B&O E8 Sport 

Sport True Wireless รุ่นใหม่ล่าสุด จูนเสียงเฉียบกว่าเดิม 

(Degree : เน้น Sport แต่ยังพรีเมี่ยมครบครัน)

Product Highlight

• โทนเสียงพรีเมี่ยมคาแรคเตอร์ B&O (Bang & Olufsen Signature Sound)
• สามารถปรับแต่งเสียงหูฟังได้ผ่าน Bang & Olufsen app.
• ใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 7 ชั่วโมง + ชาร์จเคสได้อีก 3 ครั้ง รวมสูงสุด 30 ชั่วโมง 
• รองรับ Fast Charge 20 นาที ใช้งานได้สูงสุด 90 นาที
• กล่องชาร์จรองรับ Wireless Charge
• ดีไซน์แบบ Ergonomic Shape รองรับสรีระหู พร้อม Earfin(ซิลิโคนแบบครีบ) ให้สัมผัสที่กระชับมากขึ้นในการใส่ออกกำลังกาย
• มาตรฐานกันฝุ่นและน้ำที่ IP57
• Transparency Mode(โหมดดูดเสียงบรรยากาศรอบข้าง) สามารถปรับระดับเสียงรอบตัวได้ผ่าน Application
• ไมค์โครโฟนเบิ้ลเป็นข้างละ 2 ตัว ทำให้เสียงการสนทนาโทรศัพท์ ใสและชัดเจน
• Bluetooth 5.1 ทำให้การเชื่อมต่อไหลลื่นไม่มีสะดุด
• รองรับทั้ง aptX(เฉพาะรุ่นที่รองรับ) และ AAC(บน iOS) ให้คุณภาพเสียงที่เต็มอิ่ม
• กล่องชาร์จขนาดกระทัดรัด ดีไซน์พรีเมี่ยม พกพาสะดวก

425 Recommend

• ตัวกล่องชาร์จดีไซน์ด้วยรูปทรงที่พรีเมี่ยมทันสมัย ขนาดเล็กกระทัดรัด พกพาสะดวก
• ตั้งแต่ที่ได้สัมผัสกล่องชาร์จครั้งแรก ผมก็รู้สึกสึงความกระชับมือ แน่นหนาแข็งแรงเป็นพิเศษ ด้วยผิวสัมผัสของพลาสติกที่ให้ Texture เป็นชั้นๆ ดูสวยและไม่ลื่นมือ
• บอดี้หูฟังมีดีไซน์ที่ให้ Texture เป็นชั้นๆเหมือนบริเวณกล่องชาร์จ ช่วยให้หยิบขึ้นมาจากกล่องได้ง่ายขึ้น แม้ว่าตัวหูฟังจะมีแม่เหล็กที่ดูดไว้ได้แน่นหนา 
• สามารถส่วมใส่ได้กระชับพอดี (Fit) ด้วยดีไซน์หูฟังที่มาพร้อม Earfin (ซิลิโคนยางแบบครีบ)พร้อมความสบาย
• มีมาตรฐานกันน้ำและกันฝุ่นสูงถึง IP57 สามารถใส่ออกกำลังกายได้ กันน้ำลึก 1 เมตรในระยะเวลา 30 นาที
• โทนเสียงรุ่นนี้ถือว่าปรับจูนมาได้ดีมากๆ ให้โทนเสียงที่ฟังสนุกกว่ารุ่น B&O E8 3rd แต่โทนเสียงรวมๆยังมีความหรูหรา ตามสไตล์ B&O ครับ
• สำหรับใครที่ชอบฟังเสียงย่านสูงในโทนเสียงที่เป็นประกายจับต้องได้ง่าย ชอบฟังเครื่องดนตรีทองเหลืองจากชุดกลองหรือรายละเอียดชิ้นดนตรีย่านสูงแบบพริ้วๆ ตัวนี้ตอบโจทย์ได้ดีมากๆครับ
• แน่นอนครับการที่เป็นหูฟังออกกำลังกาย ระบบ Transparency Mode (ดูดเสียงภายนอก) ก็ควรมี และเจ้า B&O E8 Sport ก็สามารถดูดเสียงภายนอกเข้ามาได้ชัดเจน ใช้ออกกำลังกาย Outdoor หรือใช้ในชีวิตประจำวันได้สบายๆล่ะครับ
• แบตเตอรี่อึด สามารถใช้ต่อเนื่องสูงถึง 7 ชม. และชาร์จกับกล่องได้สูงสุด 30 ชม.
• มีโหมด Fast Charge กับหูฟัง
• กล่องชาร์จเป็น USB Type-C และรองรับการชาร์จไร้สาย Wireless Charge  
• การใช้งาน Netflix,Youtube ก็ไม่พบอาการดีเลย์ ช่วยเพิ่มอรรถรสในการชม Content ได้ดีมากๆครับ (ทดสอบกับ Samsung S20+,iPad Air3 และ iPad Pro 11)
• จากการลองเล่นเกมส์ยังพบอาการดีเลย์อยู่บ้างเล็กน้อย เสียงยังมาช้ากว่าไปเสี้ยววินาทีครับ แต่โดยรวมแล้ว ทีมงาน 425° ยังใช้เล่น PubG ในมือถือได้แบบไม่หงุดหงิดครับ
• สามารถใช้งานร่วมกับแอพฯ Bang & Olufsen ในโทรศัพท์มือถือ เพื่อตั้งค่าหูฟังเพิ่มเติมได้ เช่น ปรับระดับโหมดดูดเสียง,ปรับแต่งเสียงหูฟังตามโหมดต่างๆ,ดูสถานะแบตฯ

