รวมสุดยอดหูฟัง TWS ตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling ที่สายวาร์ป ห้ามพลาด !!
รวมสุดยอดหูฟังตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling ที่สายวาร์ป ห้ามพลาด !!
- เคยไหมครับ ? ใส่หูฟังฟังเพลง ดูหนัง หรือเล่นเกมแล้วเสียงรอบๆตัว ณ ขณะนั้นมันดังเข้ามากวนบรรยากาศเสียงเพลงในหูฟังของเราจนน่ารำคานใจอย่างมาก ทำให้เราเสพหรือดื่มดํ่ากับเสียงเพลงเพราะๆในหูฟังของเราได้ไม่เต็มที่ หรือบางทีดังมาก ก็ฟังเพลงแทบไม่รู้เรื่องเลย..
- และนั่นคือเหตุผลว่าทำไม ท่านถึงต้องใช้หูฟังที่มีระบบตัดเสียงรอบข้าง Active Noise Cancelling ครับ..
- ด้วยระบบนี้ เมื่อเปิดโหมดทำงานแล้ว หูฟังจะทำการลดเสียงรบกวนรอบๆตัวของเราให้เบาที่สุดเท่าที่มันทำได้ ช่วยให้เราใส่หูฟังแล้วแทบจะไม่ได้ยินเสียงรอบๆตัว เมื่อมันเงียบแล้ว คราวนี้แหละครับ ไม่ว่าจะฟังเพลงค่อยๆอย่างเพลงแนว acoustic หรือเล่นเกม PUBG ที่ต้องใช้ความเงียบฟังเสียงเท้าศัตรู ท่านก็จะได้ยินชัดและได้ยินถนัดแทบจะทุกเม็ด มากกว่าหูฟังที่ไม่มีระบบนี้ครับ
- วันนี้ทีมงาน 425AUDIO เลยจะมาแนะนำหูฟัง true wireless ที่มีระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling เจ๋งๆ ที่ทีมงานทดสอบใช้งานและคัดมาแล้วว่า "ดีสมราคาจริง" หรือบางตัวตัดเสียงได้เงียบน้องๆตัว hi-end ด้วยซํ้า ถ้าอยากรู้ว่ามีตัวไหนบ้าง ตามไปดูกันเลยครับ !
รู้แบบเร็วๆเกี่ยวกับหูฟังที่มีระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling..
- ระบบตัดเสียงรบกวน active noise cancelling ช่วยให้เราใส่หูฟังแล้วได้ยินเสียงรอบๆตัวน้อยลง ได้ยินเสียงเพลงในหูฟังชัดขึ้น
- ระบบตัดเสียงรบกวน active noise cancelling ช่วยให้เราฟังเพลงในระดับ volume ปกติ ไม่ต้องเร่งเสียงเพลงให้ดังสู้เสียงรบกวนรอบๆตัว เป็นมิตรกับสุขภาพหูของเรามากกว่า
- ระบบ active noise cancelling ช่วยให้เราได้ยินเสียงย่านเบสชัดขึ้น ฟังเป็นลูกมากขึ้น รู้สึกจับต้องย่าน subbass ได้มากขึ้น..
