หูฟัง Sony 3 รุ่นนี้ต่างกันยังไง ? แล้วคุณล่ะเหมาะกับตัวไหน ?
Sony LinkBuds S , LinkBuds , WF1000XM4 3 รุ่นนี้ คุณล่ะเหมาะกับตัวไหน ?
- มาอีกแล้วสำหรับหูฟังรุ่นใหม่จาก Sony !!ช่วงนี้ขยันออกเหลือเกิน ถ้ามองผ่านๆแค่ชื่อรุ่น “LinkBuds S” ก็คงคิดว่า เอ๊ะ !? หน้าตาเหมือน LinkBuds ธรรมดารึเปล่านะ ? แต่พอมาดูหน้าตาหูฟังปุ๊ป! อ่าววววว ไหงหน้าตามันดันเหมือน WF1000XM4 ซะงั้น เพื่อนๆอาจจะงงกันได้ว่ามันต่างกันยังไงล่ะเนี่ย…… เอาล่ะทีมงาน 425Audio จะพาไปดูกัน รวมถึงการใช้งานในฟีเจอร์ต่างๆด้วยครับ ว่าเจ้า LinkBuds S เนี่ย มันมีอะไรแจ๋วหรือมีอะไรจ๋อยบ้าง….ไปดูกันเลยครับ
เริ่มกันที่รูปร่างหน้าตา
- แน่นอนครับ เจ้า LinkBuds ก็จะแปลกตากว่าใครเขา ด้วยดีไซน์สุดล้ำแบบ Open-Ring หูฟังมีรู เอาไว้ฟังเสียงรอบข้างจากเสียงจริงนั่นเองครับ ถือว่าเป็นดีไซน์ที่แปลกตาสุดๆจริงๆครับ แถมยังใส่สบายสุดๆไปเลย
มาถึงเจ้าน้องใหม่ LinkBuds S ที่ดูผ่านๆ รูปร่าง รูปทรง เหลี่ยมมุม น่ะ น่ะ นี่มั่น XM4 ชัดๆ !? แต่พอเราเอามาเทียบกันตรงๆแล้ว ฝั่ง LinkBuds S มีขนาดที่เล็กกว่าพอสมควรเลยล่ะครับ เหมือนเอา XM4 ย่อส่วนลงไปยังไงยังงั้น ซึ่งนั่นก็ทำให้การสวมใส่สบายมากขึ้นครับ รวมถึงน้ำหนักตัวก็เบากว่า XM4 พอสมควรเลยล่ะครับ
การสวมใส่
- LinkBuds ชนะเลิศเรื่องการสวมใส่ การดีไซน์และน้ำหนักหูฟัง ทำให้การสวมใส่สบายจนเหมือนไม่ได้ใส่หูฟังเลยล่ะครับ ใส่ทั้งวันแทบไม่รู้สึกเลยครับ บางทีก็ลืมว่าใส่หูฟังอยู่จริงๆครับ แต่ก็แอบเป็นข้อเสียด้วย ที่ทรงหูฟังอาจไม่เหมาะกับช่องหูของทุกคนครับ
- LinkBuds S ถึงจะเป็น In-Ear แต่ก็ใส่สบายอย่างน่าเหลือเชื่อ ขนาดและน้ำหนักของรุ่นนี้ต้องบอกว่าเล็กกว่า WF1000XM4 พอสมควรเลยล่ะครับ ใส่กระชับและสบายกว่ามากๆครับ ใส่นานไม่รู้สึกปวดหูเลยครับ ถือว่าการตัดสินใจลดไซส์ลงและลดน้ำหนักหูฟังของ Sony รอบนี้ ทำได้เยี่ยมมากๆครับ เป็นหูฟัง In-Ear ที่ใส่สบายมากๆ
- WF1000XM4 พี่ใหญ่ของเรา ซึ่งใหญ่จริงๆครับ ทั้งขนาดและน้ำหนักที่เยอะที่สุด ทำให้การสวมใส่สบายน้อยที่สุดในบรรดารุ่นน้องทั้งหมด ใส่ไม่นานไม่มีปัญหาครับ แต่หากใส่ไปซัก 1 ชม. ครึ่ง - 2 ชม. จะเริ่มมีอาการหน่วงๆที่หู หรือปวดหูครับ แต่อาการเจ็บอาการหน่วงที่หูก็ขึ้นอยู่กับช่องหูคนด้วยครับ
เรื่องไมค์ ใครล่ะที่ยืน 1 !?
