Anker PowerCore II 20000 ( Powerbank 20000 mAh )

แบรนด์

• Anker

วัสดุ

• บอดี้แบตสำรองทำจากพลาสติก ABS คุณภาพสูง ทนทานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
• ผิวด้านนอกเป็นผิวสัมผัสแบบด้าน งานประกอบมีความละเอียด สีดำดูพรีเมี่ยมมากครับ

ขนาดและน้ำหนัก

• กว้าง 6.3 ซม. ยาว 17.1 ซม. หนา 2.2 ซม.
• หนัก 356 กรัม

ข้อมูลเชิงเทคนิค

• Capacity:20100 mAh/72.36Wh
• PowerIQ 2.0 Output:5V=3A，9V=2A,12V=1.5A（18W）
• Standard Output:5V=2.4A（12W）
• PowerIQ 2.0 Input:5V=2A，9V=2A（18W）
• Capacity:20100 mAh/72.36Wh

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• Anker PowerCore II 20000 x 1
• สายชาร์จ Micro USB x 1 (5V/2.4A)***
• ถุงผ้าใส่แบตสำรอง
• คู่มือการใช้งาน x 1

การรับประกัน

• ตัวผลิตภัณฑ์รับประกันภายใน 2 ปี ภายใต้เงื่อนไขที่ทางแบรนด์กำหนด โดยความเสียหายที่เกิดจากการผลิตและไม่รวมถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้งานผิดประเภท โดยผู้ซื้อต้องเก็บกล่องบรรจุภัณฑ์เพื่อใช้ในการยืนยันในการซื้อสินค้ากับทางร้าน 425Degree กรณีที่อยู่ในการรับประกัน
• ***สำหรับการชาร์จเข้าแบตสำรอง แนะนำว่าควรใช้หัวชาร์จที่จ่ายไฟได้ตรงตามสเปคที่ระบุมาเท่านั้นนะครับ หากใช้หัวชาร์จที่จ่ายไฟน้อยกว่าที่สเปคระบุ จะทำให้ชาร์จเข้าได้ช้าและส่งผลเสียต่ออุปกรณ์ทำให้ใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หากลูกค้าใช้หัวชาร์จที่ไม่ตรงสเปค แล้วอุปกรณ์เกิดความเสียหาย กรณีนี้จะไม่รวมอยู่ในการรับประกันนะครับ

ประสบการณ์ใช้งานจริงจาก 425Degree

• จากที่เเอดมินได้ลองใช้งานจริงรู้สึกว่า Anker PowerCore II ทำออกมาได้ดูดีทั้งงานประกอบ และความเสถียรในการจ่ายไฟดีเยี่ยม จะเห็นเห็นชัดเจนว่ามีคุณภาพดีกว่าแบตสำรองทั่วไป คุณภาพงานในการผลิตเชื่อถือได้ด้วยมาตรฐานระดับอเมริกาครับ

• มาพร้อมช่องชาร์จ USB ที่มีเทคโนโลยี PowerIQ 2.0 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีรุ่นใหม่ล่าสุดของเเบรนด์ Anker ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยปรับกระแสไฟและแรงดันการชาร์จไฟอัตโนมัติเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จ่ายไฟมากที่สุดเท่าที่อุปกรณ์จะรับได้ครับ สูงสุดที่ 5V/3A ซึ่งจะช่วยให้ชาร์จไฟได้สเถียรและมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ
• นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี VoltageBoost ที่สามารถช่วยให้กำลังไฟที่จ่ายออกไปมีความเสถียร เเละถึงเเม้จะใช้สายชาร์จเเบรนด์ไหน ก็ทำให้การจ่ายไฟก็ยังคงความเสถียรอยู่ครับ
• Anker PowerIQ(TM) เป็นเทคโนโลยีของ Anker ที่อยู่ในอุปกรณ์ PowerPort ที่จะสามารถวัดหาค่ากำลังไฟที่จะจ่ายเพื่อจะชาร์จอุปกรณ์ของคุณได้อย่างเหมาะสม ทำให้อุปกรณ์ของคุณชาร์จไฟได้เต็มเร็ว ประหยัดเวลาที่สุด และแถมยังปลอดภัยกับ Smartphone ของคุณอีกด้วย
• ตรวจสอบรุ่น Smartphone ที่รองรับระบบ Quick Charge ได้ที่นี่ คลิก

