Creative Outlier Gold

หูฟัง TWS กันนํ้า IPX5 รองรับ aptX

แบตฯรถถัง ระบบจำลองเสียงโอบล้อม Super X-FI !

425° Recommend

“Creative Outlier Gold” หูฟัง true wireless จากแบรนด์ที่เราต่างคุ้นเคย !

• เราอาจจะเคยเห็นหรือเคยใช้งานลำโพงคอมพิวเตอร์จากแบรนด์ Creative บริษัทผลิตเครื่องเสียงที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนานครับ
• ทำเอาตกใจมากกับประสบการณ์การใช้งานที่ได้จาก Crative Outlier Gold เพราะมันมีสเปคและฟีเจอร์การใช้งานที่ครบครัน ตอบโจทย์การใช้งานตั้งแต่หยิบหูฟังขึ้นมาสวมใส่ตลอดไปจนถึงฟีเจอร์ภายในที่มีให้เล่นกันอย่างมันส์แน่นอนครับ

ตัวหูฟังสวมใส่กระชับ ล็อกหูแน่น เหมือนหูฟังแบรนด์ดังรุ่นเรือธง

• ตัวหูฟังเรียกว่ามีขนาดและรูปร่างที่ชวนให้นึกถึงหูฟังไร้สายฯเจ๋งๆอย่าง Jabra Elite 65T หรือ 75T เลยครับ
• ทันทีที่ทีมงานลองสวมใส่ ก็สามารถบอกได้เลยว่ามันใส่แน่น ล็อกหู อีกทั้งยังสวมใส่สบายเหมือนใส่ Jabra Elite รุ่นสูงๆยังไงอย่างงั้นเลยครับ
• ด้วยความกระชับของการสวมใส่ ทีมงานสามารถใส่วิ่งได้โดยที่ไม่ต้องกลัวหูฟังหลุดหล่น แต่ถ้าใครเป็นคนเหงื่อออกเยอะๆแล้วเหงื่อไหลไปโดนตัวหูฟังก็อาจมีเสียความกระชับเล็กน้อย แต่พอใช้มือขยับๆเสริมความกระชับ ก็สามารถใส่วิ่งต่อได้อย่างไร้กังวลครับ

ทีเด็ดอยู่ที่แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานตลอดวัน (10 ชั่วโมงอัพ)..

• ทาง Creative เค้าเคลมว่าตัวหูฟังสามารถใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 14 ชั่วโมงต่อการชาร์จเพียง 1 ครั้ง โห..เยอะกว่าหูฟังบางรุ่นที่รวมชั่วโมงหูฟังและกล่องชาร์จแล้วซะอีกครับ
• แต่เท่าที่ทีมงานทดสอบ ทีมงานใช้ฟังเพลงได้ถึง 11-12 ชั่วโมงที่ Volume ระดับ 70-80% ถึงแม้จะใช้ได้ไม่ถึงกับที่เค้าเคลมไว้ แต่ใช้งานได้ถึง 11-12 ชั่วโมงนี่ก็ถือว่าเยอะมากๆแล้วครับ
• และยังสามารถชาร์จหูฟังกับกล่องชาร์จได้เกือบ 2 รอบ ด้วยความที่ลำพังหูฟังก็เล่นได้ 10 ชั่วโมงขึ้นอยู่แล้ว กล่องชาร์จฯที่ใช้ชาร์จหูฟังได้เกือบ 2 ครั้งก็ถือว่าเพียงพอมากๆครับ

สุ่มเสียงกระหึ่ม เสริมความละเอียดเสียงสูงสุดด้วย aptX

• ในเรื่องเสียงก็ทำเอาทีมงานตกใจพอสมควร เจ้า Creative Outlier Gold จะให้คาแรคเตอร์แบบ “เบสหนัก โทนอุ่น” หรือซาวด์แบบ U Shape ที่ให้แรงปะทะของเสียงกระเดื่องกลองและเสียงเบสที่หนักหน่วง มวลหนาฟังมันส์มากๆ ในขณะที่เสียงกลางจะให้โทนที่โปร่ง และเสียงแหลมที่นุ่มละมุนหู โดยที่ไม่เสียดหูเลยครับ
• มันยังรองรับ aptX หากใครอุปกรณ์รองรับ จะได้ฟังเพลงหรือ Playback เสียงอื่นๆในความละเอียดแบบ Lossless อีกทั้งยังมีสัญญาณที่นิ่ง ไม่กระตุกบ่อยอีกด้วยครับ

เทคโนโลยี Super X-Fi สแกนหน้า ใบหู และจำลองเสียงเหมือนฟังเพลงจากลำโพงโฮมเทียเตอร์ระบบ 7.1 !

