ

• การเสียบชาร์จมากกว่า 1 เครื่อง ช่อง Output USB-A และระบบชาร์จไร้สาย จะปรับกระแสไฟเป็นการชาร์จแบบปกติ ไม่เป็นการชาร์จเร็ว ยกเว้นช่อง USB-C ที่ยังคงเป็นการชาร์จเร็วอยู่ และไฟสถานะจะไม่เปลี่ยนเป็นสีเขียวครับ
• ถ้าทำการเสียบชาร์จ 2 เครื่อง ช่อง Output USB-A จะปรับกระแสไฟเป็นการชาร์จแบบปกติ ไม่เป็นการชาร์จเร็ว ยกเว้นช่อง USB-C ที่ยังคงเป็นการชาร์จเร็วอยู่ และไฟสถานะจะไม่เปลี่ยนเป็นสีเขียวครับ
• ถ้ามีการชาร์จแบบใช้สายแล้วจะทำการชาร์จแบบไร้สายเพิ่มอีก 1 อุปกรณ์ ต้องมีการกดปุ่มที่ตัวแบตสำรองด้วยนะครับ
• หากชาร์จอุปกรณ์พร้อมกันมากกว่า 2 เครื่องขึ้นไป จะทำให้ฟังก์ชั่นการชาร์จเร็วเช่น PD3.0/QC3.0 ไม่ทำงานครับ และจะจ่ายไฟแบบเฉลี่ยที่ประมาณช่องทางละ 5V/1A
• ถ้าทำการชาร์จแบบไร้สาย ต้องมีการกดปุ่มที่ตัวแบตสำรองทุกครั้งที่เริ่มต้นใช้งานครับ โดยที่การชาร์จเร็วระบบไร้สายในครั้งแรกไฟสถานะจะมีการติดเป็นสีน้ำเงิน และดับลง ต้องรอซักครู่ถึงจะติดอีกครั้งเป็นสีเขียว ที่เป็นแบบนี้ คือระบบการตรวจสอบระบบชาร์จเร็วไรสายนะครับ ไม่ใช่แบตสำรองมีการเสียแต่อย่างใด
• กล้องทั่วไปหรืออุปกรณ์อื่นๆ ให้ดูตามปริมาณไฟที่ใช้นะครับ (ดูได้ที่คู่มืออุปกรณ์) ถ้าเป็น 1A ให้คิดเหมือน Smartphone ถ้าเป็น 2A ให้คิดเป็น Tablet ครับ
• ***ปริมาณไฟที่ชาร์จได้จะขึ้นอยู่กับคุณภาพของสายชาร์จ และอุปกรณ์ที่นำมาเสียบชาร์จด้วยนะครับ***

สำหรับช่อง USB 3.0

• หากเสียบชาร์จ iPhone/iPad/Tablet 1 เครื่อง จะชาร์จไฟแบบ QC3.0
• หากเสียบชาร์จ Smartphone (ที่รองรับ QC3.0) 1 เครื่อง จะจ่ายไฟแบบ QC3.0
• หากเสียบชาร์จอุปกรณ์ช่องอื่นๆ ร่วมด้วย (มากกว่า 1 เครื่อง) จะจ่ายไฟแบบปกติ

สำหรับช่อง USB-C

• หากเสียบชาร์จ iPhone/iPad (ที่รองรับ PD3.0) 1 เครื่อง จะจ่ายไฟแบบ PD3.0
• หากเสียบชาร์จ Smartphone (ที่รองรับ QC3.0) 1 เครื่อง จะจ่ายไฟแบบ QC3.0
• หากเสียบชาร์จ iPhone/iPad/Smartphone/Tablet (ที่ไม่รองรับ PD3.0,QC3.0) เครื่องชาร์จความเร็วปกติครับ

สำหรับระบบชาร์จเร็วแบบไร้สาย (Fast Wireless Charger)

• หากชาร์จ iPhone/Smartphone (ที่รองรับ Fast Wireless Charger) 1 เครื่อง จะจ่ายไฟแบบ Fast Wireless Charge (Android 10W/ iPhone 7.5W)หากเสียบชาร์จอุปกรณ์ช่องอื่น ๆ ร่วมด้วย (มากกว่า 1 เครื่อง) จะจ่ายไฟแบบปกติ