Product Specification 

• Driver : Electrodynamic , 5.7 mm. diameter
• Frequency Response : 20 - 20,000 Hz.
• Sensitivity : 107dB ±3dB
• Impedance : 16 Ohm
• Bluetooth : Bluetooth 5.1
• การใช้งานต่อเนื่อง : ฟังเพลงต่อเนื่องสูงสุด 7 ชม. + ชาร์จเคสได้อีก 3.5 ครั้ง
• ระยะเวลาในการชาร์จแบตฯหูฟัง : ประมาณ 2.5 ชม.
• ระยะเวลาในการชาร์จแบตฯเคสชาร์จ (USB-C) : 2 ชม.
• ระยะเวลาในการชาร์จแบตฯCharging Case (Qi Wireless) : 2.5 ชม.
• Quick charge : 20 นาที เล่นต่อเนื่องสูงสุด 1.5 ชม.
• มาตรฐานกันน้ำและฝุ่น Waterproof level (Iprating) : IP57 
• น้ำหนักหูฟังข้างละ : 6.4 กรัม 
• น้ำหนักเคสชาร์จ : 55 กรัม (เฉพาะเคสชาร์จ)

ประสบการณ์ใช้งานจริงจาก 425Audio

Sound Review (รีวิวเสียง)

เสียงเบส (Low Frequency)

• หากใครที่ชอบฟังเสียงย่านเบสกระชับๆ เนื้อเสียงใหญ่ ฟังเป็นธรรมชาติ 425° ต้องบอกเลยว่าเจ้า B&O E8 Sport ตอบโจทย์ได้แบบ “ไม่ผิดหวัง” การตอบสนองชิ้นดนตรีอย่างกระเดื่อง(Kick) ในเพลงประเภท R&B นั้นมีคาแรคเตอร์เสียงที่ได้คาแรคเตอร์ตามที่ควรจะเป็น เท่าที่ทาง 425° ลองเทสกับเพลง If I Ain’t Got You ก็ได้ความรู้สึกของเสียงกีตาร์เบส(E.bass) ที่เล่นควบคู่ไปกับกระเดื่อง(Kick Drum) ได้อย่างหนึบหนับ ช่วยให้การฟังจับต้องได้ง่ายๆ แต่ให้การฟังที่ไม่บวม ไม่อื้ออึงเกินไปครับ
• การฟังลิสต์เพลงแบบ Workout เช่นเพลง Girlfriend ของ Charlie Puth ตัวหูฟังก็ให้ความกระแทกกระทั้นกับร่างกายได้ในระดับที่ดีมาก สามารถตอบโจทย์เสียงย่านเบสกับชิ้นดนตรีในย่าน Deep Bass เช่นเสียง Syn Bass(เสียงเครื่องดนตรีสังเคราะห์) ได้แบบลูกใหญ่ แต่ให้การฟังที่นวล (โทนแพง) ไม่บวม เนื้อเสียงมีระดับที่เข้มข้นฟังชัด จับต้องง่ายดีครับ เรียกง่ายๆว่า ฟังกับเพลงสากลแล้วดูแพงขึ้นมาทันที