• อันนี้ไม่พูดไม่ได้เลยสำหรับเทคโนโลยีเฉพาะตัวของทาง Creative ที่เรียกว่า Super X-Fi ที่จะใช้ application ในการตรวจวัดใบหน้า ขนาดหูฟังทั้งสองข้าง แล้วนำมาคำนวณปรับจำลองเสียงให้เหมาะสมกับสรีระของเรา ซึ่งทีมงานลองแล้ว บอกเลยว่า “ดีมากครับ”
• เมื่อเปิดใช้ระบบ Super X-Fi แล้วพบว่า เวทีเสียงและมิติเสียงโอบล้อมเราอย่างเห็นได้ชัด คล้ายนั่งฟังเพลงอยู่ในห้องฟังเพลงที่ใช้ลำโพงแบบรอบทิศทางเลยทีเดียว การแยกเสียงดนตรีทำได้ห่าง มีมิติทั้งด้านลึกด้านกว้าง ให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกับการฟังเพลงแบบธรรมดามากๆ หากใครเป็นคนชอบมิติเสียงกว้างๆ โอบล้อมรอบตัวและมีความสมจริงคล้ายฟังจากลำโพงที่ให้เสียงรอบทิศทาง ต้องชอบแน่นอนครับ
• แต่ข้อเสียของระบบนี้คือ มันสามารถใช้งานได้เฉพาะไฟล์เพลงที่อยู่ในโทรศัพท์เราเท่านั้น หากใครใช้บริการ Music Streaming อย่าง Joox,Spotify หรือ Tidal จะไม่สามารถใช้งานระบบ Super X-FI ได้ ซึ่งน่าเสียดายอย่างยิ่งครับ
• อีกทั้ง แอปพลิเคชั่นที่ใช้งานระบบนี้ยังมีปัญหากับอุปกรณ์ iOS ที่มองไม่เห็นไฟล์เพลงในตัวเครื่อง ซึ่งใครใช้ iOS แล้วอยากใช้ระบบนี้ก็ต้องรอเค้าออกตัวแก้ระบบละครับ แต่สำหรับผู้ใช้ Android สามารถใช้งานแอปฯ ลงเพลง และใช้ระบบ Super X-Fi ได้อย่างไม่มีปัญหาครับ

ฟีเจอร์อื่นๆครบครัน รองรับทั้งการใส่ออกกำลังกาย และใช้งานในชีวิตประจำวัน..

• มาพร้อมกับมาตรฐานการกันนํ้าระดับ IPX5 สามารถใส่ออกกำลังกายเหงื่อหนักปานกลางได้สบายๆ บวกกับการสวมใส่ที่กระชับ ทำให้มันเป็นหูฟังออกกำลังกายที่ใช้งานได้ดีตัวนึงเลยครับ
• การใช้งานหูฟังข้างเดียวก็สามารถใช้งานได้ทั้งข้าง L และข้าง R เพราะตอนเชื่อมต่อครั้งแรก หูฟังจะให้เราเชื่อมต่อหูฟังอีกข้างเก็บไว้ในอุปกรณ์ของเราด้วย เพื่อให้หูฟังแต่ละข้าง auto-pairing กับอุปกรณ์ของเราได้เองอย่างอิสระครับ
• สิ่งที่ทีมงานติเล็กน้อยคือ มันยังใช้การควบคุมเป็นแบบปุ่มกด แล้วพี่แกทำปุ่มมาซะแข็งเลย ทำให้เวลากดใช้งานหูฟังจะต้องออกแรงเล็กน้อย แต่สำหรับบางคนจะชอบหูฟังไร้สายที่ควบคุมแบบปุ่มกดมากกว่าสัมผัส เพราะระบบสัมผัสมันชอบ “ลั่นบ่อย” ซึ่งหากใครรับตรงนี้ได้ ก็สามารถใช้งานเจ้า Creative Outlier Gold ได้อย่างมีความสุขเลยทีเดียวครับ