การใช้งานโดย 425degree

• *การทดสอบโดยการชาร์จทิ้งไว้เฉยๆ การใช้งานจริงจะขึ้นอยู่กับการเล่นโทรศัพท์ระหว่างชาร์จ แสงหน้าจอ Notification ด้วยซึ่งอาจทำให้รอบน้อยกว่าที่แจ้งในที่นี่ได้ครับ *(เช่น 10000 mAh ตัวแบตจะมีไฟส่วนหนึ่งที่สูญเสียไปที่ตัวอุปกรณ์ระหว่างที่ชาร์จประมาณ 30% และจะมีอีกส่วนหนึ่งที่สูญเสียไฟไปในการแปลงไฟเข้าสู่เครื่องโทรศัพท์ ดังนั้นเวลาชาร์จจริงจะไม่มีแบตสำรองตัวไหนชาร์จได้เต็ม 10000 mAh เต็มตาม Spec ครับ)
• iPhone XS Max (3,174 mAh) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• iPhone XS (2,658 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• iPhone XR (2,942 mAh) = ประมาณเกือบๆ 2 รอบ
• iPhone X (2716 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• iPhone 8 Plus (2675 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• iPhone 8 (1821 mAh) = ประมาณ 3 รอบ
• iPhone 7 Plus (2900 mAh) = ประมาณเกือบๆ 2 รอบ
• iPhone 7 (1960 mAh) = ประมาณเกือบๆ 3 รอบ
• iPhone 6 Plus/6s Plus (2915 mAh) = ประมาณเกือบๆ 2 รอบ
• iPhone 6/6s (1810 mAh) = ประมาณ 3 รอบ
• Samsung Galaxy S10+ (4100 mAh) = ประมาณ 1 รอบ
• Samsung Galaxy S10 (3400 mAh) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• Samsung Galaxy S10e (3100 mAh) = ประมาณเกือบๆ 2 รอบ
• Galaxy Note 9 (4000 mAh) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• Galaxy Note 8 (3300 mAh) = ประมาณเกือบๆ 2 รอบ
• Galaxy S8 (3000 mAh) = ประมาณเกือบๆ 2 รอบ
• Galaxy S8 Plus (3500 mAh) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• Galaxy S7 (3000 mAh) = ประมาณเกือบๆ 2 รอบ
• Galaxy S7 Edge (3600 mAh) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• Galaxy S6 (2550 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• Galaxy S6 Edge (2600 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• iPad mini 4 (5124 mAh) = ประมาณ 1 รอบ
• iPad Air 2 (7340 mAh) = ประมาณเกือบๆ 1 รอบ
• iPad Pro (10307 mAh) = ประมาณ ครึ่งรอบ
• Huawei Mate 20X (5000 mAh) = ประมาณ 1 รอบ
• Huawei Mate 20 Pro (4200 mAh) = ประมาณ 1 รอบ
• Huawei Mate 20 (4000 mAh) = ประมาณเกือบ 1 รอบครึ่ง
• Huawei P20 Pro (4000 mAh) = ประมาณเกือบ 1 รอบครึ่ง
• Huawei P20 (3400 mAh) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง

เงื่อนไขการรับประกัน

• ทางร้าน 425degree รับประกันสินค้าภายใน 1 ปีในความเสียหายที่เกิดจากการผลิตและความเสียหายที่ว่านั้นไม่รวมถึงการกระทำของผู้ใช้งานเองหรือการใช้งานที่ผิดวิธี เช่น กรณีทำตกกระแทกจนอุปกรณ์เสียหาย, เกิดรอยบุบ/รอยถลอกบนตัวอุปกรณ์ หรืออื่นๆที่ไม่ได้เป็นผลมาจากปัญหาการผลิตจากทางโรงงาน โดยลูกค้าจะต้องเก็บกล่องบรรจุภัณฑ์เอาไว้เพื่อใช้ยืนยันในการขอรับประกันครับ
• อุปกรณ์เสริมที่แถมมาในกล่อง (สายชาร์จ) จะรับประกัน 7 วันครับ
• ***และเพื่อเป็นการรักษาสิทธิ์ของลูกค้า หลังจากที่ได้รับสินค้า แนะนำให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ของทางแบรนด์ Energea ไว้ได้เลยครับ(คลิกที่นี่) ส่วนขั้นตอนต่างๆในการเคลมสินค้าให้แจ้งผ่านทาง 425Degree ปกติครับ
• ***แถบ Serial Number ที่แปะมาบนแบตสำรอง จะลอกและจางได้ง่าย หากต้องการลงทะเบียนแนะนำให้ทำทันที ตั้งแต่ได้รับสินค้าครับ
• ***สำหรับการชาร์จเข้าแบตสำรอง แนะนำว่าควรใช้หัวชาร์จที่จ่ายไฟได้ตรงตามสเปคที่ระบุมาเท่านั้นนะครับ หากใช้หัวชาร์จที่จ่ายไฟน้อยกว่าที่สเปคระบุ จะทำให้ชาร์จเข้าได้ช้าและส่งผลเสียต่ออุปกรณ์ทำให้ใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หากลูกค้าใช้หัวชาร์จที่ไม่ตรงสเปค แล้วอุปกรณ์เกิดความเสียหาย กรณีนี้จะไม่รวมอยู่ในการรับประกันนะครับ

การรับรองมาตรฐานและความปลอดภัย

• ผ่านการรับรองมาตรฐาน CE, FCC, RoHS certifications
• CE : เป็นเครื่องหมายที่แสดงการรับรองจากผู้ผลิตว่าสินค้ามีคุณสมบัติตามข้อกำหนดด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรป
• FCC : อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์/คอมพิวเตอร์ทุกชิ้นก่อนที่จะนำไปขายในสหรัฐฯจะต้องได้รับการรับรองจาก FCC (เป็นองค์กรของรัฐบาลสหรัฐฯ) เพื่อให้ตรงกับข้อจำกัดทางกฎหมายเกี่ยวกับการเป็นตัวนำและการกระจายคลื่นวิทยุ
• RoHS : เป็นมาตรฐานเพื่อสิ่งแวดล้อม กำหนดให้ชิ้นส่วนทุกอย่างที่ประกอบเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ตั้งแต่แผงวงจร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงสายไฟ จะต้องมีสารที่เป็นอันตรายไม่เกินไปกว่าที่กำหนด (ตะกั่ว/ปรอท/แคดเมียม/เฮกซะวาเลนท์/โพลีโบรมิเนต/โพลีโบรมิเนต)
• และยังรับรองว่าเป็นสินค้าที่สามาระนำไปรีไซเคิลต่อได้ครับ ถือว่าช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้ดีครับ
• มีระบบตัดวงจรไฟอัตโนมัติหากเกิดความร้อนเกินกว่ากำหนด ช่วยควบคุมปริมาณการจ่ายไฟและไม่ทำให้เกิดการกระชากไฟ ปลอดภัยสำหรับชาร์จอุปกรณ์

การทำความสะอาดและดูแลรักษา

• ควรใช้งานในที่อากาศถ่ายเทได้ เพื่อลดการสะสมความร้อนที่ตัวอุปกรณ์ครับ
• หลีกเลี่ยงการใช้งานในที่ที่ความชื้นสูง หรือบริเวณที่เปียกแฉะ
• ก่อนใช้งานทุกครั้งให้ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์
• ขณะเสียบใช้งานหรือถอดออก ควรจับที่ตัวบอดี้ เพื่อป้องกันสายไฟหักหรือขาดครับ
• หมั่นเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ ไม่ควรใช้สารเคมีใดๆครับ เพราะตัวหนังสือสกรีนอาจหลุดลอกได้ (และโปรดระมัดระวังเรื่องความชื้นของผ้าด้วยครับ ผ้าควรจะหมาดมากๆจนเกือบแห้งครับ)