Anker PowerCore 10400mAh ( Powerbank 10400 mAh )

แบรนด์

• Anker

วัสดุ

• บอดี้แบตสำรองทำจากพลาสติก ABS คุณภาพสูง ทนทานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
• ผิวด้านนอกเป็นผิวสัมผัสแบบด้าน งานประกอบมีความละเอียด สีดำดูพรีเมี่ยมมากครับ

ขนาดและน้ำหนัก

• กว้าง 8 ซม. ยาว 9.7 ซม. หนา 2.2 ซม.
• หนัก 230 กรัม

ข้อมูลเชิงเทคนิค

• Capacity :10400 mAh 
• Total Wattage 37.44 wh
• Input :5V / 2A
• Output :5V / 3A

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• Anker PowerCore 10400mAh x 1
• สายชาร์จ Micro USB x 1 (5V/2.4A)
• ถุงผ้าใส่แบตสำรอง
• คู่มือการใช้งาน x 1

การรับประกัน

• ตัวผลิตภัณฑ์รับประกันภายใน 2 ปี ภายใต้เงื่อนไขที่ทางแบรนด์กำหนด โดยความเสียหายที่เกิดจากการผลิตและไม่รวมถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้งานผิดประเภท โดยผู้ซื้อต้องเก็บกล่องบรรจุภัณฑ์เพื่อใช้ในการยืนยันในการซื้อสินค้ากับทางร้าน 425Degree กรณีที่อยู่ในการรับประกัน

ประสบการณ์ใช้งานจริงจาก 425Degree

• จากที่เเอดมินได้ลองใช้งานจริงรู้สึกว่า Anker เป็นแบรนด์ที่ทำสินค้าิิดมาได้ดูดีทั้งงานประกอบ และความเสถียรในการจ่ายไฟดีเยี่ยม จะเห็นเห็นชัดเจนว่ามีคุณภาพดีกว่าแบตสำรองทั่วไป คุณภาพงานในการผลิตเชื่อถือได้ด้วยมาตรฐานระดับอเมริกาครับ

• มาพร้อมช่องชาร์จ USB ที่มีเทคโนโลยี PowerIQ ซึ่งเป็นระบบชาร์จที่ Anker พัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยปรับกระแสไฟและแรงดันการชาร์จไฟอัตโนมัติเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จ่ายไฟมากที่สุดเท่าที่อุปกรณ์จะรับได้ครับสูงสุดที่ 5V/2.4A ซึ่งจะช่วยให้ชาร์จไฟได้สเถียรและมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ
• นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี VoltageBoost ที่สามารถช่วยให้กำลังไฟที่จ่ายออกไปมีความเสถียร เเละถึงเเม้จะใช้สายชาร์จเเบรนด์ไหน ก็ทำให้การจ่ายไฟก็ยังคงความเสถียรอยู่ครับ

• จากการลองเทสการจ่ายไฟ พบว่าเมื่อลองเสียบชาร์จ Note 8 สามารถจ่ายไฟได้ที่ประมาณ 5.12V 1.47A ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณไฟมากพอจะชาร์จ Note 8 ให้เต็มได้ไวกว่าที่ชาร์จปกติ (5V/1A)

• จากการลองเทสการจ่ายไฟ พบว่าเมื่อลองเสียบชาร์จ iPhone X สามารถจ่ายไฟได้ที่ประมาณ 5.1V 1.5A ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณไฟที่สูงทำให้ชาร์จ iPhone X ได้เต็มเร็วกว่าที่ชาร์จปกติ (5V/1A) ครับ

• มาที่ Tablet กันบ้าง ทีมงานได้ลองเทสการจ่ายไฟกับ Tablet พบว่าเมื่อลองเสียบชาร์จ Tablet สามารถจ่ายไฟได้ที่ประมาณ 5.16V 1.7A ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณไฟที่มากพอจะชาร์จ Tablet ให้เต็มได้ครับ

• ***สาย Micro-USB ที่แถมให้มาในกล่อง คุณภาพของสายชาร์จจากที่เราได้ทดสอบ พบว่าเป็นสายชาร์จที่มีสเป็คการจ่ายไฟดีมากๆ ใช้ได้ทั้งชาร์จไฟเข้าแบตสำรอง และชาร์จไฟออกให้กับ Smartphone ที่มีช่องชาร์จแบบ Micro USB
• นอกจากสายชาร์จ Micro USB แล้ว ยังแถมถุงผ้ามาให้ด้วยครับ ถุงผ้าจะช่วยให้พกพาแบตสำรองได้สะดวกขึ้นครับ และช่วยให้แบตสำรองไม่ถูกขีดข่วนเป็นรอย