- ระบบตัดเสียงรบกวน active noise cancelling แตกต่างจากระบบตัดเสียงรบกวนตอนคุยโทรศัพท์ ซึ่งระบบตัดเสียงรบกวน active noise cancelling ช่วยลดเสียงรบกวนรอบตัวผู้ใช้งานเพื่อให้เราใส่หูฟังได้เงียบขึ้น เสียงเพลงชัดขึ้น ส่วนระบบตัดเสียงรบกวนตอนคุยโทรศัพท์จะช่วยตัดเสียง noise เพื่อให้เสียงพูดสายของเราชัดขึ้น และจะทำงานเฉพาะตอนมีการคุยสายอยู่เท่านั้น แตกต่างจากระบบตัดเสียงรบกวน active noise cancelling ที่จะทำงานตอนเราฟังเพลง ดูหนัง หรือเล่นเกม และสามารถปิดโหมดได้หากต้องการครับ
Mpow X6
โหมดตัดเสียงรบกวน : Active Noise Cancelling
โหมดฟังเสียงรอบข้าง : Transparency Mode
การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.1
จุดเด่นอื่นๆที่น่าสนใจ : Game Mode, เซนเซอร์ถอดหูฟังเพลงหยุดอัตโนมัติ (wearing detection), รองรับ wireless charging
แนวเสียง : สมดุล, ธรรมชาติ, เบสฟังสนุก, อิมแพคฟังสนุก, โทนอุ่นหนา ,เน้น detail เสียงดนตรี
- เติบโตจากเป็นโรงงาน OEM ผลิตหูฟังให้กับบริษัทชื่อดังมากมาย จนกลายเป็น Mpow ที่มีชื่อเสียงมากๆในฝั่งอเมริกาและแคนาดา ด้วยความที่สเปกจัดหนักแต่ราคาอย่างกับหูฟังร้านสะดวกซื้อ เลยได้ใจนักเล่นหูฟังสายคุ้มไปกันใหญ่ อย่างเช่นเจ้า Mpow X6 ตัวนี้นี่แหละครับ ราคามาไม่เกินสองพันแต่ให้สเปกการใช้งานมาอย่างกับหูฟังระดับ mid range โดยเฉพาะอย่างยิ่งโหมดตัดเสียงรบกวน active noise cancelling ที่ทำได้ดีเกินราคามากๆ สามารถตัดเสียงบรรยากาศภายในออฟฟิศ เสียงแอร์และเสียงพัดลมได้แบบแทบจะไม่ได้ยินขณะฟังเพลง แต่พวกเสียงดังๆอย่างเสียงเครื่องยนต์รถยนต์ หรือเสียงรบกวนย่านแหลมๆอย่างเสียงคนคุยกันก็ยังพอมีได้ยินอยู่บ้าง แต่ในระดับราคาแค่นี้ ก็ถือว่าน่าพอใจอย่างยิ่งสำหรับโหมดตัดเสียงรบกวน active noise cancelling ของ Mpow X6 ครับ
SoundPEATS T2
โหมดตัดเสียงรบกวน : Active Noise Cancelling
โหมดฟังเสียงรอบข้าง : Transparency Mode
การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.1
จุดเด่นอื่นๆที่น่าสนใจ : แบตฯอึดเกือบ 10 ชม.,
แนวเสียง : สมดุล, ธรรมชาติ, อิมแพคฟังสนุก, กลาง-แหลมโทนสว่าง
- ณ ตอนนี้นักเล่นหูฟังชาวไทยหลายคนน่าจะเคยได้ยิน SoundPEATS กันมาบ้าง เพราะได้จุดฉนวนกระแสให้เป็นที่รู้จักด้วยหูฟังเสียงระดับเทพในราคาแสนจะถูก SoundPEATS H1 แต่ทีมงาน 425AUDIO อยากจะบอกว่าถ้า H1 เสียงดีที่สุดของแบรนด์ SoundPEATS T2 ก็น่าจะเป็นหูฟังตัดเสียงรบกวน active noise cancelling ที่เทพที่สุดของแบรนด์ในราคาจับต้องได้ เพราะเท่าที่ลองทดสอบใช้งานพบว่า เสียงบรรยากาศ เสียงแอร์หรือพัดลมนั้นหายไปเยอะ (เกือบจะไม่ได้ยิน) เช่นเดียวกับเสียงรถยนต์ที่หากใส่นั่งรถโดยสารนะ ท่านจะแทบไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของมันเลย แต่ก็มีแอบได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่บ้าง แต่ถ้าในราคาแค่นี้ก็ถือว่า SoundPEATS T2 เป็นหูฟังที่มีระบบตัดเสียงรบกวน active noise cancelling ที่เกินราคาไปไกลหลายเสาไฟฟ้าเลยครับ