- LinkBuds ยืน 1 ทั้งเสียงพูดที่เป็นธรรมชาติ มีน้ำมีนวล การตัดเสียงรบกวนรอบข้างที่น่าทึ่ง สุดประทับใจ เป็นหูฟังของ Sony ที่ไมค์น่าจะดีที่สุดแล้ว ยืน 1 ในแก๊ง 3 รุ่นนี้ ใช้งานได้ทุกสถานะการณ์ ทุกสถานที่อย่างแท้จริง จะเจอเสียงรบกวนดังแค่ไหนก็ไหว
- LinkBuds S จัดการเสียงรบกวนรอบข้างได้ดีไม่แพ้ LinkBuds เสียงพูดฟังรู้เรื่อง แต่เสียงพูดอาจจะไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินัก เสียงพูดจะออกบี้ๆไปซักหน่อย แต่ใช้คุยในชีวิตประจำวันได้ครับสบายๆครับ จะใช้ที่ไหนก็ไหวครับ เพียงแค่ตามสถานที่ที่มีเสียงรบกวนดังๆเสียงพูดอาจจะมีบี้ๆไปบ้างครับ แต่เรื่องเสียงรบกวนจัดการได้เยี่ยม!!
จัดการเสียงรบกวนได้ดีกว่า XM4 แน่นอนครับ เพียงแต่เสียงพูดจะฟังดิจิตัลกว่า - WF-1000XM4 ใช้คุยในที่เงียบๆ เสียงรบกวนไม่ได้ดังมากโอเค แต่เจอเสียงรบกวนดังๆ เสียงรบกวนมีพุ่งมากลบเสียงพูด ถ้าใช้คุยในห้อง ในบ้าน ในออฟฟิศไม่มีปัญหาครับ แต่ถ้าเป็นบริเวณทางเท้าที่มีรถวิ่งผ่าน ตามป้ายรถเมล์ อาจจะมีคุยไม่รู้เรื่องบ้าง เสียงรบกวนดังมากลบเสียงพูดบ้างครับ
ด้าน ANC และ Ambient Sound ล่ะ เป็นอย่างไรกันบ้าง
- ตัด LinkBuds ไปก่อนเลยครับเพราะไม่มี ANC แน่นอนล่ะครับ....... พี่ใหญ่ WF1000XM4 ก็ยังคงยืน 1 ความสุดของ ANC อยู่ดี ตัดเสียงรบกวนได้โหดจริงๆ แต่อยากจะบอกว่า ANC ของ LinkBuds S ทำได้ดีน่าประทับใจ ดีกว่าที่คิดไว้มากๆครับ “เป็นรอง XM4 ไม่มาก” ใช่ครับ ฟังไม่ผิดหรอก “เป็นรองไม่มาก” จริงๆครับ ถือว่าตัดเสียงรบกวนได้ดีมากๆสมชื่อ Sony จริงๆครับ ถ้าใครอยากได้ ANC ดีๆ แต่งบอาจไม่ถึง XM4 หรือไม่ชอบการสวมใส่ของ XM4 เจ้า LinkBuds S เป็นตัวเลือกที่แจ่มมากๆครับ
-
Ambient Sound
ยังไงซะ LinkBuds ก็ต้องยืน 1 ด้วยดีไซน์ Open Ring นั่นแหละครับ ถ้าจะวัดการฟังเสียงรอบข้างก็คงต้องตัด LinkBuds ออกไปครับ เพราะว่า LinkBuds ฟังเสียงรอบข้างจากเสียงจริงๆ จากดีไซน์ของหูฟัง ต่อให้ Ambient Mode จะดูดมาได้ดีขนาดไหนก็สู้ฟังเสียงจริงไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละครับ
WF-1000XM4 ทำได้ดีกว่าเรื่อง Ambient Mode ครับ ความสมจริง มิติ ความดัง XM4 ทำได้ดีกว่าพอสมควรเลยครับ ในขณะที่ LinkBuds S ทำได้ในระดับโอเคครับ ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน แต่ความธรรมชาติของเสียงที่ดูดมายังไม่สมจริงเท่า XM4 ครับ แต่สำหรับทีมงานแล้ว Ambient Mode ของ LinkBuds S ก็เพียงต่อการใช้งานแล้วล่ะครับ
และจุดเด่นอีกจุดของ LinkBuds S ในเรื่องนี้คือมี Adjust Ambient Sound ซึ่งเสียง Ambient ที่ดูดเข้ามาให้เราได้ยินจะปรับตามกิจกรรมที่เราทำอยู่ ณ ขณะนั้นๆครับ เช่น ยืน นั่ง เดิน วิ่ง ซึ่ง Sony ออกแบบเทคโนโลยีนี้ให้เราสามารถใส่หูฟังได้ตลอดกิจกรรมที่เราทำโดยไม่ต้องถอดหูฟังนั่นเองครับ ซึ่งถือว่าทำงานได้ดีทีเดียวเลยครับ ใช้งานได้จริง