สเปคล้นกล่อง แบตฯอึด เสียงกระหึ่มฟังสนุก ในราคาที่จับต้องได้

• เรียกว่า ด้วยสเปคระดับนี้ แบตฯอึด 10 ชั่วโมงอัพ และสุ่มเสียงทั้งแบบธรรมดาและแบบเปิดระบบจำลองเสียง Super X-FI ในราคาที่ถือว่าไม่แรงจนเกินไป ทำให้ Creative Outlier Gold เป็นหูฟังที่คุ้มค่า และน่าใช้อีกหนึ่งรุ่นสำหรับผู้ชอบหูฟังแบตฯอึด เบสหนัก กันนํ้าได้ และสวมใส่แน่นอย่าง Creative Outlier Gold ครับ

Product Highlight

• หูฟังทรง in-ear สวมใส่กระชับแน่น
• ควบคุมด้วยปุ่มกด ควบคุมเพลง,ควบคุมการคุยโทรศัพท์,เพิ่มเสียง-ลดเสียง,เรียก Voice Assistant (Google & Siri)
• เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0
• รองรับ aptX
• ไดร์เวอร์ไดนามิคขนาด 5.6 มม. ไดาอาแฟมกราฟีน
• ระบบ Super X-FI สแกนใบหน้าและขนาดหูเพื่อจำลองเสียงให้เหมือนฟังเพลงจากลำโพงระบบ 7.1 (ใช้ร่วมกับแอปพลิเคชั่น SXFI)
• กันนํ้า IPX5
• ใช้งานหูฟังข้างเดียวได้อย่างอิสระ
• เล่นต่อเนื่องรวมสูงสุด 39 ชั่วโมง

Gallery :

รีวิวเสียง (เป็นความคิดเห็นของทีมงาน 425° นะครับ)

เพลง Pop

• ต้องเพลง “ลงใจ” จาก Bowkylion สิ่งแรกที่สัมผัสได้เลยคือเสียงคนร้องชัดเจน หวาน และซาวด์อวบอิ่มมากๆ หยอกล้อกับเสียงคอรัสที่ชัดเจน ฟังจับได้ง่ายมากๆ ตบจังหวะด้วยแรงปะทะจากกระเดื่องกลองที่ออกหนักพอดีหู เป็นลูกกระชับ เสียงคีย์บอร์ดให้รายละเอียดกรุ๊งกริ๊งดีมาก พอมาถึงท่อนโซโล่กีต้าร์ก็เนื้อเนียน นุ่ม ลื่นไหล และจัดจ้านอย่างพอดี เวทีเสียงกว้างมาก และแยกเสียงดนตรีได้มีระยะห่างมีมิติดีมากครับ

เพลง Rock

• ขอลองด้วยเพลง “Smell like teen Spirit “ จากวงกรันจ์ระดับพระเจ้า “Nirvana” ซึ่งเจ้า Creative Outlier Gold ก็ถ่ายทอดเสียงกีต้าร์ distortion ได้ดุดัน เกรี้ยวกราดจัดจ้านดีมาก ท่อนฮุคที่เสียงกีต้าร์พลุ่งพล่านนี่มวลเสียงหนักแน่นและมันส์มากๆ แต่ก็มีเสียงเสียดหูจากเสียงปลายของเสียงกีต้าร์และเสียงฉาบและแฉเล็กน้อย เวทีเสียงกว้างตามเพลง และมีมิติลึกตื้นที่รู้สึกได้ง่าย ตกใจมากที่หูฟังคาแรคเตอร์แบบนี้เอาอยู่กับเพลง Rock ด้วยแฮะ..ถ้า Rock เอาอยู่ Metal นี่ไม่ต้องห่วงเลยครับ

