Auglamour AT200 

True Wireless เสียงดี ระดับ Budget ที่พร้อมสะเทือนทั้งวงการ

(Degree ตัวเล็ก หมัดหนัก เสียงดี เกินคุ้ม)

425 Recommend

• ถือว่าเป็นหูฟัง True Wireless ระดับ Budget ที่ทำให้วงการหูฟังไร้สายสะเทือน ได้ในระดับนึง ด้วยคุณภาพน้ำเสียง การดีไซน์ การใช้งานโดยรวม สามารถให้คุณภาพได้เกินคุ้มกับราคาไม่เกิน 1,000 บาท
• กล่องชาร์จและตัวหูฟัง มีรูปทรงที่ทันสมัย มาพร้อมขนาดที่เล็กกระทัด พกพาง่าย หยิบจับใช้งานง่าย โดยรวมให้การใช้งานที่พรีเมี่ยมกว่าราคา 
• วัสดุของกล่องชาร์จและหูฟังดูดีเกินราคามากๆ ให้ความรู้สึกที่แข็งแรง ทนต่อการกระแทกและละอองน้ำได้ในระดับนึง
• ตัวหูฟังถูกออกแบบตามโครงสร้างของหู ช่วยให้สวมใส่ใช้งานได้อย่างพอดีหู เก็บเสียงรั่วไหลทั้งภายนอกและภายในได้ดีมากๆ 
• ในขณะที่ใส่ใช้งานแล้ว แทบจะไม่ได้ยินเสียงรอบข้างเมื่อเปิดเพลงฟัง ช่วยให้เราโฟกัสงานและกิจกรรมส่วนตัวได้ดีมากยิ่งขึ้น
• หยิบหูฟังและเก็บหูฟังจากกล่องชาร์จได้ง่าย รวมไปถึงการเชื่อมต่อใช้งานกับโทรศัพท์มือก็สามารถใช้งานได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก พร้อมการเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติในครั้งถัดไป
• ระบบสัมผัสใช้งานง่าย สัมผัสโดนจุดควบคุมง่าย การควบคุมมีดีเลย์นิดหน่อยประมาณ 1 วินาที แต่โดยรวมแล้วไม่ได้เป็นปัญหากับการใช้งานเลยครับ
• คุณภาพเสียงดี ให้เสียงเบสที่หนัก พร้อมเสียงร้องที่โดดเด่น โดยรวมแล้วโทนเสียงฟังสนุก ตอบโจทย์การฟังเพลง , ดูหนัง ใช้งานทั่วๆไป เรียกง่ายๆว่า “เกินคุ้ม”
• สามารถใช้ดูหนังผ่าน Netflix , Youtube ได้ดี โดยแทบไม่รู้สึกถึงอาการดีเลย์ถ้าไม่จับผิด รวมกระทั่งการเล่นเกม (ทดสอบกับ Samsung Galaxy S7 , iPad Air 2019)
• มีมาตรฐานกันน้ำระดับ IPX5 สวมใส่ออกกำลังกายเบาๆได้ 
• แยกใช้งานข้างเดียวได้ โดยข้างที่เชื่อมต่อหลักจะเป็นหูฟังข้างซ้าย ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการได้ยินเสียงรอบข้างไปด้วยขณะใช้งาน

Product Highlight

• การเชื่อมต่อไร้สายสุดสเถียร Bluetooth 5.0 
• Dynamic Driver ขนาด 6 mm.
• กล่องชาร์จขนาดเล็ก พกพาง่าย
• ตัวหูฟังออกแบบตามสรีระของใบหู สวมใส่สบาย  
• ไมค์โครโฟน Intelligent Call Noise Reduction
• ใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 3 ชม. (ขึ้นอยู่กับระดับเสียงและเนื้อหา)
• ชาร์จร่วมกับกล่องชาร์จได้อีก 3-4 ครั้ง
• รองรับพอร์ทชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB Type-C
• ควบคุมมัลติมีเดียผ่านระบบสัมผัส(Touch Sensor)
• มาตรฐาน IPX5 ป้องกันเหงื่อจากการออกกำลังกายได้ 

Gallery

Product Specification (สเปคคร่าวๆ)