• จากภาพด้านล่างคือการทดสอบวัดไฟเสียบช่อง PowerIQ 2.0 ครับ (ช่องขวา) 18W
• จากการลองเทสการจ่ายไฟกับ Galaxy Note 8 พบว่าเมื่อลองเสียบชาร์จ Note 8 กับช่องจ่ายไฟ 18W สามารถจ่ายไฟได้ที่ประมาณ 9.09V 1.10A ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณไฟที่เทียบเท่ากับ Qc3.0 เเต่อันนี้เป็นเทคโนโลยี PowerIQ 2.0 ของเเบรนด์ Anker ซึ่งจะชาร์จ Note 8 เต็มได้ไวกว่าที่ชาร์จปกติ (5V/1A)

• จากการลองเทสการจ่ายไฟกับ Galaxy S8 พบว่าเมื่อลองเสียบชาร์จ Note 8 กับช่องจ่ายไฟ 18W สามารถจ่ายไฟได้ที่ประมาณ 9.10V 1.11A ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณไฟที่เทียบเท่ากับ Qc3.0 เเต่อันนี้เป็นเทคโนโลยี PowerIQ 2.0 ของเเบรนด์ Anker ซึ่งจะชาร์จ S8 เต็มได้ไวกว่าที่ชาร์จปกติ (5V/1A)

• จากการลองเทสการจ่ายไฟกับ iPhone X พบว่าเมื่อลองเสียบชาร์จ iPhone X กับช่องจ่ายไฟ 18W สามารถจ่ายไฟได้ที่ประมาณ 5.32V 2.15A ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณไฟที่มากพอจะชาร์จ iPhone X ให้เต็มได้ครับ

• มาที่ iPad กันบ้าง ทีมงานได้ลองเทสการจ่ายไฟกับ iPad พบว่าเมื่อลองเสียบชาร์จ iPad กับช่องจ่ายไฟ 18W สามารถจ่ายไฟได้ที่ประมาณ 5.57V 2.39A ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณไฟที่มากพอจะชาร์จ iPad ให้เต็มได้ครับ

• จากภาพด้านล่างคือการทดสอบวัดไฟเสียบช่อง PowerIQ ครับ (ช่องซ้าย) 12W
• จากการลองเทสการจ่ายไฟกับ Galaxy Note 8 พบว่าเมื่อลองเสียบชาร์จ Note 8 กับช่องจ่ายไฟ 12W สามารถจ่ายไฟได้ที่ประมาณ 5.17V 1.37A ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณไฟที่มากพอจะชาร์จซึ่งจะชาร์จ Note 8 เต็มได้ไวกว่าที่ชาร์จปกติ (5V/1A)

• จากการลองเทสการจ่ายไฟกับ Galaxy S8 พบว่าเมื่อลองเสียบชาร์จ S8 กับช่องจ่ายไฟ 12W สามารถจ่ายไฟได้ที่ประมาณ 5.16V 1.55A ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณไฟที่มากพอจะชาร์จซึ่งจะชาร์จ S8 เต็มได้ไวกว่าที่ชาร์จปกติ (5V/1A)

• จากการลองเทสการจ่ายไฟกับ iPhone X พบว่าเมื่อลองเสียบชาร์จ iPhone X กับช่องจ่ายไฟ 12W สามารถจ่ายไฟได้ที่ประมาณ 5.14V 1.87A ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณไฟที่มากพอจะชาร์จ iPhone X ให้เต็มได้ครับ

• มาที่ iPad กันบ้าง ทีมงานได้ลองเทสการจ่ายไฟกับ iPad พบว่าเมื่อลองเสียบชาร์จ iPad กับช่องจ่ายไฟ 12W สามารถจ่ายไฟได้ที่ประมาณ 5.12V 2.34A ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณไฟที่มากพอจะชาร์จ iPad ให้เต็มได้ครับ

• ***สาย Micro-USB ที่แถมให้มาในกล่อง คุณภาพของสายชาร์จจากที่เราได้ทดสอบ พบว่าเป็นสายชาร์จที่มีสเป็คการจ่ายไฟดีมากๆ ใช้ได้ทั้งชาร์จไฟเข้าแบตสำรอง และชาร์จไฟออกให้กับ Smartphone ที่มีช่องชาร์จแบบ Micro USB
• นอกจากสายชาร์จ Micro USB แล้ว ยังแถมถุงผ้ามาให้ด้วยครับ ถุงผ้าจะช่วยให้พกพาแบตสำรองได้สะดวกขึ้น เเละช่วยให้แบตสำรองไม่ถูกขีดข่วนเป็นรอย
• จากที่แอดมินลองใช้มาสักพักพบว่าตัวนี้รอยขนแมวขึ้นง่ายพอสมควรครับ เพราะแอดมินลองใช้แบบไม่ใส่ในถุงผ้าเลย แต่ก็ไม่ได้มีผลต่อการใช้งานนะครับ ยังชาร์จไฟได้ดีเช่นเดิม

• ****ช่องชาร์จไฟเข้าเป็นหัวแบบ Micro USB ซึ่งรองรับการจ่ายไฟเเบบ PowerIQ 2.0 Input:5V=2A，9V=2A（18W) จึงทำให้ชาร์จได้ไวกว่าปกติทั่วไป ถ้าใช้งานร่วมกับอะแดปเตอร์ที่จ่าย QC  จะใช้เวลาในการชาร์จเพียงเเค่ 5 ชม. เท่านั้น เเต่ถ้าใช้หัวชาร์จ 2A จะใช้เวลาในการชาร์จ 10 ชม. เเละถ้าใช้หัวชาร์จ 1A จะใช้เวลานานถึง 20 ชม. เลยครับ
• เวลาเสียบชาร์จไฟออกให้อุปกรณ์ ไฟสถานะจะกระพริบเพื่อบอกปริมาณแบตคงเหลือครับ
• ***ขณะชาร์จไฟเข้า ไฟสถานะจะขึ้นทีละจุดจนกว่าแบตจะเต็ม และไฟจะดับเองเมื่อชาร์จเต็มครับ
• ตัวนี้มีระบบชาร์จอัตโนมัติครับ คือเมื่อเราเสียบชาร์จชาร์จเข้ากับตัว Smartphone ก็จะทำการชาร์จทันที ไม่ต้องกดปุ่มใดๆให้วุ่นวายครับ

• รุ่นนี้มาพร้อมไฟแสดงสถานะเป็นไฟ LED สีขาวจำนวน 8 ดวง ซึ่ง 1 ดวงก็หมายถึงปริมาณแบตประมาณ 12.5 เปอเซนต์ครับ / ถ้า 2 ดวงเท่ากับ 25% ครับ
• ช่องชาร์จเสียบและถอดได้ง่ายครับ ไม่ฝืดหรือหลวมจนเกินไป

• ตัวเเบตสำรองมาพร้อมผิวสัมผัส Texture ที่เป็นเส้นมีความนูน ที่ช่วยเพิ่มความสวยงาม เเละยังช่วยให้สัมผัสสบายมือ ไม่ลื่นหลุดมือขณะใช้งานครับ

สรุปเรื่องการจ่ายไฟนะครับ

• หากเสียบชาร์จ iPad/Tablet 1-2 เครื่อง ชาร์จได้ปกติครับ
• หากเสียบชาร์จ iPhone/Smartphone 1-2 เครื่อง ชาร์จได้ปกติครับ
• กล้องทั่วไป หรืออุปกรณ์อื่นๆ ให้ดูตามปริมาณไฟที่ใช้นะครับ (ดูได้ที่คู่มืออุปกรณ์) ถ้าเป็น 1A ให้คิดเหมือน Smartphone ถ้าเป็น 2A ให้คิดเป็น Tablet ครับ

