Shokz Aeropex

หูฟังไร้สายฯประเภท Bone Conduction กันนํ้าและฝุ่น IP67

เพื่อนักกีฬาและนักออกกำลังกาย !!

425 Recommend

• Aftershokz Aeropex หูฟังไร้สายฯ Bone Conduction ที่มีการพัฒนาต่อยอดมาจากรุ่นก่อน Aftershokz Air โดยเพิ่มประสิทธิภาพของเสียงที่ดีขึ้น ขนาดและนํ้าหนักที่เบาขึ้น แบตเตอรี่ที่ใช้ได้ยาวนานขึ้นและอื่นๆอีกมากมายครับ
• Aftershokz Aeropex เป็นหูฟัง Bone Conduction ที่เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นกีฬาภายนอกเช่น การปั่นจักรยาน วิ่งระยะไกล และอื่นๆที่อยากฟังเพลงในขณะที่ยังได้ยินเสียงรอบๆตัวได้อย่างชัดเจน เนื่องจากการส่งสัญญาณเสียงของเทคโนโลยี Bone Conduction จะใช้วิธีการสั่นผ่านกระดูกโหนกแก้มของผู้สวมใส่ เพื่อส่งตรงไปยังแก้วหูชั้นในให้เราได้ยิน ต่างจากหูฟัง In-Ear หรือ Earbud ทั่วไป ที่ใช้การส่งสัญญาณเสียงผ่านแก้วหูชั้นนอกก่อนไปยังแก้วหูชั้นใน ทำให้เรายังสามารถได้ยินเสียงรอบๆตัวของเราได้อย่างชัดเจนไปพร้อมๆกับเสียงเพลงจากหูฟัง Aftershokz Aeropex ครับ
• เท่าที่ทีมงาน 425° ทดสอบใช้งานอยู่หลายๆวันพบว่าสวมใส่ได้สบายกว่ารุ่นก่อนมากพอสมควร หูฟังไม่บีบศรีษะมากจนอึดอัดหรือคลายมากจนไม่รู้สึกกระชับ สามารถใส่ใช้งานได้ตลอดทั้งวันครับ
• มาพร้อมกับมาตรฐานการกันนํ้าและฝุ่นที่มากขึ้นถึงระดับ IP67 สามารถกันเหงื่อได้ไม่ว่าเราจะเหงื่อออกแค่ไหน หรือทำกิจกรรมที่ต้องโดนนํ้าสาดใส่หูฟังก็สามารถป้องกันและอยู่กับเราต่อไปได้ ทำให้เรามีความมั่นใจในการสวมใส่ Aftershokz Aeropex มากขึ้นครับ
• หากใครเป็นนักกีฬา หรือรักการออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็นวิ่งระยะไกล ปั่นจักรยาน เล่นสกี หรือสายผจญภัย Aftershokz Aeropex จะตอบโจทย์ทุกๆท่านได้ดี เป็นหูฟังที่ใส่ทำกิจกรรมต่างๆได้ โดยที่เรายังสามารถสัมผัสกับเสียงสภาพแวดล้อมรอบๆตัวเราไปพร้อมๆกับฟังเพลงโปรดที่บรรเลงผ่านกระดูกแก้มของผู้สวมใส่ครับ

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Aftershokz Aeropex

• Aftershokz Aeropex เป็นหูฟังที่ใช้การส่งคลื่นเสียงแบบ Bone Conduction โดยหลักการทำงานคือจะใช้แรงสั่นสะเทือนที่บริเวณกระดูกแก้ม เพื่อส่งผ่านเสียงไปยังโสดประสาทการได้ยินหรือแก้วหูชั้นในโดยตรง โดยที่ไม่ผ่านแก้วหูชั้นนอก(Eardrums) ครับ
• การสวมใส่ Aftershokz Aeropex จะเป็นการใส่คล้องหู โดยที่ตัวส่งคลื่นเสียงทั้งสองข้างจะติดกับกระดูกแก้มใกล้ๆกับรูหูครับ
• ประโยชน์ของ Bone Conduction คือการที่เราสามารถฟังเพลงได้โดยที่เรายังได้ยินเสียงสภาพแวดล้อมรอบๆตัวของเราได้อย่างชัดเจน เนื่องจากหูฟังไม่ได้ใส่เข้าไปในรูหู แต่จะอยู่ติดกับกระดูกแก้มของเราครับ
• หูฟังประเภทนี้มักนิยมใช้กับผู้ที่เล่นกีฬาภายนอก ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งระยะไกล ปั่นจักรยานขึ้นเขา-ลงเขา สกีหิมะ เนื่องจากมันสามารถฟังเสียงรอบๆตัวไปพร้อมกับๆเสียงเพลงได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังนิยมใช้กับผู้ที่ไม่ชอบใส่หูฟังทั่วไปเนื่องจากอึดอัดหู หรือไม่ชอบที่ไม่ได้ยินเสียงรอบๆตัว ทำให้เราสามารถฟังเพลงได้อย่างปลอดภัยครับ