เสียงกลาง (Mid Frequency)

• เนื้อเสียงในย่านเสียงกลางจะมีบางกว่ากว่าเสียงจริงเล็กน้อย (ความเข้มข้นของเสียงอยู่ในระดับปานกลาง) การตอบสนองของเสียงร้องจะเน้นไปในโทนที่นุ่มกว่าปกติเล็กน้อย (เนื้อเสียงมีความเล็กกว่าธรรมชาติ) ยังไม่ถึงกับตอบโจทย์คนที่ชอบฟังชัดๆ สำหรับการฟังเสียงร้องในเพลงอย่างเพลง Royals ของ Lorde นั้นจะได้เสียงร้องที่บางลง แต่การฟังเสียงร้องนั้นยังสามารถจับต้องคำพูดได้ง่าย การให้คำร้องยังมีมิติของเสียงที่แยกออกมาจากชิ้นดนตรีได้ดีอยู่ครับ
• แต่สิ่งที่ทาง 425° ต้องชื่นชมกับหูฟัง B&O E8 Sport นั้นคือการให้เสียงชิ้นดนตรีอะคูสติกอย่าง กีตาร์โปร่ง,เครื่องลมทองเหลือง ที่ยังคงมีความคมชัด โดดเด่น ยกตัวอย่างเพลง I Don’t Know Why ของ Chris Jones ที่สามารถให้เสียงกีตาร์โปร่งได้แบบอวบอิ่ม Attack(ความกระแทก) ของเสียงจากการตบสายกีตาร์นั้นมีความคมชัด กระแทกกระทั้น ช่วยให้ฟังได้ระดับความดัง-เบาที่ดีมากๆครับ

เสียงแหลม (High Frequency)

• หากใครที่เคยฟัง “B&O E8 3rd Gen” ผ่านๆมาแล้วบ้าง ทีมงาน 425° ต้องบอกเลยว่า เจ้าตัวนี้มีความฉูดฉาดในการให้เสียงในย่านแหลมหรือเสียงย่านสูงที่เป็นประกายได้มากกว่าในระดับที่รู้สึกได้ชัดเจน เนื้อเสียงในย่านสูง สามารถตอบสนองเสียงชิ้นดนตรีอย่างเครื่องทองเหลือง (Hihat,Ride,Splash)จากชุดกลองได้อย่างเข้มข้น ให้ความรู้สึกการฟังเพลงในแบบสว่างๆ(Bright) ยังตัวอย่างในบทเพลง Jack Of Speed ของ Steely Dan ที่ให้มิติและน้ำหนักมือของมือกลองได้อย่างคมชัด มีความกระแทกที่ฟังได้แบบคมๆ แต่ไม่ถึงกับบาดหูครับ
• หากใครที่ชอบฟังเพลงหนักๆขึ้นมาหน่อย อย่างเพลง Pop-Rock,Classic Rock,Alternative รวมไปถึงแนวเพลงแบบ Metal ทาง 425° บอกเลยครับว่าเป็นแนวเพลงที่ Recommend(แนะนำ) เลยก็ว่าได้สำหรับหูฟังตัวนี้ เพราะหูฟังสามารถตอบสนองการฟังชุดกลองในเพลงสาดๆได้ละเอียดมากๆ การฟังลูกเล่นของมือกลองที่ตีฉาบแฉใบเล็กๆ(Splash) รวมถึงเสียงกีตาร์ไฟฟ้าที่เป็นเสียงแตก(Distortion) อย่างเพลง Satellites ของ Periphery นั้นสามารถแยกเสียงออกมาได้เป็นอย่างดี โดยที่เนื้อเสียงยังคงมีความเป็นธรรมชาติ ฟังนานๆได้ไม่เลี่ยนครับ

สรุป

• เสียงย่านเบส : ให้ความกระชับหนักแน่น มวลของเสียงขนาดใหญ่ แต่ไม่เบลอ
• เสียงย่านกลาง : โทนเสียงเนียนนุ่มฟังเพราะ แต่ยังคงชัดเจน
• เสียงย่านแหลม : เนื้อเสียงมีความฉูดฉาดกำลังคมชัด ฟังได้กว้างหลากหลายแนว

คะแนนจากทีมงาน 425° (ความคิดเห็นส่วนตัว)