• ช่องชาร์จไฟเข้าเป็นหัวแบบ Micro USB ซึ่งใช้เวลาในการชาร์จ 5-6 ชั่วโมง (ถ้าใช้หัวชาร์จ 2A) หรือ 10-12 ชั่วโมง (ใช้หัวชาร์จ 1A)

• ช่องชาร์จเสียบไฟออกเเบบมาให้ถอดออกได้ง่าย ไม่ฝืดหรือหลวมจนเกินไปครับ
• จากที่แอดมินลองใช้มาสักพักพบว่าตัวนี้รอยขนแมวขึ้นง่ายพอสมควรครับ เพราะแอดมินลองใช้แบบไม่ใส่ในถุงผ้าเลย แต่ก็ไม่ได้มีผลต่อการใช้งานนะครับ ยังชาร์จไฟได้ดีเช่นเดิม

สรุปเรื่องการจ่ายไฟนะครับ

• หากเสียบชาร์จ iPad/Tablet 1-2 เครื่อง ชาร์จได้ปกติครับ
• หากเสียบชาร์จ iPhone/Smartphone 1-2 เครื่อง ชาร์จได้ปกติครับ
• กล้องทั่วไป หรืออุปกรณ์อื่นๆ ให้ดูตามปริมาณไฟที่ใช้นะครับ (ดูได้ที่คู่มืออุปกรณ์) ถ้าเป็น 1A ให้คิดเหมือน Smartphone ถ้าเป็น 2A ให้คิดเป็น Tablet ครับ

การใช้งานโดย 425degree

• *การทดสอบโดยการชาร์จทิ้งไว้เฉยๆ การใช้งานจริงจะขึ้นอยู่กับการเล่นโทรศัพท์ระหว่างชาร์จ แสงหน้าจอ Notification ด้วยซึ่งอาจทำให้รอบน้อยกว่าที่แจ้งในที่นี่ได้ครับ *(เช่น 10000 mAh ตัวแบตจะมีไฟส่วนหนึ่งที่สูญเสียไปที่ตัวอุปกรณ์ระหว่างที่ชาร์จประมาณ 30% และจะมีอีกส่วนหนึ่งที่สูญเสียไฟไปในการแปลงไฟเข้าสู่เครื่องโทรศัพท์ ดังนั้นเวลาชาร์จจริงจะไม่มีแบตสำรองตัวไหนชาร์จได้เต็ม 10000 mAh เต็มตาม Spec ครับ)
• iPhone X (2716 mAh ) = ประมาณ 2 รอบกว่าๆ
• iPhone 8 (1821 mAh ) = ประมาณ 3 รอบกว่าๆ
• iPhone 7 (1960 mAh ) = ประมาณ 3 รอบ
• iPhone 8 Plus ( 2675 mAh ) = ประมาณ 2 รอบกว่าๆ
• iPhone 7 Plus ( 2900 mAh ) = ประมาณ 2 รอบ
• iPhone 6/6s ( 1810 mAh ) = ประมาณ 3 รอบกว่าๆ
• iPhone 6 Plus/6s Plus ( 2915 mAh ) = ประมาณ 2 รอบ
• Galaxy Note 8 ( 3300 mAh ) = ประมาณเกือบๆ 2 รอบ
• Galaxy S9 (3000 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• Galaxy S9 Plus (3500 mAh) = ประมาณเกือบๆ 2 รอบ
• Galaxy S8 (3000 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• Galaxy S8 Plus (3500 mAh) = ประมาณเกือบๆ 2 รอบ
• Galaxy S7 (3000 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• Galaxy S7 Edge (3600 mAh) = ประมาณเกือบๆ 2 รอบ
• Galaxy S6 ( 2550 mAh ) = ประมาณ 2 รอบกว่าๆ
• Galaxy S6 Edge ( 2600 mAh ) = ประมาณ 2 รอบกว่าๆ
• iPad mini 4 (5124 mAh) = ประมาณ 1 รอบกว่าๆ
• iPad Air 2 (7340 mAh) = ประมาณเกือบ 1 รอบ
• iPad Pro (10307 mAh) = ประมาณครึ่งรอบ
• Huawei P9 (3000 mAh) = ประมาณ 2 รอบ
• Huawei P9 Plus (3400 mAh) = ประมาณเกือบ 2 รอบ
• Huawei Mate 9 (4000 mAh) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• Huawei Mate9 Pro (4000 mAh) = ประมาณ 1 รอบครึ่ง
• iPad Mini 2 = ประมาณ 1 รอบ