เพลง Electronic, Dubstep

• เพลง EDM และ Dubstep มันต้อง Skrillex ! ด้วยเพลง Bangarang พอเพลงขึ้นเท่านั้นแหละครับ เสียงกระเดื่องกลองหนักและเสียง deep bass ลงลึกมากๆ ให้ขนาดเบสที่ใหญ่แผ่ออกไปทางซ้ายขวา มวลเสียงอวบอ้วน หนักหน่วงสะใจ เสียงเครื่องสังเคราะห์ (Synth) เสียงแบบ Saw Tooth ออกละเอียดเป็นฝอยๆ รายละเอียดเสียงที่พุ่งไปพุุ่งมาอย่างบ้านคลั่งเจ้า Creative Outlier Gold ก็สามารถเก็บได้หมดทุกเม็ด เวทีเสียงกว้างมาก มิติลงลึก ใช้ฟังแนวนี้แล้วมันส์มากๆเลยครับ

การใช้งาน Creative Outlier Gold

การสวมใส่

1. หยิบหูฟังทั้งสองข้างออกจากกล่อง
2. ใส่หูฟังให้ถูกข้าง โดยข้าง L คือข้างซ้าย ส่วนข้าง R คือข้างขวา
3. ค่อยๆสอดหูฟังเข้าช่องหูแล้วหมุนหูฟังทวนเข็มนาฬิกาจนรู้สึกกระชับแน่นครับ

การเชื่อมต่อ Bluetooth ครั้งแรก

1. เปิด bluetooth ที่อุปกรณ์
2. หยิบหูฟังออกจากกล่องชาร์จฯ
3. ที่อุปกรณ์ ค้นหาชื่อ “Outlier Gold L หรือ Outlier Gold R” แล้วกดเชื่อมต่อครับ
4. รอสักครู่ จะมีหน้าต้างปรากฏขึ้น ให้เลือก “Pair” เป็นอันเสร็จสิ้นครับ
5. ในการเชื่อมต่อครั้งต่อไป Creative Outlier Gold จะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ก่อนหน้านี้โดยอัตโนมัติ ทันทีที่เปิด bluetooth ที่อุปกรณ์และหยิบหูฟังทั้งสองข้างออกจากกล่องชาร์จฯครับ

การเชื่อมต่อ Bluetooth กับอุปกรณ์ใหม่

1. ขณะหูฟังเปิดอยู่ กดปุ่มที่หูฟังข้าง R ค้างไว้จนเห็นไฟ LED กระพริบสีแดงสลับนํ้าเงิน
2. เปิด bluetooth ที่อุปกรณ์ใหม่ ค้นหาชื่อ “Outlier Gold L หรือ Outlier Gold R” แล้วกดเชื่อมต่อเป็นอันเสร็จสิ้นครับ

การใช้งานหูฟังข้างเดียว (Mono Mode)

1. เชื่อมต่อหูฟังกับอุปกรณ์ตามวิธีปกติ
2. ขณะใช้งาน เก็บหูฟังข้างที่ไม่ต้องการใช้ลงกล่องชาร์จฯ
3. หากเก็บหูฟังข้างที่ไม่ต้องการใช้ลงกล่องชาร์จแล้วหูฟังอีกข้างถูกตัดการเชื่อมต่อ ให้รอสักครู่ ตัวหูฟังจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ให้ใหม่เองโดยอัตโนมัติครับ
4. หากต้องการกลับมาใช้หูฟังทั้งสองข้าง ให้หยิบหูฟังอีกข้างขึ้นมาใส่ หูฟังจะซิงค์จับคู่ L และ R ให้เองโดยอัตโนมัติครับ

การใช้งานแอปพลิเคชั่น SXFI App ในการฟังเพลง

1. โหลดแอปพลิเคชั่น SXFI App จาก Google Store
2. เข้าแอปฯแล้วทำตามขั้นตอนที่แอปฯระบุให้
3. ลงเพลงที่ท่านต้องการในโทรศัพท์ แล้วกดเล่นเพลงผ่านแอปฯ SXFi App
4. แตะที่โลโก้ Super X-Fi เพื่อเปิดระบบจำลองเสียงเป็นอันเสร็จสิ้นครับ