Product Highlight

• ส่วนของก้านใช้วัสดุ Titanium หุ้ม ฺBody ด้วยซิลิโคน (Titanium Fit)
• ไดร์เวอร์แบบ Open-Ear Design Bone Conduction Technology ส่งสัญญาณเสียงโดยใช้แรงสั่นสะเทือนผ่านกระดูกแก้มของผู้สวมใส่
• เทคโนโลยี Premium Pitch 2.0+ ช่วยให้คุณภาพเสียงที่ดี
• มาตรฐานการกันนํ้าและฝุ่นระดับ IP67 (Dust and Water Resistance)
• มีระบบตรวจจับความชื้น (Moisture Detection Alert)
• สามารถเชื่อมต่อและใช้งานพร้อมกันได้สูงสุด 2 อุปกรณ์ (Multipoint Pairing)
• เล่นต่อเนื่องได้สูงสุด 8 ชั่วโมง

Product Specification (ข้อมูลจากคู่มือภายในกล่อง)

ข้อมูลทั่วไป (General)

• ไมโครโฟน : -38+3dB
• กันนํ้า : IP67 (กันนํ้าและฝุ่น)
• การเชื่อมต่อ (Connectivity)
• บลูทูธ : เวอร์ชั่น 5.0
• ระยะการเชื่อมต่อ : สูงสุด 10 เมตร (ไม่มีสิ่งกีดขวาง)
• บลูทูธโปรไฟล์ : A2DP, AVRCP, HSP, HFP
• คลื่นความถี่ : 2402 MHz-2480 MHz

ไดร์เวอร์ (Driver)

• ไดร์เวอร์ : ฺBone Conduction Transducer
• ความถี่ที่ตอบสนอง : 20Hz-20KHz
• ความเร็วในกานตอบสนอง : 105 + 3dB
• ค่าความต้านทาน : 8.5 ᘯ + 20%

แบตเตอรี่ (Battery)

• เล่นต่อเนื่อง : สูงสุด 8 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับการใช้งาน)
• แรงดันไฟฟ้า : 5V+5%
• ระยะเวลาในการชาร์จแบตฯ : ภายใน 2 ชั่วโมงหรือมากกว่า
• ความจุแบตเตอรี่ : 145 mAh

ขนาดและนํ้าหนัก (Weight & Dimension)

• นํ้าหนัก : 26 กรัม

Gallery :

Sound Review (เป็นความคิดเห็นของทีมงาน 425° นะครับ)