• เสียงย่านเบส : 8/10 คะแนน 
• เสียงย่านกลาง : 8/10 คะแนน
• เสียงย่านแหลม : 9/10 คะแนน

*** เป็นการเปรียบเทียบความรู้สึกหลังใช้กับหูฟังที่อยู่ในเรทราคาที่ใกล้เคียงกัน ***

การคุยโทรศัพท์

• สามารถรองรับการคุยโทรศัพท์ในพื้นที่การใช้งาน Indoor (บ้าน,ออฟฟิต,BTS,ร้านกาแฟ) ได้สบายๆ ด้วยไมค์โครโฟนถึงข้างละ 2 ตัว ที่ช่วยโฟกัสเสียงพูดของผู้ใช้งานได้ดีมากกว่าหูฟังหลายๆตัวที่อยู่ในคลาสเดียวกันครับ 
• ส่วนเสียงภายในหูก็ได้ความชัดเจนทั้งสองข้าง ให้ความคมชัดใน “การคุยโทรศัพท์ที่ง่าย” ไม่ติดขัดสำหรับสถานที่แบบ Indoor ครับ
• ส่วนการใช้งาน Outdoor (ข้างถนน,ห้างสรรพสินค้าคนเยอะๆ,รถเมล์,รถ Tuk tuk) นั้นสามารถตอบสนองการใช้งานที่ยาก ทีมงาน 425° ยังไม่แนะนำครับ

การดูคลิปวิดิโอ Youtube,Netflix & เล่นเกม

• การใช้งาน Netflix,Youtube ไม่พบอาการดีเลย์ ช่วยเพิ่มอรรถรสในการชม Content ได้ดีมากๆครับ (ทดสอบกับ Samsung S20+,iPad Air3 และ iPad Pro 11)
• แต่จากการลองเล่นเกมส์ออนไลน์อย่าง PubG ก็ยังพบอาการดีเลย์อยู่บ้างเล็กน้อย เสียงยังมาช้ากว่าไปเสี้ยววินาทีครับ แต่โดยรวมแล้วทีมงาน 425° ยังใช้เล่นได้แบบไม่หงุดหงิด หากใครต้องการเล่นผ่อนคลายทีมงานถือว่าผ่านครับ

How To Use “B&O E8 Sport”

• *** หูฟังและกล่องชาร์จบรรจุแบตเตอรี่ชนิดชาร์จซ้ำได้ กรุณาใช้สายชาร์จที่แนบมาในกล่องและ Adapter หัวชาร์จที่ได้มาตรฐานเท่านั้นเพื่อความปลอดภัย ***
• *** การชาร์จกับแรงดันไฟที่สูงเกินมาตรฐาน อาจทำให้แบตเตอรี่เกิดความเสียหายได้ ***
• *** กรุณาชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อนการใช้งานครั้งแรก *** 
• *** กรุณาเช็ดและทำความสะอาดหูฟังให้แห้ง(ในกรณีที่หูฟังโดนละอองน้ำ) ก่อนที่จะนำหูฟังลงเคสชาร์จแบตเตอรี่ ***

การสวมใส่ (How To Wear)

• หูฟังทั้งสองข้างจะมีสัญลักษณ์ L (ข้างซ้าย) , R (ข้างขวา)
• สวมหูฟังทั้งสองข้างและบิดหูฟังกลับไปทางด้านหลังเพื่อเพิ่มความกระชับ
• *** ควรเลือกขนาดจุกหูฟังที่เหมาะกับสรีระร่างกาย ***
• *** หากสวมใส่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เสียงบรรยากาศภายนอกรั่วเข้าไปภายในหูของเราได้และอาจทำให้ไม่ได้ยินเสียงความถี่ย่านต่ำ (Low Frequency) ***

การใช้งานครั้งแรก

• หลังจากที่แกะ Package ให้นำหูฟังทั้งสองข้างใส่ลงไปในกล่องชาร์จ
• เมื่อหยิบหูฟังขึ้นมาจากกล่องชาร์จ หูฟังทั้งสองข้างจะเข้าสู่โหมดจับคู่โดยอัตโนมัติ
• สัมผัสที่หูฟังค้างทั้งสองข้างจนเกิดไฟสถานะสีสีน้ำเงินกระพริบเป็นจังหวะช้าๆ (Bluetooth Standby)
• เปิดบลูทูธบนอุปกรณ์และเลือกเชื่อมต่อบลูทูธกับ “Beoplay E8 Sport”