การใช้งานโดย 425degree

• *การทดสอบโดยการชาร์จทิ้งไว้เฉยๆ การใช้งานจริงจะขึ้นอยู่กับการเล่นโทรศัพท์ระหว่างชาร์จ แสงหน้าจอ Notification ด้วยซึ่งอาจทำให้รอบน้อยกว่าที่แจ้งในที่นี่ได้ครับ *(เช่น 10000 mAh ตัวแบตจะมีไฟส่วนหนึ่งที่สูญเสียไปที่ตัวอุปกรณ์ระหว่างที่ชาร์จประมาณ 30% และจะมีอีกส่วนหนึ่งที่สูญเสียไฟไปในการแปลงไฟเข้าสู่เครื่องโทรศัพท์ ดังนั้นเวลาชาร์จจริงจะไม่มี Powerbank ตัวไหนชาร์จได้เต็ม 10000 mAh เต็มตาม Spec ครับ)
• ทางแบรนด์เองได้เครมไว้ว่าจากแบต 20000 mAh สามารถใช้ได้จริงที่ 12000 mAh ครับ
• iPhone X (2716 mAh ) = ประมาณ 5 รอบ ครึ่ง
• iPhone 8 (1821 mAh ) = ประมาณ 8 รอบ ครึ่ง
• iPhone 7 (1960 mAh ) = ประมาณ 6.5
• iPhone 8 Plus ( 2675 mAh ) = ประมาณ 5 รอบ ครึ่ง
• iPhone 7 Plus ( 2900 mAh ) = ประมาณ 5 รอบกว่าๆ
• iPhone 6/6s ( 1810 mAh ) = ประมาณ 7 รอบ
• iPhone 6 Plus/6s Plus ( 2915 mAh ) = ประมาณ 5 รอบกว่าๆ
• Galaxy Note 9 ( 4000 mAh ) = ประมาณ 4 รอบ
• Galaxy Note 8 ( 3300 mAh ) = ประมาณ 4 รอบ
• Galaxy S8 (3000 mAh) = ประมาณ 4.4
• Galaxy S8 Plus (3500 mAh) = ประมาณ 4 รอบ
• Galaxy S7 (3000 mAh) = ประมาณ 4.7 รอบ
• Galaxy S7 Edge (3600 mAh) = ประมาณ 4 รอบ
• Galaxy S6 ( 2550 mAh ) = ประมาณ 6 รอบ
• Galaxy S6 Edge ( 2600 mAh ) = ประมาณ 6 รอบ
• iPad mini 4 (5124 mAh) = ประมาณ 2.4 รอบ
• iPad Air 2 (7340 mAh) = ประมาณ 1 รอบ ครึ่ง
• iPad Pro (10307 mAh) = ประมาณ 1 รอบ ครึ่ง
• Huawei P9 (3000 mAh) = ประมาณ 5 รอบกว่าๆ
• Huawei P9 Plus (3400 mAh) = ประมาณ 4 รอบ ครึ่ง
• Huawei Mate 9 (4000 mAh) = ประมาณเกือบๆ 4 รอบ
• Huawei Mate9 Pro (4000 mAh) = ประมาณเกือบๆ 4 รอบ
• *** Huawei ใช้ Chipset ชาร์จเร็วของตัวเองเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่รองรับ Quick Charge ของ Qualcomm แต่ก็สามารถชาร์จได้ปกติ (5V/2.4A) ครับ

ข้อมูลทั่วไป

• ผลิตภัณฑ์เป็นของแท้ 100% ผลิตโดยแบรนด์ Anker
• Cell Battery เป็นแบบ Lithium – ion Battery เกรด Premium ช่วยป้องกันความร้อน แบตบวม และการระเบิดได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือว่าปลอดภัยมากครับ
• ดีไซน์ของแบรนด์ Anker เป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะดูพรีเมี่ยม ดีไซน์รูปทรงที่โค้งมน จับกระชับเข้ารูปกับมือ และยังมีขนาดที่สามารถพกพาได้ง่ายครับ

• แอดมินว่าแบตสำรอง Anker ตัวนี้ทำออกมาได้สวยสมราคา งานนประกอบแน่นหนาดูพรีเมี่ยม ด้วยเทคโนโลยีการผลิตแบบเลเซอร์คัท แม่นยำ และประณีตสวยงามมากครับ
• Anker PowerCore II 20000 มาพร้อมความจุ 20000 mAh โดยมีช่องจ่ายไฟแบบ USB ที่มีเทคโนโลยีการจ่ายไฟแบบ PowerIQ และ VoltageBoost ทำให้สามารถชาร์จ Smartphone/Tablet ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