• เสียงเบส : เสียงเบสมีปริมาณที่ไม่มากนัก เสียง Subbass ออกเบาจนต้องเพ่งฟัง แต่จะมีเสียงช่วง Low-Mid หรือเสียงหัวโน๊ตเบสออกมาให้ได้ยินอย่างชัดเจน รู้สึกแตะต้องได้บ้าง แต่ถ้าฟังเผินๆเราจะรู้สึกได้ถึงเสียงย่านตํ่าคลอๆ ถือว่ายังมีเสียงย่านตํ่ากำกับย่านเสียงที่อยู่สูงขึ้นไปให้ดูมีความแข็งแรง แต่หากเราใส่ที่อุดหู (Earplugs) แล้ว เราจะได้ยินเสียงเบสที่ชัดขึ้นมาก เสียงหัวโน๊ตที่ฟังจับได้ และมีเสียง Subbass ที่หนาและลูกใหญ่ขึ้นครับ
• เสียงกลาง : เสียงกลางมีปริมาณที่ชัดเจนที่สุด สามารถขับเสียงเครื่องดนตรีย่านกลางออกมาได้ครบและชัดเจนไม่ว่าจะเป็นเสียงกีต้าร์ เสียงของเครื่องสังเคราะห์เสียง (Synth) หรือเสียงหนังกลองสแนร์ก็ให้แรงปะทะกำลังดี เสียงร้องได้ยินอย่างชัดเจน ก้าวออกมาหน้าเสียงวงดนตรีเล็กน้อย มีบ้างที่เสียงร้องกับเสียงดนตรีกัดกันเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในจุดที่ยังฟังได้ชัดถ้อยชัดคำ มีโทนที่อยู่ตรงกลางระหว่างความเคลียร์ใสและความหม่น เมื่อใส่ที่อุดหู (Earplugs) แล้ว เสียงกลางจะค่อนข้างฟังดูล้นเล็กน้อย แต่จะได้เรื่องรายละเอียดเสียงเครื่องดนตรีและเสียงร้องที่เต็มมากขึ้นเยอะครับ
• เสียงแหลม : เสียงย่านแหลมค่อนข้างทำได้ดีมากๆ เสียงช่วงปลายของเสียงร้องทอดออกได้ไกล และฟังดูให้โทนที่สว่างปานกลาง เสียงกีต้าร์เวลาเล่นโน๊ตสูงๆให้ความจัดจ้านแบบพอดีๆ ภาพรวมเสียงแหลมช่วยเติมเต็มให้ย่านเสียงกลางมีความฉํ่าและเคลียร์ใสมากขึ้น แต่เมื่อใส่ที่อุดหู (Earplugs) เสียงแหลมจะค่อนข้างโดนเสียงกลางกับเสียงเบสเบียดไปอยู่ข้างหลังพอสมควรครับ
• เวทีเสียง/มิติ : เวทีเสียงมีความกว้างจากซ้ายไปขวาพอดีรับกับใบหน้า การแยกมิติเสียงทำได้ดี เสียงกีต้าร์ที่ถูกวางทั้งซ้ายหรือขวา เสียงเครื่องเคาะ เสียงกระดิ่งต่างๆสามารถฟังจับโฟกัสได้ง่าย มีความลึก-ตื้นอยู่เล็กน้อย อยู่ในจุดที่ฟังสบาย แต่เมื่อใส่ที่อุดหู (Earplug) แล้ว ซาวด์สเตจจะแคบขึ้น และการแยกเสียงดนตรีจะสามารถฟังจับได้มากขึ้นครับ
• สรุป : Aftershokz Aeropex ไม่ใช่หูฟังเพื่อนักฟังเพลง หรือสาย Audiophile แต่เป็นหูฟังฟังเพลงสำหรับการออกกำลังกาย การปั่นจักรยาน หรือเล่นกีฬา Extreme Outdoor ต่างๆ หรือจะใส่ขับรถจักรยานยนต์ โดยที่เรายังสามารถสัมผัสกับเสียงรอบๆตัวของเราได้อย่างชัดเจนครับ

Phone Calls Review (เป็นความคิดเห็นของทีมงาน 425 นะครับ)

• เสียงต้นสาย (ไมโครโฟน) : เสียงไมโครโฟนของ Aftershokz Aeropex มีคุณภาพที่ดี เสียงดังฟังชัด โทนเสียงพูดปกติแบบใช้โทรศัพท์แนบหูคุยครับ
• เสียงปลายสาย : เสียงปลายสายให้เสียงห่างจากตัวพอสมควร แต่ให้เสียงที่ดังกำลังดี ฟังง่าย การตัดเสียงรบกวนจากฝั่งเราค่อนข้างทำได้ดี เสียงพูดจะดังกว่าเสียงรบกวนพอสมควร แต่อาจจะมีความลำบากในการฟังรับสารหากคุยในสถานที่ที่มีเสียงดังเช่น ห้างสรรพสินค้า ข้างถนนใหญ่ แนะนำให้หาที่เงียบๆคุยจะดีกว่าครับ

***คุณภาพเสียงปลายสายอาจขึ้นอยู่กับคุณภาพไมโครโฟนอุปกรณ์หรือหูฟังของคู่สายด้วยครับ
***ไมโครโฟนของ Aftershokz Aeropex จะอยู่ข้างขวาทั้ง 2 ตัวครับ

ทดสอบดูคลิปออนไลน์

• Android Bluetooth เวอร์ชั่น 5.0 : ไม่พบอาการดีเลย์จากการดู Youtube , Netflix สามารถใช้ดูได้ครับ
• iOS Bluetooth เวอร์ชั่น 5.0 : ไม่พบอาการดีเลย์จากการดู Youtube, Netflix สามารถใช้ดูได้ครับ

ทดสอบเล่นเกมส์

• Android Bluetooth เวอร์ชั่น 5.0 : พบอาการดีเลย์จากการเล่นเกมส์พอสมควร ไม่แนะนำให้ใช้เล่นเกมส์ครับ
• iOS Bluetooth เวอร์ชั่น 5.0 : พบอาการดีเลย์น้อยมาก น้อยจนแทบไม่รู้สึก กดแล้วเสียงปืนติดนิ้ว สามารถใช้เล่นได้ครับ

อุปกรณ์ที่ใช้ทดสอบ : Samsung Note 10, Nokia 7 plus, iPhone XR, iPhone 11

ส่วนประกอบและปุ่มฟังชั่นต่างๆของ Aftershokz Aeropex

1. Multi-function Button : ปุ่มสำหรับควบคุมเพลงและการคุยโทรศัพท์

1. Microphone 1 : ไมโครโฟนสำหรับรับเสียงพูดขณะคุยโทรศัพท์
2. Microphone 2 : ไมโครโฟนสำหรับรับเสียงพูดขณะคุยโทรศัพท์
3. LED Indicator : ไฟ LED สำหรับบอกสถานะต่างๆของหูฟัง
4. Power/Volume +/Volume - : ปุ่มสำหรับเปิด-ปิดหูฟัง และเพิ่มระดับเสียงขึ้น-ลง
5. Magnetic Charging Port : พอร์ตสำหรับชาร์จแบตเตอรี่

การเปิดใช้งานหูฟัง

• กดปุ่ม Volume + ค้างไว้ประมาณ 2 วินาที จนมีเสียงผู้หญิงพูดขึ้นมาว่า “Welcome to Aftershokz” หรือสังเกตุจากไฟ LED ขึ้นไฟสีนํ้าเงิน 1 ครั้งแล้วดับไปครับ

การปิดการใช้งานหูฟัง

• ขณะที่ใช้งานหูฟังอยู่ กดปุ่ม Volume + ค้างไว้ประมาณ 3 วินาที จนมีเสียงผู้หญิงพูดขึ้นมาว่า “Power Off” ครับ

การเชื่อมต่อ Bluetooth ครั้งแรก

1. ก่อนอื่นให้สวมใส่ Aftershokz Aeropex เพื่อให้เราสามารถได้ยินเสียง prompt ขณะเราใช้งานครับ
2. กดปุ่ม Volume + ค้างไว้จนได้ยินเสียงผู้หญิงพูดว่า “Pairing” (แพริ่ง) ไฟ LED จะกระพริบไฟสีแดงสลับนํ้าเงินครับ
3. เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ ค้นหาชื่อ “Aeropex by Aftershokz” แล้วกดเชื่อมต่อครับ
4. เมื่อเชื่อมต่อสำเร็ตแล้ว จะมีเสียงผู้หญิงพูดขึ้นมาว่า “Connected” (คอนเน็คเท็ท) หรือไฟ LED กระพริบไฟสีนํ้าเงิน 1 ครั้ง เป็นอันเสร็จสิ้นการเชื่อมต่อครั้งแรกครับ

การเชื่อมต่อ Bluetooth ครั้งต่อไป

1. ทำการเปิดใช้งานหูฟังโดยการกดปุ่ม Volume + ค้างไว้ประมาณ 2 วินาทีจนมีเสียงผู้หญิงพูดขึ้นมาว่า “Welcome To Aftershokz” หรือสังเกตุจากไฟ LED ขึ้นไฟสีนํ้าเงิน 1 ครั้งแล้วดับไปครับ
2. เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ของเรา หากอุปกรณ์นั้นๆเคยเชื่อมต่อกับ Aftershokz Aeropex มาแล้ว หูฟังจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ตัวล่าสุดให้โดยอัตโนมัติครับ

วิธีการเชื่อมต่อ Bluetooth กับอุปกรณ์ใหม่

1. ขณะที่หูฟังปิดอยู่ กดปุ่ม Volume + ค้างไว้จนมีเสียงผู้หญิงพูดว่า “Pairing” หรือสังเกตุจากไฟ LED กระพริบไฟสีนํ้าเงินสลับแดงครับ
2. เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ใหม่ ค้นหาชื่อ “Aeropex by Aftershokz” แล้วกดเชื่อมต่อเป็นอันเสร็จสิ้นครับ

การเรียกใช้งาน AI Assistant (Google&Siri)

• กดปุ่ม Multifuction Button ค้างไว้ประมาณ 2 วินาทีแล้วปล่อย จะมีเสียง AI Assistant ดังขึ้น จึงเริ่มใช้งานได้เลยครับ

การทำงานของระบบตรวจจับความชื้น (Moisture Detected Alert)

• Aftershokz Aeropex มีระบบตรวจจับความชื้นที่พอร์ตชาร์จแม่เหล็ก หากหูฟังตรวจจับความชื้นบนตัวหูฟังโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่พอร์ตชาร์จแบตเตอรี่ของหูฟัง หูฟังจะสั่นและกระพริบไฟสีแดงสลับนํ้าเงินและส่งสัญญาณเตือน “ปี๊ป ปี๊ป” หากหูฟังอยู่ในสถานะนี้ หูฟังจะปิดรับกระแสไฟจากแหล่งชาร์จไฟเพื่อป้องกันพอร์ตชาร์จแบตฯของหูฟังเสื่อมหรือเสียหาย ให้ทำการเช็ดหูฟัง พอร์ตชาร์จของหูฟัง รวมถึงขั้วสายชาร์จฯให้แห้งเสียก่อน จึงจะสามารถชาร์จแบตเตอรี่หูฟังได้ครับ

การเชื่อมต่ออุปกรณ์ 2 ตัวพร้อมกัน (Multipoint Pairing)

1. ก่อนอื่นให้สวมใส่หูฟัง Aftershokz Aeropex เสียก่อน เพื่อให้เราสามารถฟังเสียง prompt ได้ขณะเชื่อมต่อหูฟังสองอุปกรณ์พร้อมกันครับ
2. ขณะที่หูฟังปิดการใช้งานอยู่ กดปุ่ม Volume + ค้างไว้จนมีเสียงผู้หญิงพูดขึ้นมาว่า “Pairing” (แพริ่ง) หรือสังเกตุจากไฟ LED กระพริบไฟสีนํ้าเงินสลับแดง (อย่าเพิ่งเปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์นะครับ)
3. กดปุ่ม Multifunction Button พร้อมกับปุ่ม Volume + ค้างไว้ประมาณ 3 วินาที หรือจนมีเสียงผู้หญิงพูดขึ้นมาว่า “Multipoint Enabled” (มัลติพ้อยท์ เอนเอเบิ้ล)
4. เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ตัวที่ 1 ค้นหาชื่อ “Aeropex by Aftershokz” แล้วกดเชื่อมต่อครับ
5. ปิดหูฟังโดยการกดปุ่ม Volume + ค้างไว้จนมีเสียงคนพูดว่า “Power Off”
6. ขณะที่หูฟังปิดอยู่ กดปุ่ม Volume + ค้างไว้จนมีเสียงผู้หญิงพูดขึ้นว่า “Pairing” (แพริ่ง) ไฟ LED กระพริบไฟสีแดงสลับนํ้าเงิน
7. เปิด Bluetooth ที่อุปกรณ์ตัวที่ 2 ค้นหาชื่อ “Aeropex By Aftershokz” แล้วกดเชื่อมต่อ
8. ปิดหูฟังอีกครั้งโดยการกดปุ่ม Volume + ค้างไว้จนมีเสียงผู้หญิงพูดว่า “Power Off”
9. ทำการเปิดหูฟังอีกครั้งโดยการกดปุ่ม Volume + ค้างไว้ประมาณ 2 วินาที จะมีเสียงผู้หญิงพูดขึ้นมาว่า “Welcome to Aftershokz” หรือสังเกตุจากไฟ LED ขึ้นไฟสีนํ้าเงินขึ้นแล้วดับไป
10. คราวนี้หูฟังนะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ตัวที่ 1 และอุปกรณ์ตัวที่ 2 ได้พร้อมกันแล้วครับ