โทนเสียงเป็นไงบ้างนะ
- WF-1000XM4 ยังคงดุเดือดเช่นเดิม อย่างที่คาดไว้ XM4 ทำได้ดีที่สุดโดยไม่ต้องปรับ EQ ใดๆ การจับน้ำหนักเสียงเครื่องดนตรีต่างๆ ย่านต่างๆที่ได้มันพอดิบพอดี และสิ่งที่ทำได้เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัดคือเวทีเสียงที่กว้างและแยกชิ้นดนตรีดีจริงๆครับ
- ในขณะที่ LinkBuds S โทนเสียงจากโรงงานจะให้โทนแบบเน้นฟังสนุก ฟังมันส์ เบสตึ๊บๆสะใจ ย่านกลาง กับแหลมออกทู่ๆหน่อย เวทีเสียงจะแคบกว่า XM4 ครับ ทำให้โทนรวมจะออกทึบๆ หนาๆ โดยรวมคาร์แร็คเตอร์ต่างๆคล้ายๆ XM4 ครับ โทนฟังสนุก สีสันจัดจ้าน แต่ลดทอนบางย่านออกไป
- แต่ไม่ต้องห่วงทีมงาน 425Audio มีวิธีแก้ ทีมงานได้ลองปรับ EQ เพิ่มกลาง เพิ่มแหลมเข้าไป ทำให้โทนเสียงแจ๋วขึ้นเยอะเลยล่ะครับ ฟังโปร่ง เคลียร์ ฟังสบายขึ้นกว่า EQ จากโรงงานพอสมควร พอปรับ EQ แล้ว ต้องบอกเลยว่า ฟังดีไม่แพ้พี่ใหญ่อย่าง XM4 เลยครับ
- LinkBuds ที่เน้นฟังสบายๆ ไม่ได้ชูโรงเรื่องการฟังเพลงนัก ทำให้เราไม่อยากเอาไปวัดหรือเอาไปเทียบกับ XM4 และ LinkBuds S เลยล่ะครับ ด้วยทรงหูฟังเอย ด้วยคอนเซ็ปต์เอย เอาเป็นว่า ฟังง่าย ฟังสบาย รายละเอียดดนตรีเยี่ยมกว่าที่คิดครับ
สรุปสั้นๆ จุดเด่นที่สุดของแต่ละรุ่น จุดด้อยของแต่ละรุ่น
- LinkBuds S น้องใหม่ เป็นหูฟังลูกผสมระหว่าง LinkBuds กับ WF-1000XM4 เอารูปทรง XM4 มาลดขนาด ลดน้ำหนัก เอา ANC และคุณภาพเสียงสะใจ จาก XM4 เอาไมค์ที่ตัดเสียงรบกวนดี ความใส่สบาย และการใช้งานที่เหมาะสมในชีวิตประจำวันต่างๆมาจาก LinkBuds
- วัสดุที่ใช้ทำหูฟังและเคสหูฟัง อาจจะดูแปลกๆหรือสัมผัสแปลกๆไปสำหรับบางคน(วัสดุรีไซเคิล) คุณภาพเสียงในการฟังเพลงค่อนข้างทึบในย่านกลางและแหลม ต้องปรับ EQ แก้ ไมค์จับเสียงพูดออกมาได้ค่อนข้างเป็นดิจิตัล ออกบี้ๆไปซักนิด
- LinkBuds ดีไซน์ล้ำๆ ด้วย Open-Ring หูฟังมีรู ฟังเสียงรอบข้างจากเสียงจริง เสียงธรรมชาติกันไปเลย ไมค์คุยโทรศัพท์ที่ดีที่สุดของ Sony การสวมใส่ที่เบาสบายมากๆ จนเหมือนไม่ได้ใส่หูฟังอยู่
- ดีไซน์หูฟังสุดล้ำ ที่ช่องหูบางคนอาจจะใส่หูฟังตัวนี้ไม่กระชับหรือใส่ไม่ได้เลย หากเจอเสียงรบกวนรอบข้างที่ดังๆ เสียงที่ฟังในหูฟังอาจถูกเสียงรบกวนกลบได้
- WF-1000XM4 ANC ที่เงียบและตัดเสียงรบกวนได้ดีที่สุด ณ ตอนนี้ Ambient Mode ที่ดูดเสียงรอบข้างได้เป็นธรรมชาติ ใกล้เคียงเสียงจริง คุณภาพเสียงที่จัดเต็มสุดๆ ใช้ฟังเพลงรอดทุกแนว ใช้ดูหนังก็แจ่มคุณภาพเสียงสะใจมากๆครับ
- ขนาดหูฟังที่ใหญ่และมีน้ำหนักที่มาก ทำให้เมื่อใส่ไปนานๆมีอาการหน่วงที่หูและเจ็บหูได้ ไมค์คุยโทรศัพท์จัดการเสียงรบกวนไม่ค่อยดีนัก เสียงรบกวนมีกลบขึ้นมาเสียงพูดเมื่อเจอเสียงรบกวนรอบข้างที่ดังๆ เช่น ริมถนน บนรถสาธารณะที่มีคนเยอะๆ