การเชื่อมต่อ Bluetooth ครั้งต่อไป

• หยิบหูฟังทั้งสองข้างออกจากกล่องชาร์จฯ
• เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ของท่าน
• หากอุปกรณ์ของท่านเคยเชื่อมต่อกับ “Beoplay E8 Sport” หูฟังและอุปกรณ์จะเชื่อมต่อกันเองโดยอัตโนมัติ

หากต้องการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น

• นำหูฟังออกจากกล่องชาร์จและสัมผัสหูฟังทั้งสองข้างประมาณ 5 วินาที จน “ไฟสถานะสีน้ำเงิน” ที่หูฟังเริ่มกระพริบเป็นจังหวะช้าๆ
• สามารถเชื่อมต่อบลูทูธได้ตามขั้นตอนปกติ โดยเลือกชื่อบลูทูธบนอุปกรณ์เป็น “Beoplay E8 Sport”ครับ

วิธีรีเซ็ทหูฟัง

• ตัดการเชื่อมต่ออุปกรณ์กับหูฟัง (Forget Device) บนอุปกรณ์ที่เคยเชื่อมต่อออกทั้งหมด
• หยิบหูฟังออกจากกล่องชาร์จทั้งสองข้าง
• “สัมผัสที่หูฟังทั้งสองข้างค้างไว้” ประมาณ 10 วินาที “จนไฟสถานะสีแดง” เริ่มกระพริบ
• หลังจากที่ไฟสีแดงดับลง หูฟังจะเริ่มเข้าสู่ขั้นตอน Pairing ใหม่อีกครั้ง โดยกลายเป็น “ไฟสถานะสีขาว” และ “สีน้ำเงิน” ตามลำดับ 
• สามารถเชื่อมต่อบลูทูธได้ตามขั้นตอนปกติ (เสร็จสิ้นขั้นตอนการรีเซ็ท) 

วิธีเปิดหูฟัง

• “เปิดโดยอัตโนมัติ” เมื่อหยิบขึ้นมาจากเคสชาร์จ

วิธีปิดหูฟัง

• “ปิดโดยอัตโนมัติ” เมื่อเก็บลงเคสชาร์จ

การควบคุมฟังก์ชั่นบริเวณหูฟัง

*** เป็นระบบสัมผัสทั้งสองข้าง ***

การควบคุมมัลติมีเดีย

• เล่น / หยุดเพลง : สัมผัส 1 ครั้งที่หูฟังข้างขวา 
• เล่นเพลงถัดไป : สัมผัส 2 ครั้งที่หูฟังข้างขวา 
• ย้อนไปเพลงก่อนหน้า : สัมผัส 2 ครั้งที่หูฟังข้างซ้าย  
• เพิ่มเสียง : สัมผัสค้างที่หูฟังข้างขวา
• ลดเสียง : สัมผัสค้างที่หูฟังข้างซ้าย
• เปิดโหมดรับเสียงภายนอก : สัมผัส 1 ครั้งที่หูฟังข้างซ้าย
• Voice Assistant : สัมผัส 3 ครั้งที่หูฟังข้างขวา

ควบคุมการรับโทรศัพท์ 

• รับสายโทรศัพท์ : สัมผัส 1 ครั้งที่หูฟัง (ได้ทั้งสองข้าง)
• วางสายโทรศัพท์ : สัมผัส 2 ครั้งที่หูฟัง (ได้ทั้งสองข้าง)
• ปฏิเสธสายโทรศัพท์ : สัมผัสเป็นเวลา 5 วินาที (ได้ทั้งสองข้าง)

การชาร์จแบตฯหูฟัง

*** บริเวณด้านหน้าเคสชาร์จจะมีไฟสถานะ led เพื่อแสดงถึงสถานะการชาร์จแบตฯของหูฟังทั้งสองข้าง ***

• เมื่อหูฟังทั้งสองข้างถูกเก็บลงกล่องชาร์จแบตฯ ไฟสถานะด้านหน้าเคสชาร์จจะเป็นสีส้ม เพื่อแสดงถึงสถานะว่า “กำลังชาร์จแบตฯหูฟัง”
• “ไฟสถานะสีส้ม” จะกลายเป็น “ไฟสถานะสีเขียว” เมื่อแบตฯหูฟังเต็มแล้ว