***หากต้องการยกเลิกการใช้งาน Multipoint Pairing ให้กดปุ่ม Multi-function button พร้อมกับปุ่ม Volume + พร้อมกันค้างไว้จนมีเสียงผู้หญิงพูดขึ้นว่า “Multipoint Disabled” ครับ

การใช้งาน Aftershokz Aeropex ร่วมกับที่อุดหู (EarPlugs) และการปรับ EQ เสียง

• หูฟัง Aftershokz Aeropex สามารถใช้ร่วมกับที่อุดหู (Earplugs) เพื่อตัดเสียงรอบๆตัวให้เราได้ยินแค่เสียงเพลงได้ครับ
• แนะนำว่าควรใช้งานในที่ที่ปลอดภัยเท่านั้นเช่น บ้าน บนรถโดยสาร เครื่องบิน เป็นต้น
• การใช้ที่อุดหูร่วมกับการสวมใส่ Aftershokz Aeropex จะทำให้เราสามารถได้ยินเสียง EQ ที่เราปรับได้ครับ
• การปรับ EQ นั้นง่ายมาก เพียงแค่กดปุ่ม Volume + และ Volume - พร้อมกัน ทำซํ้าอีกครั้งเพื่อเปลี่ยน EQ Profile ไปเรื่อยๆครับ

การ Reset Factory

1. หากหูฟังเปิดการใช้งานอยู่ ให้ทำการปิดเสียก่อนโดยการกดปุ่ม Volume + ค้างไว้เป็นเวลา 3 วินาที จนได้ยินเสียงผู้หญิงพูดว่า “Power Off” ครับ
2. ขณะที่หูฟังปิดการใช้งานอยู่ ให้กดปุ่ม Volume + ค้างไว้จนมีเสียงผู้หญิงพูดว่า “Pairing” ครับ
3. ขณะที่หูฟังอยู่ในโหมด Pairing ให้กดปุ่ม Multi-function Button ปุ่ม Volume + และปุ่ม Volume - พร้อมกันทั้งสามปุ่มค้างไว้ประมาณ 5 วินาทีจนมีเสียงสัญญาณ “ปี๊ป !“ ดังขึ้น 2 ครั้ง หรือหูฟังสั่นตอบสนองครับ
4. หลังจากนั้น ให้ทำการปิดหูฟังโดยการกดปุ่ม Volume + ค้างไว้จนมีเสียงผู้หญิงพูดขึ้นว่า “Power Off” เป็นอันเสร็จสิ้นการ Reset Factory ของ Aftershokz Aeropex ครับ

การควบคุมทั่วไป

การควบคุมเพลง

การควบคุมการคุยโทรศัพท์

การชาร์จแบตเตอรี่หูฟัง Aftershokz Aeropex

1. หากแบตเตอรี่หูฟังใกล้หมด หูฟังจะกระพริบไฟสีแดงเป็นระยะทุกๆ 2 นาที บ่งบอกว่าให้รีบชาร์จแบตเตอรี่หูฟังครับ
2. เสียบสาย USB ที่มากับกล่องฯเข้ากับพอร์ตชาร์จฯของ Aftershokz Aeropex ลักษณะการเสียบจะเป็นแม่เหล็กแรงดูดสูงดูดเข้าหากันครับ
3. ส่วนชั้วสาย USB-A อีกข้าง ให้เสียบเข้ากับพอร์ต USB ทั่วไป หรือเสียบกับ Adaptor 5V กับปลั๊กไฟก็ได้ครับ
4. หากพอร์ตชาร์จตรวจจับได้ว่าที่พอร์ตชาร์จมีความชื้น มันจะกระพริบไฟสีแดงพร้อมทั้งส่งสัญญาณเสียงเตือน เป็นผลพวงมาจากระบบตรวจจับความชื้น (Moisture Detection Alert) และมันจะไม่ยอมรับไฟเข้า ให้ทำการถอดสายออกก่อน เช็ดพอร์ตชาร์จของหูฟังให้แห้งรวมถึงขั้วสายชาร์จของสายชาร์จ USB ด้วย แล้วเสียบสายชาร์จฯใหม่ครับ
5. ขณะชาร์จแบตฯ หูฟังจะขึ้นไฟสีแดงค้างครับ
6. เมื่อชาร์จแบตฯหูฟังเต็มแล้ว หูฟังจะขึ้นไฟสีนํ้าเงินค้างครับ

ไฟสถานะต่างๆของ Aftershokz Aeropex

Product Include (อุปกรณ์ภายในกล่อง)

• หูฟัง Aftershokz Aeropex จำนวน 1 ตัว
• กระเป๋าซิลิโคนสำหรับเก็บหูฟัง จำนวน 1 อัน
• สายชาร์จฯ USB จำนวน 2 เส้น
• ที่อุดหูชนิดโฟมพร้อมกล่องพลาสติกแข็ง (Earplug) จำนวน 1 คู่
• คู่มือการใช้งาน

Warranty (เงื่อนไขประกันสินค้า)

• รับประกัน 2 ปี ภายใต้เงื่อนไขที่ทาง Aftershokz กำหนด
• ในส่วนของอุปกรณ์ต่างๆที่มากับตัวกล่องสินค้าเช่น กระเป๋าซิลิโคน, สายชาร์จฯ USB, ที่อุดหู (Earplugs) มีระยะการรับประกันภายใน 7 วัน
• ผู้ใช้งานจำเป็นต้องเก็บตัวสินค้าเอาไว้ให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นกล่อง Package สินค้า, ซองแพ็คเกจจิ้ง,ตัวหูฟัง รวมทั้งอุปกรณ์เสริมอื่นๆของสินค้าที่มากับตัวกล่องฯเอาไว้ให้ครบถ้วน
• ***หากตัวสินค้าเสียหายจากขั้นตอนการผลิตของโรงงานเช่น มีตำหนิ, สีลอก หรือมีร่องรอยที่ทำให้สภาพสินค้าไม่สมบูรณ์ตั้งแต่เปิดกล่องฯครั้งแรก จะมีระยะการรับประกันภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับสินค้า หากเกินหลังจากนี้ จะไม่รับประกันในทุกกรณี
• สินค้าจะต้องไม่มีร่องรอยจากการถูกขีดข่วนอย่างรุนแรงหรืออื่นๆที่เกิดจากผู้ใช้งานเอง
• หากเป็นปัญหาที่เกิดจากการใช้งานของผู้ใช้งานเองเช่น ก้านหัก, ส่วนของหูฟังเสียหาย ,เปิดเสียงดังจนเสียงแตก, เบิร์นหูฟังผิดวิธี (ใช้แอปฯเบิร์นหรือคลื่นเสียงประเภท Sine Sweep, Pink Noise, White Noise) จนหูฟังเสียหาย จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกันครับ
• ปัญหาการคุยโทรศัพท์ที่เป็นเสียงฟังไม่รู้เรื่อง แต่เมื่อเปิด-ปิดใหม่อีกรอบแล้วสามารถคุยได้ตามปกติ จะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกันครับ
• ***สินค้าดังกล่าวมีมาตรฐานการกันนํ้าระดับ IP67 กล่าวคือ สามารถจมนํ้าจืดลึกได้ไม่เกิน 1 เมตร เป็นเวลาไม่เกิน 30 นาที มาตรฐานการกันนํ้าดังกล่าวออกแบบมาให้ใช้กันเหงื่อจากการออกกำลังกายเท่านั้น ไม่แนะนำให้ใส่ ว่ายนํ้า,อาบนํ้า ซึ่งอาจมีมีปัจจัยอื่นๆที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายกับตัวสินค้าได้ ผู้ใช้งานจะต้องรับความเสี่ยงเองหากมีความต้องการใช้งานหูฟังขณะทำกิจกรรมดังกล่าว และจะไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกันหากตัวสินค้าเสียหายจากการใช้งานในกิจกรรมดังกล่าวครับ