• ไดร์เวอร์ : Dynamic 
• ไมค์โครโฟน : ตัดเสียงรบกวน (Noise Reduction)
• Bluetooth Version : 5.0
• ใช้งานต่อเนื่องสูงสุด : 3 ชม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (ขึ้นอยู่กับระดับเสียงและเนื้อหาเสียง)
• สามารถชาร์จซ้ำกับเคสชาร์จ : 3-4 ครั้ง 
• ใช้เวลาชาร์จประมาณ : 1 ชั่วโมง
• แบตหูฟังมีความจุ : 40mAh
• Sensitvitiy : 100 + 5dB
• Frequency range : 20-20000Hz
• รองรับ protocal : HSP / HFP / A2DP / AVRCP
• ชาร์จไฟเคสหูฟังผ่าน : Type-C / 5V1A
• ความจุแบตฯเคสชาร์จหูฟัง : 300mAh

ประสบการณ์ใช้งานจริงจากทีมงาน 425Audio

ตัวหูฟังรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและออกกำลังกายได้ดี ด้วยมาตรฐาน IPX5

• ตัวหูฟังโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย พร้อมการให้สัมผัสที่เบาสบาย ตอบโจทย์การใส่ขณะเดินทางบนรถประจำทาง อีกทั้งยังตอบโจทย์กับคนที่ชอบออกกำลังกาย ด้วยมาตรฐาน IPX5 ที่ช่วยป้องกันเหงื่อ ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง Jogging ในฟิตเนส หรือ วิ่งในสถานที่แบบ Outdoor หรือใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี

การสวมใส่และการเก็บเสียงดีมาก

• ตัวหูฟังมีการดีไซน์ให้รองรับกับสรีระของหูมนุษย์ ทำให้การสวมใส่ในระยะเวลานานๆนั้นกลายเป็นเรื่องชิลล์ๆไปเลย มาพร้อมการซีลเก็บเสียงรั่วไหลทั้งภายนอกและภายในได้ดีมากๆ ตอบโจทย์สำหรับใครที่ต้องเดินทาง เจอความวุ่นวายเยอะๆ เจ้าตัวหูฟังนี้สามารถลดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดีเลยล่ะครับ 

คุณภาพเสียงดี โทนเสียงฟังสนุก เอาชนะหูฟังในคลาสเดียวกันได้สบายๆ

• สำหรับใครที่ถามหา เสียงย่านกลางชัดๆ พุ่งๆ ฟังเสียงร้องง่ายๆ ชื่นชอบเสียงย่านเบสแบบหนักๆ ลูกหนาๆ แรงปะทะเยอะ หูฟังตัวนี้ สามารถตอบโจทย์ได้สบายๆ ใครที่ชื่นชอบฟังเพลง Mainstream ใช้งานทั่วๆไป บอกเลยว่าต้องลอง !!!

การคุยโทรศัพท์

• ถึงแม้ว่าตัวหูฟังจะมีไมค์โครโฟน ที่ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้างติดมาให้ แต่การใช้งานจริงของทีมงาน 425° ยังพบว่า การรับเสียงพูดนั้นยังทำได้ไม่ดีขนาดนั้น โดยเนื้อเสียงมีความบางและแห้ง ฟังยากพอสมควรในพื้นที่แบบ Outdoor เสียงรบกวนเยอะๆ และพบอาการกระตุกของหัวเสียงในบางช่วง ทางทีมงานถือว่ายังไม่ได้ตอบโจทย์กับคนที่เน้นคุยโทรศัพท์แบบจริงจรัง แต่หากใครที่ใช้ฟังเพลงเป็นหลักและใช้คุยในสถานที่เงียบๆ เช่น ในบ้าน,ห้องนอน อันนี้ทางทีมงานถือว่า ใช้งานได้โอเคเลยล่ะครับ

การดูหนัง Netflix , Youtube

• เท่าที่ทางทีมงานได้ลองทดสอบกับอุปกรณ์ทั้งสองระบบอย่าง Samsung Galaxy S7 , iPad Air 2019 ก็ถือว่าสามารถใช้งานได้สนุก ไม่รู้สึกถึงอาการดีเลย์ถ้าไม่จับผิด เรียกง่ายๆว่าเป็นหูฟังราคาถูกที่มีอัตรา Latency ที่ต่ำมากๆ ทำได้ดีจนหูฟังแพงๆยังอาย (ความเห็นส่วนตัว) แต่หากเป็นการเล่นเกม PubG , Call of Duty ในโทรศัพท์มือถือละก็ ยังรู้สึกถึงอาการดีเลย์อยู่เพียงเล็กน้อยครับ

Sound Review (รีวิวเสียง)

เสียงเบส

• เสียงย่านเบส มีความหนา นวล สามารถให้แรงปะทะได้ดี มวลเบสมีความแน่นและลงลึก ให้ความรู้สึกที่ “อวบอิ่ม” ฟังเพลงสนุก ให้เสียงชิ้นดนตรีอย่างกระเดื่อง (Kick Drum) และกีตาร์เบส (E.Bass)ได้ “กระชับ” ฟังรวมๆไปกับเพลงแล้วได้ความรู้สึกที่เต็ม คล้ายหูฟังตัวแพงๆ หัวโน้ตมีความชัดเจน ฟังโดยรวมกับเพลง Mainstream และเพลง Rock ได้ดี 

เสียงกลาง

• ย่านเสียงกลางของหูฟังรุ่นนี้ มีความชัดถ้อยชัดคำ โดดเด่นที่สุด ช่วยตอบสนองการฟังเสียงของนักร้องให้ฟังง่าย สามารถตอบสนองชิ้นดนตรีอย่าง เปียโน ได้แบบหนาๆ ตำแหน่งชัดออกมาที่ด้านหน้า ให้เสียงชุดกลองได้แบบหนึบหนับ โดยเฉพาะเสียงกลองสแนร์ (Snare) นอกจากนี้ยังมีเครื่องดนตรีอย่าง กีตาร์ไฟฟ้า (E.guitar) ที่สามารถฟังได้อย่างเคลียร์ ออกมาจากชิ้นดนตรีอื่นๆ แต่โทนเสียงโดยรวมนั้น มีการปรุงแต่งให้ชัดขึ้น ฟังเพราะขึ้น หากใครที่ถามหาความเป็นธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่ง หูฟังตัวนี้คงยังตอบโจทย์ได้ไม่เต็มร้อย

เสียงแหลม

• สอบสนองเสียงออกมาได้แบบ “เนียนๆ” ปลายเสียงแหลมไม่ได้จัดจ้าน ให้การฟังที่ Balance ไปกับเสียงชิ้นดนตรีในย่านอื่นๆ ช่วยให้ทำให้ฟังนานๆได้สบายๆ ไม่แสบหู การจับต้องรายละเอียดชิ้นดนตรีปลายแหลม อย่างเสียงฉาบแฉ ,Hihat , Ride , Splash กับเพลงในแนว Rock หนักๆ ยังทำได้ไม่โดดเด่นมากนัก ไม่ตอบโจทย์ หากคุณเป็นสายร๊อคแบบจัดจ้าน แต่หากใครที่เน้นฟังเรื่อยๆ ฟังโซโล่กีตาร์ชัดๆ เสียงกลองชุดฟินๆ ตัวนี้ตอบโจทย์ได้สบายๆครับ

สรุป

• เป็นหูฟังไร้สายที่โดดเด่นในการตอบสนองเสียงในย่านกลางและเบส ที่สามารถให้แรงปะทะได้แบบดุๆ ฟังแล้วรู้สึกเต็มอิ่ม พร้อมเสียงย่านกลางที่ Balance ให้เสียงร้องชัดๆที่ด้านหน้า ฟังควบคู่ไปกับชิ้นดนตรีอื่นๆได้อย่างสบาย ตอบโจทย์กับคนที่ชอบฟังเพลง Mainstream ทั่วๆไปในสมัยใหม่มากๆ รวมถึงการใช้ดูหนังก็สามารถใช้งานได้สนุกมากๆครับ

How To Use “Auglamour AT200”

• *** หูฟังและกล่องชาร์จบรรจุแบตเตอรี่ชนิดชาร์จซ้ำได้ กรุณาใช้สายชาร์จที่แนบมาในกล่องและ Adapter หัวชาร์จที่ได้มาตรฐานเท่านั้นเพื่อความปลอดภัย ***
• *** การชาร์จกับแรงดันไฟที่สูงเกินมาตรฐาน อาจทำให้แบตเตอรี่เกิดความเสียหายได้ ***
• *** กรุณาเช็ดและทำความสะอาดหูฟังให้แห้ง(ในกรณีที่หูฟังโดนละอองน้ำ) ก่อนที่จะนำหูฟังลงเคสชาร์จแบตเตอรี่ ***

การสวมใส่ (How To Wear)

• หูฟังทั้งสองข้างจะมีสัญลักษณ์ L (ข้างซ้าย) , R (ข้างขวา)
• สวมหูฟังทั้งสองข้างและบิดหูฟังกลับไปทางด้านหลังเพื่อเพิ่มความกระชับ
• *** หากสวมใส่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เสียงบรรยากาศภายนอกรั่วเข้าไปภายในหูของเราได้และอาจทำให้ไม่ได้ยินเสียงความถี่ย่านต่ำ (Low Frequency) ***