วิธีตรวจสอบสถานะแบตฯของกล่องชาร์จ

• *** สามารถตรวจสอบสถานะแบตฯ โดยการเปิดฝากล่องชาร์จ และดูที่ไฟสถานะหน้ากล่อง(หูฟังอยู่ภายนอกกล่องชาร์จ) ***
• ไฟสถานะสีเขียว : สามารถชาร์จหูฟังได้มากกว่า 1 ครั้ง
• ไฟสถานะสีส้ม : สามารถชาร์จหูฟังได้อีก 1 ครั้ง
• ไฟสถานะสีแดง : ควรชาร์จแบตฯ
• *** สามารถชาร์จหูฟังกับกล่องชาร์จได้สูงสุด 3.5 ครั้ง และใช้เวลาชาร์จหูฟังให้เต็มประมาณ 2 ชม. ***
• *** ขณะเสียบชาร์จไฟกับกล่องชาร์จและหูฟัง ไฟสถานะด้านหน้าเคสชาร์จจะเป็น “สีส้ม” และกลายเป็น “สีเขียว” เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็มแล้ว ***
• *** ใช้เวลาชาร์จประมาณ 2.5 ชม. สำหรับ  Wireless Charge ครับ ***

Product Include (อุปกรณ์ภายในกล่อง)

• หูฟัง Beoplay E8 Sport
• กล่องชาร์จ
• สายชาร์จ USB-C 
• ซิลิโคนหูฟัง 4 ไซส์ (XS, S, M L)
• ซิลิโคนแบบพิเศษ 1 คู่ ไซส์ M (ComplyTM tips)

การรับประกัน

• รับประกัน 1 ปี ภายใต้เงื่อนไขที่ทาง B&O กำหนด
• *** ในส่วนของอะไหล่,สายชาร์จ,เคสชาร์จ ที่มากับตัวหูฟังจะมีระยะประกันอยู่ที่ 7 วัน ***
• คุณลูกค้าต้องเก็บตัวสินค้าไว้ให้ครบไม่ว่าจะเป็น กล่อง/ซองแพคเกจจิ้ง, ตัวหูฟังทั้งสองข้าง, สายชาร์จ ,จุกหูฟังซิลิโคนทุกแบบ
• หากตัวสินค้าเสียหายจากขั้นตอนการผลิตของทางโรงงาน เปลี่ยนตัวใหม่ให้ทันที
• สินค้าต้องไม่มีตำหนิจากการใช้งานผิดวิธี, ตำหนิเสียหายจากการใช้งานของลูกค้า, ร่องรอยการกระแทก หรือการขูดขีดอย่างรุนแรง
• หากเป็นปัญหาจากการใช้งานของคุณลูกค้าไม่ว่าจะเป็น สายขาดใน, แจ็คหัก, ฝาเคสชาร์จหัก,ก้านหูฟังหัก , สายยางซิลิโคนของเคสชาร์จขาด, เปิดเสียงดังจนเสียงแตก, เบิร์นหูฟังผิดวิธี(ใชแอพเบิร์นหรือคลื่นเสียงประเภท Sine Sweep, Pink Noise, White Noise) จนหูฟังเสียหาย จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• ปัญหาการคุยโทรศัพท์แล้วเป็นเสียงที่คุยไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อเปิด-ปิดตัวหูฟังอีกรอบแล้วสามารถคุยได้ตามปกติ จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• อาการกระตุกของสัญญาณขณะใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณของอุปกรณ์ไร้สายเยอะๆ เช่นบนสถานีรถไฟฟ้า,ออฟฟิตขนาดใหญ่ ***เช่น กำลังฟังเพลงอยู่แล้วสัญญาณขาดหายแล้วกลับมาเป็นปกติ *** ซึ่งจะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• หากตัวหูฟังหรือชิ้นส่วนของกล่องชาร์จเสียหรือชำรุด ที่เกิดจากการใช้งานไปแล้วเกินกว่า 7 วัน จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• สินค้ารุ่นนี้มีมาตรฐานการกันน้ำที่ระดับ IP57 ซึ่งเป็นการกันละอองน้ำและเหงื่อจากการออกกำลังกายเท่านั้น หากสินค้าเสียหายจากการลงไปแช่น้ำหรือจากแรงดันน้ำสูงๆในทุกกรณี จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน