Anker PowerCore Speed 20000 Power Bank (20000 mAh | QC3.0 | PIQ)

แบรนด์

• Anker

วัสดุ

• บอดี้แบตสำรองทำจากพลาสติก ABS คุณภาพสูง ทนทานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
• ผิวด้านนอกเป็นผิวสัมผัสแบบด้านมีความละเอียด ดูพรีเมี่ยมมากครับ

ขนาดและน้ำหนัก

• กว้าง 6.2 ซม. ยาว 16.7 ซม. หนา 2.2 ซม.
• หนัก 359 กรัม

ข้อมูลเชิงเทคนิค

• Total Wattage 72.36Wh
• Normal Input : 5V/2A
• Quick Charge Input : 5V/2A, 9V/2A, 12V/1.5A
• Normal Output : 5V/2A
• Quick Charge Output : 5-8V/3A, 8-10V/2.4A, 10-12V/2A
• Capacity : 20000mAh

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• Anker PowerCore Speed 20000 QC 3.0 x 1
• สายชาร์จ Micro USB x 1
• ถุงผ้าใส่แบตสำรอง
• คู่มือการใช้งาน x 1

เงื่อนไขการรับประกัน

• ตัวผลิตภัณฑ์รับประกันภายใน 2 ปี ภายใต้เงื่อนไขที่ทางแบรนด์กำหนด โดยเป็นความเสียหายที่เกิดจากการผลิตและไม่รวมถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้งานผิดประเภท โดยมีเงื่อนไขดังนี้
• อุปกรณ์เสริมอื่นๆที่แถมมาในกล่อง จะรับประกัน 7 วันครับ
• รับประกันสินค้าที่ชำรุดเสียหายที่เกิดจากความบกพร่องในการผลิตจากโรงงาน หรือชิ้นส่วนที่ไม่ได้มาตราฐาน
• การรับประกันนี้จะไม่ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการใช้งานที่ผิดวิธี, อุบัติเหตุ, ภัยธรรมชาติ, การตกหล่น, การซ่อมแซม
• สินค้ามีรอยแก้ไข แตกหัก มีสภาพความเสียหาย ชิ้นส่วนอุปกรณ์ไม่ครบ หรือสูญหายจะถือว่าสินค้าสิ้นสุดการรับประกันทันทีครับ
• ***ผู้ซื้อต้องเก็บกล่องบรรจุภัณฑ์เพื่อใช้ในการยืนยันในการซื้อสินค้ากับทางร้าน 425Degree กรณีที่อยู่ในการรับประกัน**

ประสบการณ์ใช้งานจริงจาก 425Degree

• จากที่เราได้ลองใช้งาน รู้สึกว่า Anker เป็นแบรนด์ที่ทำสินค้ามาได้ดูดีมีระดับ ปราณีตทั้งงานประกอบและความเสถียรในการจ่ายไฟ ที่จ่ายไฟได้เร็วและแรงตรงตามสเป็ก Quick Charge 3.0 รวมถึงงานประกอบที่เห็นชัดเจนว่าดีกว่าแบตสำรองทั่วๆไป คุณภาพงานในการผลิตที่ดีจริงๆ เชื่อถือได้ด้วยมาตรฐานระดับอเมริกา และตัวนี้เป็นที่นิยมมากในต่างประเทศครับ

• หลังจากลองจับแล้วประทับใจ เพราะทางแบรนด์ Anker เลือกใช้กรอบวัสดุพลาสติก ABS แบบด้านเนื้อละเอียด ให้ความรู้สึกแข็งแรงบึกบึน แน่นหนาดี และยังสกรีนลาย Quick Charge 3.0 แสดงถึงพละกำลังในการชาร์จอันรวดเร็วครับ

• ดีไซน์ของแบรนด์ Anker เป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์และดูพรีเมี่ยม เพราะดีไซน์ทำมาดูดี กับรูปทรงที่โค้งมน จับกระชับเข้ารูปกับมือ และยังมีขนาดที่ยาวแต่ไม่กว้างทำให้จับได้ถนัดมือมากกว่าครับ

• มาพร้อมช่องชาร์จ USB ช่องนี้รองรับเทคโนโลยี Quick Charge 3.0 ซึ่งเป็นระบบชาร์จเร็วเฉพาะของ Android ครับ ช่องนี้จะจ่ายไฟได้สูงสุดที่ 5-8V/3A, 8-10V/2.4A, 10-12V/2A หรือ Max 24W (ระบบจะปรับการจ่ายไฟให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ที่ชาร์จโดยอัตโนมัติ) โดยอุปกรณ์ที่มาเสียบต้องรองรับระบบ Quickcharge ด้วยนะครับถึงจะจ่ายไฟระดับนี้ได้ และถึงแม้ว่า Smartphone ที่ไม่รองรับ QC  ก็สามารถเสียบชาร์จในช่องนี้ได้ แต่จะจ่ายไฟสูงสุดที่ 5V/3A ครับ
• ***สำหรับระบบชาร์จเร็ว Quick Charge จะรองรับใน Samsung รุ่นที่มีชิปเซ็ทของ Qualcomm เท่านั้น ดังนั้นเครื่องที่จำหน่ายในไทยส่วนใหญ่ที่เป็นชิปเซ็ท Exynos จะไม่รองรับชาร์จเร็ว Quick Charge โดยตรง แต่สามารถเสียบชาร์จเพื่อจ่ายไฟแบบเร็วได้ด้วยระบบของ Samsung เองที่ชื่อว่า Adaptive Fast Charge ครับ
• ตรวจสอบรุ่น Smartphone ที่รองรับระบบ Quick Charge ได้ที่นี่ คลิก

• โดยปกติ การชาร์จด้วย Quick Charge 2.0 และ 3.0 สามารถใช้ร่วมกันได้แต่การชาร์จแบบ Quick Charge 2.0 จะเฉลี่ยอยุ่ที่กระแสไฟ 2.1A เท่านั้นแต่การชาร์จแบบ Quick Charge 3.0 จะอยู่ที่ 2.4A สูงสุดและแตกต่างกันในเรื่องของ Volt กระแสไฟ ซึ่งแบบ 3.0 จะมีกระแสไฟที่แรงและจ่ายไฟได้เร็วกว่า 2.0 ถึง 38% เทียบกันตั้งแต่เริ่มชาร์จที่ 0% แต่ทั้งนี้การชาร์จแบบ 3.0 และ 2.0 จะมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อ สายชาร์จ และ Smartphone มีการรองรับกับระบบครับ

• ส่วนอีกช่องเป็น USB ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Anker PowerIQ(TM) เป็นเทคโนโลยีของ Anker ที่อยู่ในอุปกรณ์ PowerPort ที่จะสามารถวัดหาค่ากำลังไฟที่จะจ่ายเพื่อจะชาร์จอุปกรณ์ของคุณได้อย่างเหมาะสม ทำให้อุปกรณ์ของคุณชาร์จไฟได้เต็มเร็ว ประหยัดเวลาที่สุด และแถมยังปลอดภัยกับ Smartphone ของคุณอีกด้วย
• นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Voltageboot ที่สามารถช่วยให้กำลังไฟที่จ่ายออกไปมีความเสถียร เเละถึงเเม้จะใช้สายชาร์จเเบรนด์ไหน ก็ทำให้การจ่ายไฟก็ยังคงความเสถียรอยู่ครับ

• ทางทีมงานได้ทดสอบการจ่ายไฟทั้งช่อง Quick Charge 3.0 และช่อง PowerIQ มาให้ชมกันด้วยครับ
• ช่อง USB Quick Charge 3.0
• จากการลองเทสการจ่ายไฟกับ Galaxy S8 พบว่าเมื่อลองเสียบชาร์จ S8 สามารถจ่ายไฟได้ที่ประมาณ 9.33V 1.20A ซึ่งถือว่าเป็นการชาร์จด่วน ที่มีปริมาณไฟที่มากพอจะชาร์จ S8 ให้เต็มได้เร็วเลยครับ

• เทสกับ Galaxy Note 4 พบว่าเมื่อลองเสียบชาร์จ Note 4 สามารถจ่ายไฟได้ที่ประมาณ 9.32V 1.36A ซึ่งถือว่าเป็นการชาร์จด่วน ที่มีปริมาณไฟมากพอจะชาร์จ Note 4 ให้เต็มได้เร็วเลยครับ

• จากการลองเทสการจ่ายไฟในช่อง Quick Charge พบว่าเมื่อลองเสียบชาร์จ iPhone 8 Plus สามารถจ่ายไฟได้ที่ประมาณ 5.15V 1.58A ถึงแม้ว่า iPhone จะไม่รองรับ Quick Charge ก็ตามแต่ช่องนี้ก็สามารถชาร์จได้เร็วกว่าที่การชาร์จปกติ (5V/1A) ครับ

• มาที่ Tablet กันบ้าง ทีมงานได้ลองเทสการจ่ายไฟกับ Tablet พบว่าเมื่อลองเสียบชาร์จ Tablet สามารถจ่ายไฟได้ที่ประมาณ 5.14V 1.69A ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณไฟที่มากพอจะชาร์จ Tablet ให้เต็มได้ครับ