การเชื่อมต่อบลูทูธในครั้งแรก

• นำหูฟังทั้งสองข้างออกมาจากกล่องชาร์จ
• หูฟังทั้งสองข้างจะจับคู่กันเองโดยอัตโนมัติ (Auto Pairing)
• โดยหูฟังข้างใดข้างนึง จะมีไฟสถานะ สีน้ำเงิน/แดง กระพริบแสดงว่าอยู่ในโหมด Pairing 
• เปิดบลูทูธบนอุปกรณ์ และเลือกจับคู่บลูทูธกับ “AT200”
• “การเชื่อมต่อสำเร็จ” สามารถใช้งานได้ตามปกติ
• *** หูฟังทั้งสองข้างจะเชื่อมต่อกับโทรศัพท์โดยอัตโนมัติในครั้งถัดไป ***

การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น

• เก็บหูฟังลงกล่องชาร์จ
• ยกเลิกการเชื่อมต่อบลูทูธหรือลบข้อมูลบลูทูธบนอุปกรณ์ที่เคยเชื่อมต่อไปแล้ว (Forget Device)
• นำหูฟังทั้งสองข้างออกมาจากกล่องชาร์จ
• และเลือกจับคู่บลูทูธกับ “AT200”
• *** หากไม่สามารถเชื่อมต่อได้ ให้รีเซ็ทหูฟังก่อน ***

วิธีรีเซ็ทหูฟัง

• ลบข้อมูลบลูทูธบนอุปกรณ์ที่เคยเชื่อมต่อไปแล้ว (Forget Device)
• ปิดบลูทูธบนอุปกรณ์
• ปิดหูฟัง โดยสัมผัสที่หูฟังค้าง จนเกิดไฟสถานะสีแดงกระพริบที่หูฟังทั้งสองข้าง
• เปิดหูฟัง โดยสัมผัสที่หูฟังค้าง จนเกิดไฟสถานะสีน้ำเงิน/แดง กระพริบ
• ในขณะที่ไฟสถานะสีน้ำเงิน/แดง กระพริบ ให้แตะที่หูฟังรัวๆ จนไฟสถานะกลายเป็นสีม่วง ทั้งสองข้างและดับลง
• หลังจากนั้นให้เปิดหูฟังทั้งสองข้างขึ้นมาใหม่และเชื่อมต่อบลูทูธ ตามขั้นตอนปกติ โดยการสัมผัสค้าง (ไม่ต้องเก็บลงกล่องชาร์จ)

การเชื่อมต่อใช้งานข้างเดียว(Mono Mode)

• *** สามารถแยกใช้งานข้างเดียวได้ ***
• เชื่อมต่อบลูทูธตามปกติและเก็บหูฟังข้างที่ไม่ต้องการใช้งานลงกล่องชาร์จ 

วิธีเปิดหูฟัง

• “เปิดโดยอัตโนมัติ” เมื่อหยิบขึ้นมาจากเคสชาร์จ
• หรือ แตะบริเวณ ปุ่ม MFB ค้างไว้จนเกิดไฟสถานะสีน้ำเงินกระพริบ พร้อมเสียงในหูฟังว่า “Power On”

วิธีปิดหูฟัง

• “ปิดโดยอัตโนมัติ” เมื่อเก็บลงเคสชาร์จ
• หรือ แตะบริเวณ ปุ่ม MFB ค้างไว้ จนได้ยินเสียงในหูฟังว่า “Power Off” และไฟสถานะที่หูฟังเป็นไฟสีแดงกระพริบ

การควบคุมฟังก์ชั่น

*** เป็นระบบสัมผัส(Touch)***

ควบคุมการเล่นเพลง (Audio Control)

• เล่น / หยุดเพลง : สัมผัส 1 ครั้งที่หูฟัง
• เล่นเพลงถัดไป : สัมผัสที่หูฟังขวา 3 ครั้ง
• ย้อนกลับไปเพลงก่อนหน้า : สัมผัสที่หูฟังซ้าย 3 ครั้ง
• เพิ่มเสียง : สัมผัสที่หูฟังขวา 2 ครั้ง 
• ลดเสียง : สัมผัสที่หูฟังซ้าย 2 ครั้ง

ควบคุมการรับโทรศัพท์ (Hands-Free Phone Call)