Earfun Air Pro 2
โหมดตัดเสียงรบกวน : Hybrid Active Noise Cancelling (มีระบบลดเสียงลม)
โหมดฟังเสียงรอบข้าง : Transparency Mode
การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.2
จุดเด่นอื่นๆที่น่าสนใจ : ไมค์ 6 ตัวคุยโทรศัพท์ชัดเกินราคา, เซนเซอร์ถอดหูฟังเพลงหยุดอัตโนมัติ (wearing detection), รองรับ wireless charging
แนวเสียง : เสียงเบสโดดเด่น, อิมแพคฟังสนุก, เสียงร้องฟังสบาย
- หลังจากที่สร้างผลงานแก่ผู้ใช้งานเน้นคุยโทรศัพท์ไว้อย่างสง่างาม บัดนี้เค้ากลับมาแล้วครับในชื่อ Earfun Air Pro 2 ซึ่งในรุ่นใหม่นี้ก็ยังพกเอาความสามารถที่เปี่ยมล้นมากกว่ารุ่นที่แล้วมาแบบจัดหนักทอนกระจาย เห็นได้ชัดเลยคือระบบตัดเสียงรบกวน active noise cancelling ที่ทีมงานเทียบใช้กับรุ่นเก่าแล้วพบว่า “ตัดเงียบขึ้นอย่างเห็นได้ชัด” อีกทั้งยังมีระบบใหม่ “ระบบลดเสียงลมโหมด ANC” ที่ช่วยลดเสียงลมขณะเราใส่เปิดโหมดตัดเสียงรบกวนเดินข้างนอก บอกเลยว่าเสียงลมได้ยินเบากว่ารุ่นที่แล้วเยอะ ส่วนการตัดเสียงรบกวนพวกเสียงบรรยากาศก็ตัดได้เงียบแทบจะไม่ได้ยิน แต่เสียงรถยนตหรือเสียงคนก็ยังมีพอได้ยินอยู่บ้าง แต่ในภาพรวมแล้ว Earfun Air Pro เป็นหูฟังตัดเสียงรบกวน active noise cancelling ระดับ budget ที่เหล่าสายประหยัด ห้ามพลาดเด็ดขาดครับ
Edifier Neobuds Pro
โหมดตัดเสียงรบกวน : Active Noise Cancelling ปรับได้ 2 ระดับ ได้แก่ High, Low
โหมดฟังเสียงรอบข้าง : Ambient Sound Mode (ปรับความดังได้ในแอปฯ Edifier Connect)
การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.0, รองรับ LHDC
จุดเด่นอื่นๆที่น่าสนใจ : มี Game Mode, LHDC, ไมค์ 6 ตัวคุยโทรศัพท์ชัด, รองรับแอปพลิเคชัน Edifier Connect (iOS & Android) ปรับแต่ง option ได้เยอะมาก
แนวเสียง : เสียงเบสโดดเด่น, เสียงร้องเคลียร์ใส, เสียงแหลมคมใสจัดจ้าน, ไดนามิคดี, ปรับ EQ ได้ทั้งแบบ presets และ custom
- หูฟังที่ทำให้นักเล่นหูฟังทั่วโลกต่างพูดถึงมากที่สุดหลังจากโผล่มาในเว็บไซต์ระดมทุน Indiegogo และได้รับยอดสนับสนุนไปอย่างถล่มทายกว่า 18 ล้านบาท Edifier Neobuds Pro หูฟัง true wireless ตัว top ในราคาเอื้อมถึงที่พกเอาสเปกและฟีเจอร์ที่สะเทือนวงการหูฟังมากพอสมควร ด้วยฟีเจอร์มากมายที่เรียกว่าครอบคลุมแทบจะทุกการใช้งานและใช้ดีแทบจะทุกๆด้าน ได้รับเครื่องหมายรับรอง Hi-Res Wireless Audio และโทนเสียงจากขุมพลังไดร์เวอร์ 2 ตัวที่ใครได้ฟังก็ต้องร้องว่า “โห..เสียงดีจริงๆ” แต่จุดที่ทีมงานว้าวกับ Edifier Neobuds Pro มากที่สุดคือระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling ที่ได้ตัดได้โคตะระเงียบมาก ทีมงานกล้าพูดเลยว่าตัดเงียบระดับน้องๆหูฟังราคาเกือบหมื่นบางตัวเสียอีก เสียงแอร์และเสียงพัดลมเบามากจนแทบจะไม่รู้สึกถึงมัน เช่นเดียวกับเสียงเครื่องยนต์รถที่ตัดซะแทบจะเหลือแต่เสียงลมผ่าน และเสียงคนคุยกันก็เรียกว่าเบาลงจนถ้าไม่ตั้งใจฟังนี่ฟังไม่รู้เรื่องเลย นับว่าในระดับราคาแค่นี้ Edifier Neobuds Pro เป็นหูฟังที่มีระบบตัดเสียงรบกวน active noise cancelling ที่ดีที่สุดในกลุ่มหูฟังราคาไม่เกินห้าพันบาท ใส่เปิดโหมดแล้ววาร์ปเลยทีเดียวครับ
Beats Studio Buds
โหมดตัดเสียงรบกวน : Active Noise Cancelling
โหมดฟังเสียงรอบข้าง : Transparency Mode
การเชื่อมต่อ : Class 1 Bluetooth
จุดเด่นอื่นๆที่น่าสนใจ : เก่งกับ iOS, เรียก Siri ด้วยเสียง, ไมค์คู่คุยชัด
แนวเสียง : สมดุล, เบสกระชับ, เสียงร้องใส, ฟังสบาย
- กลับมาอีกครั้งกับแบรนด์ขวัญใจสายสตรีท Beats by dr.dre ที่ปัจจุบันโดน Apple ซื้อจนชื่อเหลือแค่ Beats เฉยๆ มาในคราวนี้พวกเค้าได้ส่งหูฟังภาพจำสีแดงจี๊ดใหม่ (แต่มีสีอื่นด้วยนะ) ที่มีราคาที่เอื้อมถึงได้มากขึ้น Beats Studio Buds มาคราวนี้มาแปลกมากๆ เพราะเมื่อเรานึกถึงหูฟัง Beats เราจะนึกถึงโทนเสียงเบสสุดตูมตามที่ชาว basshead ยากที่จะลืม แต่มาในรุ่นนี้ Beats Studio Buds กลับเปลี่ยนโทนเสียงออกไปทางบาลานส์ เสียงเบสไม่ตูมตามอีกต่อไป แต่จะเป็นแนวสุขุม กระชับ และควบคุมตัวเองได้ดีกว่าครั้งไหนๆ และยังคงเก่งกับการเชื่อมต่อกับ iDevices เช่นพวกไอโฟนหรือไอแพด และเรียก Siri ด้วยเสียงได้ แต่แอบเสียดายที่เชื่อมต่อแบบไร้รอยต่อแบบ Airpods Pro ไม่ได้ เลยขาดความเป็น Apple ecosystem ที่แฟนคลับ Apple ต่างคลั่งไคล้ในระบบนี้ แต่ไม่เป็นไรเพราะอย่างน้อยระบบตัดเสียงรบกวน active noise cancelling ก็เรียกว่าตัดได้เงียบน้องๆ Airpods Pro ในราคาที่ถูกกว่ามาก พวกเสียงแอร์เสียงพัดลมนี่แทบไม่ได้ยิน เสียงเครื่องยนต์รถยนต์ก็เงียบหายจนอยู่ในระดับที่ยิ้มออก ส่วนเสียงคนคุยกันก็ยังมีได้ยินบ้าง แต่ความเงียบระดับนี้ก็เพียงพอต่อการหลบไปอยู่ในโลกส่วนตัวจากโลกที่วุ่นวายได้อย่างสบายๆแล้วครับ
JBL Live Free NC+
โหมดตัดเสียงรบกวน : Active Noise Cancelling
โหมดฟังเสียงรอบข้าง : Smart Ambient
การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.1, Google Fast-pair
จุดเด่นอื่นๆที่น่าสนใจ : กันนํ้าโหด IPX7, รองรับ wireless charging, รองรับแอปฯ My JBL Headphone (iOS & Android)
แนวเสียง : Bass centric, V-Shape, แหลมใส, เบสหนัก
- หากใครเป็น big fan แบรนด์ JBL ละก็ JBL Live Free NC+ เป็นตัวที่พลาดไม่ได้อย่างยิ่งครับ โหมดตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling ของ JBL Live Free NC+ สามารถตัดเสียงรอบๆตัวเช่นเสียงแอร์ เสียงพัดลมได้เงียบ แต่เสียงมอเตอไซค์หรือเสียงคนคุยกันก็ยังพอได้ยินอยู่บ้าง แต่ก็จัดว่าไม่ดังจนรบกวนเสียงเพลงในหูฟัง ถ้าเทียบการตัดเสียงรบกวนกับหูฟังตัวอื่นๆใน set นี้ ก็ต้องบอกเลยว่าตัดเสียงได้ดีกว่า SoundPEATS T2, Mpow X6, Earfun Air Pro 2 แต่ส่วนตัวทีมงาน 425AUDIO ยังคิดว่า JBL Live Free NC+ ยังตัดเสียงได้ไม่เงียบเท่า Edifier Neobuds Pro และ Beats Studio Buds แต่ถ้าเป็นเรื่องการกันนํ้าและการใส่ออกกำลังกายละก็ JBL Live Free NC+ ชนะขาดรอยมากๆ เนื่องจากกันนํ้าได้โหดถึง IPX7 และมีปีกซิลิโคนล็อคหูช่วยเสริมความกระชับขณะใส่ออกกำลังกาย แต่เสียอย่างคือ Fitting มันแน่นมากๆ ถ้าใครใส่หูฟังออกกำลังกายแล้วไม่ชอบได้ยินเสียงอึกๆอักๆ หรือเสียงลงส้นเท้าในหัว อาจจะไม่ชอบ JBL Live Free NC+ แต่ถ้าใครไม่ถือจุดนี้ละก็ JBL Live Free NC+ ก็เป็นหูฟังตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling สำหรับนักออกกำลังกายที่น่าสนใจมากๆอีกหนึ่งตัวครับ
Razer Hammerhead True Wireless Pro
โหมดตัดเสียงรบกวน : Active Noise Cancelling
โหมดฟังเสียงรอบข้าง : Quick Attention Mode
การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.0, Google Fast-pair
จุดเด่นอื่นๆที่น่าสนใจ : Game Mode, รองรับแอปพลิเคชัน Razer Audio
แนวเสียง : สมดุลย์, ธรรมชาติ, โทนเสียงไม่ดาร์คไปและไม่จัดไป, มิติเสียงดีตอบโจทย์การเล่นเกม
- หากใครเป็นเกมเมอร์ก็น่าจะรู้จักกับแบรนด์ Razer เป็นอย่างดี แต่ทีมงานแอบงงว่าทำไมหูฟัง true wireless ที่มีระบบตัดเสียงรบกวน active noise cancelling ดีๆอย่าง Razer Hammerhead True Wireless Pro ถึงไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนัก เพราะเท่าที่ทีมงาน 425AUDIO ทดลองระบบตัดเสียงรบกวน active noise cancelling ต้องบอกเลยครับว่ามันตัดเงียบสมราคาของมันมากๆ เสียงแอร์หรือเสียงพัดลมเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน แต่เสียงคนคุยกันหรือเสียงมอเตอไซค์ก็ยังพอได้ยินอยู่เล็กน้อยแต่ไม่รบกวนตัวเพลง อีกทั้งคุณภาพเสียงตัวนี้ดีมากๆครับ ใครชอบเสียงแนวสมดุล มิติเสียงคมๆแยกเสียงดนตรีดีๆเนี่ย Razer Hammerhead True Wireless Pro ให้เสียงได้ดีมาก ถ้าเสียงไม่ดีจริงคงไม่ได้ตรา THX certified มาประทับหน้ากล่องแน่นอน และอีก 1 จุดแข็งคือ เรื่องการใช้เล่นเกมโดยเฉพาะเกมแนว FPS นั้น Razer Hammerhead True Wireless Pro เทพเรื่องนี้มากๆ ใครหาหูฟังตัดเสียงรบกวน active noise cancelling ที่เน้นเล่นเกมเป็นหลัก คงต้องจัด Razer Hammerhead True Wireless Pro มาครองแล้วละครับ
Sony WF-1000XM4
โหมดตัดเสียงรบกวน : Active noise cancelling, Adaptive sound, Loacation learning
โหมดฟังเสียงรอบข้าง : Ambient sound, Quick attention mode, Speak to chat
การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.2, Google Fast-pair, รองรับ LDAC
จุดเด่นอื่นๆที่น่าสนใจ : ไมค์ 4 ตัวคุยชัด, ระบบตัดเสียงรบกวนอัตโนมัติ, Wireless Charging, ถอดหูฟังเพลงหยุดอัตโนมัติ, รองรับแอปฯ Sony Headphone (iOS & Android), แบตฯอึด
แนวเสียง : Bass centric, เสียงร้องเคลียร์, มิติกว้าง, ปรับ EQ ได้ทั้งแบบ presets และ custom, ปรับความหนักของ Bass ได้ (ClearBass)
- นี่แหละครับ..ตัวนี้เลยคือเบอร์ต้นๆของวงการหูฟังตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling เพราะนี่คือ “Sony WF-1000XM4” ราชาแห่งหูฟังตัดเสียงรบกวนที่ใครๆก็ต่างยอมในความ advance ของระบบตัดเสียงรบกวน ANC ของมัน เพราะไม่ใช่แค่มันจะตัดเสียงรอบๆตัวได้เงียบที่สุดในบรรดาหูฟังใน set นี้ แต่มันยังมีเทคโนโลยีเสริมระบบตัดเสียงรบกวนอย่าง Adaptive Sound ที่หูฟังสามารถปรับระดับความแรงของระบบตัดเสียงรบกวน ANC โดยอิงจากบริบทของเรา ณ ขณะนั้นได้แบบอัตโนมัติเช่น ถ้าเราเดิน หูฟังก็จะปล่อยเสียงรอบๆตัวให้เราได้ยินผ่านหูฟังเพื่อใช้ระวังจากรถรารอบตัว หรือถ้าเรานั่งเฉยๆหรือนั่งรถโดยสาร หูฟังก็จะตัดเสียงรบกวนรอบๆตัวแบบเบอร์สุด คือหูฟังพาวาร์ปเลยครับ แทบจะไม่ได้ยินเสียงรอบๆตัวขณะฟังเพลงเลย นี่แหละครับ ตัว ENDGAME ของหูฟังตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling สายฟังเพลง คุยโทรศัพท์ และใช้งาน daily basic ทั่วไป ใครงบถึงแล้วอยากได้ตัวที่จบที่สุด คงไม่มีตัวเลือกไหนดีไปกว่า Sony WF-1000XM4 แล้วครับ
************************
- เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับหูฟังตัดเสียงรบกวน active noise cancelling ที่ทีมงาน 425AUDIO ตั้งใจหยิบขึ้นมานำเสนอให้เพื่อนๆที่กำลังมองหาหูฟังตัดเสียงรบกวนดีๆใช้ในชีวิตประจำวันสักตัวนึง ซึ่งประสิทธิภาพของมันก็อยู่ที่ความสามารถของหูฟังตัวนั้นๆจะทำได้ แต่ขอยํ้านะครับว่าทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์การใช้งานจากทีมงาน 425AUDIO ที่ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของความคิดเห็นส่วนตัว เพื่อให้เพื่อนๆได้พิจารณากันง่ายขึ้นไม่มากก็น้อย สุดท้ายนี้ทีมงาน 425AUDIO ขอปิดท้ายด้วยตารางสรุปเทียบประสิทธิภาพของระบบตัดเสียงรบกวน ANC ว่าตัวไหนเป็นอย่างไรบ้าง ตามไปดูกันเลยครับ
- หากเพื่อนๆสนใจสั่งซื้อ Mpow X6 / SoundPEATS T2 / Earfun Air Pro / Edifier Neobuds Pro / JBL Live Free NC+ / Sony WF-1000XM4 ก็สามารถสั่งซื้อกับเราได้ง่ายๆโดยกด slider ด้านล่างนี้ได้เลย สุดท้ายทีมงาน 425AUDIO ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