ข้อมูลทั่วไป

• ผลิตภัณฑ์เป็นของแท้ 100% ผลิตโดยแบรนด์ Anker
• Cell Battery เป็นแบบ Lithium – ion Battery เกรด Premium ช่วยป้องกันความร้อน แบตบวม และการระเบิดได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือว่าปลอดภัยมากครับ
• ดีไซน์ของแบรนด์ Anker เป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะดูพรีเมี่ยม ดีไซน์รูปทรงที่โค้งมน จับกระชับเข้ารูปกับมือ และยังมีขนาดที่สามารถพกพาได้ง่ายครับ

• Anker PowerCore 10400mAh มีกรอบตัวแบตถึง 2 ชั้นที่ได้ทดสอบจากในห้องแลปแล้วว่าสามารถกันกระแทก,กันสั่นและป้องกันอันตรายจากอุณหภูมิได้ในระดับหนึ่ง ส่วนกรอบชั้นในยังทำจาก Polycarbonate ที่ไม่ติดไฟสบายใจได้ในทุกการใช้งานครับ

• ตัว Anker PowerCore มีระบบตัดวงจรไฟอัจฉริยะ ช่วยควบคุมปริมาณการจ่ายไฟ และไม่ทำให้เกิดการกระชากไฟหรือเกิดความร้อนสูงเกิน ปลอดภัยสำหรับชาร์จอุปกรณ์
• ยังมาพร้อมความจุ 10400 mAh โดยมีช่องจ่ายไฟแบบ USB ที่มีเทคโนโลยีการจ่ายไฟแบบ PowerIQ และ VoltageBoost ทำให้สามารถชาร์จ Smartphone/Tablet ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

• ปริมาณไฟ 10400mAh เหมาะสำหรับใช้งาน 2-3 วัน จึงเหมาะมากสำหรับใครที่ต้องการแบตสำรองใช้ระหว่างวันและพกพาง่าย

• มีปุ่มกดเช็คสถานะไฟด้วย LED 4 ดวง (ดวงละ 25%) สีนํ้าเงิน

• เมื่อชาร์จ Powerbank เต็มไฟ LED จะค้างจนกว่าจะมีการ ถอดสายชาร์จออกครับ
• ตัวนี้มีระบบชาร์จอัตโนมัติครับ คือเมื่อเราเสียบชาร์จชาร์จเข้ากับตัว Smartphone ก็จะทำการชาร์จทันที

การรับรองมาตรฐานและความปลอดภัย

• ผ่านการรับรองมาตรฐาน CE, RoHS certifications
• CE : เป็นเครื่องหมายที่แสดงการรับรองจากผู้ผลิตว่าสินค้ามีคุณสมบัติตามข้อกำหนดด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรป
• RoHS : เป็นมาตรฐานเพื่อสิ่งแวดล้อม กำหนดให้ชิ้นส่วนทุกอย่างที่ประกอบเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ตั้งแต่แผงวงจร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงสายไฟ จะต้องมีสารที่เป็นอันตรายไม่เกินไปกว่าที่กำหนด (ตะกั่ว/ปรอท/แคดเมียม/เฮกซะวาเลนท์/โพลีโบรมิเนต/โพลีโบรมิเนต)
• และยังรับรองว่าเป็นสินค้าที่สามาระนำไปรีไซเคิลต่อได้ครับ ถือว่าช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้ดีครับ
• มีระบบตัดวงจรไฟอัตโนมัติหากเกิดความร้อนเกินกว่ากำหนด ช่วยควบคุมปริมาณการจ่ายไฟและไม่ทำให้เกิดการกระชากไฟ ปลอดภัยสำหรับชาร์จอุปกรณ์

การทำความสะอาดและดูแลรักษาเพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน

• ควรใช้งานในที่อากาศถ่ายเทได้ เพื่อลดการสะสมความร้อนที่ตัวอุปกรณ์ครับ
• หลีกเลี่ยงการใช้งานในที่ที่ความชื้นสูง หรือบริเวณที่เปียกแฉะ
• ก่อนใช้งานทุกครั้งให้ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์
• ขณะเสียบใช้งานหรือถอดออก ควรจับที่ตัวบอดี้ เพื่อป้องกันสายไฟหักหรือขาดครับ
• หมั่นเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ ไม่ควรใช้สารเคมีใดๆครับ เพราะตัวหนังสือสกรีนอาจหลุดลอกได้ (และโปรดระมัดระวังเรื่องความชื้นของผ้าด้วยครับ ผ้าควรจะหมาดมากๆจนเกือบแห้งครับ)