การควบคุมต่างๆ

• เปิดใช้งานหูฟัง : หยิบหูฟังทั้งสองข้างออกจากกล่องชาร์จฯ
• ปิดใช้งานหูฟัง : เก็บหูฟังทั้งสองข้างลงกล่องชาร์จฯ
• เรียก Voice Assistant (Google & Siri) : กดปุ่มหูฟังข้าง L หรือ R 2 ครั้ง
• เข้าโหมดจับคู่ (Manual) : กดปุ่มหูฟังข้าง L หรือ R ค้างไว้จนเห็นไฟกระพริบแดงสลับนํ้าเงิน

การควบคุมเพลง (ขณะอยู่ในโหมดเล่นเพลง)

• เล่นเพลง/หยุดเพลง : กดปุ่มหูฟังข้าง L หรือ R 1 ครั้ง
• ไปยังเพลงถัดไป : กดปุ่มหูฟังข้าง R 2 ครั้ง
• ย้อนไปเพลงก่อนหน้านี้ : กดปุ่มหูฟังข้าง L 2 ครั้ง
• เพิ่มเสียง : กดปุ่มหูฟังข้าง R ค้าง
• ลดเสียง : กดปุ่มหูฟังข้าง L ค้าง

การควบคุมการคุยโทรศัพท์ (ขณะอยู่ในโหมดคุยโทรศัพท์)

• รับสาย/วางสาย : กดปุ่มหูฟังข้าง L หรือ R 1 ครั้ง
• ปฏิเสธสาย : กดปุ่มหูฟังข้าง L หรือ R ค้างไว้ 1 วินาที

การทำ Factory Reset

1. ลบชื่อหูฟัง Creative Outlier Gold ออกจากอุปกรณ์ของท่านให้หมด
2. เก็บหูฟังทั้งสองข้างลงกล่องชาร์จฯ หูฟังจะกระพริบไฟสีแดงช้าๆ
3. ขณะที่หูฟังทั้งสองข้างอยู่ในกล่องชาร์จ ไฟสีแดงกระพริบช้าๆ กดปุ่มหูฟังทั้งสองข้างค้างไว้ประมาณ 5 วินาที จนเห็นไฟสีนํ้าเงินติดขึ้นแล้วดับไปครับ
4. หลังจากนั้น หยิบหูฟังทั้งสองข้างออกจากกล่องชาร์จ หูฟังทั้งสองข้างจะกระพริบไฟสีนํ้าเงินอย่างรวดเร็วครับ
5. ให้รอสักรู่ หูฟังข้าง L และ R จะทำการซิงค์คู่กันจนมันเข้าโหมด bluetooth เป็นอันเสร็จสิ้นครับ

การชาร์จแบตเตอรี่

หูฟัง

1. เก็บหูฟังทั้งสองข้างลงกล่องชาร์จ
2. ขณะชาร์จ หูฟังจะกระพริบไฟสีแดงช้าๆทั้งสองข้าง และไฟสีนํ้าเงินข้างกล่องชาร์จตรงตัวอักษร L และตัวอักษร R ขึ้นไฟสีนํ้าเงินค้าง
3. เมื่อชาร์จเต็มแล้ว ไฟสีแดงบนหูฟังทั้งสองข้างจะดับไป และไฟสีนํ้าเงินที่ตัวอักษร L และตัวอักษร R ข้างกล่องชาร์จจะดับไปเช่นกันครับ

กล่องชาร์จฯ

1. เสียบสายชาร์จ USB-C ที่มากับกล่องสินค้าเข้ากับ PC หรือ Laptop หรือเสียบชาร์จกับปลั๊กไฟบ้านผ่าน Adaptor 5V 1A ครับ
2. ขณะชาร์จ ไฟข้างกล่องชาร์จตรงสัญญลักษณ์ไฟฟ้าจะขึ้นไฟสีนํ้าเงินค้าง
3. เมื่อกล่องชาร์จฯชาร์จแบตเตอรี่เต็มแล้ว ไฟสีนํ้าเงินจะดับไปครับ

ไฟสถานะต่างๆ

หูฟัง