• ตัว Anker PowerCore มีระบบตัดวงจรไฟอัจฉริยะ ช่วยควบคุมปริมาณการจ่ายไฟ และไม่ทำให้เกิดการกระชากไฟหรือเกิดความร้อนสูงเกิน ปลอดภัยสำหรับชาร์จอุปกรณ์
• ปริมาณไฟ 20000mAh เหมาะสำหรับใช้งาน 5-6 วัน จึงเหมาะมากสำหรับใครที่ต้องการแบตสำรองใช้ระหว่างวันและพกพาในเวลาเดินทางไกลครับ
• มีปุ่มกดเช็คสถานะไฟด้วย LED 8 ดวง (ดวงละ 12.5%) สีขาว

• รุ่นนี้มาพร้อมไฟแสดงสถานะเป็นไฟ LED สีขาวจำนวน 8 ดวง ซึ่ง 1 ดวงก็หมายถึงปริมาณแบตประมาณ 12.5 เปอเซนต์ครับ / ถ้า 2 ดวงเท่ากับ 25% ครับ
• เมื่อชาร์จ Powerbank เต็มไฟ LED จะดับเองโดยอัตโนมัติครับ
• ตัวนี้มีระบบชาร์จอัตโนมัติครับ คือเมื่อเราเสียบชาร์จชาร์จเข้ากับตัว Smartphone ก็จะทำการชาร์จทันที

• บนตัวแบตสำรองมีการสลักโลโก้เเบรนด์ Anker ดูสวยงามครับ ส่วนด้านท้ายของแบตสำรองจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการจ่ายไฟครับ (ที่เห็นเงาๆนั่นคือสติกเกอร์การรับประกัน)
• แถมฟรีถุงผ้าสำหรับพกพา และป้องกันรอยขีดข่วนที่อาจเกิดขึ้นกับผิวของแบตสำรอง และสาย Micro USB คุณภาพดี

• สำหรับใครที่มองหาแบตสำรองขนาดพอเหมาะพกพาสะดวกและชาร์จได้รวดเร็ว Anker PowerCore 20000mAh คืออีกทางเลือกหนึ่งที่ไม่ควรพลาดครับ
• มี 2 สี Black (ดำ) , White (ขาว)

การรับรองมาตรฐานและความปลอดภัย

• ผ่านการรับรองมาตรฐาน CE, RoHS certifications
• CE : เป็นเครื่องหมายที่แสดงการรับรองจากผู้ผลิตว่าสินค้ามีคุณสมบัติตามข้อกำหนดด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรป
• RoHS : เป็นมาตรฐานเพื่อสิ่งแวดล้อม กำหนดให้ชิ้นส่วนทุกอย่างที่ประกอบเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ตั้งแต่แผงวงจร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงสายไฟ จะต้องมีสารที่เป็นอันตรายไม่เกินไปกว่าที่กำหนด (ตะกั่ว/ปรอท/แคดเมียม/เฮกซะวาเลนท์/โพลีโบรมิเนต/โพลีโบรมิเนต)
• และยังรับรองว่าเป็นสินค้าที่สามาระนำไปรีไซเคิลต่อได้ครับ ถือว่าช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้ดีครับ
• มีระบบตัดวงจรไฟอัตโนมัติหากเกิดความร้อนเกินกว่ากำหนด ช่วยควบคุมปริมาณการจ่ายไฟและไม่ทำให้เกิดการกระชากไฟ ปลอดภัยสำหรับชาร์จอุปกรณ์

การทำความสะอาดและดูแลรักษาเพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน

• ควรใช้งานในที่อากาศถ่ายเทได้ เพื่อลดการสะสมความร้อนที่ตัวอุปกรณ์ครับ
• หลีกเลี่ยงการใช้งานในที่ที่ความชื้นสูง หรือบริเวณที่เปียกแฉะ
• ก่อนใช้งานทุกครั้งให้ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์
• ขณะเสียบใช้งานหรือถอดออก ควรจับที่ตัวบอดี้ เพื่อป้องกันสายไฟหักหรือขาดครับ
• หมั่นเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ ไม่ควรใช้สารเคมีใดๆครับ เพราะตัวหนังสือสกรีนอาจหลุดลอกได้ (และโปรดระมัดระวังเรื่องความชื้นของผ้าด้วยครับ ผ้าควรจะหมาดมากๆจนเกือบแห้งครับ)