• มาที่ช่อง USB PowerIQ กันบ้างครับ 
• เราได้ลองเสียบชาร์จ iPhone 8 Plus ช่องนี้สามารถจ่ายไฟได้ที่ประมาณ 5.11V 1.56A ซึ่งเป็นการชาร์จที่ทำให้แบตเต็มไวกว่าแบบทั่วไปแน่นอนครับ

• Galaxy S8 พบว่าเมื่อลองเสียบชาร์จ S8 สามารถจ่ายไฟได้ที่ประมาณ 5.01V 1.16A ส่วนตัวแอดมินมองว่าชาร์จให้เต็มได้ก็จริง แต่เพราะ S8 รองรับ Quick Charge ดังนั้นชาร์จในช่อง Quick Charge จะชาร์จได้ไวกว่าครับ

• Galaxy Note 4 พบว่าเมื่อลองเสียบชาร์จ Note 4 สามารถจ่ายไฟได้ที่ประมาณ 5.11V 1.73A ซึ่งก็ชาร์จได้เต็มเช่นกัน แต่เพราะ Note 4 รองรับ Quick Charge ดังนั้นชาร์จในช่อง Quick Charge จะชาร์จได้ไวกว่าครับ

• ในการจ่ายไฟให้กับ Tablet พบว่าเมื่อลองเสียบชาร์จ Tablet ในช่อง PowerIQ สามารถจ่ายไฟได้ที่ประมาณ 5.11V 1.70A ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณไฟที่มากพอจะชาร์จ Tablet ให้เต็มได้เช่นเดียวกันครับ

• นอกจากนี้แอดมินยังได้เปรียบเทียบการจ่ายไฟของทั้ง 2 ช่องมาให้ดูเป็นภาพรวมอีกด้วยครับ จะเห็นได้ชัดว่าถ้า Smartphone ที่ใช้รองรับ Quick Charge กระแสไฟในช่อง Quick Charge จะจ่ายไฟถึง 9.33V/1.12A ซึ่งสูงกว่าช่อง PowerIQ ที่จ่ายไฟเพียง 5.06V/1.05A จึงเห็นได้ชัดว่าช่อง Quick Charge ทำให้ชาร์จได้เร็วกว่าครับ

• สาย Micro-USB ที่แถมให้มาในกล่อง คุณภาพของสายชาร์จจากที่เราได้ทดสอบ พบว่ารองรับ Quick Charge และสามารถจ่ายไฟได้ 5-8V, 3A / 8-10V, 2.4A / 10-12V, 2A แอดมินว่าสายที่ให้มานี้เป็นสายชาร์จที่มีสเป็คการจ่ายไฟดีมากๆ ใช้ได้ทั้งชาร์จไฟเข้าแบตสำรอง และชาร์จไฟออกให้กับ Smartphone ที่มีช่องชาร์จแบบ Micro USB

• ช่องชาร์จไฟเข้าเป็นหัวแบบ Micro USB ในช่องนี้รองรับ Quick Charge ในการชาร์จไฟเข้าด้วยนะครับ ซึ่งใช้เวลาในการชาร์จเพียง 4 ชั่วโมงครึ่งถ้าใช้ Adapter Quick Charge, 10-12 ชั่วโมง (ใช้หัวชาร์จ 2A), 22-24 ชั่วโมง (ใช้หัวชาร์จ 1A)

• ช่องชาร์จเสียบและถอดได้ง่ายครับ ไม่ฝืดหรือหลวมจนเกินไป

• นอกจากสายชาร์จ Micro USB แล้ว ยังแถมถุงผ้ามาให้ด้วยครับ ถุงผ้าจะช่วยให้พกพาแบตสำรองได้สะดวกขึ้นครับ และช่วยให้แบตสำรองไม่ถูกขีดข่วนเป็นรอย

• จากที่แอดมินลองใช้มาสักพักพบว่าตัวนี้รอยขนแมวขึ้นง่ายพอสมควรครับ เพราะแอดมินลองใช้แบบไม่ใส่ในถุงผ้าเลย แต่ก็ไม่ได้มีผลต่อการใช้งานนะครับ ยังชาร์จไฟได้ดีเช่นเดิม

• รุ่นนี้มาพร้อมไฟแสดงสถานะเป็นไฟ LED สีน้ำเงินจำนวน 4 ดวง ซึ่ง 1 ดวงก็หมายถึงปริมาณแบตประมาณ 25 เปอเซนต์ครับ

• เวลาเสียบชาร์จไฟออกให้อุปกรณ์ ไฟสถานะจะกระพริบเพื่อบอกปริมาณแบตคงเหลือครับ

• ขณะชาร์จไฟเข้า ไฟสถานะจะขึ้นทีละจุดจนกว่าแบตจะเต็ม และไฟจะขึ้นค้างไว้จนกว่าจะมีการถอดปลั๊กครับ

• ตัวนี้มีระบบชาร์จอัตโนมัติครับ คือเมื่อเราเสียบชาร์จชาร์จเข้ากับตัว Smartphone ก็จะทำการชาร์จทันที ไม่ต้องกดปุ่มใดๆให้วุ่นวายครับ

สรุปเรื่องการจ่ายไฟนะครับ

• หากเสียบชาร์จ iPad/Tablet 1-2 เครื่อง ชาร์จได้ปกติครับ
• หากเสียบชาร์จ iPhone/Smartphone 1-2 เครื่อง ชาร์จได้ปกติครับ
• กล้องทั่วไป หรืออุปกรณ์อื่นๆ ให้ดูตามปริมาณไฟที่ใช้นะครับ (ดูได้ที่คู่มืออุปกรณ์) ถ้าเป็น 1A ให้คิดเหมือน Smartphone ถ้าเป็น 2A ให้คิดเป็น Tablet ครับ

การใช้งานโดย 425degree

• *การทดสอบโดยการชาร์จทิ้งไว้เฉยๆ การใช้งานจริงจะขึ้นอยู่กับการเล่นโทรศัพท์ระหว่างชาร์จ แสงหน้าจอ Notification ด้วยซึ่งอาจทำให้รอบน้อยกว่าที่แจ้งในที่นี่ได้ครับ *(เช่น 10000 mAh ตัวแบตจะมีไฟส่วนหนึ่งที่สูญเสียไปที่ตัวอุปกรณ์ระหว่างที่ชาร์จประมาณ 30% และจะมีอีกส่วนหนึ่งที่สูญเสียไฟไปในการแปลงไฟเข้าสู่เครื่องโทรศัพท์ ดังนั้นเวลาชาร์จจริงจะไม่มี Powerbank ตัวไหนชาร์จได้เต็ม 10000 mAh เต็มตาม Spec ครับ)
• iPhone X (2716 mAh ) = ประมาณ 5 รอบ ครึ่ง
• iPhone 8 (1821 mAh ) = ประมาณ 8 รอบ ครึ่ง
• iPhone 7 (1960 mAh ) = ประมาณเกือบๆ 8 รอบ
• iPhone 8 Plus ( 2675 mAh ) = ประมาณ 5 รอบ ครึ่ง
• iPhone 7 Plus ( 2900 mAh ) = ประมาณ 5 รอบกว่าๆ
• iPhone 6/6s ( 1810 mAh ) = ประมาณ 8 รอบ ครึ่ง
• iPhone 6 Plus/6s Plus ( 2915 mAh ) = ประมาณ 5 รอบกว่าๆ
• Galaxy Note 8 ( 3300 mAh ) = ประมาณ 4 รอบ ครึ่ง
• Galaxy S8 (3000 mAh) = ประมาณ 5 รอบกว่าๆ
• Galaxy S8 Plus (3500 mAh) = ประมาณ 4 รอบ ครึ่ง
• Galaxy S7 (3000 mAh) = ประมาณ 5 รอบกว่าๆ
• Galaxy S7 Edge (3600 mAh) = ประมาณ 4 รอบ ครึ่ง
• Galaxy S6 ( 2550 mAh ) = ประมาณ 6 รอบ
• Galaxy S6 Edge ( 2600 mAh ) = ประมาณ 6 รอบ
• iPad mini 4 (5124 mAh) = ประมาณ 3 รอบ
• iPad Air 2 (7340 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• iPad Pro (10307 mAh) = ประมาณ 1 รอบ ครึ่ง
• Huawei P9 (3000 mAh) = ประมาณ 5 รอบกว่าๆ
• Huawei P9 Plus (3400 mAh) = ประมาณ 4 รอบ ครึ่ง
• Huawei Mate 9 (4000 mAh) = ประมาณเกือบๆ 4 รอบ
• Huawei Mate9 Pro (4000 mAh) = ประมาณเกือบๆ 4 รอบ
• *** Huawei ใช้ Chipset ชาร์จเร็วของตัวเองเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่รองรับ Quick Charge ของ Qualcomm แต่ก็สามารถชาร์จได้ปกติ (5V/2.4A) ครับ

ข้อมูลทั่วไป

• ผลิตภัณฑ์เป็นของแท้ 100% ผลิตโดยแบรนด์ Anker
• Cell Battery เป็นแบบ Lithium – ion Battery ช่วยป้องกันความร้อน แบตบวม และการระเบิดได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือว่าปลอดภัยมากครับ
• งานประกอบแน่นหนาดูพรีเมี่ยม แอดมินว่าแบตสำรอง Anker ตัวนี้ทำออกมาได้ดีจริงๆครับ

• มีระบบตัดวงจรไฟอัจฉริยะ ช่วยควบคุมปริมาณการจ่ายไฟ และไม่ทำให้เกิดการกระชากไฟ ปลอดภัยสำหรับชาร์จอุปกรณ์
• และยังมาพร้อมความจุ 20000 mAh โดยมีช่องจ่ายไฟแบบ USB 2 ช่อง ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Quick Charge 3.0 และ PowerIQ ทำให้สามารถชาร์จ Smartphone/Tablet ได้เร็วยิ่งขึ้น

• ปริมาณไฟเหมาะสำหรับใช้งาน 5-6 วัน เหมาะสำหรับใครที่ต้องการแบตสำรองใช้ระหว่างเดินทางไกลหรือทำงานนอกสถานที่

• มีปุ่มกดเช็คสถานะไฟ LED 4 ดวง (ดวงละ 25%)

• เมื่อชาร์จแบตสำรองเต็มไฟ LED จะค้างจนกว่าจะมีการถอดสายชาร์จออกครับ
• ตัวนี้มีระบบชาร์จอัตโนมัติครับ คือเมื่อเราเสียบชาร์จชาร์จเข้ากับตัว Smartphone ก็จะทำการชาร์จทันที

• บนตัวแบตสำรองมีการสลักโลโก้สวยงามและหรูหรามากครับ ส่วนด้านท้ายของแบตสำรองจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการจ่ายไฟครับ (ที่เห็นสติกเกอร์เงาๆนั่นคือสติกเกอร์การรับประกัน)

• แถมฟรีถุงผ้าสำหรับพกพาและสายชาร์จ Micro USB คุณภาพดีอีก 1 เส้น (สายนี้รองรับ Quick Charge ด้วยนะครับ)

• สำหรับใครที่มองหาแบตสำรองความจุเยอะและชาร์จได้รวดเร็ว Anker PowerCore Speed 20000 QC 3.0 คืออีกทางเลือกหนึ่งที่ไม่ควรพลาดครับ

การรับรองมาตรฐานและความปลอดภัย

• ผ่านการรับรองมาตรฐาน CE, RoHS certifications
• CE : เป็นเครื่องหมายที่แสดงการรับรองจากผู้ผลิตว่าสินค้ามีคุณสมบัติตามข้อกำหนดด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรป
• RoHS : เป็นมาตรฐานเพื่อสิ่งแวดล้อม กำหนดให้ชิ้นส่วนทุกอย่างที่ประกอบเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ตั้งแต่แผงวงจร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงสายไฟ จะต้องมีสารที่เป็นอันตรายไม่เกินไปกว่าที่กำหนด (ตะกั่ว/ปรอท/แคดเมียม/เฮกซะวาเลนท์/โพลีโบรมิเนต/โพลีโบรมิเนต)
• และยังรับรองว่าเป็นสินค้าที่สามารถนำไปรีไซเคิลต่อได้ครับ ถือว่าช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้ดีครับ
• มีระบบตัดวงจรไฟอัตโนมัติหากเกิดความร้อนเกินกว่ากำหนด ช่วยควบคุมปริมาณการจ่ายไฟและไม่ทำให้เกิดการกระชากไฟ ปลอดภัยสำหรับชาร์จอุปกรณ์

การทำความสะอาดและดูแลรักษาเพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน

• ควรใช้งานในที่อากาศถ่ายเทได้ เพื่อลดการสะสมความร้อนที่ตัวอุปกรณ์ครับ
• หลีกเลี่ยงการใช้งานในที่ที่ความชื้นสูง หรือบริเวณที่เปียกแฉะ
• ก่อนใช้งานทุกครั้งให้ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์
• ขณะเสียบใช้งานหรือถอดออก ควรจับที่ตัวบอดี้ เพื่อป้องกันสายไฟหักหรือขาดครับ
• หมั่นเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ ไม่ควรใช้สารเคมีใดๆครับ เพราะตัวหนังสือสกรีนอาจหลุดลอกได้ (และโปรดระมัดระวังเรื่องความชื้นของผ้าด้วยครับ ผ้าควรจะหมาดมากๆจนเกือบแห้งครับ)