• รับ / วางสายโทรศัพท์ : สัมผัส 1 ครั้งที่หูฟัง
• ปฏิเสธสายเรียกเข้า : สัมผัสค้างที่หูฟัง
• เรียกใช้งาน Voice Assistant : สัมผัสค้างที่หูฟัง 3 วินาที

ไฟสถานะที่เคสชาร์จ

• *** เมื่อหูฟังกำลังชาร์จแบตเตอรี่ บริเวณเคสชาร์จจะมีไฟสถานะ led สีน้ำเงิน ***

ขณะเสียบชาร์จแบตเตอรี่กับเคสชาร์จ

• ขณะเสียบชาร์จแบตเตอรี่ : ไฟสถานะหน้าเคสชาร์จจะขึ้นเป็นสีแดงกระพริบ
• แบตเตอรี่เต็ม : ไฟสถานะสีแดงค้าง
• *** ใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่ประมาณ 1.5-2 ชม. ต่อการชาร์จทั้งหูฟังและเคสชาร์จ ***

การชาร์จหูฟัง

• *** เมื่อเก็บหูฟังทั้งสองข้างเข้าเคสชาร์จ หูฟังทั้งสองข้างจะชาร์จแบตฯโดยอัตโนมัติและจะมี ไฟ LED สีแดงที่หูฟัง ***
• กำลังชาร์จแบตฯ : ไฟสถานะสีแดงที่หูฟัง 
• แบตเตอรี่เต็ม : ไฟสถานะที่หูฟังดับลง
• แบตเตอรี่หูฟังอ่อน : หากแบตเตอรี่หูฟังอ่อน จะมีเสียงเตือนภายในหูฟังก่อนที่จะดับลง

Product Include (อุปกรณ์ภายในกล่อง)

• หูฟัง Auglamour AT200
• เคสชาร์จ
• จุกซิลิโคน
• สายชาร์จแบตเตอรี่ USB-C
• คู่มือการใช้งานเบื้องต้น

Warranty (เงื่อนไขประกันสินค้า)

• รับประกัน 6 เดือน ภายใต้เงื่อนไขที่ทาง Auglamour กำหนด
• *** ในส่วนของอะไหล่,สายชาร์จ,เคสชาร์จ ที่มากับตัวหูฟังจะมีระยะประกันอยู่ที่ 7 วัน ***
• คุณลูกค้าต้องเก็บตัวสินค้าไว้ให้ครบไม่ว่าจะเป็น กล่อง/ซองแพคเกจจิ้ง, ตัวหูฟังทั้งสองข้าง, สายชาร์จ ,จุกหูฟังซิลิโคนทุกแบบ 
• สินค้าต้องไม่มีตำหนิจากการใช้งานผิดวิธี, ตำหนิเสียหายจากการใช้งานของลูกค้า, ร่องรอยการกระแทก หรือการขูดขีดอย่างรุนแรง
• หากเป็นปัญหาจากการใช้งานของคุณลูกค้าไม่ว่าจะเป็น สายขาดใน, แจ็คหัก, ฝาเคสชาร์จหัก,ก้านหูฟังหัก , สายยางซิลิโคนของเคสชาร์จขาด, เปิดเสียงดังจนเสียงแตก, เบิร์นหูฟังผิดวิธี(ใช้แอพเบิร์นหรือคลื่นเสียงประเภท Sine Sweep, Pink Noise, White Noise) จนหูฟังเสียหาย จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• ปัญหาการคุยโทรศัพท์แล้วเป็นเสียงที่คุยไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อเปิด-ปิดตัวหูฟังอีกรอบแล้วสามารถคุยได้ตามปกติ จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• อาการกระตุกของสัญญาณขณะใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณของอุปกรณ์ไร้สายเยอะๆ เช่นบนสถานีรถไฟฟ้า,ออฟฟิตขนาดใหญ่ ***เช่น กำลังฟังเพลงอยู่แล้วสัญญาณขาดหายแล้วกลับมาเป็นปกติ *** ซึ่งจะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• หากตัวหูฟังหรือชิ้นส่วนของกล่องชาร์จเสียหรือชำรุด ที่เกิดจากการใช้งานไปแล้วเกินกว่า 7 วัน จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
• สินค้ารุ่นนี้มีมาตรฐานการกันน้ำที่ IPX5 สามารถป้องกันได้แค่เหงื่อจากการออกกำลังกายเบาๆเท่านั้น หากสินค้าเสียหายจากการลงไปแช่น้ำหรือจากแรงดันน้ำสูงๆในทุกกรณี จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน